ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เด็กๆ กำลังดื่มนมกันอยู่และเผลอทำนมหกรดเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือพื้นไม้ เมื่อเห็นคราบสีขาวขุ่นหลงเหลืออยู่บนพื้นผิวไม้ ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีถึงจะขจัดคราบนี้ออกไปได้ ถึงแม้ไม่สามารถใช้น้ำล้างคราบนมออกไปได้ แต่ก็สามารถทำให้พื้นผิวกลับมาดูสวยเหมือนเดิมได้ เราจะมาลองใช้กลวิธีต่างๆ ในบทความนี้ขจัดคราบกัน พื้นผิวไม้ของเราจะได้กลับมาดูเหมือนใหม่อีกครั้ง!

1

ใช้ฟองสบู่ของน้ำยาล้างจาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้เพียงส่วนที่เป็นฟองสบู่เท่านั้น จะได้ไม่ทำให้คราบเปียกอีก. นำน้ำร้อนกับน้ำยาล้างจานปริมาณสองสามหยดมาผสมกันในชามใหญ่ ตีส่วนผสมจนกระทั่งเกิดฟองมาก นำมุมของผ้านุ่มจุ่มลงไปในฟอง ระวังอย่าให้ผ้าเปียก ค่อยๆ ถูให้ฟองซึมเข้าไปในคราบจนกระทั่งคราบหลุดออก จากนั้นแค่ใช้ผ้าขนหนูอีกผืนที่พอหมาดเช็ดฟองออก [1]
    • ใช้น้ำยาบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ไม้ทันทีหลังจากทำความสะอาดพื้นผิวไม้แล้วเพื่อทำให้พื้นผิวไม้กลับมาแวววาวอีกครั้ง
    โฆษณา
2

ใช้ปิโตรเลียมเจลลี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การทาถูปิโตรเลียมเจลลีให้ซึมเข้าไปในพื้นผิวไม้สามารถปกปิดรอยวงหรือคราบเล็กๆ ได้. ใช้ผ้านุ่มที่สะอาดตักปิโตรเลียมเจลลีออกมาในปริมาณขนาดปลายนิ้ว ทาถูปิโตรเลียมเจลลีเป็นวงกลมให้ซึมเข้าไปในคราบ ถ้าคราบไม่หายไปหลังจากทาถูปิโตรเลียมเจลลีจนซึมเข้าไปหมดแล้ว ป้ายปิโตรเลียมเจลลีเพิ่มอีกเล็กน้อยและปล่อยทิ้งไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนทาถูให้ซึมเข้าไปในคราบ [2]
    • ปิโตรเลียมเจลลีจะซึมเข้าไปในพื้นผิวไม้ แต่ถ้ายังเห็นปิโตรเลียมเจลลีหลงเหลืออยู่ ให้ใช้ผ้านุ่มเช็ดออก
3

ใช้มายองเนส

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มายองเนสใช้ได้ผลกับคราบใหม่ที่เกิดขึ้นเพียงแค่ไม่กี่วัน. ใช้มายองเนสยี่ห้อใดก็ได้ที่มีอยู่ในตู้เย็น ใช้ผ้าขี้ริ้วถูให้มายองเนสซึมเข้าไปในคราบ ทิ้งมายองเนสไว้ที่พื้นผิวไม้หนึ่งคืน แต่ต้องทาอีก หากมายองเนสแห้ง วันต่อมาใช้ผ้าสะอาดเช็ดมายองเนสและคราบออก น้ำมันจากมายองเนสจะซึมเข้าไปในไม้และขจัดความชื้น [3]
    • อาจลองใส่ขี้เถ้าไม้เพิ่มลงในมายองเนสเพื่อทำให้มีลักษณะเป็นสารขัดถูเล็กน้อย ช่วยให้น้ำมันซึมลงไปลึกขึ้น
    โฆษณา
4

ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และน้ำส้มสายชู

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และน้ำส้มสายชูใช้ได้ผลดีกับคราบดำที่ฝังแน่น. นำไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) กับน้ำอุ่นปริมาณ 1 ถ้วย (240 มล.) มาผสมกัน นำผ้านุ่มๆ หรือก้อนสำลีชุบน้ำยาและซับที่คราบจนทั่ว หลังจากนั้นชุบน้ำส้มสายชูกลั่นเพื่อเพิ่มพลังในการขจัดคราบแล้วซับคราบเบาๆ อีกครั้ง ใช้ผ้าสะอาดที่พอหมาดเช็ดน้ำยาออกเพื่อขจัดคราบออกให้หมด [4]
5

ใช้เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชู

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปฏิกิริยาฟองฟู่ระหว่างเบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูทำให้คราบหลุดออก. โรยเบกกิ้งโซดาให้หนาจนเป็นชั้นบางๆ ทั่วคราบและใช้ผ้าแห้งถูให้เบกกิ้งโซดาซึมเข้าไปในคราบ จากนั้นใช้แปรงสีฟันขนนุ่มจุ่มลงในน้ำส้มสายชูกลั่นและค่อยๆ ขัดบริเวณที่โรยเบกกิ้งโซดาไว้ เมื่อส่วนผสมหยุดเกิดฟองแล้ว ใช้ผ้าแห้งเช็ดออก
    • เราสามารถทำขั้นตอนนี้ซ้ำได้หลายครั้งเท่าที่ต้องการเพื่อขจัดคราบออกให้หมด
    • เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูใช้ได้ผลดีเป็นอย่างยิ่งกับไม้ที่ไม่ผ่านกระบวณการอัดสารเคมี
    โฆษณา
6

ใช้ยาสีฟัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกใช้ยาสีฟันเนื้อสีขาวเพื่อให้การขจัดคราบออกมาได้ผลดีที่สุด. บีบยาสีฟันใส่มุมหนึ่งของผ้านุ่มและนำผ้าผืนนั้นค่อยๆ ถูไปในทิศทางเดียวกับลายเนื้อไม้เบาๆ ให้ยาสีฟันซึมเข้าไปในคราบ ขัดถูเบาๆ ให้ยาสีฟันซึมเข้าไปในคราบสักประมาณหนึ่งนาทีเพื่อให้คราบหลุดออกจากพื้นผิวไม้ [5]
    • ยาสีฟันมีสารขัดถูเล็กน้อย ช่วยขูดคราบให้หลุดออกมาได้ แต่อาจสร้างความเสียหายแก่ส่วนที่เคลือบพื้นผิวของไม้ได้
7

ใช้ฝอยขัดหม้อและน้ำมันหอมระเหยมะนาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ฝอยขัดหม้อแบบละเอียดที่สุดเท่าที่จะหาได้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย. นำน้ำมันหอมระเหยมะนาวมาทาคราบสักสองสามหยดและใช้ฝอยขัดหม้อขัดเบาๆ ให้น้ำมันหอมระเหยมะนาวซึมเข้าไปในคราบ ใช้แรงกดเล็กน้อยและขัดไปในทิศทางเดียวกับลายเนื้อไม้ รอยขีดข่วนใดๆ ที่เกิดขึ้นจะได้ผสมกลมกลืนไปกับลายเนื้อไม้ [6]
    • แค่ใช้ฝอยขัดหม้อขัดพื้นผิวไม้ในบริเวณที่มีคราบเท่านั้นเพื่อจะได้ไม่สร้างความเสียหายแก่ส่วนอื่นของพื้นผิวไม้
    โฆษณา
8

ใช้เกลือและน้ำมะนาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. น้ำมะนาวและเกลือใช้ได้ผลดีที่สุดกับคราบจางๆ. โรยเกลือให้ท่วมคราบจนมิด หั่นมะนาวออกเป็นสองซีกและบีบน้ำมะนาวให้หยดลงบนเกลือ ก็จะได้สารที่มีลักษณะข้นเหนียว ใช้มะนาวอีกซีกหนึ่งขัดถูให้สารนี้ซึมลงไปในคราบ ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งหนึ่งคืนก่อนที่จะใช้ผ้าที่พอหมาดเช็ดออก [7]
    • เกลือและน้ำมะนาวผสมกันกลายเป็นน้ำยาที่มีสารขัดถูเล็กน้อย สามารถขจัดคราบออกจากพื้นผิวไม้ของเราได้
  1. ความร้อนจากเตารีดทำให้ความชื้นในพื้นผิวไม้ระเหยไป. ถ้าเป็นเตารีดแบบไอน้ำและมีน้ำอยู่ในช่องเติมน้ำ ให้เทน้ำออกก่อนนำมาใช้กับพื้นผิวไม้ นำผ้าเช็ดปากที่ทำมาจากผ้าฝ้ายหรือเสื้อทีเชิ้ตวางทับคราบเพื่อปกป้องพื้นผิวไม้ ปรับการตั้งค่าความร้อนของเตารีดให้อยู่ในระดับต่ำสุดและรีดผ้าที่วางทับคราบสักสองสามวินาที เลิกผ้าเช็ดปากหรือเสื้อทีเชิ้ตขึ้นเพื่อตรวจดูสิว่าคราบหายไปหรือยัง ถ้ายังไม่หายไป นำเตารีดมารีดผ้าที่วางทับคราบอีกสองสามวินาที [8]
    • เตารีดใช้ได้ผลดีที่สุดกับคราบที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน
    โฆษณา
10

ใช้เครื่องเป่าผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้เครื่องเป่าผมที่มีการตั้งค่าความร้อนระดับต่ำสุดระเหยความชื้นที่อยู่ในคราบ. การใช้เครื่องเป่าผมได้ผลดีที่สุดกับคราบใหม่ หรือแม้แต่กับคราบนมซึ่งแห้งอยู่ที่พื้นผิวของไม้ โบกเครื่องเป่าผมไปมาเหนือคราบ จะได้ไม่สร้างความเสียหายหรือทำให้พื้นผิวไม้โดนความร้อนมากเกินไป หลังจากผ่านไปประมาณ 10 นาที คราบก็จะแห้ง [9]
    • ที่จริงแล้วคราบขาวคือความชื้นที่จับอยู่ระหว่างพื้นผิวไม้และส่วนที่เคลือบพื้นผิวของไม้ เมื่อโดนความร้อน ความชื้นก็จะระเหยออกไปจากพื้นผิวไม้
11

ใช้น้ำยาทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ไม้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. น้ำยาทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ไม้ทำให้พื้นผิวไม้กลับมาแวววาว แต่ก็อาจทำให้ส่วนที่เคลือบพื้นผิวของไม้หลุดออก. ใช้น้ำยาทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ไม้ยี่ห้อใดก็ได้ โดยหาซื้อได้จากร้านจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง ต่อเติม ตกแต่ง ซ่อมแซม ปรับปรุง อาคาร บ้าน และที่อยู่อาศัย นำผ้าที่ใช้ในการทำความสะอาดชุบน้ำยาทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ไม้และขัดถูคราบเบาๆ เพื่อส่วนที่เคลือบพื้นผิวของไม้จะได้ไม่หลุดออกมาหมด ใช้ผ้าแห้งอีกผืนเช็ดน้ำยาออกทันทีเพื่อขจัดคราบ [10]
    • ถึงแม้น้ำยาทำความสะอาดไม้จะทำให้ส่วนที่เคลือบพื้นผิวของไม้หลุดออกมาบางส่วน แต่เราก็สามารถเคลือบพื้นผิวไม้ใหม่อีกครั้งได้ง่ายด้วยการทาขี้ผึ้งหรือน้ำมันรองพื้นไม้ที่พื้นผิวไม้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทดลองใช้น้ำยาทำความสะอาดในจุดซึ่งไม่เป็นที่สังเกตเห็นของพื้นผิวไม้ก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำยาทำความสะอาดนั้นไม่มีผลต่อสีหรือส่วนที่เคลือบพื้นผิวของไม้ ถ้าหากน้ำยาทำความสะอาดนั้นมีผลต่อพื้นผิวไม้ ลองใช้วิธีทำความสะอาดวิธีอื่นแทน
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าเทน้ำลงบนพื้นผิวไม้โดยตรง เพราะอาจก่อให้เกิดคราบหรือความเสียหายมากขึ้น
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,170 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา