ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
มีเจ้าของน้องหมาน้องแมวหลายคนค้นพบว่า คุณใช้ apple cider vinegar หรือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล กำจัดเห็บหมัดบนตัวสัตว์เลี้ยงออกไปได้ นั่นเพราะรสเปรี้ยวไม่ถูกปากเห็บหมัดนั่นเอง ถ้าหมั่นฉีดพ่นน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลเจือจางตามตัวน้องหมาน้องแมวก็จะช่วยได้ โดยเฉพาะถ้าหมาแมวแพ้สารเคมี หรือคุณอยากลองใช้วิธีธรรมชาติที่ดูจะปลอดภัยกว่า ก็ลองทำตามขั้นตอนต่างๆ ในการผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลเจือจาง แล้วใช้กำจัดเห็บหมัดให้น้องหมาน้องแมวได้เลย
ขั้นตอน
-
เจือจางน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล. แทนที่จะเอาน้ำส้มสายชูเข้มข้นไปทาตัวสัตว์เลี้ยงเลย (แบบนั้นระคายเคืองแน่นอน) ให้เจือจางก่อน โดยผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 1 ถ้วยตวง กับน้ำอุ่น 1 ควอท (450 กรัม) และสบู่น้ำมันมะกอก (Castille soap) 1 ออนซ์ สูตรนี้แรงพอจะกำจัดเห็บหมัดได้ แต่ไม่แรงเกินไปจนกลิ่นฉุน
- ถ้าอยากเพิ่มตัวช่วยกำจัดเห็บหมัดตามตัวสัตว์เลี้ยง ให้หยดน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์หรือซีดาร์ 2 - 3 หยดลงไปผสม กลิ่นหอมอ่อนๆ จะทำให้เห็บหมัดกระเจิง น้องหมาน้องแมวก็ตัวหอมด้วย หรือเติมว่านหางจระเข้ 2 ออนซ์ก็ได้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวสัตว์เลี้ยง หมัดจะไม่มากวนใจอีก [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลนั้นไม่เป็นพิษกับหมาหรือแมว แต่ถ้าเป็นตัวที่แพ้ง่าย ให้ลดสัดส่วนน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลลง เหลือแค่ 1 ส่วนต่อน้ำ 3 ส่วน
-
สวมถุงมือและเสื้อแขนยาว. เห็บหมัดกัดคนได้ด้วย เพราะงั้นสำคัญมากว่าต้องป้องกันไว้ก่อน โดยสวมถุงมือยาง เสื้อแขนยาว และกางเกงขายาว
- รัดรอบข้อเท้าให้แน่น หมัดจะได้ไม่กัด หรือไต่ขึ้นมาตามขา
-
ลงน้ำยาตามตัวสัตว์เลี้ยง. ลงน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลเจือจางจนชุ่มทั่วทั้งตัวน้องหมาน้องแมว ใช้มือนวดให้น้ำยาเคลือบทั้งขนและผิวหนัง สบู่ Castille จะขึ้นฟองหน่อย ก็ให้ขยี้ไปทั่วผิวหนัง แล้วทิ้งไว้ 10 นาที
- ระวังอย่าให้น้ำยาเข้าตาหมาแมว เพราะแสบแน่นอน
- ถ้าจะกำจัดเห็บหมัดที่ยังเป็นๆ พาน้องหมาน้องแมวไปลงน้ำยานอกบ้านดีกว่า แต่ถ้าไม่มีพื้นที่ กลัวหนี หรือดินฟ้าอากาศไม่เป็นใจ ก็พาลงอ่างอาบน้ำเลย
- ถ้าเห็บหมัดแพร่พันธุ์สยองขวัญไปหมด ให้ผสมน้ำยาเตรียมไว้อีก 1 - 2 เท่า จะได้รักษาต่อเนื่องไม่ขาดตอน
-
ใช้หวีสางหมัด. ก่อนล้างน้ำยาออก ให้สางขนที่เปียกของสัตว์เลี้ยงก่อน โดยหวีไปทีละจุดของร่างกาย ถือเป็นการสกรีนและกำจัดเห็บเบื้องต้นไปในตัว ทุกครั้งที่สางขน ให้เอาหวีจุ่มชามน้ำสบู่ก่อน จะได้ไม่มีหมัดตกค้าง เวลาสาง หมัดจะติดมากับหวีอย่างง่ายดาย เพราะทนรสน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลไม่ได้ พอสางขนเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่นจนสะอาด [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าสัตว์เลี้ยงขนหนาเป็นพิเศษ อาจจะต้องสางขนซ้ำอีกรอบ พอสางรอบที่ 1 ให้ล้างน้ำสะอาด จากนั้นลงน้ำยารอบ 2 รอ 10 นาที ตามด้วยสางขน
- ต้องใช้หวีสำหรับสางหมัดโดยเฉพาะ หวีธรรมดาสางแล้วหมัดกับไข่ไม่ติดมาด้วย
-
หาเห็บแล้วค่อยๆ กำจัดออก. ระหว่างสางขนหาหมัด ก็ต้องสำรวจหาเห็บไปในตัว อย่าลืมใส่ถุงมือ เพราะอาจถูกเห็บหมัดกัดได้ ตอนสางขนให้เอามือลูบไปตามผิวหนังหมาแมว หาตุ่มเล็กๆ ถ้าเจอเห็บก็ให้เด็ดออกด้วยแหนบ คีบแล้วยกขึ้นจากผิวหนัง ห้ามบี้หรือบิดเด็ดขาด เพราะไม่งั้นตัวจะแยกกับหัว (ปาก) ต้องดึงขึ้นมาตรงๆ
- ฆ่าเชื้อบริเวณที่เห็บกัดด้วยแอลกอฮอล์ทันทีที่คีบออก ต้องหมั่นติดตามผล แล้วทาแอลกอฮอล์ซ้ำทุก 2 - 3 วัน จะได้ไม่ติดเชื้อ
- ทิ้งเห็บในถุงพลาสติก ถ้าสัตว์เลี้ยงแสดงอาการติดเชื้อ ให้พาไปตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์
- จับตาดูอีก 2 - 3 วัน ว่ามีรอยแดง บวม หรืออาการเจ็บป่วยอื่นๆ ไหม ถ้ามีสัญญาณของการติดเชื้อ ให้รีบพาสัตว์เลี้ยงไปหาหมอ
- หาคนช่วยจับน้องหมาน้องแมวให้อยู่นิ่งๆ เพราะขั้นตอนต่างๆ ที่ว่ามาไม่สนุกแน่นอน [4] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Society for the Prevention of Cruelty to Animals ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ลงน้ำยาซ้ำ. วงจรชีวิตของหมัดจะอยู่ที่ 2 - 3 อาทิตย์ ถ้ารอบแรกเก็บหมัดไม่หมด อาจวางไข่เพิ่มตามจุดต่างๆ ของบ้าน จนแพร่พันธุ์ซ้ำ เพราะงั้นให้หมั่นใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลเจือจางทุก 2 - 3 วัน จนไม่เหลือวี่แววของหมัดอีกต่อไป
- ถึงหมัดจะหายไปแล้ว ก็ยังควรลงน้ำยาซ้ำทุกอาทิตย์ เพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงไม่ติดหมัดซ้ำมาอีกรอบ [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Society for the Prevention of Cruelty to Animals ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
-
ทำความสะอาดที่หลับที่นอนของหมาแมว. หมัดอยู่ต่อได้เป็นวันๆ กระทั่งเป็นอาทิตย์ๆ ตามพรมและที่นอนของสัตว์เลี้ยง เพราะงั้นให้เก็บเครื่องนอน ผ้าปู และอื่นๆ ที่หมาแมวเคยสัมผัส ไปซักโดยใช้น้ำร้อน จากนั้นอบแห้งด้วยความร้อนเช่นกัน ถ้าอยู่ในระยะแพร่พันธุ์ ก็ทำซ้ำ 2 - 3 ครั้งได้เลย
- วิธีนี้ใช้ป้องกันการกลับมาติดหมัดซ้ำ ระหว่างกำจัดหมัดจากมุมต่างๆ ของบ้าน
- จริงๆ ให้ซักล้างทุกอย่างที่หมาแมวเคยใช้หรือสัมผัส เช่น ผ้าห่มและหมอน [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
กำจัดหมัดในบ้านแบบถอนรากถอนโคน. นอกจากที่หลับที่นอนของสัตว์เลี้ยงแล้ว เห็บหมัดยังซุ่มอยู่ตามพรมได้นานๆ หมัดจะวางไข่ตามตัวสัตว์เลี้ยง แล้วไข่ก็ร่วงลงมาตามพรมและผ้าอื่นๆ ทั่วบริเวณ ถ้าอยากป้องกันไม่ให้ไข่หมัดฟักออกมาเป็นตัว ก็ต้องกำจัดไข่หมัดรวมถึงตัวหมัดเองที่อาจหลงเหลือตามพรมให้สิ้นซาก โดยดูดฝุ่นให้เอี่ยมอ่องที่สุดทั่วทั้งบ้าน
- ดูดฝุ่นลามไปถึงเบาะและผ้าคลุม, ซอกตามเฟอร์นิเจอร์, มุมห้อง สรุปคือทุกส่วนในบ้าน โดยเฉพาะมุมที่สัตว์เลี้ยงชอบไปอยู่ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ฉีดสเปรย์สูตรธรรมชาติ. พอดูดฝุ่นและซักล้างเรียบร้อยแล้ว จะให้ชัวร์ต้องใช้น้ำยาสูตรใกล้เคียงกับที่ใช้กำจัดเห็บหมัดที่ขน มาฉีดพ่นตามพรมและที่นอนของหมาแมว โดยผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 1 แกลลอน (ประมาณ 4 ลิตร) กับน้ำ 1/2 แกลลอน (ประมาณ 2 ลิตร) น้ำมะนาว 16 ออนซ์ และ witch hazel 8 ออนซ์ (230 กรัม) ในกาละมัง จากนั้นกรอกใส่ขวดสเปรย์ขวดใหญ่ เอาไปฉีดพ่นตามจุดต่างๆ ของบ้าน ทั้งพรม พื้นไม้ ซอกมุมต่างๆ ขอบหน้าต่าง และเฟอร์นิเจอร์ ฉีดให้เคลือบหนาๆ เลย
- อาจจะต้องฉีดพ่นซ้ำต่ออีก 2 - 7 วัน อันนี้แล้วแต่ว่าหมัดระบาดหนักแค่ไหน
- แต่ถ้าเป็นมาตรการป้องกัน แค่เดือนละครั้งก็พอ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ทิ้งไว้ให้น้ำยาแห้งก่อน แล้วค่อยนำกลับไปยังพื้นที่ซักล้าง
-
ทำกับดักหมัด. ถ้าไม่ได้มีปัญหาเรื่องหมัดมากนัก แค่อยากจับหมัดที่ซุ่มอยู่ในบ้าน ก็ลองสร้างกับดักจับหมัดขึ้นมา โดยเสียบไฟดวงเล็กๆ ไว้ตามปลั๊กแถวๆ พื้นห้อง หาจานใส่น้ำมารองใต้ไฟแต่ละดวง ในน้ำผสมน้ำยาล้างจานสัก 1 ฝา
- สำรวจจานทุกเช้า ว่ามีซากหมัดหรือเปล่า ถ้ามีก็เททิ้งไป แล้วเติมน้ำสบู่ใหม่ทุกคืน
- วิธีนี้ใช้ทดสอบประสิทธิภาพของสเปรย์สูตรธรรมชาติได้ด้วย พอไม่เหลือหมัดลอยในจานแล้ว ก็เลิกฉีดสเปรย์ได้
- ถ้าไม่ใช้หลอดไฟ จะเปลี่ยนเป็นเทียน tealight (เทียนถ้วย) แทนก็ได้ แต่ต้องระวังมาก กลางคืนหมั่นแวะมาตรวจตรา เพราะเสี่ยงไฟไหม้บ้านได้ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ผสมน้ำยาอีกสูตร. ถ้าหยุดการแพร่พันธุ์ของหมัดได้ และอยากป้องกันไม่ให้หมาแมวติดหมัดซ้ำ ก็ต้องผสมน้ำยาจากน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลแบบไม่ผสมสบู่ โดยผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 2 ถ้วยตวง กับน้ำ 2 ถ้วยตวง จากนั้นกรอกใส่ขวดสเปรย์สำหรับฉีดพ่นทำความสะอาด
- ขวดสเปรย์ที่ใช้ต้องสะอาด ไม่เคยใช้ใส่น้ำยาทำความสะอาดหรือสารเคมีอื่นๆ มาก่อน เพราะอาจเป็นอันตรายกับสัตว์เลี้ยงได้ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จะผสมเยอะก็ได้ อันนี้แล้วแต่ว่าเลี้ยงหมาแมวไว้กี่ตัว
- น้ำยานี้จะเหมือนสูตรที่ใช้อาบน้ำสัตว์เลี้ยง คือจะใส่น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์หรือซีดาร์ไปด้วยก็ได้ จะได้หอมๆ แถมกำจัดเห็บหมัดได้ชะงัด เพราะมันไม่ชอบกลิ่นและรส [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ฉีดพ่นหลังอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง. น้ำยาสูตรนี้กำจัดเห็บหมัดได้ดี แต่ก็อ่อนโยนพอจะใช้ได้ทุกครั้งที่อาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง ให้คุณฉีดพ่นน้ำยานี้จากหัวจรดหาง เอาให้เคลือบขนจนทั่ว จากนั้นนวดให้ซึมถึงผิวหนัง แล้วปล่อยให้แห้ง กลิ่นน้ำส้มสายชูจะจางหายไปเองหลังน้ำยาแห้งสนิท
- อย่าฉีดบริเวณใบหน้าของสัตว์เลี้ยง ให้เอาผ้าชุบน้ำยาหมาดๆ มาเช็ดหูและหน้าแทน [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าปกติไม่ค่อยอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง ก็ต้องพ่นสเปรย์ถี่กว่านั้น เช่น ทุก 1 - 2 อาทิตย์ โดยเฉพาะช่วงที่สัตว์เลี้ยงออกไปเล่นนอกบ้านบ่อยๆ [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แมวส่วนใหญ่ และหมาบางตัว เกลียดการถูกพ่นสเปรย์ใส่น่าดู เพราะงั้นถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณเป็นหนึ่งในนั้น ก็ให้เอาผ้าสะอาดชุบน้ำยาจนชุ่ม แล้วเอามาเช็ดตามตัวแทน แบบนี้จะเบามือกว่า ไม่น่ากลัว
-
เติมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลในน้ำดื่มของน้องหมา. ให้น้องหมากินน้ำผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลเจือจาง ก็เป็นอีกวิธีไล่เห็บหมัดได้จากภายในสู่ภายนอก เพราะผิวหนังกับขนของน้องหมาจะเริ่มส่งกลิ่นเหมือนน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล โดยเฉพาะตัวที่กินเป็นประจำ ปริมาณที่แนะนำให้ผสมน้ำดื่มคือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 1 ครั้ง สัดส่วนนี้ต่อน้ำหนักตัว 40 ปอนด์ (18 กก.) [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แต่ถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณน้ำหนักน้อยกว่านั้น ก็ให้ลดปริมาณน้ำส้มสายชูลง เช่น ถ้าน้องหมาหนัก 12 ปอนด์ (5 กก.) ก็ลดเหลือแค่ 1/2 - 1 ช้อนชา
- เจ้าของบางคนยอมให้แมวกินน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล แต่อีกหลายคนก็กลัวจะไปทำค่า pH ในร่างกายแมวปั่นป่วน เอาเป็นว่าถ้ากลัวแมวจะเป็นอันตราย ก็ให้ใช้แค่ภายนอกอย่างเดียว
- ถ้าหมารู้ทัน ไม่ยอมกินน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล ก็อย่าไปฝืนใจ บอกแล้วว่าใช้ทาเฉพาะภายนอกก็ได้ผลดี
-
ทำความสะอาดบ้านด้วยน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลเจือจาง. เห็บหมัดจะได้ไม่ยึดบ้านเป็นฐานที่มั่น ให้คุณใช้สูตรเดียวกับที่ใช้ล้างตัวหมาแมว ล้างทำความสะอาดตั้งแต่พื้นห้องยันหน้าเคาน์เตอร์เลย รับรองว่าปลอดภัยหายห่วง เพราะเป็นสูตรธรรมชาติ กำจัดได้ทั้งแบคทีเรียและเชื้อโรคทั้งหลาย
- ถ้าจะล้างหน้าเคาน์เตอร์หรือบริเวณที่ใช้ปรุงอาหาร ก็ห้ามผสมน้ำส้มสายชูกับเบคกิ้งโซดา เพราะจะหักล้างกันจนเสียสรรพคุณต้านแบคทีเรียไป
- จะใช้น้ำยานี้ฉีดพรมต่อไปก็ได้ ให้แน่ใจว่าหมัดจะไม่กลับมา [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บ้านจะฉุนกลิ่นน้ำส้มสายชูจนกว่าน้ำยาจะแห้งสนิทเท่านั้น หลังจากนั้นก็ลืมไปเลยว่าเคยฉีด
โฆษณา
เคล็ดลับ
- วิธีต่างๆ ในบทความนี้ไม่ถึงกับรับประกัน 100% ยังไงปรึกษาสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด ว่าควรรับมือกับปัญหาเห็บหมัดยังไง ถ้าลองใช้สูตรธรรมชาติแล้วไม่ได้ผล ก็คงต้องเลือกวิธีอื่นที่แรงกว่านั้น
- ในเคสรุนแรง คุณหมออาจแนะนำให้ใช้น้ำยากำจัดเห็บหมัดที่ผสมสารเคมีแทน
- หลังล้างตัวด้วยน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลเจือจางแล้ว บอกเลยว่าขนน้องหมาน้องแมวจะนุ่มสลวยสวยเก๋ เพราะใช้บำรุงขนตามธรรมชาติได้ด้วย
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://everydayroots.com/flea-remedies
- ↑ http://naturallymindful.com/2014/07/diy-anti-flea-and-tick-spray.html
- ↑ http://naturallymindful.com/2013/11/all-natural-anti-flea-dog-shampoo.html
- ↑ http://www.aspca.org/pet-care/how-remove-tick-your-pet
- ↑ http://www.aspca.org/pet-care/how-remove-tick-your-pet
- ↑ http://www.orkin.com/other/fleas/
- ↑ http://www.rapidhomeremedies.com/remedies-to-get-rid-of-fleas.html
- ↑ http://www.rapidhomeremedies.com/remedies-to-get-rid-of-fleas.html
- ↑ http://www.rapidhomeremedies.com/remedies-to-get-rid-of-fleas.html
- ↑ http://www.fleaguide.com/homemade-flea-spray.html
- ↑ http://everydayroots.com/flea-remedies
- ↑ http://everydayroots.com/flea-remedies
- ↑ http://everydayroots.com/flea-remedies
- ↑ http://www.caninejournal.com/getting-rid-of-fleas/
- ↑ http://everydayroots.com/flea-remedies
- ↑ http://www.onegreenplanet.org/lifestyle/apple-cider-vinegar-hacks-for-a-clean-chemical-free-home/
โฆษณา