ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
เวลาน้องหมาน้องแมวอ้วกใส่พรม เจ้าของอย่างเราต้องไหวตัวทัน รีบกำจัดกองอ้วก ลดโอกาสการเกิดคราบฝังแน่น [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง กรดในอ้วกของสัตว์เลี้ยงทำร้ายเส้นใยของพรมได้ แต่ก็ทำความสะอาดได้ไม่ยากด้วย 2 - 3 วิธีในบทความวิกิฮาวนี้ ถ้าใช้น้ำยาขจัดคราบอ้วกโดยเฉพาะได้ (ทั้งแบบทำเองและสำเร็จรูป) จะดีที่สุด แต่ถ้าเป็นคราบฝังแน่น คงต้องใช้เครื่องซักพรมแทน
ขั้นตอน
-
เก็บอ้วกออกจากพรมให้ได้มากที่สุด โดยใช้ทิชชู่ซับน้ำมันแผ่นหนาๆ. [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง พับทิชชู่แห้ง 1 - 2 แผ่น แล้วขยุ้มกองอ้วกขึ้นมา แต่ระวังอย่าบี้เศษอ้วกลงไปกับพรม เพราะจะเป็นคราบฝังแน่นในเส้นใยได้
-
ทำความสะอาดคราบด้วยน้ำเย็น. เติมน้ำเย็นใส่ขวดสเปรย์ แล้วฉีดพ่นบริเวณที่เป็นคราบ ใช้ผ้าขนหนูกดซับคราบอ้วก จนไม่เหลือเศษอ้วก และพรมไม่เปียกชื้น [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แต่ละครั้งที่กดซับ ต้องสลับไปใช้ด้านที่ยังสะอาดของผ้า หรือเปลี่ยนผ้าผืนใหม่ ถ้าคราบกินบริเวณกว้าง
-
ผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะในน้ำอุ่น 2 ถ้วยตวง . [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง พอเหลือแต่คราบจางๆ แล้ว ก็ถึงเวลาผสมน้ำยาทำความสะอาดพรมใช้เอง ขั้นแรกให้อุ่นน้ำ 2 ถ้วยตวง โดยเทน้ำใส่ถ้วยหรือชามทนความร้อนใบใหญ่แล้วเอาใส่ไมโครเวฟ จากนั้นผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้เกลือละลายจนเข้ากัน
-
เติมน้ำส้มสายชูกลั่นขาว ½ ถ้วยตวง น้ำยาซักผ้า 1 ช้อนโต๊ะ และแอลกอฮอล์ล้างแผล 2 ช้อนโต๊ะ. ใส่ส่วนผสมที่ว่าในน้ำที่ผสมเกลือแล้ว จากนั้นคนให้เข้ากันในชามหรือถ้วย
-
เอาฟองน้ำล้างจานสะอาดๆ มาชุบน้ำยาทำเอง. ให้จุ่มฟองน้ำในน้ำยาซ้ำๆ จนชุ่ม แล้วใช้ทำความสะอาดคราบที่พรม ย้ำว่าถ้าคราบกินวงกว้าง ก็ต้องใช้ฟองน้ำมากกว่า 1 อัน
-
เช็ดอ้วกที่เหลือด้วยฟองน้ำ. เช็ดทั้งอ้วกและคราบด้วยฟองน้ำที่ชุบน้ำยาแล้ว โดยเช็ดสั้นๆ เร็วๆ ทุกครั้งที่เช็ด พยายามล้างหรือสลับไปจุดที่สะอาดของฟองน้ำ
- ทุกครั้งที่เช็ดคราบด้วยฟองน้ำ จะมีอ้วกติดไป และคราบจะจางลงเรื่อยๆ
- ถ้าสกปรกมาก ให้ล้างฟองน้ำในอ่างล้างจานด้วยน้ำอุ่น
- ทางที่ดีฟองน้ำที่เช็ดอ้วกสัตว์เลี้ยงแล้วให้ทิ้งไปเลย
-
โรยเบคกิ้งโซดาที่คราบ. [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง พอขจัดคราบอ้วกเรียบร้อยแล้ว ให้โรยด้วยเบคกิ้งโซดาให้ทั่วทั้งบริเวณที่เพิ่งทำความสะอาด เพื่อกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากพรม แถมช่วยให้พรมแห้งเร็วขึ้น
-
แห้งแล้วให้ดูดฝุ่นกำจัดเบคกิ้งโซดา. อาจจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงหน่อย กว่าเบคกิ้งโซดาที่พรมจะแห้ง หลังจากแห้งแล้วจะจับตัวเป็นก้อนเพราะดูดความชื้นขึ้นมา [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ระหว่างทำความสะอาด ต้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงเข้ามายุ่มย่าม พอแห้งแล้วให้รีบดูดฝุ่นกำจัดเบคกิ้งโซดาโฆษณา
-
ใช้ทิชชู่ซับน้ำมันแผ่นหนา เก็บอ้วกออกจากพรมให้ได้มากที่สุด. [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง พับทิชชู่แห้ง 1 - 2 แผ่น แล้วขยุ้มกองอ้วกขึ้นมา แต่ระวังอย่าบี้เศษอ้วกลงไปกับพรม ถ้าอ้วกเยอะเป็นกอง จะใช้ช้อนหรือมีดช่วยด้วยก็ได้
-
ซับน้ำที่เหลือด้วยทิชชู่หรือผ้าขี้ริ้ว. [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง กดซับคราบอ้วก จนไม่เหลือเศษอ้วก และพรมไม่เปียกชื้น แต่ละครั้งที่กดซับ ต้องสลับไปใช้ด้านที่ยังสะอาดของผ้า หรือเปลี่ยนผ้าผืนใหม่ ถ้าคราบกินบริเวณกว้าง
-
โรยเบคกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพด (corn starch) ที่คราบ. เพื่อดูดซับความชื้นที่เหลือ นอกเหนือจากด้านบนของพรม พยายามโรยเบคกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพดให้ทั่วถึง
-
แห้งแล้วให้ดูดฝุ่นกำจัดเบคกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพด. กว่าเบคกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพดจะแห้ง ก็ประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากแห้งแล้วจะจับตัวเป็นก้อนเพราะดูดความชื้นขึ้นมา พอแห้งแล้วให้รีบดูดฝุ่นกำจัดเบคกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพด อย่าให้เหลือเศษ
-
ลงน้ำยาทำความสะอาดพรมสูตรเอนไซม์. [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง น้ำยาแบบนี้จะรวมอยู่กับน้ำยาทำความสะอาดอื่นๆ ในชั้นซูเปอร์ใหญ่ๆ หรือในร้านขายของใช้สัตว์เลี้ยง แต่ย้ำว่าต้องอ่านฉลากให้ดีว่ามีเอนไซม์ เพราะจะไปทำให้โปรตีนของกลิ่นแตกตัว ขจัดกลิ่นได้แบบเห็นผล และขจัดคราบได้ดี ได้น้ำยาแล้วให้ฉีดพ่นจนคราบแฉะ
-
ทิ้งไว้ 1 - 2 ชั่วโมง. ที่ฉลากของน้ำยาอาจแนะนำให้ทิ้งไว้นานหรือน้อยกว่านั้น ก็ต้องศึกษาวิธีการใช้งานที่ฉลากให้ดี แต่ปกติฉีดพ่นแล้วทิ้งไว้ 1 - 2 ชั่วโมงก็ขจัดคราบและกลิ่นได้แล้ว
-
กันสัตว์เลี้ยงไว้ที่อื่นจนกว่าพรมจะแห้ง. [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แยกห้องเลยก็ดีระหว่างทำความสะอาด พอน้ำยาแห้งสนิทแล้ว พรมก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติโฆษณา
-
เช่าหรือหาซื้อเครื่องซักพรมมาใช้. [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง คราบบางชนิดก็ซึมลึกจนกำจัดด้วยน้ำยาผสมเองหรือกระทั่งน้ำยาทำความสะอาดสำเร็จรูปไม่ได้ ต้องพึ่งเครื่องซักพรมโดยเฉพาะถึงจะเอาอยู่ ง่ายกว่านั้นคือใช้บริการบริษัทรับทำความสะอาดพรม อีกทีคือซื้อหรือเช่าเครื่องซักพรมมาขจัดคราบเอง บริษัทที่ขายหรือให้เช่าเครื่อง ปกติจะมีน้ำยาเฉพาะที่ต้องใช้คู่กันด้วย [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ตามปกติเครื่องจะขายอยู่ที่ประมาณ 10,000 กว่าบาทขึ้นไปจนถึงหลายหมื่น ส่วนค่าเช่านั้น ต้องลองสอบถามบริษัทที่ให้บริการดู เพราะจะแตกต่างกันไป [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าใช้ไม่เป็นหรือกลัวทำอะไรผิดพลาด ปรึกษาบริษัทรับทำความสะอาดพรมโดยเฉพาะจะปลอดภัยกว่า
- หาคนช่วย เพราะต้องย้ายเฟอร์นิเจอร์และใช้เครื่องซักพรมที่ค่อนข้างจะใหญ่ ใช้งานคนเดียวยาก
-
หาซื้อน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะ. [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ปกติบริษัทที่ขายหรือให้เช่าเครื่องซักพรม จะมีน้ำยาเฉพาะแนะนำหรือขายคู่กันอยู่แล้ว ก็ให้ซื้อไปตามนั้น จะสะดวกและปลอดภัยกว่า
-
เคลียร์พื้นที่ อย่าให้เฟอร์นิเจอร์หรืออะไรมากีดขวาง. พอได้เครื่องซักพรมแล้ว ให้เคลียร์พื้นที่ก่อนลงมือทำความสะอาด อย่าลืมว่าซักพรมแล้วต้องทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมงจนพรมแห้ง เพราะงั้นต้องขยับเฟอร์นิเจอร์ไปไว้ที่อื่นระหว่างนั้น
-
เติมน้ำยาในเครื่อง. [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ส่วนใหญ่เครื่องซักพรมจะเป็นการขจัดคราบด้วยไอร้อน (water extraction unit หรือ steam cleaner) คือพ่นน้ำยาออกมาใส่พรม แล้วสกัดคราบสกปรกกลับเข้าไปในเครื่อง ขั้นแรกคือต้องเติมน้ำยาในถังของเครื่องซะก่อน
- บางทีก็มีถังที่ 2 ไว้ใส่น้ำสะอาด
- ปกติเครื่องซักพรมจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่น เพราะงั้นให้อ่านคู่มือก่อนลงมือใช้จริง
- ถ้าคราบกินวงกว้าง ควรเปลี่ยนน้ำยาที่สกปรกแล้วก่อนเริ่มทำความสะอาดต่อ
-
ทดสอบทำความสะอาดจุดเล็กๆ ของพรมก่อน ว่าพรมจะไม่ด่าง. [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ให้ทดสอบน้ำยาซักพรมแค่จุดเล็กๆ ที่ไม่เป็นที่สังเกตก่อน โดยเปิดเครื่องแล้วไถแค่สั้นๆ จากนั้นปิดเครื่อง แล้วเช็คว่าพรมสะอาดดี สีไม่ตกหรือด่างดวง พอน้ำยาโดนพรมแล้วให้รอ 2 - 3 นาที ถ้าพรมปกติดี แสดงว่าปลอดภัย ใช้ต่อได้เลย
-
เติมน้ำยาใหม่ในถัง และกำจัดน้ำยาที่สกปรก ถ้าจำเป็น. [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าน้ำยาในถังเริ่มสกปรก ให้ถอดถังมาเทน้ำยาทิ้ง จากนั้นเติมน้ำยาใหม่แล้วทำความสะอาดพรมต่อ แต่ถ้าห้องเล็ก คราบไม่กินวงกว้าง ก็รอบเดียวเสร็จ
-
เสร็จแล้วเททิ้งทั้งน้ำยาสะอาดและสกปรก. พอไถบริเวณที่เป็นคราบครั้งหนึ่งแล้ว ให้ปิดเครื่อง ถอดปลั๊ก แล้วเทน้ำยาทั้งสะอาดและสกปรกทิ้ง
-
เปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อให้พรมแห้งเร็วขึ้น. [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าอากาศร้อนจัด จะเปิดแอร์ช่วยด้วยก็ได้ แต่ถ้าอากาศข้างนอกเย็นสบาย ลมโกรกดี ก็ไม่เป็นไร ปกติประมาณ 24 ชั่วโมงพรมก็แห้งสนิทแล้ว
-
คืนเครื่องซักพรม. ถ้าเช่าเครื่องมา พอใช้งานเสร็จก็ส่งคืนบริษัทได้เลยโฆษณา
เคล็ดลับ
- ต้องรีบโกยอ้วกจากพรมให้เร็วที่สุด จะลดโอกาสการเกิดคราบได้
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- เบคกิ้งโซดา
- ทิชชู่ (ทิชชู่ซับน้ำมันแผ่นหนา) 1 ม้วน
- น้ำส้มสายชู
- แอลกอฮอล์ล้างแผล
- เกลือ
- ขวดสเปรย์
- น้ำ
- เครื่องทำความสะอาดพรมโดยเฉพาะ (เครื่องซักพรม)
- น้ำยาทำความสะอาดพรม
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.paw-rescue.org/PAW/PETTIPS/DogTip_Cleaning.php
- ↑ http://www.housecleaningcentral.com/en/cleaning-tips/pet-stains/removing-pet-stains-from-carpet.html
- ↑ http://www.howtocleanthings.com/stains/how-to-clean-vomit/
- ↑ http://www.howtocleanthings.com/stains/how-to-clean-vomit/
- ↑ http://www.howtocleanthings.com/stains/how-to-clean-vomit/
- ↑ http://www.howtocleanthings.com/stains/how-to-clean-vomit/
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-clean-vomit-off-carpet/
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-clean-vomit-off-carpet/
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-clean-vomit-off-carpet/
- ↑ http://pets.webmd.com/common-cat-messes
- ↑ http://www.housecleaning-tips.com/commercial-carpet-cleaners.html
- ↑ http://www.bhg.com/home-improvement/flooring/installation-how-to/how-to-clean-carpet/
- ↑ http://www.bissellrental.com/FAQ-Renting-a-Big-Green?cookie=1
- ↑ http://www.housecleaning-tips.com/commercial-carpet-cleaners.html
- ↑ http://www.bissellrental.com/cleaning_tips/How-to-Deep-Clean?cookie=1
- ↑ http://www.bhg.com/home-improvement/flooring/installation-how-to/how-to-clean-carpet/
- ↑ http://www.housecleaning-tips.com/commercial-carpet-cleaners.html
- ↑ http://www.rugdoctor.com/support/cleaning-tips
- ↑ http://www.bissellrental.com/cleaning_tips/How-to-Deep-Clean?cookie=1
- ↑ http://www.rugdoctor.com/support/cleaning-tips
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,687 ครั้ง
โฆษณา