ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
โอ๊ะ ไม่นะ! เจ้าเหมียวมันดันมาฉี่บนพรมแทนที่จะเป็นในกระบะทรายของมัน หรือบางทีคุณอาจต้องเจอที่นอนเปียกฉี่บ่อยๆ เมื่อต้องหัดลูกน้อยให้เริ่มแยกนอนคนเดียว ไม่ว่าจะแบบไหน การทำความสะอาดคราบปัสสาวะนั้นไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการขจัดคราบ และ กลิ่นของปัสสาวะให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้จึงเป็นเรื่องสำคัญ โชคยังดีที่หากคราบเพิ่งเกิดใหม่ๆ หรือเพิ่งซึมไปไม่นาน ทางแก้นั้นยังมีอยู่
ขั้นตอน
-
ใช้ผ้าขี้ริ้วเก่าหรือกระดาษทิชชู่มาซับปัสสาวะให้มากเท่าที่จะทำได้. ซับไปจนกระทั่วบริเวณนั้นแค่ชื้นๆ
-
วางผ้าขี้ริ้วเก่าและ/หรือกระดาษทิชชู่ไว้บนบริเวณที่เกิดคราบ. ปิดทับด้วยหนังสือพิมพ์ ขึ้นไปย่ำบนหนังสือพิมพ์อย่างน้อยสักหนึ่งนาทีเพื่อรีดความชื้นออกมาให้มากที่สุด เมื่อทำเสร็จแล้วเวลาเหยียบบริเวณนั้นเสียงควรจะฟังดูแห้ง -
วางผ้าขี้ริ้วเปียกนั้นในบริเวณที่คุณต้องการให้สัตว์เลี้ยงของคุณปัสสาวะ ไม่ว่าจะข้างนอกบ้านหรือภายในถาดกระบะทราย
-
ล้างบริเวณนั้นด้วยน้ำเย็นที่สะอาด. ทำบ่อยๆ และซับน้ำออกในแต่ละครั้งให้มากที่สุดโดยใช้ผ้าขี้ริ้วหรือเครื่องดูดฝุ่นชนิดเปียก
-
อีกทางเลือกคือลงน้ำยาขจัดคราบของสัตว์เลี้ยงลงบนบริเวณนั้น. ในขณะที่มันดูเหมือนว่าเราขจัดคราบปัสสาวะออกไปแล้ว แต่มันอาจมีร่องรอยทิ้งไว้ที่พรมซึ่งอาจไปกระตุ้นสัตว์เลี้ยงของคุณให้มาปัสสาวะที่เดิมนั้นอีก การใช้น้ำยาขจัดคราบซึ่งจะไปขจัดเอนไซม์จะทำให้โมเลกุลกลิ่นแตกตัว ช่วยลดความดึงดูดใจของสัตว์เลี้ยงที่มีต่อจุดนั้นลง
-
ลองสารละลายน้ำส้มสายชู. เติมน้ำส้มสายชูกลั่นให้เต็มขวดหัวฉีด ฉีดตรงบริเวณที่เกิดคราบแล้วใช้แปรงถู ทิ้งไว้จนเมื่อสารละลายซึมเข้าไปในบริเวณนั้นหมดแล้ว ให้ใช้เครื่องทำความสะอาดแบบอบไอน้ำหรือเครื่องดูดฝุ่นชนิดเปียก
- อย่าเริ่มด้วยน้ำส้มสายชู . ถึงจะมีประสิทธิภาพเหมือนกับน้ำยาขจัดคราบ แต่น้ำส้มสายชูนั้นจะทำให้รอยคราบนั้น "ติดแน่น" เหมือนกับที่มันทำให้สีติดเปลือกไข่ในเทศกาลอีสเตอร์ ใช้น้ำส้มสายชูก็ต่อเมื่อเหนื่อยหน่ายกับทางเลือกอื่นแล้ว และโดยเฉพาะในยามที่คุณต้องการแค่ให้กลิ่นหายส่วนรอยนั้นพอรับได้
-
ใช้ผงฟูหรือแป้งข้าวโพดในการทำให้กลิ่นจางหาย. เทผงฟูหรือแป้งข้าวโพดลงไปตรงบริเวณที่เกิดคราบจนมันปิดทับบริเวณนั้นจนสนิท ใช้แปรงถูให้ผงฟูหรือแป้งข้าวโพดเข้าเนื้อ ทิ้งให้มันดูดซับกลิ่นนานได้ถึง 24 ชั่วโมง วันต่อมาค่อยเอาเครื่องดูดฝุ่นมาดูดผงฟูกับแป้งข้าวโพดที่เหลืออยู่ได้
- หากความเสียหายนั้นหนักมาก ให้ลองผสมทั้งสองอย่างนี้กับน้ำสักเล็กน้อยจนกลายสภาพคล้ายแป้งเปียกแล้วนำมาถูลงตรงคราบ ทิ้งไว้ข้ามคืนและใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออกในวันรุ่งขึ้น
-
ลองผลิตภัณฑ์ขจัดคราบควบคู่กับผงประสานทองที่ใช้ในการซักผ้าสำหรับขจัดคราบบนพรมแบบตะวันออก. ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดคราบสูตรอ่อนโยนเพื่อแช่ผ้าขี้ริ้วสะอาด นำผ้ามาวางบนพรม แล้วใช้ด้านหลังของช้อนถูผลิตภัณฑ์กำจัดคราบลงบนพรม [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง พอทาผลิตภัณฑ์กำจัดคราบแล้ว โรยผงประสานทองลงบนคราบ ปิดด้วยผ้าขี้ริ้ว แล้วหาหนังสือเล่มหนาๆ มาวางทับ ทิ้งไว้ข้ามวันแล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดผงประสานทองที่เหลือออก
-
ล้างบริเวณนั้นอีกครั้งถ้าจำเป็น. ล้างด้วยน้ำ และถ้าจำเป็นก็ทำซ้ำ คราบบางอย่างอาจต้องขจัดหลายหน ถึงแม้ส่วนใหญ่จะสลายไปเมื่อใช้สารละลายทำเองที่มีฤทธิ์รุนแรงเหล่านี้โฆษณา
-
ใช้แสงแบล็คไลท์ในการหาคราบ. แล้วใช้ชอล์กวงรอยคราบซึ่งตาเรามองไม่เห็นนี้เพื่อที่คุณจะไม่พลาดตรงจุดไหนไป
-
ใช้น้ำอุ่นทำให้บริเวณที่เกิดคราบเปียกแล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นชนิดเปียก. อย่า ใช้น้ำร้อนหรือพวกอบไอน้ำ ความร้อนจะทำให้โปรตีนในปัสสาวะเกาะติดกับพรม ทำให้ขจัดออกได้ยาก ถ้าคุณไม่มีเครื่องดูดฝุ่นชนิดเปียก ก็สามารถเช่าได้
-
ใช้ส่วนผสมระหว่างเปอร์ออกไซด์ ผงฟู และน้ำยาล้างจานเพื่อกำจัดกลิ่น. ไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์กับผงฟูนั้นเป็นสารซักฟอกที่ขึ้นชื่อทั้งคู่ ผสมมันเข้าด้วยกันพร้อมน้ำยาล้างจานไม่กี่หยดแค่นี้ก็ลุยได้เลย เทลงในขวดหัวฉีด ฉีดลงไปแล้วใช้แปรงหรือฟองน้ำถูตรงคราบ ทิ้งไว้ 10 ถึง 20 นาทีแล้วตรวจดู ในการทำสารละลายไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์นั้น ให้นำส่วนผสมดังต่อไปนี้มาใส่ในขวดหัวฉีด:
- เปอร์ออกไซด์ 240 มิลลิลิตร
- ผงฟู 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำยาล้างจานอะไรก็ได้ 2-3 หยด [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบสัตว์เลี้ยง. ควรจะใช้มันแบบเดียวกับที่ใช้ในคราบที่ยังเปียก
-
ลองสารละลายแอมโมเนียก่อนใช้สารละลายไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์/ผงฟู. ถ้าปัญหาอยู่ที่คราบ ลองใช้น้ำแอมโมเนียลงบนบริเวณนั้นก่อน (ไม่ว่าจะเป็นพรมหรือผ้า) โดยน้ำเย็นหนึ่งถ้วยให้ใช้แอมโมเนีย 2 ช้อนโต๊ะผสม [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แล้วใช้ขวดหัวฉีดฉีดลงบนบริเวณนั้นจนทั่ว ใช้แปรงถู ทิ้งไว้อย่างน้อย 45 นาทีก่อนใช้สารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ตามที่บอกข้างบน
-
ใช้แชมพูสระพรมโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นชนิดเปียก. มีแชมพูหลายยี่ห้อที่ทำขึ้นเพื่อขจัดคราบของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ให้แน่ใจว่าได้ทำทั่วบริเวณ และเมื่อทำเสร็จ ก็เอาแชมพูออกจากพรม
-
ล้างบริเวณนั้นอีกรอบถ้าจำเป็น. คุณควรประสบความสำเร็จ ทั้งคราบทั้งกลิ่นควรถูกขจัดหายไปหมดโฆษณา
เคล็ดลับ
- แสงแดดกำจัดกลิ่น ฉะนั้นถ้าสามารถเอาออกไปนอกบ้านได้ ก็ทิ้งไว้สักสองสามวัน แต่ระวัง แสงแดดทำให้สีซีดได้เช่นกัน
- เวลาเลือกผลิตภัณฑ์กำจัดคราบและกลิ่นแบบสลายเอนไซม์นั้น ให้แน่ใจว่ามันมีส่วนผสมของ "แบคทีเรียเป็นมิตร" แบคทีเรียพวกนี้จะช่วยกำจัดกลิ่นและคราบ
- ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์สลายเอนไซม์ก็ไม่ควรต้องขัดถูมัน จำไว้เลยว่าคุณแค่ต้องการทาให้มันได้สัมผัสกับผลึกกรดยูริกที่หลงเหลือจากปัสสาวะ อย่าหวงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ไม่งั้นจะเสียทั้งเงินทั้งเวลาเปล่า! หากคราบและกลิ่นติดมานานแล้ว คุณอาจต้องทำซ้ำถึงสองรอบ
- น้ำส้มสายชูกับน้ำผสมกันจะช่วยทำให้กลิ่นจางลงเหมือนกัน
- ถ้าคุณเผลอฉี่รดที่นอนและโตเกินจะบอกพ่อแม่ ก็นำที่นอนมาซัก ทำให้เหมือนกับคุณช่วยผ่อนแรงท่านช่วยทำงานบ้าน...
- ถ้าคุณทำความสะอาดฉี่แมว หลีกเลี่ยงการใช้แอมโมเนียหรือน้ำส้มสายชู กลิ่นพวกนี้คล้ายคลึงกับฉี่แมว จึงอาจไปกระตุ้นให้แมวมาฉี่ที่เดิมอีก
- อย่าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ทำอะไร อย่างแรก มันดูแหวะมาก สองคือคนอื่นอาจสังเกตเห็นได้ สามคือคุณอาจเกิดป่วย ยูรีนในปัสสาวะที่ร่างกายเราขับออกมานั้นมีอันตรายและไร้ประโยชน์ ถ้าเกิดมันเป็นแบบแรก การทิ้งไว้ย่อมไม่ใช่ความคิดที่ดี
โฆษณา
คำเตือน
- คำเตือน! หลีกให้ห่างจากพวกผลิตภัณฑ์ราคาถูกที่อวดอ้างประสิทธิภาพ มันไม่ได้ผล! แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเสียเงินแพงๆ ยังมีผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นแบบสลายเอนไซม์ที่มีราคาต่ำกว่าพันอยู่
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/removing-urine-from-carpet/
- ↑ http://www.thriftyfun.com/Cleaning-Urine-Stains-from-a-Mattresses-Guide.html
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-remove-urine-stains-from-clothing/#RemovingUrineStainswithAmmonia
- http://www.humanesociety.org/animals/resources/tips/removing_pet_stains_odors.html
โฆษณา
