ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
เป็นห่วงว่าคุณจะทำให้เสื้อตัวโปรดเลอะระหว่างทำงานศิลปะนะหรือ ไม่มีปัญหา เพราะด้วยวิธีการง่ายๆ ต่อไปนี้ คุณก็สามารถทำเองได้!
ขั้นตอน
-
ลงมือโดยเร็ว. ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนขจัดสีอะคริลิกบนผ้า ยิ่งลงมือไวก็ยิ่งประสบความสำเร็จ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ช้อนหรือมีดขูดสีที่ยังจับตัวเหนอะออกจากผ้า. ถ้าสียังไม่แห้ง ใช้กระดาษทิชชู่หรือผ้ามาตบเบาๆ เพื่อซับเนื้อสีที่เกินมา กุญแจสำคัญคือเอาสีออกให้มากที่สุดเท่าที่ยังทำได้- แปรงขนแข็งอาจช่วยได้ถ้าผ้านั้นหนา โดยเฉพาะหากสีหยดเป็นหย่อมใหญ่ แปรงยังเป็นตัวเลือกที่ดีแทนช้อนหากคุณรู้สึกอึดอัดที่ต้องใช้อุปกรณ์ทานอาหาร
-
อย่าตระหนก. อย่าเพิ่งยอมแพ้ถอดเสื้อทิ้งหรือหงุดหงิดใจ ต่อให้มันเป็นชุดโปรดคุณก็ยังช่วยมันพ้นจากการเกิดคราบได้ แค่ทำตามคำแนะนำโดยเร็ว
-
ใช้กระดาษทิชชู่แห้งซับเนื้อสีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้. แต่จะทำได้เฉพาะเมื่อสียังไม่แห้ง จำไว้ว่าต้องซับไม่ใช่ถู การซับจะขจัดสีส่วนเกินที่ยังไม่ซึมลงเนื้อผ้า การถูจะไปทำให้สีส่วนเกินกระจายเลอะไปในเนื้อผ้ามากขึ้น ทำให้ยิ่งขจัดคราบยากขึ้นไปอีก พอซับสีออกหมดให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ใช้ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์เช็ดบริเวณนั้นให้ชุ่ม. บริเวณที่เลอะสีนั้นควรจะอิ่มตัวแล้ว ฉะนั้นไม่ต้องใช้ปริมาณมาก คุณหาซื้อไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ได้ตามออนไลน์หรือร้านขายยาในราคาไม่แพง
-
ขูดสีออก. ใช้เล็บ กิ่งไม้ เหรียญ หรืออะไรก็ได้มาขูดสีออกและพยายามแงะมันออกจากเนื้อผ้า เวลาขูด ให้ขูดไปตามลายเนื้อผ้า แล้วย้อนกลับมา ถูไปมา ยกเนื้อสีออกมาจากเนื้อผ้าให้มากที่สุดก่อนทำขั้นตอนถัดไป [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
นำผ้าไปใส่ในเครื่องซักผ้า. ตั้งวงจรการซักตามที่คุณเคยใช้ซักผ้าชิ้นนั้น และซักด้วยผงซักฟอกทั่วไป หวังว่าเครื่องซักผ้าจะขจัดสีส่วนเกินที่คุณไม่สามารถเอาออกได้ด้วยการขูดหรือแอลกอฮอล์
-
ตากตามปกติ. หวังว่าคราบจะถูกยกออกทั้งจากแอลกอฮอล์และการซัก ถ้ายังไม่พอใจก็สามารถย้อนทำใหม่ตั้งแต่ต้น แต่มันอาจสายเกินไปเสียแล้วโฆษณา
-
แช่ผ้าส่วนที่เลอะในน้ำเย็น. แช่ลงในอ่างหรือถังที่เติมน้ำเย็น ทิ้งไว้สักนาทีก่อนทำขั้นตอนต่อไป คุณต้องการให้มันเปียกจนทั่ว
-
ผสมแอมโมเนีย 1 ถ้วย/240 มล. , น้ำส้มสายชูกลั่น 1 ถ้วย/240 มล. กับเกลือหนึ่งกำมือ. ผสมในชามอีกใบ คุณสามารถผสมตอนแช่ผ้าเพื่อประหยัดเวลา [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ปล่อยน้ำที่แช่ผ้าอยู่ทิ้ง. บิดผ้าให้น้ำออก พยายามเอาน้ำออกมาให้มากที่สุดน้ำจะได้ไม่ต้องหยดติ๋งๆ แต่ไม่ต้องห่วงถ้าหากมันยังเปียกหรือหมาด คุณต้องการให้มันหมาดอยู่แล้ว ถึงได้เอาผ้าไปแช่ไง
-
ใช้ผ้าที่ไม่เป็นขุยหรือฟองน้ำมาจุ่มในสารละลายแอมโมเนียกับน้ำส้มสายชู. นำผ้าหรือฟองน้ำนี้มาถูตรงรอยเลอะ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูแรงเกินไป จุ่มสารละลายบ่อยตามที่ต้องการจนกว่ารอยเลอะจะจางไป
-
ใช้น้ำล้างผ้าให้สะอาด. ตอนนี้ตรวจดูว่ารอยจางไปหรือยัง ทำซ้ำถ้ายังเห็น โดยหวังว่าพอทำซ้ำสักหนสองหนคราบจะหายไป คุณจะเห็นผลในทันที [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
นำผ้าที่ผ่านการถูแล้วใส่เครื่องซักผ้า. ซักตามปกติและตากให้แห้ง ตรวจดูอีกครั้งว่ายังเห็นคราบไหม ถ้ายังไม่พอใจก็ทำซ้ำแต่ผลที่ได้จะลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นโฆษณา
-
สลับเอาผ้าด้านในออก หรืออย่างน้อยก็ตรงส่วนที่เลอะ. ถือไว้ใต้ก๊อกน้ำที่เปิดน้ำอุ่นเพื่อให้มันชำระล้างสีออกไปเท่าที่จะทำได้
-
ผสมน้ำยาล้างจานหนึ่งส่วนกับน้ำอุ่นหนึ่งส่วน. นี่เป็นสารละลายที่คุณจะลองนำมาใช้เอาคราบสีออก วิธีนี้มีประโยชน์ตรงที่ส่วนใหญ่คุณมักจะมีน้ำยาล้างจานติดบ้านอยู่แล้ว [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
จุ่มผ้าที่ไม่เป็นขุยหรือฟองน้ำลงในสารละลาย. ซับบริเวณที่เลอะแรงๆ แต่หลีกเลี่ยงการถูเพราะจะทำให้เลอะยิ่งขึ้น อย่ากลัวที่จะใช้เล็บขูดสี พยายามเอาออกให้มากที่สุด
-
-
ซักตามปกติ. แค่ซักอย่างที่ปกติจะซักมัน ให้แน่ใจว่าผ้าซักเครื่องได้ นำไปตากตามปกติแล้วตรวจดูรอยเลอะอีกที หวังว่ามันคงหายไปโฆษณา
-
ซับรอยเปื้อนด้วยผ้าขี้ริ้วสะอาดหรือกระดาษทิชชู่เบาๆ. อย่าถูตรงสี ขั้นตอนนี้จะทำเฉพาะถ้าสียังไม่แห้งเท่านั้น [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ฉีดน้ำยาเช็ดกระจกหรือสเปรย์แต่งผมลงไปยังผ้าสะอาดหรือฟองน้ำ. วางบริเวณที่เปื้อนสีบนขวดน้ำยาล้างเล็บ ทำให้มันหมาดเล็กน้อยด้วยอะซีโทน ถ้าคุณมีน้ำยาเช็ดกระจกหรือสเปรย์แต่งผมอยู่ที่บ้าน ทั้งสองผลิตภัณฑ์สามารถใช้ขจัดคราบสีได้
- แนะนำให้คุณลองทำบนจุดที่ไม่เตะตาของผ้าชิ้นนั้นก่อน เพื่อความแน่ใจว่าผ้าสามารถรับสารเคมีในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้ได้ ถ้าไม่ได้ ให้ใช้วิธีอื่น
-
ถูรอยเปื้อนสีด้วยผ้าเปียกชื้น. วางผ้าเหนือรอยเปื้อนแล้วเริ่มถูขึ้นลง พยายามอย่าถูแรงเกินไป คุณไม่ต้องการจะทำให้รอยเปื้อนกระจาย จำไว้ว่าคุณสามารถใช้มีดหรือเล็บมาขูดเอาสีออกก่อนให้มากที่สุดจะใช้ผ้าเช็ดออก พยายามเลี่ยงไม่ให้รอยเปื้อนยิ่งกระจายตัว [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ซักทันที. สารผสมทำความสะอาดตัวนี้ต้องล้างออกทันทีก่อนจะทำให้ใยผ้าเสียหาย ซักตามปกติแล้วตากให้แห้ง มันควรจะขจัดคราบได้โฆษณา
เคล็ดลับ
- อย่าทิ้งให้สีแห้ง ถ้าสียังเปียกจะขจัดคราบออกง่ายกว่าตอนสีแห้งแล้วอย่างมาก
- ลองตรงจุดที่ไม่เตะตาบนผ้าชิ้นนั้นก่อนเสมอว่ามันได้ผลหรือไม่
- วิธีแก้ไขอีกทางให้เลือก: ใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อกับสเปรย์ทำความสะอาดครัว 409 แล้วใช้แปรงสีฟันถู นี่ได้ผลกับคราบที่สีแห้งและค้างอยู่บนเนื้อผ้าเป็นเดือน
- สารละลายทำความสะอาดชนิดใดก็ล้วนแต่มีความเสี่ยงทำให้รอยเปื้อนยิ่งแย่ไปใหญ่ได้ ขึ้นอยู่กับใช้อะไร ผ้าที่เลอะเป็นชนิดไหน และวิธีในการลงสารละลาย แต่ในเมื่อผ้ามันเลอะสีอยู่แล้ว ก็คุ้มพอจะเสี่ยงขจัดคราบออกล่ะ
- ผ้าที่ซักธรรมดาไม่ได้จะติดสีไปอย่างนั้น ลองเอาไปให้ร้านซักแห้งดูก็ได้ว่าจะพอแก้ไขอะไรได้ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ลองหาวิธีปกปิดที่สร้างสรรค์หน่อยหรือทำให้มันเป็นแฟชั่นผ้าเลอะสีไปเลย
- คุณอาจลองใช้น้ำยาล้างเล็บหรือทินเนอร์ก็ได้ แต่มันอาจทำให้ผ้าชิ้นนั้นเสียหายไปด้วย ให้ลองแต่กับผ้าเส้นใยธรรมชาติ และลองตรงจุดไม่เตะตาดูก่อน
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.cleanipedia.com/gb/laundry-washing/a-how-to-guide-to-getting-paint-out-of-clothes
- ↑ https://www.cleanipedia.com/gb/laundry-washing/a-how-to-guide-to-getting-paint-out-of-clothes
- ↑ http://www.thefrugallife.com/acrylic_paint.html
- ↑ http://www.ebay.com/gds/How-to-Remove-Acrylic-Paint-Out-of-Clothes-/10000000178258922/g.html
- ↑ https://www.cleanipedia.com/gb/laundry-washing/a-how-to-guide-to-getting-paint-out-of-clothes
- ↑ http://www.goodhousekeeping.com/home/stain-buster/stains-paint-latex-may07
- ↑ http://www.ebay.com/gds/Top-5-Ways-to-Remove-Acrylic-Paint-/10000000178722350/g.html
- ↑ http://www.goodhousekeeping.com/home/stain-buster/stains-paint-latex-may07
- ↑ http://www.goodhousekeeping.com/home/stain-buster/stains-paint-latex-may07
โฆษณา
