ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หมัดเป็นแมลงขนาดเล็กที่ว่องไวและอยู่ได้ด้วยการกินเลือดจากสัตว์อื่น ซึ่งมักจะเป็นเจ้าแมวหรือเจ้าสุนัขขนฟูของคุณ หมัดจะสร้างปัญหาเมื่อมันเข้ามาอยู่ในบ้านและรบกวนผู้อยู่อาศัย ด้านล่างนี้คือขั้นตอนการกำจัดหมัดออกจากบ้านและสัตว์เลี้ยงของคุณให้หมดสิ้น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

กำจัดหมัดในบ้านด้วยยาฆ่าแมลง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ผงกำจัดเห็บหมัดจากพืช (Botanical Dust) ผสมกับผงบอเรตหรือกรดบอริก. วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการกำจัดหมัดตั้งแต่มันยังเป็นไข่หรือตัวอ่อน ส่วนผสมนี้จะช่วยกำจัดหมัดก่อนมันจะโตเต็มวัย [1]
    • ผงกำจัดเห็บหมัดจากพืชอาจเป็นยาฆ่าแมลงจากธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุด ส่วนบอเรตคือแร่ที่ใช้กันแพร่หลายในการคงสภาพไม้ ใช้เป็นผงซักฟอก และยาฆ่าแมลง ซึ่งจะเป็นพิษต่อกระเพาะของหมัด
    • หมัดตัวโตเต็มวัยมีวงจรชีวิตเฉลี่ยราว 2 ถึง 3 เดือนและจะอยู่ได้นานถึง 100 วันโดยไม่ได้กินเลือด ในขณะที่ตัวอ่อนจะอยู่ได้นานเพียง 3 วันก็ตายถ้าไม่ได้กิน ดังนั้นคุณจึงควรจัดการตัวอ่อนก่อน
  2. ถ้ามีหมาหรือแมว ก็โรยตามที่นอนหมาหรือแมวด้วยทางที่ดีที่สุดคุณควรทำขั้นตอนนี้เมื่อคุณต้องออกจากบ้านเป็นเวลาสักพัก อาจจะประมาณ 24 ชั่วโมง ปล่อยให้ส่วนผสมทำงานหนึ่งวัน เมื่อคุณกลับมา ให้ดูดผงส่วนผสมจากพรม เครื่องเรือน และซักผ้าปูที่นอนทั้งของเตียงคุณและสัตว์เลี้ยง คุณไม่ควรสูดดมส่วนผสมจากผงกำจัดเห็บหมัดและผงบอเรต สวมหน้ากากเมื่อป้ายส่วนผสมตามส่วนต่างๆ ในบ้าน
    • ใช้ยาฆ่าแมลงในที่ซึ่งระบายอากาศได้ดีและสวมถุงมือ การได้สัมผัสยาฆ่าแมลงซ้ำๆ มีผลต่อสุขภาพของมนุุษย์และสัตว์เลี้ยง
    • เพราะวงจรชีวิตที่ยาวนานของมัน จึงควรใช้ยาฆ่าแมลงนี้ 2 หรือ 3 หน โดยเว้นระยะห่าง 3 สัปดาห์ สำหรับกำจัดมันอย่างสิ้นซาก
  3. กับดักเห็บหมัดทำงานเหมือนกับการใช้น้ำยาล้างจานกับหลอดไฟ หมัดจะถูกล่อด้วยความร้อนและแสงสว่างจากหลอดไฟ สุดท้ายมันก็จะติดกับดัก [2]
    • หากคุณมีสัตว์เลี้ยงที่อาจลองเปิดกินของที่อยู่ในกับดัก ให้วางในจุดที่มันเข้าไม่ถึง หรือในห้องที่คุณกันสัตว์เลี้ยงออกไปได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

กำจัดหมัดโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดูดฝุ่นทั่วบ้านวันละสองครั้งติดต่อกัน 2 สัปดาห์. ดูดฝุ่นบริเวณที่มีหมัด รวมถึงบริเวณที่สัตว์เลี้ยงมักจะชอบเดินผ่าน อย่าลืมดูดใต้เครื่องเรือนหรือใต้พรมด้วย หมัดส่วนใหญ่จะไม่รอดจากแรงดูดของเครื่องดูดฝุ่น! [3]
    • ผู้คนมักจะชอบใช้เครื่องดูดฝุ่นพลังสูง แต่เครื่องดูดฝุ่นธรรมดาทั่วไปก็สามารถใช้กำจัดหมัดได้แล้ว [4]
    • ทิ้งถุงเก็บฝุ่นทุกครั้งหลังจากดูดเสร็จ เพื่อลดโอกาสที่หมัดจะกลับมาอีก
  2. ใส่ส่วนผสมของน้ำและน้ำยาล้างจานในจานที่มีก้นตื้นมากๆ เพื่อที่หมัดจะได้เผลอกระโดดลงไปได้ วางจานใส่ส่วนผสมใกล้กับหลอดไฟเสียบปลั๊กที่อยู่ต่ำใกล้พื้น โดยเฉพาะไฟกลางคืน แสงไฟจะดึงดูดหมัด มันจะเข้าหาแสง ตกลงไปในส่วนผสม และตายในที่สุด [5]
    • ส่วนผสมของน้ำกับน้ำยาล้างจานจะเป็นเหมือนสระว่ายน้ำพิษของหมัด เมื่อมันโดดลงไปในจาน มันก็จะตาย
    • ถ้าไม่มีจานก้นตื้น คุณอาจจะใช้จานร่อนแทนก็ได้
  3. หั่นมะนาวหนึ่งลูกเป็นแผ่นบางๆ และใส่ลงในภาชนะใส่น้ำ นำน้ำไปต้มให้เดือด และวางทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เทลงในขวดสเปรย์และฉีดไปยังบริเวณที่มีหมัด [6]
    • ผลไม้ซิตรัสอื่นๆ อย่างส้ม เกรปฟรุต เลมอน ก็ใช้ได้เหมือนกัน
  4. วางไม้ซีดาร์สับตามมุมห้อง ในคอกหรือที่นอนสุนัข และใต้เครื่องเรือน ใต้ผ้าฝ้าย หมอน และอาจจะรวมถึงเครื่องนอนของคุณด้วย เพื่อที่คุณจะได้มั่นใจว่าเตียงของคุณจะไร้แมลงรบกวน หมัดไม่ชอบกลิ่นของไม้ซีดาร์ และจะหนีออกจากบริเวณที่มีกลิ่น [7] ไม้ซีดาร์สับมีขายตามร้านขายสัตว์เลี้ยง
    • ตรวจดูสัตว์เลี้ยงว่ามันแพ้ไม้ซีดาร์หรือไม่ สุนัขหลายชนิดอาจแพ้ไม้ซีดาร์ได้ เช่นอาจจามและตาบวม ไม้อาจจะช่วยไล่หมัดได้ แต่ถ้าสุนัขของคุณเป็นทุกข์ก็คงไม่ดีแน่ให้หยุดใช้ทันที
  5. เกลือเป็นสารดูดความชื้นที่จะทำให้พื้นผิวแห้ง เมื่อเกลือติดไปกับตัวหมัด มันจะเสียดสีและถากไปกับตัวหมัด หมัดจะเลือดออกและตายเมื่อขยับตัว หลังจากผ่านไป 7-10 วัน ให้ดูดฝุ่นบริเวณที่โรยเกลือให้ทั่ว เพื่อดูดเอาเกลือและซากหมัดออกจากพรมให้หมด ดูดฝุ่นซ้ำอีกสักหนึ่งหรือสองครั้ง [8]
    • ใช้เกลือเนื้อละเอียดในขั้นตอนนี้ ยิ่งเนื้อละเอียดมากเท่าไร ก็ยิ่งดีเท่านั้น เพราะเม็ดเกลือขนาดเล็กจะติดไปกับตัวหมัด
    • เมื่อคุณดูดฝุ่นเสร็จแล้ว ให้ทิ้งถุงเก็บฝุ่นและเปลี่ยนถุงใหม่
  6. ดินเบาก็เหมือนเกลือที่จะกำจัดหมัดโดยการถากกับตัวหมัด โรยสักสองสามช้อนทั่วผืนพรมที่ติดหมัด [9] คุณยังสามารถใช้แบบป้องกันโดยโรยรอบทางเข้าบ้าน หาซื้อได้ตามร้านฮาร์ดแวร์หรือขายเครื่องใช้ภายในบ้าน
    • คุณสามารถใส่ดินเบาบนตัวสัตว์เลี้ยงตราบที่ไม่โดนตากับหู โรยตรงหลังและถูให้มันเข้าไปโดนผิวหนัง
  7. ฉีดพื้นและเครื่องนอนด้วยสารยับยั้งการเจริญเติบโตของแมลง (Insect Growth Regulator - IGR). ตัวอย่างเช่น Nylar สารยับยั้งนี้จะหยุดการเจริญเติบโตของหมัด ซึ่งเป็นการทำลายวงจรการแพร่พันธุ์ วิธีนี้เหมาะจะใช้ควบคุมการแพร่พันธุ์ของหมัดจำนวนมากในบ้าน ปกติแล้วคุณจะต้องป้ายสารรอบละสองครั้ง และเว้นช่วงแต่ละรอบนานประมาณสามกับอีกครึ่งสัปดาห์ และมักจะให้ผลดีเมื่อคุณฉีดบริเวณในบ้านที่สัตว์เลี้ยงชอบเดินผ่านบ่อยๆ ทุกเดือนในช่วงฤดูที่หมัดแพร่พันธุ์ [10] Typically, the mixed IGR will need to be applied 2 times, each about 3 weeks apart.
    • วิธีที่ประหยัดที่สุดคือการซื้อสารเข้มข้นมาผสมตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์
    • สารยับยั้งไม่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับบ้านที่มีเด็ก หรือสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก เช่น แฮมสเตอร์ สัตว์เลื้อยคลาน หรือปลา
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Scott McCombe

    ผู้เชี่ยวชาญด้านการดกำจัดแมลงรบกวน
    สก็อตต์ แม็คคอมบ์เป็น CEO ของ Summit Environmental Solutions (SES) บริษัทรับกำจัดแมลงรบกวนในนอร์ธเทิร์น เวอร์จิเนีย SES ที่ก่อตั้งในปี 1991 ได้รับการจัดอันดับ A+ จากสภาธุรกิจเพื่อธรรมภิบาลและได้รับรางวัล "Best of the Best 2017," “Top Rated Professional,” กับ “Elite Service Award" จาก HomeAdvisor
    Scott McCombe
    ผู้เชี่ยวชาญด้านการดกำจัดแมลงรบกวน

    ผู้เชี่ยวชาญของเราเห็นด้วยว่า: ในบางกรณี คุณสามารถลงยาฆ่าแมลงลงบนพื้นเพื่อช่วยหยุดยั้งการแพร่พันธุ์ก่อนที่มันจะใหญ่เกินควบคุม มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากสำหรับใช้ควบคุมหมัดในบ้านที่มีส่วนผสมของสารยับยั้งไม่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

กำจัดหมัดออกจากตัวสัตว์เลี้ยง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงจะเป็นการฆ่าหมัดที่อยู่บนตัวมัน [11] เตรียมตัวให้สุนัขก่อนจะอาบน้ำให้มัน โดยการป้ายสบู่กำจัดหมัดใกล้ๆ หู ดวงตา จมูก ปาก และก้น เมื่อหมัดโดนน้ำ มันจะรีบหาและหลบในที่ปลอดภัยบนตัวสุนัขในทันที เช่น บริเวณคอ หัว และแถวทวารหนัก คุณจึงควรป้ายสบู่ก่อนที่สุนัขจะเปียกน้ำ
    • แต่ก็อาจจะยังมีหมัดที่อาศัยอยู่ที่อื่นพร้อมจะโดดเข้าหาสัตว์เลี้ยงของคุณอีก ดังนั้นคุณจึงควรอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงและใช้มาตรการป้องกันอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ดูดฝุ่น ใช้สารผสมบอเรต และวางไม้ซีดาร์สับ
  2. ราดน้ำให้สุนัขตัวเปียกและฟอกสบู่ให้ทั่วตัว ปล่อยให้สบู่ทำหน้าที่กำจัดหมัดเป็นเวลาอย่างน้อยสิบนาที. เพื่อที่สบู่จะได้กำจัดหมัดได้มากที่สุดเท่าที่มากได้ [12] หวีซากหมัดที่ตายแล้วออกหลังจากอาบน้ำเสร็จและเช็ดตัวจนแห้งแล้ว
    • อาบน้ำทันทีหลังอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง เพราะแชมพูกำจัดหมัดบางตัวอาจทำให้ผิวระคายเคืองเมื่อทิ้งไว้นาน
  3. ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัด เช่น Advantage หรือ Frontline คือยาแต้มที่จะต้องแต้มให้สัตว์เลี้ยงเดือนละครั้ง ยาแต้มจะซึมเข้าสู่ผิวสัตว์เลี้ยงโดยตรง โดยปกติจะซึมเข้าที่ระหว่างกระดูกสะบักและบางจุดแถวกระดูกสันหลัง ตัวยาจะทำงานผ่านผิวหนัง (ระบบห่อหุ้มร่างกาย) [13] คุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายสัตว์เลี้ยง
    • คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดร่วมกับหวีซี่ละเอียด ใช้หวีสางหมัดออกจากขนสัตว์ทีละตัว
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Scott McCombe

    ผู้เชี่ยวชาญด้านการดกำจัดแมลงรบกวน
    สก็อตต์ แม็คคอมบ์เป็น CEO ของ Summit Environmental Solutions (SES) บริษัทรับกำจัดแมลงรบกวนในนอร์ธเทิร์น เวอร์จิเนีย SES ที่ก่อตั้งในปี 1991 ได้รับการจัดอันดับ A+ จากสภาธุรกิจเพื่อธรรมภิบาลและได้รับรางวัล "Best of the Best 2017," “Top Rated Professional,” กับ “Elite Service Award" จาก HomeAdvisor
    Scott McCombe
    ผู้เชี่ยวชาญด้านการดกำจัดแมลงรบกวน

    ผู้เชี่ยวชาญของเราเห็นด้วยว่า: เพื่อป้องกันหมัดไม่ให้กลับมา ต้องหมั่นดูแลสัตว์เลี้ยงจากหมัดอยู่เป็นประจำโดยใช้ผลิตภัณฑ์ควบคุมและกำจัดหมัดที่ติดฉลากสำหรับใช้กับสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน

  4. เวียนใช้ยากำจัดเห็บหมัดหลายชนิดและใช้สารยับยั้งการเจริญเติบโตของเห็บหมัดตามทุกครั้ง. วิธีนี้จะช่วยป้องกันหมัดดื้อยา คุณอาจจะพบว่ายากำจัดเห็บหมัดทั่วไปใช้ไม่ได้ผลกับหมัดในท้องที่ เพราะหมัดเหล่านี้ปรับตัวจนดื้อยาชนิดนั้นแล้ว (ซึ่งอาจรวมถึงปลอกคอกำจัดเห็บหมัดด้วย) หากกรณีนี้เกิดขึ้น ให้สลับเปลี่ยนไปใช้ยาตัวอื่นและใช้สารยับยั้งการเจริญเติบโตของเห็บหมัด (IGR) เช่น Nylar สารยับยั้งจะหยุดการแพร่พันธุ์ของหมัด และป้องกันไม่ให้มันปรับตัวจนดื้อยาได้ [14]
    • สัตวแพทย์อาจจ่ายยาเม็ดบางชนิดที่คุณสามารถให้สัตว์เลี้ยงกินได้ ยาเหล่านี้จะทำลายระบบประสาทของหมัดผ่านกระแสเลือดและเนื้อเยื่อของสุนัขและแมว แม้ว่ามันจะฆ่าหมัดบนตัวสัตว์เลี้ยงได้ แต่มันจะไม่ป้องกันหมัดตัวใหม่
    • การใช้ IGR ไม่ได้ส่งผลถึงรุ่นถัดไป และในระยะยาว หมัดจะปรับตัวเข้ากับมันได้
  5. ให้ยา Capstar เพื่อกำจัดหมัดออกจากตัวสัตว์เลี้ยงอย่างรวดเร็ว. Capstar เป็นยาเม็ดที่หลังจากกินแล้วจะแสดงผลในไม่กี่ชั่วโมง Capstar จะทำให้หมัดที่กัดสัตว์เลี้ยงตายในท่าตัวเกร็ง [15] การอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงเพื่อเอาซากหมัดออกจากตัวอาจช่วยลดอาการคันที่เกิดขึ้นได้
    • แมวบางตัวอาจจะตื่นตัวกว่าปกติ เปล่งเสียงร้องบ่อย หรือหายใจแรง หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น ก็ให้ลองลดปริมาณยาที่ใช้ แต่ถ้าแมวไวต่อยาเกินไป คุณก็ควรหยุดใช้ยา Capstar
  6. เนื่องจากหมัดกินเลือดสัตว์เป็นอาหาร คุณก็สามารถกำจัดมันด้วยการปรับสิ่งที่สัตว์เลี้ยงกินได้ เช่น ผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิล-ซีดาร์ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำในชามสุนัข หรืออาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงด้วยน้ำเปล่ากับน้ำส้มสายชู
    • อย่าใช้วิธีนี้กับแมว เพราะสมดุลค่า pH ในตัวมันจะอ่อนไหวกว่าสุนัข
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ระหว่างที่คุณหาหมัดอยู่ คุณอาจจะเจอสิ่งที่เรียกว่า "ขี้หมัด" มันมีสีดำ หยาบ และหากคุณนำมันไปวางบนผ้าขนหนูชื้นๆ มันจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ขี้หมัดคือเลือดที่หมัดขับออกเป็นของเสียจากร่างกาย มันเป็นเบาะแสอย่างดีในการตามหาตัวมัน
  • อย่าทิ้งเกลือไว้ในพรมนานไป เกลือเป็นสารดูดความชื้นที่อาจทำให้ใยผ้าของพรมเสียหายได้ และไม่ควรใช้เกลือในบ้านที่ไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศอย่างต่อเนื่อง
  • หากสุนัขไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสบู่กำจัดหมัดทั่วไปดีนัก ลองใช้สบู่ที่มีน้ำมันยูคาลิปตัส ทีทรี หรือซีดาร์เป็นส่วนผสม หมัดไม่ชอบน้ำมันจากพืชเหล่านี้ ใช้มันให้เป็นประโยชน์ซะ
โฆษณา

คำเตือน

  • ออกจากบ้านหลังจากที่ใช้ยากับบริเวณที่มีหมัดแล้ว รวมถึงหาอะไรมาใส่ให้สัตว์เลี้ยงหรือย้ายมันไปชั่วคราว อ่านฉลากกำกับเพราะยามีอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก ปลาหรือนก
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 91,751 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา