ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

สาวๆ ส่วนใหญ่รักการแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจ แต่อาจพากันถอดใจ เวลาต้องขจัดคราบรองพื้นที่เลอะเสื้อตัวเก่งเข้าแบบไม่รู้ตัว บอกเลยว่าวันนี้คุณมาถูกที่แล้ว เพราะรองพื้นส่วนใหญ่พอเลอะเสื้อผ้าแล้วทำความสะอาดได้สบาย ขอแค่เลือกวิธีและอุปกรณ์ให้ถูกกับงาน อาศัยความอดทนอีกหน่อย อย่างถ้าเป็นรองพื้น oil-free (ไม่ผสมน้ำมัน) ก็แค่ซับๆ ด้วยครีมโกนหนวด เท่านี้ก็เรียบร้อย ส่วนรองพื้นแบบ oil-based (ผสมน้ำมัน) ก็ทำความสะอาดเฉพาะคราบได้ด้วยน้ำยาล้างจานหรือน้ำยาซักผ้าทั่วไป และถ้าเป็นรองพื้นแบบแป้งตลับ ก็กำจัดได้ด้วยสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจาน กับฟองน้ำเปียกหมาดเท่านั้นเอง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ขจัดคราบรองพื้นเนื้อลิควิดแบบไร้น้ำมัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ครีมโกนหนวดอะไรก็ได้ที่เป็นเนื้อโฟม ห้ามใช้เนื้อเจล [1] ให้ฉีดครีมโกนหนวดใส่คราบโดยตรง [2]
  2. ให้ครีมโกนหนวดมีเวลาสลายคราบ แค่ไม่กี่นาทีก็ได้ผล [3]
  3. พอทิ้งครีมโกนหนวดไว้ที่คราบหลายนาทีแล้ว ก็ขัดถูช่วยหน่อย จะใช้นิ้วหรือผ้าสะอาดนุ่มๆ ก็ได้ ออกแรงหน่อย ครีมโกนหนวดจะได้ซึมเข้าไปขจัดคราบในเส้นใย [4]
  4. ถ้าใช้ครีมโกนหนวดกับน้ำแล้วไม่ได้ผล ให้ผสมแอลกอฮอล์เข้าไปในครีมโกนหนวดนิดหน่อย จากนั้นขัดถูที่คราบแล้วล้างน้ำ [5]
    • ถ้ากลัวแอลกอฮอล์ทำผ้าเสีย ให้ทดสอบในจุดที่ไม่เป็นที่สังเกตก่อน
  5. ค่อยๆ ล้างครีมโกนหนวดออก ครั้งแรกให้ใช้น้ำเย็น เพราะน้ำร้อนจะทำให้คราบเซ็ตตัว ฝังแน่นกับเส้นใยผ้า [6] เสร็จแล้วเช็คว่ามีคราบรองพื้นเหลือไหม [7]
  6. ถ้ายังเหลือคราบ ให้ทำซ้ำตามขั้นตอน แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น. ถ้าทำความสะอาดรอบแรกแล้วยังเหลือคราบรองพื้น ให้ฉีดครีมโกนหนวดเพิ่มอีกหน่อย แล้วลงมือถูคราบซ้ำ ต่างกันตรงที่เสร็จแล้วคราวนี้ให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน [8]
    • ยิ่งน้ำร้อน ก็ยิ่งช่วยให้ครีมโกนหนวดไปละลายคราบรองพื้นที่เซ็ตตัวในเส้นใยผ้าแล้วได้ดียิ่งขึ้น
  7. พอล้างทำความสะอาดแล้ว ให้ซับจนแห้ง กดๆ ซับๆ เพื่อดูดน้ำและความชื้น รวมถึงคราบที่อาจตกค้างจางๆ ขึ้นมา
  8. พอขจัดคราบเฉพาะจุดแล้ว ให้ทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อาจตกค้าง (รวมถึงครีมโกนหนวด) โดยซักเครื่อง ถ้าเป็นเสื้อผ้าที่ซักเครื่องไม่ได้ ก็ต้อง ซักมือ หรือเอาไปซักแห้ง [9]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ขจัดคราบรองพื้นเนื้อลิควิดแบบใช้น้ำมันเป็นตัวกลาง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้น้ำเย็นหน่อยมาพรมที่คราบ น้ำยาที่ลงจะได้กระจายและละลายคราบได้ง่ายขึ้น [10] อย่าให้คราบชุ่ม แค่เปียกหมาดๆ ก็พอ ถ้าเป็นผ้าเนื้อบาง ให้ฉีดน้ำโดยใช้ขวดสเปรย์
  2. บีบน้ำยาล้างจานใส่คราบโดยตรง แล้วทิ้งไว้ 2 - 3 นาที [11] ให้ใช้น้ำยาล้างจานทั่วไป ไม่ใช่น้ำยาเข้มข้นที่ใช้กับเครื่องล้างจาน เพราะอย่างหลังจะแรงเกินไป น้ำยาล้างจานเน้นละลายไขมันและคราบมันอยู่แล้ว แต่ต้องเลือกที่ใช้กับมือเราได้เพราะอ่อนโยน ไม่ทำร้ายเนื้อผ้า ถ้าเป็นน้ำยาล้างจานก็สลายคราบรองพื้นแบบผสมน้ำมันได้แน่นอน
  3. ค่อยๆ ถูให้น้ำยาล้างจานซึมลงไปในคราบ ละลายไขมันในรองพื้น หรือจะใช้แปรงสีฟันขนนุ่มแทนก็ได้ แต่ถ้าผ้าเนื้อบางขาดง่าย ให้ใช้หลังช้อนกินข้าวจะดีกว่า [12]
  4. ใช้ผ้าแห้งสะอาดหรือทิชชู่ซับน้ำมันแผ่นหนามาซับทั้งคราบและน้ำยาออกไป โดยกดที่คราบแล้วยกขึ้น ห้ามถูหรือเช็ด ไม่งั้นคราบจะลามได้ [13]
  5. พอซับเอาคราบออกไปแล้ว ให้ล้างบริเวณนั้นอย่างเบามือ เพื่อกำจัดทั้งคราบรองพื้นและน้ำยาล้างจาน ถ้ายังเหลือคราบ ให้ซับด้วยผ้าอีกทีแล้วทำซ้ำตามขั้นตอน อาจจะต้องทำ 1 - 2 รอบกว่าคราบจะหายไป [14]
  6. อาจจะขจัดคราบรองพื้นก่อนซักด้วยน้ำยาซักผ้าก็ได้ แต่ต้องเช็คแท็กเสื้อและฉลากน้ำยาซักผ้าก่อน ว่าปลอดภัยต่อเนื้อผ้า ขจัดคราบเครื่องสำอางได้ ถ้าเป็นผ้าเนื้อบาง ต้องใช้น้ำยาซักผ้าแบบซักมือเท่านั้น [15]
    • ถ้ากลัวน้ำยาซักผ้ากัดเนื้อผ้า ให้ทดสอบแค่จุดเล็กๆ ก่อน
  7. พอขจัดคราบด้วยน้ำยาล้างจานหรือน้ำยาซักผ้าแล้ว ให้ซักเครื่องเพื่อขจัดทั้งคราบรองพื้นและน้ำยาอีกที ยังไงเช็คแท็กที่เสื้อผ้าก่อน ถ้าผ้าเนื้อบางก็ต้องซักมือ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ขจัดคราบรองพื้นแบบแป้งตลับ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าเป็นแป้งตลับก็ซักออกง่าย แต่ถ้าบี้ก็เลอะเทอะพอกัน! เพราะงั้นอย่าใช้แปรงปัดหรือขัดถู จะปลอดภัยกว่าถ้าขจัดผงแป้งโดยเป่าออก จะพ่นลมจากปากหรือใช้ไดร์เป่าก็ได้ อย่าลืมใช้ความร้อนต่ำสุด [16]
