ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การที่ราจะขึ้นเสื้อผ้าได้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติแต่อย่างใด ยิ่งถ้าเราเก็บเสื้อผ้าเอาไว้ในที่อับชื้น หรือไม่ได้ตากให้แห้งสนิทก่อนที่จะเก็บแล้วก็ยิ่งไปกันใหญ่ เราสามารถมองเห็นเชื้อราได้จากจุดสีแปลกๆ ที่ขึ้นอยู่บนเนื้อผ้านั่นเอง หากคุณต้องการจะกำจัดเจ้าเชื้อราออกจากเสื้อผ้า ก็จะต้องซักล้างหรือถูส่วนราด้วยสิ่งที่ทำความสะอาดได้ เช่น น้ำยาขจัดคราบ ผงซักฟอก บอแรกซ์ หรือเบกกิ้งโซดา

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ทำความสะอาดผ้าขึ้นรา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หยิบแปรงสีฟันเก่าๆ มาสักอันแล้วใช้ขนแปรงขัดเชื้อราออกจากผ้า ขัดให้ออกได้มากที่สุดไปเลย [1] หลังจากขัดเสร็จก็ให้ทิ้งแปรงนั้นไปทันที
    • นำไปขัดในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก หรือไปนอกบ้าน/นอกอาคารได้เลยยิ่งดี สปอร์เชื้อราสามารถเดินทางผ่านอากาศในบ้านแล้วลอยไปติดผ้าชิ้นอื่นได้ ดีไม่ดีคุณอาจสูดเข้าปอดไปเองเลยด้วยซ้ำ
  2. เมื่อคุณขัดเอาเชื้อราออกไปได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ให้ใช้น้ำยาขจัดคราบเทลงไปในส่วนที่เชื้อราเกาะอยู่นั้นได้เลย [2] โดยน้ำยาขจัดคราบจะต้องใช้เวลาแช่อยู่บนผ้าก่อนสักครู่นะ ฉะนั้นให้รออย่างน้อยสัก 30 นาที ก่อนจะนำผ้าไปซัก
    • น้ำยาขจัดคราบมักมีขายทั่วไปอยู่แล้ว ลองหาซื้อที่แผนกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดตามร้านขายของชำใกล้บ้าน หรือซุปเปอร์มาร์เกต ห้างสรรพสินค้าทั่วไปได้เลย
  3. ใช้เครื่องซักผ้าที่สามารถซักผ้าในปริมาณมากได้ แล้วให้เลือกโหมดของการซักผ้าจำนวนมาก รวมถึงให้ตั้งอุณหภูมิน้ำให้อยู่ที่ “น้ำร้อน” อย่าใส่อย่างอื่นนอกจากผ้าที่ต้องการซักเพื่อกำจัดเชื้อราลงไป ไม่อย่างนั้นสปอร์เชื้อราอาจไปติดกับเสื้อผ้าชิ้นอื่นเอาได้ [3]
    • ถ้าเครื่องซักผ้าของคุณประมาณโหมดของการซักตามน้ำหนักผ้าที่ใส่จริง ให้ใส่พวกผ้าชิ้นเก่าๆ หรือผ้าขนหนูลงไปเพื่อเพิ่มน้ำหนักแทน
  4. เมื่อเครื่องซักผ้าเติมน้ำลงไปแล้ว ให้ใส่น้ำส้มสายชูผสมน้ำไปด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าเชื้อราจะถูกกำจัดออกไปอย่างแน่นอน โดยให้เทน้ำส้มสายชูใสปริมาณ ¾ ถ้วย (177 มล.) ลงไปในผ้าที่จะซักในเครื่องเลย [4]
    • นอกจากนี้ น้ำส้มสายชูยังช่วยกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากเชื้อราที่ติดบนผ้าได้อีกด้วย
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Susan Stocker

    ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดแบบรักษ์ธรรมชาติ
    ซูซาน สต็อกเกอร์เป็นเจ้าของบริษัท #1 Green Cleaning Company ในซีแอตเทิล เธอโด่งดังในย่านนั้นด้วยการบริการที่โดดเด่น เคยชนะรางวัล Better Business Torch Award for Ethics & Integrity ในปี 2007 และการที่เธอสนับสนุนการจ่ายค่าจ้างอย่างเป็นธรรม สิทธิประโยชน์สำหรับลูกจ้าง และการทำความสะอาดแนวรักษ์โลก
    Susan Stocker
    ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดแบบรักษ์ธรรมชาติ

    ผู้เชี่ยวชาญเห็นด้วยว่า: การซักผ้าในน้ำร้อนพร้อมกับน้ำส้มสายชู จะช่วยฆ่าสปอร์เชื้อราไปได้ถึง 80% และยังช่วยขจัดกลิ่นของราได้เช่นกัน โดยให้เทน้ำส้มสายชูลงไปบนผ้าที่จะซักตรงๆ และไม่ต้องใช้ผงซักฟอกใดๆ ทั้งสิ้น เติมน้ำร้อนลงไปในเครื่อง จากนั้นก็กดหยุดชั่วคราวให้ผ้าแช่อยู่ในน้ำสักชั่วโมงหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยซักอีกครั้งด้วยผงซักฟอกธรรมดาและน้ำที่ปราศจากคลอรีน

  5. คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเชื้อราถูกกำจัดออกไปได้อย่างสิ้นเชิงแล้วหรือยัง จนกว่าผ้าจะแห้งแล้วกลับมามีสีปกติตามเดิม ฉะนั้นต้องผึ่งผ้าให้แห้งบนพื้นผิวเรียบๆ หรือนำไปแขวนไปพาดกับราวแล้วผึ่งลมให้แห้งเสียก่อน [5]
    • ถ้าเป็นวันที่อากาศแจ่มใส ก็สามารถนำผ้าไปตากแดดด้านนอกได้เลย พระอาทิตย์จะให้ความร้อนกับผ้า ซึ่งจะช่วยฆ่าและกำจัดเชื้อราใดๆ ก็ตามบนเสื้อผ้าออกให้ด้วย
    • หลีกเลี่ยงที่จะใช้เครื่องอบผ้า รอจนกว่าผ้าจะแห้งเอง เพื่อดูว่ามีเชื้อรา สีแปลกๆ หรือกลิ่นแปลกๆ หลงเหลืออยู่หรือไม่ การเอาผ้าที่มีเชื้อราไปอบในเครื่องอบผ้า ทำให้สปอร์เชื้อราอาจติดอยู่ในเครื่องอบผ้าต่อไปได้ [6]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

กำจัดเชื้อราด้วยน้ำยาฟอกขาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้เครื่องซักผ้าที่ซักด้วย“น้ำร้อน” เมื่อไรก็ตามที่อยากจะจัดการกับเชื้อราที่ติดบนเสื้อผ้า หรือผ้าอื่นๆ ก็ตาม ให้ซักด้วยน้ำร้อนเสมอ. น้ำร้อนจะทั้งฆ่าและกำจัดเชื้อราได้ ขณะที่น้ำอุ่นและน้ำเย็นจะไม่ส่งผลใดๆ กับเชื้อราเลย [7]
    • ใช้น้ำยาฟอกขาวกับเสื้อผ้าสีขาวเท่านั้น เพราะมันอาจทำให้ผ้าสีมีสีที่ซีดลงหรือไปล้างสีของผ้าสีเอาได้ ถ้ามีเชื้อราขึ้นที่ผ้าสี บางทีคุณอาจต้องลองวิธีอื่นดูแล้วล่ะ
  2. เมื่อเติมน้ำร้อนลงไปในเครื่องจนเกือบเต็มพอจะซักผ้าแล้ว ให้ใส่น้ำยาซักผ้าเท่าที่จะใช้ลงไปได้เลย [8]
  3. เมื่อน้ำยาซักผ้าเริ่มขึ้นฟอง ให้เทน้ำยาฟอกขาว 1 ถ้วย (237 มล.) ตามลงไปในน้ำ [9] ถ้าเครื่องซักผ้าของคุณมีช่องพิเศษสำหรับใส่ “น้ำยาฟอกขาว” โดยเฉพาะ ก็เทใส่ในช่องนั้นไปเลยก็ได้
    • ต้องดูวิธีใช้ประกอบด้วยว่าจะต้องใช้น้ำยาฟอกขาวเท่าไรต่อผ้าหนักเท่าไร หากฉลากของน้ำยาฟอกขาวบอกว่าควรใช้น้ำยามากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณ 1 ถ้วย ก็ควรทำตามคำแนะนำนั้นๆ นะ
  4. เมื่อคุณใส่น้ำยาซักผ้ากับน้ำยาฟอกขาวลงไปแล้ว ให้เดินเครื่องเพื่อเติมน้ำ จากนั้นก็ใส่ผ้าที่มีเชื้อราขึ้นตามลงไปได้เลย เมื่อผ้าซักเสร็จแล้ว เชื้อราก็จะถูกกำจัดออกไปแล้วล่ะ [10]
    • ถ้าหลังซักเสร็จแล้วเชื้อรายังอยู่ อย่าเพิ่งนำไปตากล่ะ การตากไม่ได้ช่วยกำจัดเชื้อราออกไปได้หรอกนะ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

กำจัดเชื้อราออกด้วยบอแรกซ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เริ่มด้วยตั้งโหมดเครื่องซักผ้าให้ใช้น้ำร้อน. น้ำร้อนมีประสิทธิภาพที่สุดในการกำจัดคราบเชื้อราออกจากเสื้อผ้าของคุณ จากนั้นก็ใส่เสื้อผ้าที่มีเชื้อราขึ้น กับผงซักฟอกที่ใช้ตามปกติลงไปในถังซักผ้าได้เลย [11] โดยอย่าซักผ้าอื่นรวมกับผ้าที่มีเชื้อราขึ้นในคราวเดียวกันล่ะ
  2. เติมน้ำร้อนจัดลงไปในหม้อหรือชามผสม เทบอแรกซ์ลงไป ½ ถ้วย (118 มล.) แล้วใช้ช้อนหรือเครื่องครัวอื่นๆ คนให้บอแรกซ์ละลายเข้ากับน้ำร้อนด้วยดี [12]
  3. เมื่อบอแรกซ์ละลายเข้ากับน้ำร้อนในชามแล้ว ให้ค่อยๆ เทสารละลายนั้นลงไปในเครื่องซักผ้า [13]
  4. น้ำที่ล้างผ้าครั้งสุดท้ายก็จะล้างเอาสารละลายทำความสะอาดเหล่านี้ที่ใช้กำจัดเชื้อราออกไปหมดนั่นเอง [14]
    • ตากผ้าให้แห้งหลังจากที่ซักเรียบร้อยแล้ว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ขณะใช้ผงซักฟอก (หรือน้ำยาขจัดคราบชนิดอื่นๆ) โปรดระวังอย่าให้เข้าตาหรือสัมผัสกับผิวหนัง
  • ถ้าคุณกำจัดเชื้อราออกเองไม่ได้ แนะนำให้ไปส่งซักที่ร้าน การส่งซักถือเป็นการกำจัดเชื้อราออกจนหมดจดอย่างมีประสิทธิภาพ [15]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,361 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา