ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ทุกคนในโลกนี้ ไม่ว่าจะสูงต่ำดำขาวหรืออ้วนผอม ต่างก็ต้องเคยรู้สึกในบางช่วงของชีวิต ว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นในด้านใดด้านหนึ่ง เราบอกว่าตัวเองไม่ดีพอ ไม่สวย/หล่อพอ หรือไม่ฉลาดพอ แต่นั่นเป็นเพียงความรู้สึกของเรา อาจไม่ใช่ความจริงเสมอไป วันนี้คุณมาถูกที่แล้ว เพราะบทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำขั้นตอนง่ายๆ ในการเอาชนะและข้ามผ่านปมด้อยของตัวเองให้คุณได้รู้กัน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เผชิญหน้าความกลัว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปมด้อยหรือ inferiority complex นั้นมีด้วยกัน 2 แบบ แบบแรกคือฝังใจมาแต่สมัยเด็ก กับอีกแบบคือโตมาแล้วล้มเหลว พลาดเป้าที่เคยคาดหวัง ซึ่ง 2 แบบนี้ก็มีระดับความรุนแรงลึกซึ้งแตกต่างกันไป
    • ปมด้อยที่เกิดแต่เด็ก อาจเพราะถูกทิ้ง ดุด่าว่ากล่าว วิจารณ์เสียๆ หาย หรือดูถูกดูแคลน โดยเฉพาะจากปากของคนเป็นพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงการถูกกลั่นแกล้ง รับอิทธิพลผิดๆ จากสื่อ หรือไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้าสังคมเปิดประสบการณ์เท่าไหร่
    • ส่วนปมด้อยที่เกิดจากความล้มเหลวนั้น มักเกิดเพราะคุณรู้สึกว่าไม่อาจทำตามฝันได้ หรือถูกครอบครัว คนรู้ใจใกล้ชิด หรือเพื่อนร่วมงานดูถูกเอา
    • ทั้ง 2 แบบนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นใจในตัวเองที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เอาแต่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น หรือตัวเองในอดีต
  2. บางทีคุณเองก็ไม่รู้ตัว ว่าบางพฤติกรรมทำไปเพราะปมด้อยเป็นเหตุ บอกเลยว่าปมด้อยส่งผลต่อทั้งความคิดและการกระทำของคุณ
    • คุณอยากคบหากับใครสักคนเพราะรู้สึกขาดอะไรไปในชีวิต คาดหวังให้เขามาเติมเต็มชีวิตของคุณ
    • คุณไม่อยากเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริง ได้แต่ใส่หน้ากาก ฝืนความรู้สึกให้คนอื่นคิดว่าคุณดีหรือเก่ง ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้คิดแบบนั้น
    • คุณปลีกตัวจากคนรอบข้าง
    • คุณมีพฤติกรรมผิดปกติออกไป เช่น บ้าช้อปปิ้ง กินแหลก ดื่มจัด หรือเก็บสะสมทุกอย่างแบบบ้าหอบฟาง
    • คุณพยายามบงการ ทำร้าย หรือโทษว่าเป็นความผิดของคนอื่น
    • คุณไม่ยอมรับคำชมของคนอื่น รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าพอ
    • คุณถูกชักจูงหรือคล้อยตามคนอื่นได้ง่าย
    • คุณรู้สึกกระวนกระวาย ไม่กล้าเชื่อใจคนอื่น รู้สึกไร้ค่า หรือกลัวถูกปฏิเสธ
  3. ปมด้อยอาจเกิดเพราะบาดแผลในอดีต ถ้าอยากข้ามให้ผ่าน ก็ต้องขุดลึกให้ถึงต้นตอของความรู้สึก บางทีอาจเป็นความทรงจำอันโหดร้ายในวัยเด็ก เหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ หรือถูกคนอื่นยกตัวข่มท่านมาเป็นระยะเวลายาวนาน
    • เรียนรู้จากอดีต นึกให้ออกว่าอะไรที่สร้างปมด้อยนี้ขึ้นมา บางทีก็ซ่อนลึกในใจเพราะกลัวว่าจะทำให้เจ็บปวดซ้ำสอง [1]
  4. คนมีปมด้อย แปลว่ารู้สึกด้อยกว่า "คนอื่น" ลองถามตัวเองดู ว่าใครที่คุณกลัวหรือรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่ากว่าเขา พยายามระบุให้เฉพาะเจาะจง เป็นรายคนได้ยิ่งดี หรือจะเริ่มจากกลุ่มคนก่อนแล้วค่อยตีวงแคบเข้ามาก็ได้
    • คุณรู้สึกอายคนที่เขาสวยหล่อดูดีกว่าหรือเปล่า? หรือรู้สึกแย่ที่จนกว่าคนอื่น? รู้สึกไม่ฉลาดพอ? หรือรู้สึกว่าไม่ประสบความสำเร็จเท่าใครเขา? ลองไล่รายชื่อคนที่ทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นออกมาดู
    • พอรู้แล้ว ลองถามตัวเองว่าคนหรือกลุ่มคนเหล่านั้นเขาทำอะไร "ไม่ได้ดีเท่าคุณ" บ้าง เช่น เขาเล่นเปียโนเก่งเท่าคุณไหม? เขาขยันทำงานเท่าคุณหรือเปล่า? เขาใจดีเหมือนคุณไหม? หรือมีครอบครัวที่อบอุ่นน่ารักเท่าคุณหรือเปล่า? [2]
  5. จะรับมือกับปมด้อยได้ ต้องแยกแตกออกมาดูให้ละเอียด เริ่มจากบุคลิกลักษณะที่ทำให้คุณรู้สึกด้อยกว่าคนอื่น ให้พิจารณาด้วยเหตุและผล อย่าใช้อารมณ์ ข้อเสียของคุณแย่ขนาดนั้นเลยหรือ? ถ้าใช่ ก็ให้เตือนใจว่าทุกคนมีข้อด้อยที่อยากพัฒนาตัวเองด้วยกันทั้งนั้น บางคนอาจมองข้อด้อยของคุณเป็นข้อเด่นก็ได้ ถ้าคุณกังวลว่าตัวเองคางยื่นจนเอาแต่ก้มหน้าก้มตา นั่นแหละที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกว่าคุณบุคลิกแย่ขึ้นมา หรือคุณอาจไม่มั่นใจเพราะผมบาง แต่สาวหลายคนก็ว่าหนุ่มหัวเหม่งเซ็กซี่น่าดู
    • คุณมีจุดด้อยก็จริง แต่ปมด้อยนั้นบงการชีวิตคุณไม่ได้ ถึงคางจะใหญ่ยื่น อ้วนตุ้ยนุ้ย หรือผมบางไปสักหน่อย แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่เป็นคุณ เป็นแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนเดียวเท่านั้น เว้นแต่คุณจะเครียดหรือกังวลหมุกมุ่นกับมันจนเสียบุคลิกหรือเสียนิสัย นั่นแหละชีวิตจะเริ่มพัง [3]
  6. ไม่มีใครเก่งหรือเพอร์เฟ็คต์ที่สุดในโลก เหนือฟ้ายังมีฟ้าเสมอ บางคนอ่านทั้งหล่อและรวย แต่เขาอาจไม่ฉลาดหรือนิสัยดีเท่าอีกคน ถ้ามองในอีกแง่หนึ่ง เราก็เก่งกว่าคนอื่นในบางเรื่องเสมอ เพราะคนเรามีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวเอง ถ้าใครเข้าใจเรื่องนี้ ก็จะรู้จักพิจารณาตัวเองตามจริง ให้สามารถพัฒนาจุดเด่นและเสริมจุดด้อยไปพร้อมๆ กัน
    • มีข้อเสียไม่จำเป็นต้องเก็บมาเป็นปมด้อย คุณจะด้อยกว่าใครเขาก็เพราะเอาแต่หมกมุ่นครุ่นคิดว่าโลกจะแตกเพราะข้อเสีย (ที่อาจจะแค่เล็กน้อย) ของคุณนี่แหละ สรุปแล้วปมด้อยคือสิ่งที่บางทีอาจไม่มีใครเห็นนอกจากตัวคุณนี่เอง [4]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

มองมุมใหม่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปมด้อยเกิดเพราะคุณอยากได้อยากมีอยากเป็นเหมือนคนอื่นเขา คุณอยากตื่นมาแล้วกลายเป็นคนที่ไม่ใช่ตัวคุณเอง แต่ถ้าคิดหรือพยายามทำแบบนั้น ก็เท่ากับคุณไม่จริงใจกับตัวเอง เราไม่ได้ห้ามให้คุณทดลองอะไรใหม่ๆ หรือเปิดประสบการณ์ แค่อยากให้ทำตามความชอบความถนัดจริงๆ อย่าเอาแต่เลียนแบบใครเขา
    • คนเรามองคนอื่นเป็นไอดอล เป็นแรงบันดาลใจได้ แต่แค่ให้มองความดีหรือความเก่งของเขาเป็นตัวอย่าง เอาไว้เป็นแรงขับให้พัฒนาตัวเอง แต่จุดสำคัญคือต้องคงความเป็นตัวของตัวเองไว้ อย่าเลียนแบบหรือเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนอื่น แค่ใช้เป็นกำลังใจว่าเราก็ประสบความสำเร็จแบบเขาได้ก็พอ [5]
  2. ปมด้อยเกิดเพราะเราแคร์ความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นมากเกินไป เรามักกลัวว่าคนอื่นจะมองเราดีหรือเก่งพอหรือยัง ซึ่งไม่มีประโยชน์เลย ไม่ได้บอกให้ทำตามใจไม่ต้องแคร์ใครเดือดร้อน แต่แค่อย่าเก็บคำพูดแย่ๆ ของคนอื่นมาใส่ใจก็พอ อย่าลืมว่าคุณรู้จักตัวเองดีที่สุด [6]
    • บางทีคำวิจารณ์ของคนอื่นก็เป็นเรื่องจริง แต่ส่วนใหญ่คนมักติเอาสนุกปาก ไม่ใช่ติเพื่อก่อ เพราะงั้นอะไรทำแล้วมีความสุขก็ทำไป อย่าไปเครียดตลอดเวลาว่าใครจะคิดยังไง ไม่ต้องพยายามแก้ตัวหรือทำตามที่คนอื่นบอกไปซะหมด
    • เตือนตัวเองว่าสุดท้ายแล้วคุณก็อ่านใจคนอื่นไม่ได้ และไม่รู้ด้วยว่าใครผ่านอะไรมาบ้าง บางคนอาจดูเหมือนมีพร้อมทุกอย่าง แต่จริงๆ แล้วเขาเองก็มีปมด้อยเหมือนคุณนั่นแหละ เพราะงั้นให้ภูมิใจในจุดแข็งและความสำเร็จของตัวเอง อย่าแคร์แต่ความคิดของคนอื่นลูกเดียว
  3. เวลารู้สึกด้อยกว่าใครเขา แปลว่าคุณกำลังสนใจสิ่งที่ขาดมากกว่าสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ใครๆ ก็มีข้อดีข้อเด่นกันทั้งนั้น ลองหันมองตัวเองและชีวิตดู แล้วไล่ออกมาเป็นข้อๆ ว่าคุณมีดีตรงไหนบ้าง เช่น "หน้าที่การงานเราดี แถมยังโตในสายงานนี้ได้อีกไกล" หรือ "ฟันเราขาวสวยเป็นระเบียบสุดๆ" พอรวบรวมเสร็จก็ชื่นชมซะ ข้อดีของคุณไม่จำเป็นต้องดีกว่าคนอื่นก็ได้ แค่ทำให้คุณรู้สึกภูมิใจ มีความสุขก็พอ ว่าเราก็มีดีเหมือนกัน [7]
    • ดึงข้อดีจากในทุกแง่มุมของชีวิต คุณอาจมองว่าตัวเองอ้วนเกินไป แต่จริงๆ แล้วคุณขาและเท้าสวย มือก็สวยไม่แพ้กัน หรือมีครอบครัวที่อบอุ่น ลูกๆ ก็เรียนเก่ง คุณจบจากมหาวิทยาลัยดีๆ ขับรถสวยราคาแพง แถมยังถักโครเชต์เก่งอีกต่างหาก ชีวิตคนเราไม่ได้มีแค่มุมเดียวหรือด้านเดียวเหมือนตัวการ์ตูนหรอก พยายามมองต่างมุมให้เจอจุดแข็งของตัวเอง แล้วภูมิใจกับมันซะ
  4. คนมีปมด้อยคือคนที่เอาแต่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นตลอดเวลา นานๆ ไปจะเห็นแต่ข้อดีของคนอื่นยาวเป็นหางว่าว เห็นแต่ข้อเสียของตัวเอง บอกเลยว่าผิด เพราะแต่ละคนก็มีชีวิตและสถานการณ์ต่างกัน เกิดมาในครอบครัวคนละแบบ กรรมพันธุ์ต่างกัน โอกาสที่ได้รับก็แตกต่างตามไปด้วย [8]
  5. ปมด้อยทำให้คนคิดแต่ว่าชีวิตจะดีขึ้นได้ถ้าปมด้อยนั้นหายไป เช่น "ถ้าเราผอมลงสัก 10 กิโล ชีวิตคงดีกว่านี้เยอะ" หรือ "ถ้าได้งานดีกว่านี้ ชีวิตคงมีความสุขทุกวัน" บอกเลยว่าถึงจะเป็นแบบที่คุณฝัน สุดท้ายก็สุขแค่ชั่วคราว เพราะลึกลงไปคุณยังเป็นคนไม่มั่นใจ เดี๋ยวก็แสวงหาปมด้อยอื่นมายึดติดอีก ความสวยความงามและความรวยทีคนมีปมด้อยหลายคนใฝ่ฝัน พอได้มาครองจริงๆ ก็ใช่ว่าจะแก้ไขได้ทุกอย่าง พยายามหยุดคิดว่า "ถ้าเรา...คงดี" เพราะมีแต่จะทำให้คุณผิดหวังหดหู่กว่าเดิม [9]
    • หันไปมองจุดแข็ง คุณค่า และข้อดี/สิ่งดีๆ ที่มีอยู่จะสบายใจกว่า พอเข้าใจจุดนี้แล้ว คุณจะก้าวต่อไปในชีวิตได้อย่างมั่นใจและเป็นสุข
  6. ทุกวันคุณเอาแต่หล่อเลี้ยงปมด้อยตัวเองด้วยความคิดลบๆ ที่มีต่อตัวเอง เช่น "ที่เขาไม่ชอบเราก็เพราะเรามันทุเรศไง" หรือ "ที่เขาไม่จ้างเราก็เพราะเรามันโง่ดักดาน" ความคิดพวกนี้มีแต่จะฉุดคุณให้ดำดิ่งในอารมณ์เศร้าหมองไม่พอใจ นานๆ ไปก็ฝังหัวว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ ต้องเริ่มใหม่โดยจับให้ได้ไล่ให้ทันเวลาคิดลบ แล้วแทนที่ด้วยเรื่องดีๆ แทน [10]
    • อย่าถึงขนาดหลอกตัวเองว่า "เดี๋ยวเขารักเราแน่ เพราะเราสวยน่ารักที่สุด" แค่ขอให้มองตัวเองในแง่ดีตามจริง "เราเองก็มีดี มีอีกตั้งหลายคนที่รักและห่วงเรา เราไม่เคยคิดร้ายกับใคร ช่วยใครได้ก็ช่วย เดี๋ยวก็เจอคนดีๆ"
    • จับให้ได้เวลาคิดลบแล้วรีบเปลี่ยนอารมณ์ เช่น ถ้าเผลอคิดไปว่า "เรามันอ้วนที่สุดในหมู่เพื่อนแล้ว" ให้หยุด แล้วเปลี่ยนไปคิดว่า "อ้วนก็สวยได้ ใส่ชุดนี้แล้วดูผอมลงตั้งเยอะ เดี๋ยวใส่ไปเที่ยวกับเพื่อนดีกว่า"
    • อย่าตั้งเป้าสูงเกินไปจนกดดันตัวเอง เช่น ถ้าเริ่มคิดลบเพราะวิ่งไปได้แค่เกือบ 1 กิโล แทนที่จะครบ 3 กิโลอย่างที่ตั้งใจ ให้มองใหม่ว่า "โห นี่ขนาดวิ่งวันแรกยังได้ตั้งเกือบโล นี่ถ้าวิ่งจริงจังทุกวันเดี๋ยวก็ครบสาม"
    • ถ้าจับได้ไล่ทันทุกความคิดลบ อีกหน่อยจะมั่นใจและเห็นค่าตัวเองขึ้นเยอะเลย
  7. ระหว่างปรับตัวเพื่อก้าวข้ามปมด้อย ให้เริ่ม เสริมสร้างความมั่นใจ ไปในเวลาเดียวกัน โดยมองตัวเองซะใหม่ ที่คุณมีปมด้อยก็เพราะมองตัวเองผิดด้าน พยายามเตือนตัวเองว่าเราไม่ได้แย่ขนาดนั้น เรายังมีดีอีกเยอะ
    • อย่าตราหน้าตัวเอง ไม่ว่าจะอีโง่ อีอ้วน ไอ้คนล้มเหลว เฟลไม่มีเทียบ หรืออะไรก็ตาม คุณก็คือคุณ คำคำเดียวบอกความเป็นคุณทั้งหมดไม่ได้หรอก [11]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ก้าวข้ามปมด้อย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พอมีปมด้อยแล้วอาจทำคุณปลีกวิเวก ขี้อาย และหลบหน้าผู้คน เพราะกลัวคนอื่นเห็นข้อด้อยและกลัวการเปิดใจ บอกเลยว่าต้องทั้งผลักและดันตัวเองออกไปเจอหน้าผู้คนให้ได้ ปมด้อยอยู่แค่ที่ใจ บางทีก็มีแต่คุณที่เห็น ยิ่งพบปะพูดคุยกับคนมากๆ คุณจะยิ่งรู้ว่าไม่มีใครเขาตัดสิน หัวเราะเยาะ หรือดูถูกคุณ พยายามทำตัวสบายๆ มั่นใจ เป็นตัวของตัวเองเข้าไว้ [12]
  2. ให้ใช้เวลาอยู่กับคนที่เขาเห็นค่าของคุณ คนคิดลบที่เอาแต่วิจารณ์ จับผิด และติติง มีแต่จะทำให้คุณรู้สึกด้อยค่า (ซึ่งไม่เป็นความจริง) เพื่อนที่ดีคือคนที่ชอบคุณในแบบที่คุณเป็น คุณจะเป็นตัวของตัวเองและเกิดความมั่นใจ [13]
    • ถึงความมั่นใจจะมาจากตัวเอง แต่ถ้ามีเพื่อนฝูงหรือครอบครัวที่คอยสนับสนุนให้กำลังใจ ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นอีกเยอะ คุณจะได้รู้ด้วยว่าไม่ใช่ทุกคนที่เอาแต่วิจารณ์และจ้องจับผิดคุณ
  3. อีกวิธีเอาชนะปมด้อยก็คืออย่าหยุดพัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม เช่น ฝึกฝนทักษะการทำงาน ลองทำงานอดิเรกใหม่ๆ ต่อยอดงานอดิเรกเดิม เริ่มออกกำลังกาย หรือเริ่มอดออมเพื่อทริปในฝัน อะไรก็ได้ที่จะยกระดับชีวิตคุณและทำแล้วมีความสุข พอมีอะไรทำเยอะแยะไปหมด ก็จะไม่ว่างจนฟุ้งซ่านคิดแต่ปมด้อยตัวเอง [14]
  4. อีกวิธีเผชิญโลกความจริง ก็คือออกไปใช้ชีวิต ช่วยเหลือคนอื่นและสังคม ไม่ว่าจะเข้าร่วมมูลนิธิช่วยเหลือคนหรือสัตว์ จะทำให้คุณได้เห็นโลกและตัวเองตามจริง ว่าไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่คิด
    • ช่วยเหลือคนอื่นแล้วทั้งภูมิใจและมีผลงาน ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ตอบแทนสังคมได้ ไม่ได้เป็นภาระใครอย่างที่เข้าใจ [15]
  5. เผชิญหน้า ความกลัว . คุณกลัวทุกครั้งที่มีคนจ้องมอง เหมือนเขาจะวิจารณ์หรือติติงอะไรใช่ไหม? บางทีก็เป็นแบบนั้น แต่บอกเลยว่าไม่เสมอไป บางคำพูดแย่ๆ ก็ไม่ใช่ความจริง ไม่ต้องไปใส่ใจ ที่เขาว่าคุณ บางทีก็เพื่อกลบเกลื่อนปมด้อยของตัวเองนั่นแหละ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คำพูดแรงๆ ที่ไม่ได้ติเพื่อก่อ อย่าเก็บไปใส่ใจ
  • แตกต่างไม่ได้แปลว่าผิดหรือด้อยกว่า
  • ภูมิใจในจุดแข็งและข้อดีของตัวเองเข้าไว้
  • ไม่มีใครในโลกนี้ที่ "มี" และ "เป็น" เหมือนกันหมด คนแบบคุณมีคนเดียวในโลก รักและภูมิใจในตัวเองซะ
  • มีอีกตั้งหลายคนที่มี "ข้อเสีย" เดียวกับคุณ เพราะงั้นคุณไม่ได้ ประหลาด ขนาดจะเก็บมาเป็นปมด้อยหรอก
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,505 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา