ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณกำลังมีปัญหาผมแห้งพร้อมกับหนังศีรษะที่แห้งและคันใช่ไหม แล้วคุณก็ได้ลองใช้ครีมนวดผมที่ซื้อได้ตามร้านค้ามาหมดแล้วทุกยี่ห้อ แต่ไม่มีอะไรที่ช่วยคุณได้เลยใช่หรือเปล่า วิธีที่ยอดเยี่ยมในการกำจัดอาการผมและหนังศีรษะแห้งก็คือการนวดผม และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติก็สามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียวล่ะ อ่านบทความนี้ต่อไปเพื่อดูว่ามีกลเม็ด เคล็ดลับ และสูตรอะไรบ้างที่จะทำให้ผมของคุณกลับมาดูดีอีกครั้ง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ทรีทเมนต์หมักผมสูตรบำรุงล้ำลึก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พวกทรีทเมนต์สูตรบำรุงล้ำลึกจะมีลักษณะเหมือนๆ กับครีมนวดผมชนิดผสมสเตียรอยด์ ตรงที่มันช่วยให้ความชุ่มชื้น ความมีชีวิตชีวา และมวลน้ำหนักแก่เส้นผมได้อย่างมาก ไข่อุดมไปด้วยโปรตีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของเส้นผม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ไข่จะสามารถให้สารบำรุงผมที่ยอดเยี่ยมได้
    • ผสมไข่แดง 2 ลูก น้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา และน้ำ 1/8 ถ้วยตวงในชาม/กะละมัง ตีจนกระทั่งส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปริมาณทรีทเมนต์ที่จะต้องใช้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีผมมากน้อยแค่ไหน คุณอาจจะต้องผสมมากขึ้นหรือน้อยลงได้ตามต้องการ
    • หลังจากสระผมแล้วให้ทาทรีทเมนต์ที่ได้ลงบนศีรษะขณะที่ผมยังหมาดๆ อยู่ แต่ไม่ถึงกับเปียกโชก ปล่อยทิ้งไว้ 15 นาที
    • ล้างออกด้วยน้ำอุ่น (โปรดระวัง! ถ้าใช้น้ำร้อนอาจทำให้ทรีทเมนต์กลายเป็นไข่คนได้)
  2. มายองเนสมีส่วนประกอบหลักอันได้แก่ ไข่และน้ำมัน ฉะนั้นจึงเหมือนซ้ำกับสูตรที่ 1 ข้างต้น แต่สิ่งที่ทำให้ทรีทเมนต์มายองเนสแตกต่างออกไปก็คือ มีน้ำส้มสายชูเป็นส่วนประกอบด้วย ซึ่งเจ้าน้ำส้มสายชูนี้ก็มีฤทธิ์กำจัดเชื้อราหรือแบคทีเรียใดๆ ที่อาจจะกำลังสร้างบ้านชั่วคราวของมันอยู่บนหนังศีรษะของคุณ อันเป็นเหตุให้เกิดอาการแห้งและคันบนหนังศีรษะนั่นเอง
    • นำมายองเนส 1/2 ถ้วยตวงมาทาผมที่แห้งแล้ว แล้วนวดลงไปที่โคนผมและบริเวณหนังศีรษะ จากนั้นใส่หมวกอาบน้ำหรืออุปกรณ์ครอบหัวอื่นๆ ที่เป็นพลาสติกเอาไว้
    • ปล่อยทิ้งไว้ 15 นาที
    • ล้างออกให้เกลี้ยงด้วยน้ำอุ่น ก่อนที่จะสระผมด้วยแชมพูตามปกติ
  3. หลายๆ คนได้ไปทำทรีทเมนต์ผมด้วยน้ำมัน (hot oil treatment) ที่ร้านเสริมสวย และต่างเชื่อมั่นในผลสัมฤทธิ์ที่ได้ สำหรับทรีทเมนต์ชนิดน้ำมัน ให้คุณพยายามมองหาน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ แม้ว่าน้ำมันมะกอกจะให้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นกันก็ตาม
    • นำน้ำมันไปตั้งไฟในหม้อด้ามจนอุ่น แต่จำให้ขึ้นใจว่า อย่าให้ร้อนเกินจนมือสัมผัสไม่ได้ เพราะว่าคุณกำลังจะใช้น้ำมันที่ว่านี้มาทาที่หนังศีรษะของคุณ
    • ยกหม้ออุ่นน้ำมันลงจากเตา เพื่อความมั่นใจทิ้งให้เย็น 30 วินาที แล้วค่อยนำมาทาในส่วนที่เป็นผม ถ้าจำเป็น คุณอาจใช้กิ๊บติดผมได้ หากคุณกังวลว่าจะเกิดความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะ ก็อย่านวดหนังศีรษะด้วยน้ำมันในปริมาณที่มากเกินไป
    • ใส่หมวกอาบน้ำหรืออุปกรณ์ครอบหัวอื่นๆ ที่เป็นพลาสติก แล้วปล่อยไว้อย่างน้อย 30 นาที
    • ล้างออกคร่าวๆ ด้วยน้ำอุ่น แล้วสระผมด้วยแชมพูจนกว่าน้ำมันจะออกจนเกลี้ยง หมายถึงน้ำมันที่เป็นทรีทเมนต์นะ ไม่ใช่น้ำมันธรรมชาติจากผมของคุณ
  4. โดยนำมาผสมเข้ากับไข่และน้ำมัน เบียร์เป็นสิ่งที่ให้ความชุ่มชื้นจากธรรมชาติที่ยอดเยี่ยม อาจดูเหมือนแปลก แต่ถ้าคุณมาคิดๆ ดูแล้ว มันก็ไม่ได้แปลกไปกว่าการที่คุณนำมายองเนสมาชโลมผมคุณหรอก เพื่อให้ได้ทรีทเมนต์สูตรบำรุงล้ำลึกที่ดีกว่า ให้ใช้เบียร์ชนิดที่มีคุณภาพและมีกลิ่นรสแอลกอฮอล์เข้มข้นที่สุด (full-bodied beer) หลีกเลี่ยงการใช้เบียร์คูร์สไลท์ (Coors Light)
    • สระผมด้วยแชมพูและล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วจึงนวดผมด้วยเบียร์ ให้คุณใช้เบียร์แทนครีมนวดผมหลังจากสระผมตามปกติ
    • ผสมเบียร์ 2 ถ้วยตวงกับน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 2 ช้อนโต๊ะ แล้วนำมาทาผมหลังจากสระผมแล้ว เช่นเคย ให้คุณใช้ส่วนผสมดังกล่าวตามแบบที่คุณใช้ครีมนวดผม
    • ผสมเบียร์ดีรสเข้ม 8 ออนซ์ (ประมาณ 240 มล) กับน้ำมันโจโจบา 2-3 หยด แล้วนำมาทาผม ปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที จากนั้นใช้น้ำอุ่นล้างออก แล้วจึงสระผมด้วยแชมพู
  5. อโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และน้ำมันธรรมชาติ ดังนั้นมันจึงเป็นส่วนผสมที่เติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับทรีทเมนต์สูตรสุดท้ายนี้เลยทีเดียว ผู้ที่ใช้อโวคาโดเป็นทรีทเมนต์ก็จะคาดหวังได้เลยว่าตนเองจะมีผมที่ทั้งนุ่ม เป็นประกาย และมีความชุ่มชื้น
    • ผสมอโวคาโดสุก 1 ลูกเข้ากับน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาด้วยเครื่องปั่นอาหาร เครื่องผสมอาหาร หรือจะใช้มือก็ได้
    • นำส่วนผสมที่ได้มาทาผมที่แห้ง แล้วนวดลงไปถึงหนังศีรษะ จากนั้นใส่หมวกอาบน้ำคลุมเอาไว้ประมาณ 30 นาที
    • ล้างออกให้เกลี้ยงด้วยน้ำอุ่น (เนื่องจากอโวคาโดมีกากใยตามธรรมชาติ จึงอาจต้องใช้เวลาในการล้างออกมากกว่าการล้างทรีทเมนต์สูตรน้ำมันผสมไข่หรือสูตรผสมเบียร์) จากนั้นสระผมด้วยแชมพูอย่างเบามือ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ผลิตภัณฑ์นวดผมจากธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นที่เลื่องลือว่าน้ำมันทีทรีมีสรรพคุณในการต้านแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา จึงทำให้สิ่งนี้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับใช้ต่อสู้กับอาการหนังศีรษะแห้งและผลกระทบต่างๆ ที่มาจากผมแห้งเสีย น้ำมันทีทรีนอกจากจะมีกลิ่นหอมแล้ว ยังให้ความชุ่มชื้นได้ดีอีกต่างหาก และยังเป็นทางเลือกที่ผู้ที่จริงจังกับการรักษาอาการหนังศีรษะแห้งน่าจะพิจารณาอยู่ด้วย
    • ใส่น้ำมันทีทรีลงในครีมนวดผมของคุณสิ โดยไปหาซื้อในรูปของน้ำมันสกัดเข้มข้น แล้วผสมน้ำมันทีทรีปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะลงในครีมนวดผมของคุณ นี่คือวิธีที่รวดเร็วและเสียเงินไม่มากในการเพิ่มสรรพคุณให้กับครีมนวดผมของคุณ
    • มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันทีทรีเป็นส่วนประกอบ แชมพูและครีมนวดผมจำนวนมากมีน้ำมันทีทรีผสมอยู่ ต้องแน่ใจว่าคุณได้หาผลิตภัณฑ์สูตรที่มีความอ่อนโยนและเหมาะกับประเภทเส้นผมของคุณ
  2. แม้ว่าน้ำผึ้งจะมีลักษณะข้นเหนียว แต่ก็สามารถนำมาใช้ผสมครีมนวดผมอันน่าอัศจรรย์ได้ แน่นอนว่าไม่ใช่น่ากิน (เพราะกินไม่ได้) หากคุณรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่นะ และด้านล่างนี้คือสูตรทำครีมนวดผมจากธรรมชาติที่คุณสามารถนำไปลองทำได้ ถ้ารู้สึกอยากทดลองทำ
    • นำน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 4 ช้อนโต๊ะ กลีเซอรินบริสุทธิ์จากผัก 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้งบริสุทธิ์ 2 ช้อนโต๊ะมาผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นพอคุณสระผมเสร็จแล้ว ก็นำส่วนผสมที่ได้มาใช้แบบที่คุณใช้ครีมนวดผมตามปกติ
    • ผสมน้ำผึ้งในครีมนวดผมสูตรธรรมชาติของคุณแล้วใช้ตามวิธีที่มีบอกเอาไว้ ผสมโดยใช้ครีมนวด 2 ส่วนกับน้ำผึ้ง 1 ส่วน จากนั้นนำมาใช้นวดผมหลังจากสระผมแล้ว แต่ให้ระวังไว้ว่า น้ำผึ้งสามารถทำให้สีผมของคุณอ่อนลงได้
  3. ผสมน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลกับส่วนผสมอื่นๆ ที่บำรุงผมเพื่อจัดการกับปัญหาหนังศีรษะแห้ง. น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลสามารถใช้เป็นอาวุธต่อสู้อาการหนังศีรษะแห้งได้ ลองสูตรขจัดรังแคด้วยพลังน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลนี้ดูสิ [1]
    • ผสมน้ำ 3 ถ้วยตวงกับโรสแมรี่ 1 กำมือเต็มในหม้อด้าม ต้มให้เดือดแล้วลดไฟให้ต่ำกว่าจุดเดือด ปิดฝาหม้อแล้วต้มต่อ 45 นาที
    • เทส่วนผสมนั้นลงในชามหรือขวด แล้วปล่อยให้เย็น เติมน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล 1/2 ถ้วยตวง พร้อมด้วยน้ำมันสกัดโรสแมรี่และเปปเปอร์มินท์อย่างละ 10 หยดลงไป
    • นำส่วนผสมที่ได้ใส่ลงในขวดสเปรย์ นำไปไว้ในห้องอาบน้ำ แล้วใช้เป็นประจำหลังสระผม โดยจะใช้แบบพ่นแล้วล้างออกหรือปล่อยทิ้งไว้ก็ได้ น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลน่าจะช่วยบำรุงหนังศีรษะที่แห้งของคุณได้ ด้วยการมอบความชุ่มชื้นพร้อมกลิ่นหอม
  4. ทำแชมพูผสมครีมนวดผมของคุณเองจากน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าว. คุณจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยล่ะ
    • รวบรวมส่วนประกอบ
      • แชมพูสารสกัดจากหางม้า 1 ถ้วยตวง (สิ่งนี้ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาตินะ เชื่อไหมล่ะ)
      • น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล 5 ช้อนใหญ่แบบเต็มๆ
      • น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าว 3 ช้อนชา
    • นำทั้งหมดมาผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นนำมาใช้สระผมแบบแชมพูตามปกติ
    • แม้แต่นำส่วนผสมที่ได้นี้มาอาบน้ำก็สามารถทำได้ เนื่องจากส่วนผสมดังกล่าวสามารถช่วยรักษาโรคผิวหนังอักเสบ/ภูมิแพ้ผิวหนังได้เช่นกัน
    • ทุก 2-3 คืน ให้คุณนวดหนังศีรษะด้วยน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวแล้วเข้านอนทั้งอย่างนั้นเลย พอวันรุ่งขึ้นก็สระผมด้วยแชมพูสูตรด้านบนเหมือนกับคุณใช้แชมพูทั่วๆ ไปนั่นแหละ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เคล็ดลับทั่วไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมและหนังศีรษะอย่างระมัดระวัง. แชมพูและครีมนวดผมที่ประกอบไปด้วยสารเคมีฤทธิ์แรงอย่างโซเดียมลอริลซัลเฟต (sodium lauryl sulfate) อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองบนหนังศีรษะ หรือทำให้เส้นผมของคุณแห้งจนเกินไปได้ ฉะนั้นจึงต้องระวังให้ดีว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์อะไร
  2. ในขณะที่การทำผมอาจเป็นเรื่องสนุก แต่การใช้ที่ม้วนผม เครื่องหนีบ/ยืดผม และเครื่องเป่าผมนั้น สามารถทำให้โครงสร้างเส้นผมเสียหายจากความร้อนได้ พยายามทำผมแบบที่ทำให้ผมเสียน้อยที่สุด ทำผมเฉพาะโอกาสที่จำเป็นเท่านั้นและอย่าทำมากเกินไป นอกจากนี้ให้ทำได้อย่างมากสุดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  3. การรับประทานอาหารที่ดีและมาจากธรรมชาติจะไปช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูเส้นผมของคุณได้ในระยะยาว เนื่องจากเส้นผมของคุณเกิดจากโปรตีนและต้องการโปรตีนเพื่อการเติบโต ดังนั้นการบริโภคอาหารจำพวกโปรตีนไม่ติดมัน ผักใบเขียว ผลไม้ และธัญพืชเต็มเมล็ด จึงเป็นความคิดที่ดีเลยทีเดียว
    • รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 กรดไขมันชนิดนี้พบอยู่ในเยื่อหุ้มเซลล์ในหนังศีรษะ และในน้ำมันตามธรรมชาติที่ช่วยคงความชุ่มชื้นให้แก่หนังศีรษะและเส้นผมของคุณ อาหารที่มีโอเมก้า 3 ในปริมาณสูงได้แก่ แซลมอน วอลนัท เมล็ดแฟลกซ์ (เมล็ดลินิน) และผักโขม
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ต้องแน่ใจว่าคุณได้ล้างน้ำมันออกจากผมจนเกลี้ยงแล้ว เพราะการปล่อยให้มีน้ำมันเหลืออยู่สามารถทำให้ศีรษะเกิดกลิ่นเหม็นได้ นอกจากนี้ยังจะทำให้ผมของคุณดูมันอีกด้วย
  • อย่าใช้ครีมนวดผมบ่อยนัก (เว้นเสียแต่เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพิสูจน์ทางด้านผิวหนังแล้ว) การใช้ครีมนวดผมจะช่วยทำให้ผมคุณนุ่มลื่นขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ที่สำคัญการใช้ครีมนวดผมบ่อยเกินไปยังเป็นต้นเหตุของผมเสียด้วย
  • การเปลี่ยนแชมพูที่ใช้อาจเป็นคำตอบสำหรับคุณ
  • หากคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะ ให้ไปพบแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ประจำตัวของคุณอยู่เสมอ
  • ลืมแพทย์ผิวหนังไปเสีย แล้วไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะสิ เพราะชื่อก็บอกใช่ไหมล่ะว่าพวกเขาเชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ
  • การใช้ผงฟูก็เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการรักษาอาการหนังศีรษะแห้ง รังแค และเชื้อราบนหนังศีรษะ นอกจากนี้ยังสามารถนำมาทำแชมพูสูตรทำความสะอาดล้ำลึกได้ดีอีกด้วย โดยการผสมผงฟู 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำพอประมาณ แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาใช้เป็นแชมพูตามปกติ
  • ใช้น้ำมันคาโนลาทำน้ำมันทรีทเมนต์ผมสิ ใช้แล้วคุณจะมีเรือนผมสวยประหนึ่งผมนางแบบหน้าปกนิตยสารเลยล่ะ
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าเกาศีรษะของคุณมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดบาดแผลและเลือดออกได้
  • หากผงขาวๆ ตามเส้นผมของคุณไม่หายไปเสียที นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกว่าคุณมีเหา ในกรณีนี้คุณควรมองหาวิธีรักษาที่จริงจังขึ้นกว่าเดิมแล้วล่ะ
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,632 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา