ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เป็นเมนส์ทีไรเป็นต้องเลอะเทอะ โดยเฉพาะวันมามาก นอกจากเซ็งแล้วยังต้องรีบหาทางซักทำความสะอาดให้กางเกงในกลับมาสภาพดีเหมือนเดิม ซึ่งคุณก็ขจัดคราบเลือดได้หลายวิธีด้วยกัน บางวิธีถึงจะเป็นเลือดแห้งเกรอะกรังก็เอาอยู่

  1. ยิ่งซักทำความสะอาดเร็ว ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสขจัดคราบได้หมดจด
  2. เพราะถ้าใช้น้ำร้อนหรือน้ำอุ่น จะไปทำให้คราบเซ็ตตัว ยิ่งฝังแน่นยากจะกำจัด
  3. ตากไว้ให้แห้ง ถ้ายังเหลือคราบหลังลองทำตามขั้นตอนแล้วแต่ไม่ได้ผล. เพื่อไม่ให้คราบเซ็ตตัว ย้ำว่าห้ามเอาเข้าเครื่องอบผ้าเด็ดขาด ทำได้เฉพาะหลังกำจัดคราบจนพอใจแล้วเท่านั้น
    โฆษณา
วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 7:

ซักด้วยน้ำเย็นจัดกับสบู่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปิดน้ำเย็นจัดใส่อ่างล้างจานหรืออ่างล้างหน้าที่สะอาด. ยิ่งน้ำเย็นเท่าไหร่ยิ่งดี
  2. จุ่มลงไปแล้วขยี้เน้นๆ พยายามขจัดคราบให้ได้มากที่สุด จะใช้สบู่ เช่น สบู่ล้างมือหรือสบู่ขจัดคราบก็ได้
  3. ล้างน้ำ ถ้าคราบหายไปก็เตรียมตากได้เลย แต่ถ้ายัง ก็ทำซ้ำตามขั้นตอน
  4. จะตากหรือเอาเข้าเครื่องอบผ้าก็ได้ ถ้าต้องใช้ด่วน ก็อาจจะเอาไดร์จ่อแล้วเป่าให้แห้งแทน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 7:

ซักเครื่อง

ดาวน์โหลดบทความ

วิธีนี้เฉพาะกางเกงในที่ซักเครื่องได้เท่านั้น ถึงจะไม่ละเอียดเท่าซักมือ เพราะไม่มีการขยี้เน้นที่คราบ แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องอาจหลงเหลือรอยจางๆ ขอแค่ได้ใช้กางเกงในสะอาด ก็ใช้วิธีนี้ได้เลย วิธีนี้ออกจะเปลืองน้ำอยู่สักหน่อย ถ้าซักแค่กางเกงในตัวเดียว เพราะงั้นให้หาอะไรมาซักด้วยจะดีกว่า

  1. ซักเครื่องโดยตั้งค่าให้ใช้น้ำเย็นจัด แต่ระดับน้ำไม่ต้องมาก. ใส่น้ำยาซักผ้าตามปกติ อาจจะใช้น้ำยาขจัดคราบเฉพาะที่ฉีดพ่นก่อนก็ได้
    • เดี๋ยวนี้มีน้ำยาขจัดคราบเมนส์โดยเฉพาะ กระทั่งใช้กับการซักเครื่อง ยังไงลองหาซื้อมาใช้ดู
  2. โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 7:

ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

ดาวน์โหลดบทความ

เหมาะกับผ้าขาวเท่านั้น

แช่ผ้า

  1. ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1/4 กับน้ำเย็นใส่น้ำแข็ง 3/4 ในชามหรืออ่างล้างมือ/อ่างล้างจาน.
  2. กดให้จมแล้วแช่ทิ้งไว้ 30 นาทีขึ้นไป
  3. ถ้าจางไปเยอะ ก็เอาไปล้างน้ำได้เลย แต่ถ้ายังชัดเจน ให้แช่ต่ออีกหน่อย
  4. เท่านี้คราบก็หายไปแล้ว
    โฆษณา

ซักผ้า

  1. จากนั้นบิดหมาด
  2. คราบเลือดจะหลุดติดออกมาเลย
  3. แล้วตากหรือเอาเข้าเครื่องอบผ้า
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 7:

ใช้น้ำยาฟอกขาว

ดาวน์โหลดบทความ

เหมาะกับผ้าขาวที่ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แล้วยังทิ้งคราบไว้

  1. ผสมน้ำยาฟอกขาว 1 ส่วน กับน้ำเย็นจัด 6 ส่วนในถังน้ำ อ่างล้างมือ/ล้างจาน หรือภาชนะอื่น.
  2. ทิ้งไว้ 2 - 3 ชั่วโมง
  3. ถ้าสะอาดดี ก็เอาไปซักแล้วตากหรืออบในเครื่องตามปกติ แต่ถ้ายังเหลือคราบ ก็แช่ต่อไป
    • ระวังอย่าให้กระเด็น เพราะน้ำยาฟอกขาวจะกัดสีทุกอย่างที่โดน
  4. รีบล้างมือหลังแตะต้องน้ำยาหรือแช่ผ้าในน้ำยาฟอกขาวที่ผสมไว้. ถ้าสวมถุงมือแต่แรกจะดีที่สุด
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 7:

ใช้เกลือถ้าเป็นผ้าสี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผสมน้ำเย็นจัด 2 ส่วน กับเกลือ 1 ส่วน ในอ่างล้างมือหรือถังน้ำ.
  2. เกลือจะเป็นสารขัดถู ช่วยให้คราบออกง่ายขึ้น
  3. ซักแล้วตากหรืออบในเครื่องตามปกติ
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 7:

ซักด้วยผงล้างจาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โรยแค่นิดเดียว แล้วขัดถูให้ทั่วคราบ
  2. หรือทำซ้ำถ้ายังเหลือคราบ
  3. โฆษณา
วิธีการ 7
วิธีการ 7 ของ 7:

ใช้ผงหมักเนื้อ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผสมน้ำยาจากผงหมักเนื้อนุ่ม 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำเย็นใส่น้ำแข็ง 2 ช้อนโต๊ะ. ผสมให้เข้ากันจนได้ paste เหนียวข้น
  2. เอา paste ที่ได้จากการผสมผงหมักเนื้อไปทาให้ทั่วคราบ. ทิ้งไว้ 1 - 2 ชั่วโมง ให้คราบละลาย ลอยตัวจากเส้นใยผ้า
  3. จะซักมือหรือซักเครื่องก็ได้ โดยใช้น้ำยาซักผ้าตามปกติ
  4. โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าใช้กางเกงในสีเข้มหรือสีดำ จะช่วยซ่อนคราบได้ดี เป็นอีกทางเลือกของคนที่มักมีวันมามาก เผื่อซักกางเกงในสะอาดแล้วแต่ยังเหลือคราบจางๆ จะได้ไม่เป็นปัญหา
  • ถ้าใครชอบอาบน้ำเย็นเป็นพิเศษ ก็ซักกางเกงในไปด้วยพลางๆ เลย ให้ใช้สบู่อาบน้ำแล้วขยี้เน้นๆ
  • ถ้าเป็นคราบเก่าที่ฝังแน่นไปแล้ว คงต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ขายกันเพราะจะแรงกว่า โดยเฉพาะเน้นกำจัดคราบเลือดโดยเฉพาะ
  • ถ้ากางเกงในเปื้อนเลือดมาพักหนึ่งแล้วจนแห้งกรัง ก็ซักและอบในเครื่องได้เลย ถึงจะเหลือคราบจางๆ แต่อย่างน้อยก็หอมสะอาดแน่นอน สะดวกกว่าด้วย
  • ถ้าซักมือ ไม่ต้องใช้สบู่ก็ได้ แค่น้ำกับอะไรที่ใช้ขัดถูก็พอ
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามซักน้ำร้อน เพราะคราบเลือดจะฝังแน่นในเส้นใยผ้าทันที
  • ห้ามเอาผ้าเข้าเครื่องอบผ้าจนกว่าจะแน่ใจว่าหมดคราบหรือคราบจางลงจนพอใจแล้ว
  • ถึงจะซักและอบในเครื่อง ก็ยังอาจหลงเหลือคราบเป็นจุดเล็กๆ ได้ (ถ้าซักและอบหลังเลอะไปได้ 1 วัน)
  • ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จะกัดสีผ้าบางชนิดได้ โดยเฉพาะผ้าสีเข้ม
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • น้ำ
  • สบู่หรือน้ำยาซักผ้า
  • ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (ถ้าจำเป็น)
  • เครื่องซักผ้า
  • เครื่องอบผ้า

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,930 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา