ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
โดยธรรมชาติแล้ว รอยปากกามาร์คเกอร์ชนิดหมึกติดถาวรนั้นเป็นคราบที่ขจัดยาก แน่นอนล่ะเพราะมันถูกสร้างขึ้นมาให้ติดทน ถ้าคุณมีรอยปากกามาร์คเกอร์บนพื้นผิวของข้าวของภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อผิวหรือเนื้อผ้า มันยังมีทางสามารถขจัดออกได้ อาจจะไม่การันตีผลลัพธ์ว่าจะออกมาดีเสมอไป แต่ถ้าข้าวของชิ้นนั้นเป็นของที่เสียไปแล้ว มันก็คุ้มที่จะลองเสี่ยงดู
ขั้นตอน
-
ใช้แอลกอฮอล์. ไปหาเหล้าสักหน่อย เบอร์เบิ้นก็เข้าท่าดี โดยเฉพาะระดับ 50.5 ดีกรี ไม่ว่าเหล้าอะไรที่เข้มเกิน 40 ดีกรีล้วนใช้ได้ทั้งนั้น แต่รับบิ้งแอลกอฮอล์จะได้ผลดีกว่า ใช้ผ้าขี้ริ้วสะอาดชุบแอลกอฮอล์แล้วถูตรงรอยปากกา [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง <i>Stain Removal</i>, p. 24, (2009), ISBN 978-1-84397-443-7
-
ใช้ยาสีฟันผสมผงฟู. ผสมผงฟูหนึ่งส่วนกับยาสีฟันหนึ่งส่วนลงในถ้วยใบเล็ก ทาส่วนผสมดังกล่าวลงบนคราบโดยตรงและทิ้งไว้สักสองสามนาที หาผ้าขี้ริ้วที่สะอาดและเปียกหมาดๆ มาใช้ถูส่วนผสมกับรอยปากกาในลักษณะวนเป็นวงกลม อาจต้องออกแรงสักหน่อยแต่รอยน่าจะจางหาย -
ใช้ยางลบมหัศจรรย์. ยางลบมหัศจรรย์เป็นแผ่นทำความสะอาดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อขจัดคราบบนพื้นผิวหลากหลายลักษณะ ที่คุณต้องทำก็แค่ทำให้ยางลบมหัศจรรย์นี้เปียกสักเล็กน้อยแล้วถูกับรอยปากกาบนพื้นผิวได้เลย [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ WD-40. WD-40 เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในท้องตลาดที่ใช้ได้อเนกประสงค์ ฉีดเจ้า WD-40 ลงบนรอยปากกาตรงๆ แล้วถูออกด้วยผ้าสะอาด
-
ใช้มาร์คเกอร์ลบรอยแบบแห้ง. มาร์คเกอร์ลบรอยแบบแห้งสามารถนำมาใช้ขจัดรอยได้บนหลายลักษณะพื้นผิว และมันใช้ได้ผลดีบนกระดานไวท์บอร์ด ทั้งนี้เนื่องมาจากมาร์คเกอร์ลบรอยแบบแห้งนั้นมีส่วนผสมของตัวทำละลายชนิดไม่มีขั้ว แค่วาดทับรอยมาร์คเกอร์เดิมด้วยมาร์คเกอร์ลบรอยแบบแห้งแล้วเช็ดออก [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ยางลบดินสอ. ในบางกรณี มันก็เป็นไปได้ที่จะขจัดรอยมาร์คเกอร์โดยใช้แค่ยางลบดินสอลบออก
-
ใช้ครีมหรือโลชั่นกันแดด. มีบางคนอ้างว่าครีมกันแดดเป็นเครื่องมือขจัดรอยบนพื้นผิวเรียบไม่มีรูพรุนอย่างได้ผล แค่ฉีดหรือป้ายครีมกันแดดบนคราบรอยแล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดออก
-
ใช้น้ำยาล้างเล็บ. จุ่มผ้าสะอาดด้วยน้ำยาล้างเล็บเพียงเล็กน้อยแล้วถูจนรอยปากกาหายไปโฆษณา
-
ใช้น้ำยาฟอกขาวเพื่อขจัดรอยปากกามาร์คเกอร์บนผ้าขาว. นำน้ำยาฟอกขาวสักเล็กน้อยมาละลายให้เจือจางในน้ำและจุ่มส่วนของผ้าที่ติดหมึกลงในของเหลวนี้ รอยน่าจะถูกขจัดออกในทันที หรือไม่ก็ต้องแช่จนชุ่ม
- ถ้าจำเป็นต้องแช่ผ้าไว้ จับตาดูเนื้อผ้าว่าน้ำยาฟอกขาวไม่ไปกัดสีผ้าด้วย
- พอรอยปากกาถูกขจัดออกไป ให้นำผ้ามาซักตามขั้นตอนปกติทันที
-
ใช้ส่วนผสมระหว่างน้ำส้มสายชู, น้ำนม, น้ำประสานทอง และน้ำมะนาวสำหรับผ้าซาติน. ผ้าซาตินตอบสนองเป็นอย่างดีต่อส่วนผสมที่เกิดจากน้ำนมและน้ำส้มสายชูกลั่นอย่างละหนึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำประสานทองและน้ำมะนาวอย่างละหนึ่งช้อนชา [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Angela Martin, <i>Natural Stain Remover</i>, p. 101, (2009), ISBN 978-1-74110-8323
- ผสมส่วนผสมเหล่านี้ในถ้วยใบเล็ก แล้วเทลงบนคราบโดยตรง ทิ้งไว้ราว 10 นาที
- ใช้ฟองน้ำสะอาดจุ่มน้ำให้ชุ่มมาป้าย (ไม่ใช่ถู) ลงบนเนื้อผ้าจนกระทั่งรอยคราบหายไป
-
ใช้รับบิ้งแอลกอฮอล์หรืออะซีโทนบนผ้าหนา. คราบบนผ้าที่มีความหนากว่า อย่างเช่น ผ้าเช็ดตัวหรือผ้าปูที่นอนนั้น สามารถขจัดออกได้โดยใช้อะซีโทนหรือรับบิ้งแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อย แค่เทของเหลวอย่างใดอย่างหนึ่งนี้ลงบนก้อนสำลีสะอาดแล้วเอามาซับบริเวณที่เกิดคราบจนกระทั่งจางหายไป นำผ้าไปซักทันที
-
ใช้น้ำผลไม้ประเภทซิตรัสบนเสื้อผ้าทั่วไป. น้ำผลไม้ที่มีกรดซิตรัสหรือกรดมะนาว อย่างเช่นที่ได้จากผลมะนาวหรือเลมอน สามารถนำมาใช้ขจัดรอยปากกามาร์กเกอร์บนผ้าธรรมดาทั่วไปโดยไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดรอยด่างหรือเลอะเป็นคราบ แค่นำน้ำที่เพิ่งคั้นสดมาเทบริเวณที่เกิดรอยแล้วใช้สำลีหรือผ้าสะอาดคอยซับจนรอยหายไป
- สำหรับผ้าที่เนื้อบอบบางกว่านั้น ให้เจือจางความเข้มข้นของน้ำกรดซิตรัสลงไปครึ่งหนึ่งด้วยการผสมน้ำก่อน นำผ้าไปซักในทันที
-
ใช้รับบิ้งแอลกอฮอล์หรือสเปรย์แต่งผมสำหรับขจัดรอยหมึกบนผืนพรม. รินรับบิ้งแอลกอฮอล์ลงบนผ้าสะอาด ซับผ้าลงบนคราบหมึกบนพรม สำหรับรอยหมึกบนพรมนั้น “ห้าม” ถูโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นจะยิ่งทำให้รอยหมึกยิ่งกระจายออกและทำให้พรมบางลงได้ ให้ซับจนกระทั่งรอยหมึกหายไป [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง <i>Stain Removal</i>, p. 24, (2009), ISBN 978-1-84397-443-7
- อีกทางเลือกให้ฉีดสเปรย์แต่งผมลงบนรอยหมึกแล้วใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับมันออก
- เมื่อรอยหมึกถูกขจัดออก (ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน) ให้ใช้น้ำสักเล็กน้อยทำให้ผืนพรมพอเปียกหมาดๆ แล้วใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับให้แห้ง
โฆษณา
-
ใช้สเปรย์แต่งผมชนิดเป็นละอองบนเครื่องเรือนบุหนัง. ฉีดสเปรย์แบบเป็นละอองลงบนผ้าสะอาดและใช้มันถูบนรอยหมึก คุณอาจจำเป็นต้องใช้สเปรย์ปริมาณมากหรือเปลี่ยนไปใช้ผ้าส่วนที่สะอาดกว่าก่อนที่รอยหมึกจะถูกขจัดแบบหมดจด
- พอรอยหมึกจางหายไป ให้ใช้ผ้าสะอาดแบบเปียกหมาดๆ มาเช็ดคราบฟองสเปรย์และใช้น้ำยาปรับสภาพเครื่องหนังกับเครื่องเรือนชิ้นนั้น
-
ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และรับบิ้งแอลกอฮอล์บนเครื่องเรือนที่บุด้วยไมโครไฟเบอร์. จะขจัดรอยหมึกบนเครื่องเรือนบุไมโครไฟเบอร์นั้น ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ปริมาณเล็กน้อยลงบนผ้าขนหนูสะอาดแล้วถูตรงรอยหมึกเป็นเวลา 10-15 นาที
- จากนั้น ใช้รับบิ้งแอลกอฮอล์บนผ้าขนหนูอีกผืนถูรอยหมึกเป็นเวลา 10-15 นาที
- ใช้ผ้าขนหนูสะอาดผืนที่สามชุบน้ำพอหมาดๆ ทำความสะอาดรอยหมึกที่เหลือ ใช้ผ้าขนหนูผืนที่แห้งซับบริเวณนั้นให้แห้ง
-
ใช้น้ำยาเช็ดกระจก, รับบิ้งแอลกอฮอล์หรือน้ำยาล้างเล็บบนเครื่องเรือนอื่นๆ. เครื่องเรือนที่บุด้วยวัสดุอื่นมักจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อน้ำยาขจัดคราบจำพวกน้ำยาเช็ดกระจก, รับบิ้งแอลกอฮอล์หรือน้ำยาล้างเล็บ ทั้งหมดนี้ใช้วิธีการเดียวกัน:
- ใช้น้ำยาทำความสะอาดตัวที่คุณเลือกมาลงบนผ้าขนหนูแห้งสะอาดและนำมาซับบนรอยหมึก (อย่าเช็ด) จนกระทั่งสะอาด บางคนแนะนำว่าให้ใช้ผ้าขนหนูที่มีสีเดียวกับสีวัสดุบุเครื่องเรือนนั้นจะได้ผลดีที่สุด
- คุณอาจจำเป็นต้องใช้น้ำยาใส่ส่วนอื่นของผ้าขนหนูแล้วซับหลายๆ ครั้งจนกว่ารอยจะถูกขจัดออก เพียงแต่อย่าทำให้ผืนผ้าชุ่มไปด้วยน้ำยา เพราะมันจะทำให้เกิดคราบขึ้นได้
- พอรอยหมึกถูกขจัดออก ให้ใช้ผ้าขนหนูแห้งสะอาดเช็ดรอยชื้นที่เหลือออก ถ้าเป็นไปได้ให้นำเครื่องเรือนออกไปตากให้แห้งนอกบ้าน
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ลองใช้ไอโซโพรพานอลแอลกอฮอล์ชนิด 99%, เอธิลแอลกอฮอล์ 95%, ทินเนอร์ผสมสีอะซีโทนหรือแม้กระทั่งน้ำมันพืชดูถ้าหากไม่มีอย่างอื่นเหลือ
- ถ้าห้องครัวหรือห้องน้ำมีเคาท์เตอร์วางแบบทันสมัย เป็นไปได้มากว่ามันจะเป็นพวกวัสดุกันซึม หมายความว่ารอยหมึกและน้ำยาขจัดคราบจะอยู่เฉพาะตรงส่วนพื้นผิวเท่านั้น ซึ่งจะต่างไปจากวัสดุอย่างไม้ที่ยังไม่ได้ทาสารเคลือบหรือวัสดุที่ไม่ได้ทันสมัยมากนัก ดังนั้นควรทดลองบนจุดเล็กๆ ก่อนจะเช็ดรอยหมึกทั้งหมดด้วยวิธีการนี้
- ใช้น้ำมันสน/เหล้าขาวสำหรับผิวหนัง ใช้ผ้าจุ่มน้ำมันสนลงไปเล็กน้อยแล้วเช็ดเบาๆ จนรอยหมึกบนผิวหายไป
โฆษณา
คำเตือน
- กรุณาอย่าใช้แอลกอฮอล์หรืออะซีโทนในบริเวณรอบดวงตา จมูกหรือปากของเด็ก ผู้ใหญ่หรือสัตว์เลี้ยง ส่วนลำตัวหรือแขนขานั้นปลอดภัยใช้ได้แต่ควรหลีกเลี่ยงผิวที่บอบบางบริเวณใบหน้า
- ระวังไม่ถูบนผิวเด็กแรงเกินไป ถ้าหากรอยหมึกนั้นมีการใช้สีวิทยาศาสตร์บางอย่างผสมอยู่แล้วอย่างสีทาบ้าน, สีย้อมผ้าหรือแลคเกอร์, อะซีโทน, น้ำมันและแอลกอฮอล์จะมีฤทธิ์กัดผิว
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ Stain Removal , p. 24, (2009), ISBN 978-1-84397-443-7
- ↑ http://lilduckduck.com/8-ways-to-remove-permanent-marker-stains/253
- ↑ http://en.wikipedia.org/wiki/Permanent_marker
- ↑ Angela Martin, Natural Stain Remover , p. 101, (2009), ISBN 978-1-74110-8323
- ↑ Stain Removal , p. 24, (2009), ISBN 978-1-84397-443-7
โฆษณา