    • ถ้าแป้งหกใส่เสื้อผ้าแค่เล็กน้อย แค่เป่านิดเดียวก็แทบจะไม่เหลือคราบแล้ว แต่ถ้าผงแป้งบี้ไปกับเสื้อผ้าแล้ว ก็ต้องซักทำความสะอาด
  2. ถ้าเป็นรองพื้นแบบแป้ง ใช้แค่สบู่เหลวล้างมือหรือน้ำยาล้างจานที่ไม่แรงมากก็พอแล้ว โดยหยดใส่คราบไม่กี่หยดก็พอ [17]
    • ถ้ากลัวสบู่ทำเสื้อผ้าเป็นรอย ก็ทดลองใช้ก่อนแค่จุดเล็กๆ ที่ไม่สะดุดตา
  3. เอาฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำพอหมาด แล้วถูเบาๆ ที่คราบ ให้สบู่หรือน้ำยาซึมไปขจัดคราบได้ดียิ่งขึ้น จากนั้นเอาผ้าหรือฟองน้ำไปล้าง แล้วทำซ้ำเพื่อขจัดคราบน้ำยา [18]
  4. พอขจัดคราบแล้ว ให้ใช้ผ้าแห้งซับบริเวณนั้น แต่ห้ามถู เพราะจะทำผ้าเสียหรือยิ่งบี้คราบที่ยังหลงเหลือให้ฝังแน่น
  5. พอขจัดคราบแล้ว ก็ซักตามปกติได้เลย ยังไงเช็คแท็กที่เสื้อผ้าก่อน ถ้าผ้าเนื้อบางก็ต้องซักมือ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้ารองพื้นเนื้อลิควิดกระเด็นเปื้อนเสื้อผ้าเป็นก้อน ให้รีบตักออกจากขอบเข้ามา โดยใช้ช้อนหรือมีดทาเนยทื่อๆ แล้วค่อยซับ (ห้ามถู) ที่คราบด้วยผ้าสะอาดหรือทิชชู่ซับน้ำมันแผ่นหนา เสร็จแล้วก็ขจัดคราบตามปกติได้เลย [19]
  • ถ้าต้องสวมใส่ทันทีหลังขจัดคราบ ยังซักและรอแห้งไม่ได้ ให้ซับด้วยผ้าสะอาด แล้วเอาไดร์เป่าให้แห้ง
  • ถ้าผ้าเนื้อบาง น้ำกระเด็นใส่ก็เป็นรอยง่าย ให้กระจายคราบน้ำจากขอบออกมา โดยซับด้วยผ้าแห้ง ในลักษณะเช็ดขึ้น และออกจากศูนย์กลาง [20]
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามขจัดคราบด้วยน้ำยาล้างเครื่องสำอางแบบผสมน้ำมัน เพราะนอกจากคราบรองพื้นจะไม่หายแล้ว ยังได้คราบน้ำมันเพิ่มมาให้ปวดหัว! [21]
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

ขจัดคราบรองพื้นเนื้อลิควิดแบบไร้น้ำมัน

  • ครีมโกนหนวด
  • แอลกอฮอล์ล้างแผล
  • ผ้าแห้งและสะอาด หรือทิชชู่

ขจัดคราบรองพื้นเนื้อลิควิดแบบใช้น้ำมันเป็นตัวกลาง

  • น้ำยาล้างจาน
  • น้ำยาซักผ้า
  • ผ้าขนหนู หรือแปรงสีฟันขนนุ่ม
  • ผ้าแห้งและสะอาด หรือทิชชู่

ขจัดคราบรองพื้นแบบแป้งตลับ

  • ไดร์เป่าผม
  • สบู่ล้างมือหรือน้ำยาล้างจาน
  • ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูสะอาด เปียกหมาดๆ
  • ผ้าแห้งและสะอาด หรือทิชชู่

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,727 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา