PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ไรหู (ear mites) หรือ Otodectes cynotis เป็นปรสิตเล็กจิ๋วที่ทำให้หูแมวของคุณอักเสบติดเชื้อได้ ไรหูชอบซ่อนอยู่ในรูหูแมวที่มืดและอุ่น แล้วคอยกินสะเก็ดผิวที่ตายแล้ว [1] ไรหูพวกนี้ทำให้แมวรำคาญและคันคะเยอ เลยต้องคอยเกาหูแกรกๆ ไงล่ะ ทีนี้พอเกาบ่อยๆ ก็จะกลายเป็นปัญหาอย่างผิวหนังติดเชื้อหรือใบหูบวม ต้องพาไปตรวจกับคุณหมอ ถ้าคุณเจอแล้วกำจัดไรหูให้แมวแต่เนิ่นๆ ก็จะไม่เกิดปัญหาตามมาแถมแมวยังมีความสุข สุขภาพดีอีกด้วย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

รู้ได้ยังไง แมวมีไรหูหรือเปล่า

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. พอมีไรหูแล้วเลยไปกระตุ้นให้เยื่อบุหูผลิตขี้หูออกมาเยอะเกินไป โดยขี้หูมักจะออกมาสีน้ำตาลเข้มถึงดำ จนบางครั้งทำให้ในหูแมวดูสกปรกเหมือนมีคราบอะไรเปรอะเปื้อน [2]
    • ถ้าแมวสุขภาพดีจะมีขี้หูไม่มากนัก ถ้าคุณเห็นอะไรในหูแมวเหมือนผงกาแฟหรือสะเก็ดดำๆ แปลว่าแมวอาจมีปัญหาเรื่องหู [3]
    • ที่หูแมวผลิตขี้หูออกมาก็เพื่อป้องกันไม่ให้ไรหูแพร่กระจาย
    • คุณอาจได้กลิ่นตุๆ โชยออกมาจากหูแมวด้วย
  2. ไรหูน่ะทำให้แมวรำคาญน่าดู เลยเอาแค่เกาหรือแคะหูซ้ำๆ ด้วยเท้าหลัง และ/หรือชอบสะบัดหัวบ่อยๆ [4]
    • เล็บแมวอาจไปข่วนผิวได้จนทำให้แสบหรือเลือดออก ถ้าหนักหน่อยก็ติดเชื้อแบคทีเรีย [5]
    • แมวที่มีไรหูนานๆ อาจพัฒนาไปเป็นติ่งเนื้อจากการอักเสบ (inflammatory polyps) ในรูหู หรือตุ่มเลือด (lood blisters) ที่ใบหู เพราะแมวคอยเกาหรือถูไถอยู่ตลอด [6]
    • นอกจากนี้หูชั้นนอกของแมวอาจอักเสบจนเป็นหนองขึ้นมา หรือแก้วหูทะลุได้ เป็นผลให้แมวมีปัญหาเรื่องการทรงตัวและอื่นๆ แบบนี้ต้องหาหมอลูกเดียว [7]
  3. แมวที่มีไรหูมักจะเอียงคออยู่เสมอ แต่โดยรวมก็เป็นสัญญาณบอกว่าแมวคันหรือไม่สบายหูนั่นแหละ ไม่ว่าจะมีไรหูหรือไม่ก็ตาม [8]
    • แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร ถ้าแมวของคุณชอบเอียงคอบ่อยๆ ก็น่าจะลองพาไปเช็คกับคุณหมอดูเหมือนกัน
  4. ถ้าคุณมีสัตว์เลี้ยงมากกว่า 1 ตัว แล้วสงสัยว่าตัวใดตัวหนึ่งอาจมีไรหู ก็จับตรวจหูให้หมดทุกตัวนั่นแหละ เพราะไรหูนั้นแพร่ง่ายมากโดยเฉพาะถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณกินอยู่รวมกัน
    • ถ้าคุณรักษาแต่ตัวที่มีไรหูละก็ เป็นไปได้มากว่าตัวอื่นก็ (แอบ) มีแต่ไม่แสดงอาการ ที่นี้ก็กลายเป็นแหล่งเพาะไรเดินได้พร้อมติดกันอีกรอบ
    • ถ้าตัวหนึ่งมีไรหู วิธีที่ดีที่สุดก็คือจับตรวจรักษาให้หมดทุกตัว จะได้ไม่เสี่ยง
  5. ถ้าแมวมีอาการใดก็ตามที่เรากล่าวมา ให้พาไปตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์ คุณหมอจะตรวจวินิจฉัยแมวคุณด้วยหลายวิธีด้วยกัน
    • คุณหมอจะตรวจในหูด้วยเครื่องตรวจที่เรียกว่า auroscope เป็นอุปกรณ์หน้าตาเหมือนไฟฉายพร้อมแว่นขยายใช้ส่องดูในรูหูลึกๆ ถ้ามีไรตัวเล็กๆ สีขาวคุณหมอก็น่าจะเห็นได้ทัน ก่อนที่มันจะหนีแสงไฟจาก auroscope ไปซะก่อน [9]
    • บางทีคุณหมออาจเก็บตัวอย่างขี้หูของแมวด้วยสำลีก้อน แล้วเอาไปป้ายแผ่นสไลด์เพื่อส่องตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ ถ้าส่องดูแบบนี้ไรจะไปไหนเสีย เห็นได้ชัดแจ๋วเลยล่ะ [10]
    • ก่อนรักษา คุณหมอจะตรวจแก้วหูร่วมด้วยให้แน่ใจว่าไม่ได้ฉีกขาดหรือทะลุ เพราะแก้วหูถือเป็นปราการด่านสำคัญที่คอยป้องกันไม่ให้ยาหยอดหูไหลเข้าไปในหูชั้นกลาง ไม่งั้นอาจส่งผลต่อการทรงตัวของแมวได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

หยอดยารักษาหูแมว

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. พอคุณหมอวินิจฉัยแน่ชัดแล้วว่าแก้วหูยังอยู่ดี ก็จะจ่ายยาหยอดหูที่ปลอดภัยสำหรับแมวให้ ใช้กำจัดไรหูได้ชะงัดนัก
    • ร้านขายของสัตว์เลี้ยงหลายร้านก็มียากำจัดไรหูขาย แต่ใช้แล้วไม่เห็นผลเท่ายาของคุณหมอ แถมบางทีก็อันตราย เพราะฉะนั้นใช้แต่ยาที่หมอเป็นคนจ่ายจะดีกว่า
  2. อ่านวิธีใช้ให้ดีๆ ว่าต้องหยอดยาบ่อยแค่ไหน ความถี่ในการการหยอดกับจำนวนหยดนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของยาที่หมอจ่ายให้ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1 ครั้งต่อวัน ติดต่อกัน 7 - 10 วัน [11]
  3. ก่อนจะหยอดยาให้แมว ให้คุณเตรียมทุกอย่างที่ต้องใช้ให้พร้อมก่อน จะวางไว้บนโต๊ะหรือพื้นราบตรงไหนก็ได้
    • เอาผ้าเช็ดตัวปูลาดไว้บนโต๊ะด้วยแมวจะได้ไม่ลื่น นอกนั้นก็คือยาที่จะใช้หยอดหู แล้วก็สำลี 2 - 3 ก้อน
    • ถ้าเป็นไปได้ให้มีอีกคนคอยช่วยจับตัวแมวไว้ คุณจะได้ใช้ 2 มือหยอดยาให้แมวสะดวกๆ
  4. ก่อนจะหยอดยา ให้ล้างหูแมวก่อน ลองถามคุณหมอให้แน่ใจก่อนที่จะเริ่มรักษาด้วยยาหยอดหู [12]
    • ซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหูแมวโดยเฉพาะ แล้วทำตามวิธีการที่แนะนำอย่างเคร่งครัด
    • ถ้าขี้หูแมวเยอะเกินไป ไรหูอาจใช้เป็นที่กำบังหลบยาที่คุณหยอดเข้ามาก็ได้
    • อย่าพยายามใช้สำลีก้านหรือวัตถุใดแยงเข้าออกรูหูแมว แมวนั้นว่องไวมากและมันอาจหันศีรษะไปมาเมื่อมีอะไรมาแหย่หรือเข้าใกล้ใบหู ซึ่งอาจทำให้แก้วหูของมันเสียหายได้ ใช้แค่ผ้าสะอาดหรือสำลีก้อนในการทำความสะอาดหูแมว
  5. จับแมววางบนโต๊ะโดยที่หัวหันมาทางคุณ แล้วให้คนช่วยจับไหล่แมวไว้ (เบามือหน่อย) ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหน เปิดฝาออกมาแล้วหยอดยาตามจำนวนหยดที่แนะนำลงไปในหูแมว
  6. ใช้สำลีก้อนเช็ดขี้หูที่โผล่มาออกให้หมด
    • ห้ามยัดสำลีเข้าไปในรูหูลึกๆ เด็ดขาด ถ้าตอนนี้แมวดิ้น อาจทำให้เผลอดันสำลีเข้าไปลึกเกินจนแมวเจ็บหูได้
  7. หยอดยาซ้ำทุกวันตามจำนวนวันที่แนะนำ ถ้ารักษาต่อเนื่องแล้วแมวยังแสดงอาการระคายเคืองไม่สบายหู ให้พากลับไปหาหมอเพื่อตรวจรักษาเพิ่มเติม
    • ถ้าแมวคอเอียงตลอดระหว่างที่รักษาตัว ให้หยุดยาแล้วพาไปหาหมอ
    • แมวบางตัวแพ้หรือไวต่อบางส่วนผสมในยาหยอดหู จนเกิดเป็นปัญหาเรื่องการทรงตัว ทั้งๆ ที่แก้วหูก็ปกติดี ถ้าเกิดเคสนี้ให้รีบพาแมวไปหาหมอด่วน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ป้องกันไม่ให้กลับไปมีไรหูอีก

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Selamectin เป็นยาหยดสำหรับกำจัดปรสิตทั้งหลายได้อย่างเห็นผลทั้งกับหมาและแมว ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของทั้งไรหู หมัด พยาธิหนอนหัวใจ ไปจนถึงปรสิตในลำไส้บางชนิด [16] ถ้าคุณเลี้ยงแมวไว้หลายตัว ให้ใช้หยดยา selamectin ป้องกันปรสิตให้แมวทุกตัว ยี่ห้อที่นิยมกันทั้งที่เมืองนอกและเมืองไทยก็คือ Revolution นั่นเอง
    • Selamectin จะช่วยป้องกันไม่ให้แมวคุณกลับไปมีไรหูอีก รวมถึงป้องกันไม่ให้ติดไปที่แมวตัวอื่นๆ ด้วย
    • Selamectin นิยมใช้หยดบนคอของแมว ห้ามเอาหยดใส่หูเด็ดขาด [17]
  2. Selamectin ไม่รับประกันว่าใช้รักษาไรหูในหมาได้ เพราะงั้นถ้าคุณเลี้ยงหมาแล้วสงสัยว่าอาจติดไรหูมาจากแมว ก็รีบพาไปหาหมอกันไว้ก่อนเลย
  3. ให้คุณพ่น fipronil ที่อุ้งเท้าหลังของแมว เป็นยาใช้ภายนอกที่กำจัดเห็บ หมัด เหา แล้วก็ปรสิตอื่นๆ ได้ [18] ใช้วิธีนี้แล้วกำจัดไรที่ลามไปติดอยู่ตามขนแมว (เพราะแมวเกา) ได้แบบเห็นผล
    • เป็นการยับยั้งไม่ให้แมวกลับไปมีไรอีก เพราะถึงหูแมวจะสะอาดแล้ว แต่เท้าแมวที่ใช้เกาหูอาจมีไรติดอยู่ได้ [19]
    • Fipronil นั้นพบได้ในยาหลายตัว เช่น Frontline, Effipro, Barricade แล้วก็ EasySpot [20] ลองปรึกษาคุณหมอดูก่อนว่าควรใช้ตัวไหนดี และหาซื้อได้ที่ไหน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าเครียดเกิน ไรหูแมวติดต่อไปที่หูคุณไม่ได้หรอก [21]
  • อย่างที่บอกว่าคุณใช้ยาหยดหลังคออย่าง selamectin กำจัดไรหูแมวได้ จะได้ป้องกันไม่ให้แมวกลับไปมีไรหูอีก พอคุณหยด selamectin ที่หลังคอของแมวแล้ว ยาก็จะซึมเข้าไปในผิวหนัง ไปจนถึงกระแสเลือด แล้วไหลเวียนไปในรูหูเพื่อกำจัดไรหูที่คอยกินเศษซากผิวหนังที่ตายแล้ว หยดแค่ครั้งเดียวก็เห็นผลแล้ว วิธีนี้สะดวกก็จริง แต่บางทีก็ต้องใช้ยาหยอดหูแทน เพราะดีกว่าตรงที่แก้อักเสบและมีตัวยาปฏิชีวนะช่วยป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน [22]
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าแมวมีไรหูแล้วไม่รีบรักษาอาจลุกลามรุนแรง จนหูบาดเจ็บหรือแก้วหูทะลุ แถมไรหูยังแพร่กระจายไปยังแมวหรือหมาตัวอื่นได้ง่าย เพราะฉะนั้นสำคัญมากว่าคุณต้องรักษาทีเดียวทั้งหมดทุกตัว
  • ยาตามร้านขายยานั้นไม่ค่อยเห็นผลเท่ายาของหมอ แถมบางทีก็อันตรายต่อแมว อาจถึงขั้นเส้นประสาทเสียหายได้
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Reaginic hypersensitivity in Otodectes cynotis infestation of cats and mode of mite feeding. Powell et al. Am J Vet Res 41 (877).
  2. Reaginic hypersensitivity in Otodectes cynotis infestation of cats and mode of mite feeding. Powell et al. Am J Vet Res 41 (877).
  3. http://www.aspca.org/pet-care/cat-care/ear-care
  4. Small Animal Dermatology. Muller & Kirk. Publisher: Saunders.
  5. Small Animal Dermatology. Muller & Kirk. Publisher: Saunders.
  6. Elaine Wexler-Mitchell, A Healthy Cat , p. 174, (1999), ISBN 1-58245-057-9
  7. Merck/Merial, The Merck/Merial Manual for Pet Health , p. 501, (2007), ISBN 978-0-911910-99-5
  8. Small Animal Dermatology. Muller & Kirk. Publisher: Saunders.
  9. Small Animal Dermatology. Muller & Kirk. Publisher: Saunders.
  1. Small Animal Dermatology. Muller & Kirk. Publisher: Saunders.
  2. http://pets.webmd.com/cats/guide/cat-ear-care-problems?page=2#2
  3. http://pets.webmd.com/cats/guide/cat-ear-care-problems?page=2#2
  4. http://pets.webmd.com/cats/guide/cat-ear-care-problems?page=2#2
  5. http://www.vetmed.wsu.edu/ClientED/cat_ears.aspx
  6. http://www.vetmed.wsu.edu/ClientED/cat_restraint.aspx
  7. http://www.vetinfo.com/selamectin-for-cats.html
  8. Efficacy of selamectin administered topically in the treatment of feline otoacariasis. Blot et al. Veterinary Parasitology. 112, p241-247
  9. http://www.vetstreet.com/fipronil-for-cats
  10. Small Animal Dermatology. Muller & Kirk. Publisher: Saunders.
  11. http://www.vetstreet.com/fipronil-for-cats
  12. http://www.veterinarypartner.com/Content.plx?A=664
  13. Efficacy of selamectin administered topically in the treatment of feline otoacariasis. Blot et al. Veterinary Parasitology. 112, p241-247

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 166,394 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา