ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

Bacne เป็นการผสมคำระหว่าง "back (หลัง)" กับ "acne (สิว)" หรือก็คือ "สิวที่หลัง" นั่นเอง ใครๆ ก็เป็นกันและก็รำคาญด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ต้องกุมขมับ เพราะเข้าใจตรงกันว่าสิวที่หลังนี่หายยากกว่าสิวที่หน้าเป็นไหนๆ แต่เพราะสิวที่หลังเกิดจากต่อมไขมัน (sebaceous glands) ที่หลังนั้นขับน้ำมันออกมามากเกินไป วิธีการรักษาจึงพอคล้ายคลึงกับ สิวอื่นๆ ทั่วไป อยู่เหมือนกัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เปลี่ยนวิถีชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สำหรับสาวๆ ที่ใส่บรา ก็ต้องแน่ใจว่าบราของคุณนั้นซักสะอาดหอมกรุ่น ที่สำคัญคือต้องเปลี่ยนบราตัวใหม่ทุกวัน สายก็อย่ารัดแน่นเกินไป จะได้ไม่ไปเสียดสีสิวที่หลังเวลาขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว เพราะอาจทำให้อักเสบลุกลามได้ ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกบราไร้สาย เพราะจะได้ไม่ครูดกระดูกสะบักจนเป็นรอยแดง
  2. อะไรก็ตามที่มาแตะต้องแผ่นหลังของคุณต้องเป็นวัตถุที่สะอาด ถ้าเสื้อผ้านั้นๆ ทำจากใยธรรมชาติ เช่น คอตตอน ก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ที่สำคัญคืออย่าใส่เสื้อผ้าที่คับแน่น ซักเสื้อผ้าให้บ่อยๆ ซักทุกวันหลังใส่ได้ยิ่งดี
    • ซักเสื้อผ้าด้วยผงซักฟอกที่ไม่แรงจนเกินไป แต่งกลิ่นน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย เพราะบางทีพวกผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าที่กลิ่นแรงๆ นี่แหละ ตัวการทำให้เกิดสิวหรือสิวอักเสบเลย
    • ถ้าเป็นไปได้ ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวซักผ้าขาว เพราะ Bleach หรือน้ำยาฟอกขาวนั้นฆ่าแบคทีเรียบนเสื้อผ้าได้ จะได้ยับยั้งไม่ให้สิวลุกลาม แต่ต้องล้างออกให้สะอาดหมดจด จะได้ไม่เหลือน้ำยาฟอกขาวมาทำผิวคุณระคายเคืองซะเอง
  3. อย่างถ้าไปวิ่งหรือเล่นบาสเล่นกีฬาอื่นๆ มา เสร็จปุ๊บให้อาบน้ำปั๊บ เพราะเหงื่อที่ตกค้างอยู่บนแผ่นหลังของคุณหลังทำกิจกรรมต่างๆ นี่แหละแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวชอบนัก นอกจากนี้เหงื่อยังทำรูขุมขนอุดตันได้ด้วย ทีนี้ละสิวผุดเป็นตุ่มเล็กๆ ดำๆ เต็มหลังแน่
  4. อีกหนึ่งสาเหตุยอดนิยมของสิวที่หลัง ก็คือตอนสระผมแล้วล้างยานวดไม่สะอาดนั่นเอง สระผมแล้วใส่ยานวดให้นุ่มสลวยสวยเก๋ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าไม่ระวังแผ่นหลังจะไม่สวยตามด้วยนี่สิ มีหลายวิธีด้วยกันที่คุณใช้ยานวดได้แต่ไม่ระคายผิวที่หลังจนเกิดสิวขึ้นมา
    • เปลี่ยนมาอาบน้ำเย็นก่อนล้างยานวดออกจากผม เพราะน้ำอุ่นจะทำให้รูขุมขนเปิด ถ้าน้ำเย็นถึงจะปิดรูขุมขนได้ การล้างยานวดตอนรูขุมขนเปิดนี่แหละส่วนนึงที่ทำให้หลังคุณสิวเห่อ
    • อย่าลืมล้างหลังอีกครั้ง หลังสระผมและล้างยานวดแล้ว
    • หรือเลิกใช้ยานวดตอนอาบน้ำ แล้วเลือกใช้ยานวดแบบทาทิ้งไว้ได้หลังสระผมเสร็จ
  5. ถ้าเป็นคนผิวแพ้ง่าย เป็นไปได้มากว่าสิวที่หลังเกิดจากการระคายเคืองเพราะน้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอก ลองเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้อที่อ่อนโยนกับผิวคุณหน่อยจะดีกว่า
  6. ไม่งั้นล่ะตัวสะสมเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วของเรากับพวกฝุ่นผงเลย หรือบางทีสัตว์เลี้ยงก็นำพาความสกปรกขึ้นมาบนเตียงได้เหมือนกัน ให้ถอดผ้าปูที่นอนไปซักอาทิตย์ละ 2 ครั้ง หรือจะเปลี่ยนผืนใหม่เลยก็ได้
    • ถ้าฟอกขาวด้วยก็ดี จะได้กำจัดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ที่อาจหลงเหลือจากการซัก แต่ต้องล้างให้สะอาดหมดจด เพื่อป้องกันการระคายเคืองจากตัวน้ำยาฟอกขาวเอง
    • หมั่นซักพวกผ้าห่ม ปลอกหมอน และเครื่องนอนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

รักษาด้วยยา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้เลือกที่มีส่วนผสมหลักเป็นกรดซาลิไซลิก 2% อย่างของนูโทรจีนา (Neutrogena Body Clear Body Wash) ก็ได้ผลดีเหมือนกัน ให้เน้นที่บริเวณที่เป็นสิวแล้วรอสักนาทีนึงค่อยล้างออกเพื่อกำจัดน้ำมันส่วนเกิน ให้เวลายาได้ออกฤทธิ์หน่อย
  2. เราอาจไม่ค่อยคิด แต่ผิวหนังก็เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของเรา เพราะฉะนั้นผิวหนังก็ต้องการน้ำและสารอาหารอื่นๆ เช่นกัน จะได้สวยงามสุขภาพดี ต้องหมั่นทาโลชั่นเป็นประจำหลังอาบน้ำ
    • จะใช้โลชั่นยาหรือโลชั่นธรรมดาก็ได้ แต่ต้องเลือกที่เป็น non-comedogenic หรือไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน สำคัญมากเพราะกรดซาลิไซลิกจะทำให้ผิวคุณแห้งได้
  3. ในเมื่อคุณชำระล้างและบำรุงผิวด้วยกรดซาลิไซลิกอยู่แล้ว ก็ควรใช้ตัวยาอื่นมาทาแต้มสิว อย่าง benzoyl peroxide 2.5% หรือ BP ห้ามใช้แบบ 5% หรือ 10% เด็ดขาดถ้าคุณเป็นพวกผิวแพ้ง่าย เพราะจะยิ่งระคายเคือง แต่ถ้าคุณแพ้ benzoyl peroxide ให้เปลี่ยนเป็นยาแบบซัลเฟอร์ 10% ก็น่าจะได้ผลอยู่เหมือนกัน
  4. ลองทา retinol cream หรือครีมรักษาสิวอุดตันที่หลังก่อนนอน จะช่วยผลัดผิว ป้องกันไม่ให้เกิดสิวซ้ำ
  5. Alpha Hydroxy Acids หรือ AHA นั้นช่วยผลัดผิว ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ไม่ให้อุดตันรูขุมขนจนกลายเป็นสิวได้ ส่วน Beta Hydroxy Acids หรือ BHA นั้นช่วยกำจัดแบคทีเรียจากภายใน ถ้าเป็นไปได้ให้ลองขัดผิวด้วย AHA ประมาณ 3 ครั้งต่ออาทิตย์ จากนั้นก็อาบน้ำบำรุงผิวตามปกติ แล้วแผ่น BHA ลูบๆ ทาๆ ที่หลังอีกที [1]
  6. ถ้าเป็นเยอะ หรือลุกลาม ก็เป็นเรื่องดีที่ควรรีบไปหาหมอสิว จะได้จ่ายยากินยาทาที่รักษาได้หายขาดจริงๆ ถ้าไม่แน่ใจว่ารักษาถูกวิธี ก็รีบไปหาหมอจะดีที่สุด
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ค่อยๆ รักษาด้วยวิธีธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แต่อย่าขัดแรงเกินไป ไม่งั้นจะระคายเคืองผิวเพราะขัดตัวนี่แหละ
  2. นั่งลงตรงหาดทรายแล้วเอนหลังจุ่มน้ำทะเลสัก 10 นาที จากนั้นอาบแดดประมาณ 10 - 15 นาที แสงแดดจะทำให้สิวแห้งเอง แต่อย่าให้นานกว่านี้ เพราะเดี๋ยวผิวจะไหม้ซะก่อน แบบนั้นจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ลองทำซ้ำดูสัก 2 - 3 ครั้งก็น่าจะเห็นผลภายใน 2 วัน
  3. ไม่ค่อยจะแพร่หลายเท่าไหร่ แต่จริงๆ zinc หรือสังกะสี ก็รักษาสิวได้เหมือนกันในบางกรณี ก็ zinc น่ะศัตรูตัวฉกาจของสิวเลย [2] [3] Zinc เป็นแร่ธาตุที่มีประโยชน์แต่ก็ควรบริโภคแต่น้อย ในกรณีของการรักษาสิวคือ Zinc จะไปช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของเรายิ่งแข็งแกร่ง โดย Zinc ใช้รักษาสิวได้ 2 วิธีด้วยกันคือ
    • ทา zinc ที่ผิวหนังโดยตรง. พยายามหาที่เป็นโลชั่นแบบมี zinc acetate 1.2% และ erythromycin 4% แล้วทาตรงที่เป็นสิว 2 ครั้งต่อวัน แต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็เอา zinc แบบเม็ดเจลมาเจาะซะเลย แล้วบีบเจลออกมาใส่นิ้วหรือคอตตอนบัท เอาไปใช้ทาที่หลังได้เลย
    • ทานวิตามิน zinc เป็นประจำทุกวัน อย่าง zinc picolinate ปริมาณ 25 - 45 มก. ห้าม กินเกิน 50 มก. ต่อวัน เพราะอาจเกิดอาการขาดธาตุทองแดงได้ (copper deficiency) เนื่องจากการบริโภค zinc ในปริมาณมากจะส่งผลต่อการดูดซึมทองแดง [4]
  4. จะได้ขจัดเซลล์ผิวที่ตายไป ไม่ให้อุดตันรูขุมขนจนเกิดสิว ลองคั้นน้ำเกรปฟรุ้ต 1 ลูก ผสมกับน้ำตาลทรายขาว 1 1/2 ถ้วย และ sea salt หยาบๆ 1/2 ถ้วย จากนั้นเอาไปนวดเบาๆ ที่หลัง แล้วซับให้แห้ง
  5. ค่า pH ก็คือค่าความเป็นด่างของผิวนั่นเอง นักวิทยาศาสตร์ได้กำหนดไว้ว่า ค่า pH ของผิวที่ต่ำกว่า 5 หรือดีที่สุดคือ 4.7 แปลว่าผิวของคุณนั้นสุขภาพดี และเหมาะสำหรับ bacterial flora หรือแบคทีเรียดีตามธรรมชาติบนผิวหนัง [5] การอาบน้ำฟอกสบู่นั้น บางทีก็ทำให้ค่า pH ของผิวพุ่งสูงไปมากกว่า 5 ก่อให้เกิดอาการแห้ง แตกลอก หรือเกิดสิวได้
    • ลองเปลี่ยนหัวฝักบัวดู ถ้าลงทุนซื้อหัวฝักบัวที่กรองคลอรีนในน้ำได้ก็ยิ่งดี รับรองว่าช่วยถนอมผิวได้แน่นอน หัวฝักบัวพวกนี้ที่มาพร้อมที่กรองคลอรีนมักมีราคาสูงหน่อย ประมาณ 2,000 - 3,000 บาท แต่ถ้าคิดถึงผลดีระยะยาวก็คุ้มค่าไม่ใช่น้อย
    • ผสมน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือน้ำส้มสายชูหมักจากผลไม้ 1 ส่วน กับน้ำบริสุทธิ์อีก 1 ส่วน แล้วเทใส่ขวดสเปรย์ พออาบน้ำเสร็จเตรียมเข้านอนแล้ว ให้ใช้พ่นผิวแล้วรอจนแห้ง จะช่วยลดค่า pH ของผิวคุณได้ เป็นวิธีธรรมชาติแบบสุดๆ [6]
    • ถ้าไม่มีน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ ให้เปลี่ยนไปใช้วิทช์เฮเซิล (witch hazel) แทนในปริมาณที่เท่ากัน ผสมกับน้ำดื่มสะอาดเหมือนเดิม ก็ให้ผลไม่ต่างกัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เลม่อนนี่แหละทำให้สิวแห้งได้ชะงัดนัก
  • อย่าไปทำอะไรให้สิวเกิดระคายเคือง เพราะจะแดงเถือกจนกลายเป็นแผลเป็นได้
  • ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน ถ้าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ ก็จะไม่ขับน้ำมันส่วนเกินและแบคทีเรียออกมาในรูปของสิวที่หลัง
  • ขัดตัวแล้วต้องทำความสะอาดใยบวบให้ดี เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อแทน
  • หาสครับมาขัดหลังหน่อย ไม่ต้องหรูหราอะไรมาก ราคาน่ารักตาม Boots, Watsons หรือกระทั่งที่เซเว่นก็ยังมี ขัดหลังแล้วเป็นการขจัดสิ่งสกปรกตกค้าง แป๊บเดียวก็เห็นผล ว่าลดได้ทั้งสิวทั้งรอยด่างดำ
  • ลองเอา baking soda กับน้ำมาผสมกันจนข้นเหนียว จากนั้นเอาไปทาที่หลัง
  • อย่ากิน junk food มากเกินไป เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณมีสิวที่หลังก็ได้ นอกจากนั้น การเกาหลังยังทำให้สิวลุกลามได้เหมือนกัน ระวังด้วยล่ะ
  • ที่ว่าให้ลด ละ เลิก พวกอาหารขยะน่ะ ไม่ได้ดีกับสิวที่หลังแค่นั้นนะ บอกเลยว่าจะทำให้สิวธรรมดาทั่วไปอย่างตามหน้าและที่อื่นๆ ลดลงได้เหมือนกัน!
  • เวลาจะหาสบู่หรือครีมอาบน้ำลดสิว ให้มองหาส่วนผสมอย่าง salicylic acid 2% เข้าไว้
  • ถ้าคุณบังเอิญแพ้ salicylic acid หรือใช้พวกยี่ห้อดังๆ แล้วไม่เห็นผล ให้ลองใช้แป้งลดสิวดู นอกจากจะได้ผลแล้วยังไม่ทำให้ผิวของคุณแห้งจนเกินไป ลองปรึกษาเภสัชกรใกล้บ้านดูก็ได้ ว่าใช้ยี่ห้อไหนดี
  • เวลาถอดเสื้อ อย่าพยายามให้หลังของคุณแตะต้องโดนสิ่งสกปรกต่างๆ อย่างตามกำแพงหรือพื้นดิน
  • ส่วนวิธีอื่นๆ ก็เช่น
    • ใช้สบู่ Tea tree
    • ใช้แชมพูขจัดรังแคที่มี zinc เป็นส่วนผสม
    • ทาน้ำมัน Tea tree รักษาสิวแทนการใช้สารเคมีอย่าง benzoyl peroxide กับ salicylic acid
    • รักษาสิวด้วยเลม่อน (ฝานแล้วเอามาถูที่หลัง) หรือมะเขือเทศก็ได้ผลเหมือนกัน เพราะมีกรดช่วยขจัดแบคทีเรียที่เป็นอันตราย เหมาะมากสำหรับคนผิวแพ้ง่าย เพราะถ้าใช้สารเคมีต่างๆ อาจมีผลข้างเคียงได้
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามคุ้ยแคะแกะเกาสิวเด็ดขาด เดี๋ยวเกิดติดเชื้อขึ้นมาจะยุ่งกันไปใหญ่ ถ้าสิวแตกให้ทา hydrogen peroxide 3% หรือ benzoyl peroxide 10% เพื่อป้องกันการติดเชื้อแทน
  • ว่ากันว่าถ้าคุณทานยา Accutane อยู่ ห้ามใช้ Neutrogena หรือ benzoyl peroxide เด็ดขาด [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ] เพราะ Accutane ออกฤทธิ์ขจัดต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้สูญเสียส่วนผลิตน้ำมันตามธรรมชาติไป ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกใช้ยา [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,299 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา