ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คอมพิวเตอร์คู่ใจของคุณเพิ่งโดนไวรัสไปหมาดๆ ใช่ไหม? ทั้งไวรัสและมัลแวร์อื่นๆ เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของไฟล์ต่างๆ ในคอมและข้อมูลส่วนตัวของคุณมาก นอกจากนั้นยังทำให้คอมอืดน่าดู พวกนี้กำจัดยากหน่อย เพราะถูกโปรแกรมมาให้เกาะติดคอมคุณแบบเหนียวแน่นทนทาน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังปวดหัวกับปัญหาคอมติดไวรัสแบบไล่ไม่ไป ให้เลื่อนลงไปอ่านวิธีการกำจัดไวรัสขั้นตอนที่ 1 ข้างล่างได้เลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สแกนคอมหาไวรัส

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนจะเริ่มขั้นตอนกำจัดไวรัส ต้อง backup ทุกข้อมูลสำคัญในคอมแยกไว้ก่อน เผื่ออาการหนักเกินเยียวยา ต้องล้าง (ฟอร์แมต) คอมทั้งเครื่อง จะได้มีไฟล์สำรองไว้เซฟกลับลงคอมได้เลย ไม่เสียเวลา
    • ลองอ่านบทความวิธีการ Back Up ข้อมูล ของเราดู ถ้าอยากรู้ขั้นตอนการ backup ข้อมูลสำคัญโดยละเอียด
  2. เช็คก่อนว่าคอมไม่ได้ผิดปกติเพราะสาเหตุอื่น. บ่อยไป ที่คอมอืดจนทำเอานึกว่าติดไวรัส ทั้งๆ ที่อาจเป็นเพราะความจำ (memory), พื้นที่เก็บข้อมูล (storage), adware และสาเหตุอื่นๆ อีกสารพัดสารพัน อีกสาเหตุยอดนิยมก็คืออุปกรณ์บางชิ้นเสื่อมหรือทำงานผิดพลาด โดยเฉพาะฮาร์ดไดรฟ์ ซึ่งก็ทำคอมอืดและบางไฟล์เสียหายได้พอๆ กับไวรัส
    • ลองหาอ่านในเน็ตดู ถ้าอยากรู้เคล็ดลับแก้คอมอืดแบบเห็นผล
  3. ตอนนี้คุณคงติดตั้งโปรแกรม antivirus เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้ายัง ก็มีหลายโปรแกรมให้เลือก ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน แต่ส่วนใหญ่เวอร์ชั่นเสียเงินจะมีให้ทดลองใช้ฟรีในระยะเวลาที่กำหนด ใช้สแกนและกำจัดไวรัสได้เหมือนกัน เพราะงั้นถึงงบน้อยก็ไม่ต้องเครียดไป ลองเลือกดาวน์โหลดโปรแกรมที่คิดว่าใช่ที่สุด โปรแกรมดังที่น่าสนใจก็เช่น Kaspersky, BitDefender, Avira และ Trend Micro แต่ย้ำว่าให้เลือกติดตั้งแค่โปรแกรมเดียวนะ
    • นอกจากนี้ต้องมีโปรแกรม anti-malware ด้วย ปกติ adware ไม่ถึงขั้นมีพิษมีภัย แต่บอกเลยว่าหลายตัวก็ไม่น่าไว้วางใจ เลยต้องมีโปรแกรมไว้เก็บตกสิ่งที่อาจหลงหูหลงตาโปรแกรม antivirus ไป โปรแกรม anti-malware ดังที่น่าสนใจก็เช่น Malwarebytes Anti-Malware และ Hitman pro พวกนี้เหมือนโปรแกรม antivirus ตรงที่ให้ลงทีละโปรแกรมเป็นพอ ไม่งั้นเดี๋ยวคอมอืดกว่าเดิม แต่ต่างกับโปรแกรม antivirus ตรงที่จะลงหรือไม่ลงก็ได้ แล้วแต่สถานการณ์
    • ถ้าคอมติดไวรัสจนดาวน์โหลดไฟล์ไม่ได้ ก็ต้องดาวน์โหลดด้วยคอมเครื่องอื่นก่อน แล้วเอามาใส่เครื่องที่ติดผ่าน USB
  4. ไวรัสจะทำอะไรคอมได้ก็ต่อเมื่อคุณ run หรือเปิดไฟล์ไวรัสขึ้นมา ส่วนใหญ่ไวรัสจะ run ตัวเองเพราะไปเกาะติดกับ startup services หรือโปรแกรมที่จะเปิดตอน Windows เปิดขึ้นมา แต่ถ้าเป็น Safe Mode จะเปิดขึ้นมาเฉพาะไฟล์ที่จำเป็นต่อการ run Windows เท่านั้น เลยทำให้ไวรัสต่างๆ ไม่มีโอกาสถูกเปิดขึ้นมา คุณก็มีโอกาสค้นหาและกำจัดออกไปซะเลย [1]
  5. สแกนคอมทั้งระบบด้วยโปรแกรม antivirus ให้กักหรือ quarantine ทุกไฟล์ที่ดูไม่ชอบมาพากลหลังสแกนเสร็จ (โปรแกรม antivirus ทั่วไปจะมีฟังก์ชั่น quarantine อยู่แล้ว) พอสแกนไวรัสเสร็จแล้ว ก็สแกนซ้ำด้วยโปรแกรม anti-malware อีกที เพื่อกำจัดไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ จนหมดจด [2]
  6. พอสแกนเรียบร้อยแล้ว ให้รีสตาร์ทตามปกติ แล้วลองใช้คอมดูว่าปกติดีหรือยัง เช่น เบราว์เซอร์และโปรแกรมอื่นๆ ที่ตอนแรกอืดๆ หรือมีปัญหา ถ้าใช้งานได้รวดเร็วเหมือนเดิม ก็แสดงว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว! แต่ถ้ายังตะกุกตะกัก ให้อ่านวิธีการถัดไป
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

กำจัดไวรัสด้วยตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Autoruns เป็นโปรแกรมของ Microsoft TechNet ใช้ดูว่ามีไฟล์ไหนเปิดขึ้นมาบ้างตอนเปิดคอม จะเห็นภาพชัดเจนที่สุดว่ามีไฟล์ไหนผิดแปลกไปบ้าง
    • พอดาวน์โหลดแล้ว ให้แตกไฟล์โปรแกรมลงตำแหน่งในคอมที่หาง่ายๆ เช่น C:\Autoruns
    • เปิดโปรแกรมก่อนแล้วค่อยทำขั้นตอนต่อไป ให้พอคุ้นเคยว่าหน้าตายังไง และทำงานยังไง เช่น แสดง services และโปรแกรมต่างๆ ที่เปิดขึ้นมาพร้อมกับ Windows ตอนแรกอาจจะดูงงๆ ยากๆ แต่จุดที่ต้องสังเกตมีแค่ไม่กี่จุดเท่านั้น
  2. ถ้าอยากให้หาไฟล์ที่ติดไวรัสได้ง่ายขึ้น ก็ต้องปิด (disable) การรายงานบาง services ของ Microsoft เองซะก่อน แล้วเลือกตำแหน่งที่ปกติไม่ค่อยได้ตรวจสอบเท่าไหร่ โดยคลิกเมนู Options แล้วเลือก Filter Options ตามด้วยติ๊กช่องต่อไปนี้
    • Include empty locations
    • Verify code signatures
    • Hide signed Microsoft entries
  3. ปกติไวรัสจะเกาะติดกับ startup services อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าลบ service ตอนไวรัสกำลังทำงาน จะกลายเป็น copy ไวรัสลง registry ถ้าใน Safe Mode จะเปิดเฉพาะ startup services ที่จำเป็น เลยทำให้ปิด service ที่ติดไวรัสได้ง่าย
    • แทนที่จะเป็น "Safe Mode" ธรรมดา ให้รีสตาร์ทเข้า "Safe Mode with Networking" จะได้ต่อเน็ตค้นหาโปรแกรมที่เปิดพร้อมคอมได้
  4. พอเข้า Safe Mode แล้ว ให้เปิดโปรแกรม Autoruns เช็คให้ชัวร์ว่าเลือก Filter Options แล้ว จากนั้นรอสักพักจนสแกนเสร็จ
  5. นี่แหละส่วนที่น่าเบื่อที่สุดของขั้นตอนทั้งหมด เพราะต้องคอยเอาชื่อ entry ที่น่าสงสัยไปค้นหาในเน็ต ว่า process นั้นปลอดภัยหรืออันตราย ต้องคอยสังเกตดีๆ ทั้งชื่อ entry แล้วตำแหน่งไฟล์
    • ในเน็ตจะมี process identifiers ให้เลือกใช้เยอะ บอกได้เลยว่า process นั้นคืออะไร อันตรายไหม เว็บหรือฐานข้อมูลที่ใช้อ้างอิงได้ดีก็เช่น Process Library, Bleeping Computer และ File.net
    • เน้นสังเกต tab Logon และ Services จริงๆ ก็มีหลาย tab ใช้กรองข้อมูลได้ แต่ส่วนใหญ่ข้อมูลที่คุณตามหาจะอยู่ใน tab Logon และ Services เป็นส่วนใหญ่ แต่ยังไงก็อย่าละเลยข้อมูลอื่นๆ เพราะรายงานไวรัสบางทีก็ไปโผล่ที่จุดอื่นด้วย
    • ค่อยๆ สำรวจแต่ละ process ไป ถ้าเผลอไปปิด process จริงของระบบเข้า ระวัง Windows จะโหลดผิดพลาด เพราะงั้นยิ่งต้องเช็คแต่ละ process ให้ดีก่อนกำจัด
    • จดตำแหน่งไฟล์ของแต่ละ entry ที่จะลบ เพราะเดี๋ยวต้องตามไปลบจากต้นทาง
  6. ลบ entry ก่อน แล้วค่อยลบไฟล์ที่ติดไวรัสหรือมัลแวร์. พอเจอ entries ต่างๆ ที่ติดไวรัสแล้ว ให้เริ่มลบ entry ก่อน โดยคลิกขวาแล้วเลือก Delete เท่านั้น entry ก็จะถูกลบไปจาก startup process แต่ไฟล์ที่ติดไวรัสจะยังอยู่
    • ลบไปทีละ entry จากนั้นลบไฟล์ต้นทาง ทำซ้ำแบบนี้กับทุก entry ที่เหลือ จะได้ไม่ลืมลบไฟล์ต้นทาง (ที่ติดไวรัส) จากคอม
  7. เปิด Windows Explorer แล้วไปตำแหน่งที่มีไฟล์ของ startup entry นั้น (ที่จดไว้) ถ้าหาไฟล์ไม่เจอ แปลว่าต้องกำหนดให้แสดงไฟล์ที่ถูกซ่อนไว้ (hidden files) ก่อน
    • ลบ entry และไฟล์ซ้ำตามขั้นตอนจนครบทุก entry ที่มีปัญหา
  8. พอลบแต่ละ entry และไฟล์ตัวปัญหาแล้ว ก็รีสตาร์ทได้เลย ให้ processes อื่นๆ ที่เหลือเปิดขึ้นมาตามปกติ เท่านี้ก็น่าจะกำจัดไวรัสทั่วไปได้ แต่ถ้ายังไม่หาย ให้เลื่อนลงไปอ่านขั้นตอนถัดไป
  9. ถ้าทำตามทุกขั้นตอนที่ว่ามาแล้วยังกำจัดไวรัสไม่ได้ คงไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากลง Windows ใหม่เลย ถือเป็นหนทางสุดท้าย แต่จริงๆ ก็สะดวกกว่ามานั่งหาวิธีกำจัดไวรัสดื้อด้านซะอีก ที่สำคัญคือถูกกว่ายกคอมไปให้ช่างช่วยดูด้วย ถ้าใครใช้อยู่แค่ไม่กี่โปรแกรมในเครื่องก็สบายไป เพราะจะลง Windows ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
    • ลง Windows ใหม่แล้วทุกข้อมูลในฮาร์ดไดรฟ์จะหายไปหมด หมายความว่าล้างไวรัสได้ไม่มีเหลือ (แต่ไฟล์อื่นๆ ก็หายไปด้วย)
    • ก่อนจะลง Windows ใหม่ อย่าลืม backup ทุกไฟล์สำคัญกับ key ของ Windows ไว้ นอกจากนี้ก็ควรเซฟไฟล์ติดตั้งโปรแกรมที่จำเป็นแยกไว้ใน USB เช่น เบราว์เซอร์ และโปรแกรม antivirus พอระบบพร้อมจะได้เอามาลงใหม่สะดวกๆ [3]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

กำจัดไวรัสในเครื่อง Mac

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หลายคนคิดว่าใช้ Mac แล้วไม่มีทางโดนไวรัส แต่บอกเลยว่าไม่ง่ายอย่างที่คิด พอคนเริ่มนิยมใช้ Mac กันเยอะ ไวรัสต่างๆ ก็พัฒนาตาม ทำให้เดี๋ยวนี้คนใช้ Mac ก็เป็นเหยื่อของพวกพัฒนาไวรัสได้พอๆ กับคนใช้ Windows ทางที่ดีให้หาทางป้องกันตัวเองไว้แต่เนิ่นๆ ดีกว่า โปรแกรม antivirus นี่แหละช่วยกำจัดไวรัสในคอมให้คุณได้ง่ายที่สุด
    • โปรแกรม antivirus สำหรับ Mac ที่ดังและน่าสนใจก็เช่น Sophos, ClamXav และ Intego VirusBarrier ส่วนโปรแกรมค่ายดังที่ต้องจ่ายตังค์ก็มี เช่น Norton, McAfee และ Kaspersky
    • ติดตั้งโปรแกรม antivirus ทีละโปรแกรมเท่านั้น
  2. เริ่มสแกนคอมหาไวรัสด้วยโปรแกรมใหม่ที่เพิ่งติดตั้ง ถ้าเสียบ external hard drive หรือ USB ไว้ก็ต้องสแกนด้วย
    • ถึงไวรัสของ PC จะทำอะไร Mac ไม่ได้ แต่เป็น "พาหะ" ได้นะจะบอกให้
    • สแกนเจออะไรน่าสงสัย ให้กำจัดให้หมด ปกติไวรัสของ Mac จะใช้โปรแกรมลบง่ายกว่า PC เยอะ
  3. พอสแกนคอมด้วยโปรแกรม antivirus ตัวแรกไปแล้ว ให้ถอนการติดตั้ง (uninstall) โปรแกรมแรกออก แล้วติดตั้งโปรแกรมใหม่ซะ จะเป็นโปรแกรมฟรีทั้ง 2 ตัวก็ได้ หรืออาจจะสแกนด้วยโปรแกรมฟรีรอบหนึ่ง อีกรอบเป็นโปรแกรมแบบเสียเงิน พอสแกนซ้ำอีกทีด้วยอีกโปรแกรม เผื่อมีมัลแวร์ไหนหลงเหลือมาจากการสแกนครั้งแรก คราวนี้จะได้สิ้นซาก
  4. ถ้าเจอไวรัสแรงๆ แบบลบด้วยโปรแกรมไม่ได้ ก็เหลือทางเดียวคือต้องลงระบบปฏิบัติการใหม่เลย ถ้าคุณ backup ข้อมูลในเครื่อง ไว้แล้ว ก็ใช้เวลาลงระบบใหม่ไม่นาน แถมจะทำให้เครื่องทำงานเร็วขึ้นด้วย
    • ถ้าอยากรู้วิธีลง OS X ใหม่โดยละเอียด ให้ลองหาอ่านเพิ่มเติมในเน็ตดู
  5. เป็นไวรัสตัวแรกๆ ที่ทำเอาคนใช้ OS X หนาวกันเป็นแถว ตั้งแต่นั้นมา Apple เลยคอยออก patch ของ OS X มาอุดรูรั่วในระบบเรื่อยๆ รวมถึงกำจัดมัลแวร์ไปจาก OS X แต่ถ้าคุณไม่คอยอัพเดทเวอร์ชั่น OS X ที่ใช้ให้ใหม่อยู่เสมอ ก็ต้องระวังให้ดี
    • มีหลายโปรแกรมที่ดาวน์โหลดมากำจัดไวรัส Flashback ได้ เช่น Flashback Removal Tool ของ F-Secure
  6. หรือก็คือมัลแวร์ใช้เจาะเบราว์เซอร์ของคุณ แล้วคอยบังคับเปลี่ยนเส้นทางเวลาคุณท่องเน็ต ไปยังหน้าเว็บที่ขึ้นข้อความ (หลอกๆ) ว่าคอมคุณถูก FBI ยึดระบบ ต้องจ่ายค่าไถ่ก้อนโตซะก่อน ถึงจะปลดล็อกคอมให้ โชคดีที่คุณลบไวรัสนี้ได้ง่ายๆ แค่รีเซ็ต settings ของ Safari
    • เปิด Safari แล้วคลิก Safari menu ในแถบเมนู
    • คลิก "Reset Safari..."
    • ติ๊กทุกอย่างในรายชื่อให้หมด
    • คลิกปุ่ม Reset
    โฆษณา

คำเตือน

  • กว่าจะกำจัดมัลแวร์ได้ มักใช้เวลานานหลายชั่วโมง บางทีก็เป็นวันๆ กระทั่งหลายอาทิตย์ เพราะฉะนั้นให้หาเวลาทำตอนที่สะดวกจะดีกว่า
  • ถ้าในคอมที่ติดไวรัสมีไฟล์สำคัญหรือเป็นข้อมูลส่วนตัว อาจถูกขโมยตัวตนได้ ให้รีบตัดเน็ตแล้วเช็คใบเรียกเก็บเงินของบัตรเครดิต รวมถึงใบแจ้งยอดจากธนาคารในเดือนถัดไป ให้แน่ใจว่าไม่มีรายการไหนแปลกปลอมมา
  • ถ้ามีข้อความขึ้นเตือนในคอม บังคับให้คุณจ่ายเงินแลกไฟล์ในเครื่อง แสดงว่าคุณโดน ransomware หรือ "มัลแวร์เรียกค่าไถ่" เข้าให้แล้ว ย้ำว่า "ห้ามจ่ายเด็ดขาด" เพราะไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าคุณจะได้ไฟล์คืนมา แถมจะทำให้แฮกเกอร์ยิ่งได้ใจ ไปใช้ไวรัสกับคนอื่นๆ ต่อ ขอให้คุณเลือกขอความช่วยเหลือจากตามเว็บบอร์ดแทน เช่น เว็บบอร์ดของ Microsoft
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 23,191 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา