ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไรฝุ่น (dust mites) เป็นสัตว์ตัวจิ๋วตระกูลเดียวกับแมงมุม (arachnids) แต่เล็กจนต้องส่องกล้องถึงจะเห็น ไรฝุ่นอยู่ได้ทั่วไปในบ้านของคุณ ไม่ว่าจะบนหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ของเล่น เฟอร์นิเจอร์ และอื่นๆ ไรฝุ่นตัวเล็กจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่บอกเลยว่ามี "ขี้ไรฝุ่น" เยอะมาก พวกนี้แหละที่ทำให้หลายคนภูมิแพ้และหอบหืดกำเริบ ถึงจะกำจัดไรฝุ่นไปจากบ้านแบบหมดจดไม่ได้ แต่ก็ยังพอมีวิธีลดจำนวนลง อาการแพ้และหอบหืดจะได้ลดตาม

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ทำความสะอาดบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาหารของไรฝุ่นก็คือเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รังแค สะเก็ดผิวหนังของน้องหมาน้องแมว และฝุ่นชนิดอื่นๆ ถ้าที่ไหนมีฝุ่น ก็มักมีไรฝุ่นเสมอ เพราะฉะนั้นหลักการกำจัดไรฝุ่นง่ายๆ ก็คืออย่าหาอาหารให้ไรฝุ่น หมายถึงให้เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าเปียกหมาดๆ นั่นเอง ให้ซักหรือเปลี่ยนผ้าผืนใหม่เป็นระยะ ฝุ่นจะได้ไม่เลอะหรือกระจายไปที่อื่น
    • ที่ต้องให้ใช้ผ้าเปียกหมาดๆ เพราะถ้าเป็นผ้าแห้ง จะทำให้ฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ฟุ้งกระจายไปทั่วบ้านแทน [1]
    • บริเวณที่คุณต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดบ่อยๆ ก็คือเฟอร์นิเจอร์ ชั้นหนังสือ/ชั้นวางของ หนังสือ เครื่องประดับตกแต่งต่างๆ รูปภาพ โคมไฟ พัดลมเพดาน และจุดอื่นๆ ที่สะสมฝุ่น
  2. การดูดฝุ่นก็เป็นอีกวิธีใช้กำจัดฝุ่น สะเก็ดผิวหนัง ขี้ไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ในบ้านของคุณได้แบบเห็นผล ขอให้เลือกแบบที่มีฟิลเตอร์ HEPA ครอบด้วย ฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้จะได้ไม่กระจาย [2]
    • เวลาดูดฝุ่น ให้เน้นบริเวณพื้นห้อง บัวเชิงผนัง เฟอร์นิเจอร์ พรม และหลังตู้ใต้ตู้
    • เปลี่ยนหัวดูดฝุ่นหลายๆ แบบ จะได้เข้าถึงทั้งตามรอยต่อ ซอกหลืบ และมุมต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์
  3. เพราะเป็นที่ที่อุดมไรฝุ่น ให้ถอดปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม และผ้าคลุมเตียงออกให้หมด แล้วเอาใส่เครื่องซักผ้า ซักด้วยน้ำร้อน 1 รอบ เสร็จแล้วเอาเข้าเครื่องอบผ้า อบด้วยความร้อนสูงๆ เหมือนกัน
    • จะฆ่าไรฝุ่นได้ เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าต้องร้อนประมาณ 54 - 60 องศา [3]
  4. ไรฝุ่นรักเลย พวกผ้าม่านหนาหนัก ให้ถอดทั้งผ้าม่านและผ้าม่านกรองแสงออกจากราวหรือราง แล้วเช็คที่ฉลากว่าต้องทำความสะอาดยังไง
    • ถ้าซักได้ ให้ถอดพวกที่แขวนหรือตะขอออก แล้วเอาผ้าม่านใส่เครื่องซักผ้า ซักด้วยน้ำร้อน จากนั้นอบในเครื่องอบผ้า หรือตากไว้ให้แห้ง แล้วแต่คำแนะนำที่ฉลาก
    • ถ้าผ้าม่านของคุณต้องซักแห้งอย่างเดียว ให้ส่งร้านซักแห้ง จะได้ทำความสะอาดกำจัดไรฝุ่น [4]
  5. ตุ๊กตายัดนุ่นและของเล่นที่ทำจากผ้าต่างๆ นี่แหละแหล่งกบดานของไรฝุ่น ให้รวบรวมอะไรที่ซักได้เข้าเครื่องซักผ้า ซักด้วยน้ำร้อน จากนั้นอบในเครื่องอบผ้า โดยใช้ความร้อนสูงๆ เหมือนกัน [5]
  6. ถ้ามีของเล่นที่ซักเครื่องไม่ได้ แต่อยากกำจัดไรฝุ่น ให้เอาไปแช่ช่องฟรีซแทน โดยใส่ถุงพลาสติกแยกชิ้นละใบ แล้วปิดให้สนิท ทิ้งไว้ในช่องฟรีซ 24 ชั่วโมง ของที่เอาแช่ช่องฟรีซเพื่อกำจัดไรฝุ่นได้ก็เช่น [6]
    • หมอน
    • ของเล่นที่ซักไม่ได้
    • ผ้าเนื้อบางเนื้อละเอียด
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

สร้างบรรยากาศต้านไรฝุ่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไรฝุ่นชอบที่ชื้นๆ วิธีลดความชื้นในบ้านแบบเร็วทันใจก็คือใช้ dehumidifier (เครื่องลดความชื้น) หรือเปิดหน้าต่างวันที่อากาศแห้งๆ หน่อย เวลาทำอาหาร ตอนอาบน้ำ หรืออื่นๆ ที่ทำให้เกิดไอน้ำ ให้ใช้พัดลมระบายอากาศด้วย
    • ลดความชื้นในบ้านแล้ว ไรฝุ่นก็จะแพร่พันธุ์ได้น้อยลง
    • ใช้ hygrometer หรือเครื่องวัดความชื้น แล้วพยายามให้ความชื้นในห้องหรือในบ้านต่ำกว่า 50% [7]
  2. ไรฝุ่นชอบที่อุ่นๆ ร้อนๆ ถ้า 24 - 27 องศานี่รักเลย เพราะฉะนั้นพยายามเปิดแอร์ให้เย็นๆ เข้าไว้ 21 องศาหรือเย็นกว่าได้ยิ่งดี แต่ถ้าหนาวไปก็อย่าฝืน หรือคอยเปิดพัดลม เปิดหน้าต่างให้ลมเย็นๆ ไว้ อย่าปล่อยให้บ้านร้อนชื้น [8]
  3. จะยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่ ก็ใช้กำจัดไรฝุ่นได้ เดี๋ยวก็ลดจำนวนลงไปเอง พอคุณเช็ดทำความสะอาดบ้านตามปกติแล้ว ก็ให้พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อตามบริเวณที่ชอบมีฝุ่น เช่น [9]
    • มุมห้อง มุมเฟอร์นิเจอร์
    • บัวเชิงผนัง
    • พื้นห้อง
    • ชั้นหนังสือ ชั้นวางของ
    • ผ้าม่าน
    • ตามเฟอร์นิเจอร์
  4. น้ำมันหอมระเหยบางอย่าง โดยเฉพาะยูคาลิปตัส ใช้กำจัดไรฝุ่นได้ดีเป็นพิเศษ วิธีใช้น้ำมันยูคาลิปตัสกำจัดไรฝุ่นรอบๆ บ้าน ก็เช่น
    • หยดน้ำมันยูคาลิปตัส 20 หยดในเครื่องซักผ้า โดยเฉพาะตอนจะซักด้วยน้ำเย็นหรืออุ่น [10]
    • หยดน้ำมันยูคาลิปตัส 30 หยดลงขวดสเปรย์ แล้วเติมน้ำตามลงไป จากนั้นเอาไปฉีดพ่นตามจุดต่างๆ ของบ้าน เช่น เตียงนอน หมอน พรม เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น และจุดอื่นๆ ที่น่าจะมีไรฝุ่น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ลดประชากรไรฝุ่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ของที่ไม่ได้ใช้แต่กองสุมกันไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้าน จะกลายเป็นที่เก็บฝุ่น หรือก็คือสวรรค์ของไรฝุ่นดีๆ นี่เอง หนึ่งในวิธีใช้กำจัดไรฝุ่นได้ดีอย่างที่บอก ก็คือกำจัดแหล่งอาหารซะ ถึงจะเช็ดล้างทำความสะอาดจนบ้านไร้ฝุ่น 100% ไม่ได้ อย่างน้อยอะไรไม่ใช้ก็ทิ้งหรือขายไปบ้าง ไม่ก็จัดเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สิ่งของที่สุมกันแล้วมักสะสมฝุ่นก็เช่น [11]
    • หนังสือ
    • เครื่องประดับตกแต่งต่างๆ
    • กรอบรูป
    • ของกระจุกกระจิก
    • ของประดับบ้าน
    • หมอนอิง
  2. ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดฝุ่นนี่แหละ ช่วยกำจัดแหล่งอาหารของไรฝุ่นได้เป็นอย่างดี ให้เอาผ้าชุบน้ำปาด ฝุ่นกับสารก่อภูมิแพ้จะได้ไม่ฟุ้งกระจาย
    • ถ้าเช็ดฝุ่นทั้งบ้านอาทิตย์ละครั้งได้ยิ่งดี [12]
  3. เพราะเป็นอีกแหล่งซ่องสุมของไรฝุ่น จึงต้องซักให้สะอาดอยู่เสมอ ถ้าซักในน้ำร้อน 54 - 60 องศาทุกอาทิตย์ จะช่วยลดจำนวนประชากรไรฝุ่นในห้องนอนของคุณได้ [13] เครื่องนอนที่ว่าก็คือ
    • ผ้าปูที่นอน
    • ปลอกหมอน
    • ปลอกผ้านวม
    • ผ้าห่ม
  4. พรมทั้งขนสั้นขนยาวเรียกว่าเป็นสวรรค์ของไรฝุ่นอีกแห่งของบ้าน ถึงดูดฝุ่นแล้วเอาไปซัก (ถ้าผืนเล็กๆ) จะช่วยลดจำนวนไรฝุ่นได้ แต่บอกเลยว่าถ้าไม่มีพรมจะดีที่สุด [14] แล้วแทนที่ด้วย
    • พื้นกระเบื้อง
    • พื้นไม้จริง
    • พื้นไม้ลามิเนต
    • พื้นไม้ก๊อก
    • พื้นคอนกรีต
  5. อย่างพวกม่านทั้งหนาและบางมักจะเต็มไปด้วยไรฝุ่น ถ้าเปลี่ยนไปใช้วัสดุอื่นก็จะช่วยได้ เช่น มู่ลี่ไม้หรือพลาสติก และปลอกหมอนทำจากหนังแท้และหนังเทียม
    • นอกจากวัสดุที่เราว่ามาจะทำความสะอาดง่ายกว่าเยอะ ไรฝุ่นยังไม่ชอบมารวมตัวเหมือนตอนคุณใช้ผ้าด้วย [15]
  6. สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง (รังแค) ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งอาหารของไรฝุ่น แก้ปัญหาง่ายๆ โดยแปรงขนน้องหมาน้องแมวนอกบ้านทุกวัน ถ้าเป็นน้องหมาก็อาบน้ำด้วย เดือนละ 1 ครั้ง ช่วยลดทั้งสะเก็ดผิวหนังและขนที่มักปลิวว่อน
    • สัตว์เลี้ยงเองก็แพ้ไรฝุ่นได้ ถ้าหมั่นดูแลรักษาความสะอาด ทั้งคุณและสัตว์เลี้ยงก็ได้ประโยชน์พอๆ กัน
  7. หรือเนื้อผ้าแบบ hypoallergenic คือไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ ช่วยได้ทั้งเรื่องไรฝุ่น เรือด และสารก่อภูมิแพ้ เพราะไรฝุ่นเข้าไปไม่ได้ แถมป้องกันคุณจากสารก่อภูมิแพ้ที่มีด้วย
    • เวลาทำความสะอาดก็ง่าย แค่เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำ แล้วซักอาทิตย์ละครั้ง [16]
  8. พออากาศถ่ายเท ความชื้นก็ลดลง และพอระบายอากาศ ฝุ่นก็น้อยลง ช่วยลดจำนวนประชากรไรฝุ่นทั้งหลาย วิธีระบายอากาศง่ายๆ ก็คือเปิดหน้าต่าง เปิดพัดลมเพดานหรือพัดลมตั้งพื้น พัดลมระบายอากาศในครัวกับห้องน้ำก็ช่วยได้เยอะ [17]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,292 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา