งานหัตถกรรมหรืองานซ่อมแซมดูแลบ้านมักจะทำให้เลอะเทอะอย่างช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าต้องใช้สีด้วยแล้ว ในขณะที่วิธีเลี่ยงสีเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าที่ดีที่สุดคือใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ที่ไม่ใช้แล้วตอนทำงาน แต่เรามักจะเผลอลืมกันบ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ สุดท้ายก็โดนสีเลอะใส่เสื้อยืดหรือยีนส์ตัวโปรด โชคยังดีที่รอยเปื้อนสีส่วนใหญ่สามารถขจัดออกจากเนื้อผ้าได้โดยง่าย ด้วยการใช้สารทำความสะอาดภายในบ้านกับแรงถูขยี้อีกเล็กน้อย
ขั้นตอน
-
ระบุว่าเป็นรอยสีน้ำผสมกาวยาง. สีน้ำผสมกาวยางเป็นสีที่ใช้กันบ่อยที่สุดในการตกแต่งทาสีบ้านยุคใหม่ และเป็นตัวเลือกยอดนิยมของการทาสีงานหัตถกรรมราคาถูก มันยังรู้จักกันในชื่อสีอะครีลิกหรือสีอะครีลิกกาวยาง
- ตรวจดูกระป๋องหรือหลอดสีว่ามีคำว่า "latex" หรือ "acrylic latex" ถ้าเห็นคำแบบนี้บนฉลาก ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อขจัดรอยเปื้อนนั้น
- หากไม่พบกระป๋องสีแล้ว ให้คิดย้อนกลับไปในงานทาสีที่ผ่านมา คุณล้างแปรงในน้ำหรือในทินเนอร์ ถ้าใช้น้ำแสดงว่าคุณน่าจะใช้สีน้ำผสมกาวยาง และสามารถใช้ขั้นตอนด้านล่างนี้
-
เอาเศษสีส่วนเกินออกจากผ้า. ทันทีที่เลอะ รีบใช้มีดปาดเนย ขอบช้อน หรือวัสดุใกล้เคียงกันปาดสีออกมาให้ได้มากที่สุด ยิ่งทิ้งให้สีแห้งก็จะยิ่งขจัดได้ยาก
- หากสีนั้นแห้งไปแล้วหรือคุณไปพบรอยเปื้อนสีเก่า ให้ขูดออกให้มากที่สุดก่อนจะลองทำความสะอาดด้วยน้ำหรือน้ำยาซักฟอกอื่นๆ
- ถ้าเสื้อผ้าของคุณมีสีที่แห้งซ้อนทับกันหลายชั้น คุณสามารถใช้เทปกาวเอามันทั้งหลายออกมา หาเทปกาวที่เหนียวมากๆ อย่างเทปติดกล่อง เทปกาวพันสายไฟ หรือเทปกาวซ่อมรถยนต์มาติดบนพื้นผิวที่เลอะ แล้วรีบดึงออกอย่างเร็ว มันควรจะติดสีแห้งๆ ทั้งหลายออกไปด้วย! [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ให้แน่ใจว่าได้ทิ้งเศษสีส่วนเกินนั้นอย่างมีความรับผิดชอบ ทำตามวิธีทิ้งตามที่ระบุบนกระป๋อง
-
ล้างรอยเปื้อนใต้น้ำอุ่น. สีน้ำผสมกาวยางเป็นส่วนผสมระหว่างน้ำกับอะครีลิก ดังนั้นจึงมีโอกาสมากที่คุณใช้น้ำก็ล้างสีที่เพิ่งเลอะใหม่ๆ ออกได้ ให้เริ่มล้างจากด้านหลังของเนื้อผ้า ถูหรือขยี้ที่คราบสีในขณะล้างเพื่อให้สีคลายตัวออก ช่วยทำให้น้ำชำแรกผ่านเข้าไปในรอยเปื้อนได้
-
ทาสารทำความสะอาดลงไปบนรอยเปื้อน. การใช้อิมัลซิฟายเออร์จะช่วยให้รอยเปื้อนสีแตกตัวและขจัดออกได้ คุณสามารถหาซื้อสารทำความสะอาดอย่างเช่นยี่ห้อ Goof Off ได้ตามร้านทั่วไป หรือจะผสมสารละลายขึ้นเองที่บ้านก็ได้
- สบู่ล้างมือผสมกับน้ำยาล้างจานจะได้น้ำยาทำความสะอาดสีได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะรอยที่เพิ่งเปื้อน ให้ผสมสบู่เหลวล้างมือกับน้ำยาล้างจานลงในถ้วยโดยใช้อัตราส่วน 1 ต่อ 1 ใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำยาป้ายลงตรงรอยสี แล้วแตะซ้ำๆ กันอย่างน้อย 1 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำตามที่จำเป็นจนกว่าสีจะออกหมดหรือเกือบหมด
- ถ้าต้องขจัดรอยสีแห้งกรัง ใช้สเปรย์แต่งผมหรือไอโซโพรพีลแอลกอฮอล์เพื่อขจัดรอยเปื้อนนั้น [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถูสเปรย์หรือแอลกอฮอล์ลงบนรอยเปื้อนสักหนึ่งนาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำตามที่จำเป็นจนกว่าสีจะออกหมดหรือจางลง
-
ทำการซักเสื้อผ้าตามปกติ. หลังจากล้างสารทำความสะอาดที่คุณเลือกออกไปจนเกลี้ยงแล้ว ให้นำผ้าไปซักตามคำแนะนำการดูแลเสื้อผ้าแต่ละตัว การซักนี้ควรจะขจัดเศษคราบสีที่ยังเหลือ แต่ให้แน่ใจว่าได้ตรวจดูแล้วว่ารอยเปื้อนหายไปหมดก่อนนำไปตาก การตากคราบสีที่หลงเหลือจนแห้งจะยิ่งทำให้ขจัดมันออกได้ยากขึ้นโฆษณา
-
ระบุรอยเปื้อนว่าเป็นสีน้ำมัน. ถึงแม้สีน้ำมันจะเคยเป็นที่นิยมสำหรับงานแทบทุกอย่าง ตอนนี้มันถูกใช้เฉพาะแต่ในงานศิลปะกับหัตถกรรมบางด้านเท่านั้น สีน้ำมันมักจะหนาและเป็นมันมากกว่าสีผสมกาวยาง และต้องใช้เวลากว่าจะแห้งนานกว่า
- ถ้าคุณไม่แน่ใจว่ามันเป็นรอยเปื้อนสีน้ำมันหรือเปล่า ให้ตรวจดูกระป๋องหรือหลอดสีหาคำว่า "oil paint" หรือ "oil-based paint"
- หากหากระป๋องหรือหลอดสีไม่เจอ พยายามนึกให้ออกว่าคุณล้างพู่กันหรืออุปกรณ์อื่นๆ หลังทาสีอย่างไร คุณใช้น้ำหรือใช้ทินเนอร์อย่างน้ำมันสน ถ้าคุณต้องใช้น้ำมันสน เหล้าขาว หรืออะไรทำนองนั้น ตุณก็น่าจะใช้สีน้ำมัน และสามารถทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้
-
เอาสีออกให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้. ถ้าสียังสด ใช้มีดหรือปลายช้อนขูดสีส่วนเกินออกมา ซับรอยเปื้อนด้วยผ้าขาว ถ้าสีแห้งแล้ว ให้ถูด้วยมีดหรือแปรงขนแข็ง
- อย่าใช้น้ำลงตรงรอยเปื้อน นี่จะยิ่งทำให้ขจัดออกยากไปใหญ่
-
ตัดสินใจว่าจะใช้ตัวทำละลายสีน้ำมันหรือทินเนอร์แบบไหน. การขจัดสีน้ำมันนั้นต้องใช้ตัวทำละลายสี มีผลิตภัณฑ์มากมายให้เลือก และรอยเปื้อนนั้นอาจต้องการสารทำความสะอาดแบบหนึ่งโดยเฉพาะ
- ตรวจดูกระป๋องสีว่าแนะนำให้ใช้สารทำความสะอาดตัวไหน
- ถ้าคุณใช้สีสำหรับงานฝีมือชนิดพิเศษ ตรวจดูที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ศิลปะว่าต้องใช้อะไรเป็นพิเศษ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณหาคำแนะนำไม่ได้หรือไม่มีเวลาหาซื้อตัวทำละลายตามคำแนะนำ คุณสามารถใช้น้ำมันสนหรือเหล้าขาวบนรอยเปื้อนสีน้ำมันส่วนใหญ่ หาซื้อน้ำมันสนได้ตามร้านขายสี
- อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรใช้น้ำมันสนบนผ้าที่มีส่วนผสมของอะซีเทต, ไตรอะซีเทต หรือเรยองจึงควรตรวจดูข้อมูลการดูแลรักษาผ้าก่อนลงมือใดๆ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทาตัวทำละลายสีน้ำมันลงบนผ้า. กลับด้านผ้าที่เลอะสีแล้ววางบนผ้าขาวที่ซึมซับได้ดีหรือกองกระดาษทิชชู่ ใช้ผ้าขาวอีกผืนหรือกระดาษทิชชู่ซับตัวทำละลายบริเวณที่เปื้อนจนกระทั่งรอยเปื้อนหายไป [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เปลี่ยนผ้าหรือกระดาษทิชชู่ใต้เสื้อผ้าเมื่อมันเปียก นี่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าผ้ายังคงดูดซับสีที่ละลายออกมาได้
- สังเกตผ้าว่าเกิดสีตกหรือด่างหรือไม่ ถ้าสังเกตเห็นว่าสีบนเนื้อผ้าเริ่มด่าง ให้หยุดเติมตัวทำละลาย การจะเอาสีออกจากผ้าชิ้นนั้นคงจะทำไม่ได้แล้ว
-
แช่ผ้าตัวนั้นในน้ำอุ่น. แช่เอาไว้อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงหรือกว่านั้น คอยใช้มือถูบริเวณนั้นเรื่อยๆ ให้ตัวทำละลายหลุดออก
- ถูน้ำยาซักฟอกลงบนบริเวณที่เปื้อนก่อนแช่
- หากคุณไม่มีน้ำยาซักฟอก ให้ผสมน้ำยาล้างจานในน้ำอุ่นเพื่อช่วยลดคราบมันในสีและตัวทำละลาย
-
ซักผ้าทันทีหลังแช่. เอาผ้าขึ้นมาจากน้ำอุ่น ถูบริเวณที่เปื้อนเป็นครั้งสุดท้าย แล้วซักผ้าตามปกติโฆษณา
-
ระบุเสื้อผ้าว่าเป็นแบบเนื้อละเอียดอ่อนหรือเฉพาะซักแห้ง. ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าเสื้อผ้าชิ้นนั้นเป็นแบบต้องส่งซักแห้งอย่างเดียว ตรวจดูข้อมูลบนป้ายผ้า ผ้าที่ปกติต้องซักแห้งอย่างเดียวได้แก่ อะซีเทต, ไหม, วูล และกำมะหยี่ และถึงแม้บนป้ายไม่ได้บ่งบอกวัสดุเหล่านี้ แต่ถ้าบอกว่า "Dry Clean Only" ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อขตัดรอยเปื้อนสีผสมกาวยางหรือสีน้ำมัน [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เอาสีส่วนเกินออกโดยใช้มีดปาดเนยหรือช้อน. ทางที่ดีที่สุดในการจัดการรอยเปื้อนสีคือทำตอนที่สียังไม่แห้ง ดังนั้นให้แน่ใจว่าได้เอาสีออกมาเท่าที่จะทำได้ทันทีที่เห็นมันเลอะ
- การถูขยี้หรือใช้แปรงอาจทำลายเนื้อผ้าละเอียดอ่อนได้ ด้วยเหตุนี้ทางที่ดีจึงควรใช้ด้านทื่อของช้อนหรือวัสดุใดก็ได้ที่ทื่อ
-
ซับรอยเปื้อนด้วยน้ำยาซักแห้ง. ใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำยาซักแห้งให้ชุ่มแล้วซับเบาๆ บนรอยเปื้อน ในการรักษาวงเปื้อนไม่ให้กระจายนั้น ให้ซับจากขอบนอกของรอยเปื้อนเข้ามายังจุดศูนย์กลาง
-
จากนั้น ใช้น้ำยาซักแห้งเฉพาะที่ซับบริเวณที่เปื้อน. น้ำยาซักแห้งเฉพาะที่มีส่วนผสมของตัวทำละลายแห้งที่จะดูดซับไขมันและคราบน้ำมัน มันมีประโยชน์มากเวลาขจัดรอยสีน้ำมัน
- คุณสามารถหาซื้อน้ำยาซักแห้งเฉพาะที่ หรือทำเองโดยใช้น้ำมันมะพร้าวกับตัวทำละลายซักแห้งแบบเหลว [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หลังจากใช้น้ำยาซักแห้งเฉพาะที่ซับแล้ว ใช้ผ้าชุบน้ำยาซักแห้งเฉพาะจุดให้หมาดแล้วนำมาวางบนรอยเปื้อน. นี่จะช่วยดึงคราบสีออกจากเนื้อผ้า วางทิ้งไว้จนกระทั่งรอยเปื้อนเริ่มจางหาย
- เพื่อป้องกันไม่ให้รอยเปื้อนกระจายตัว ให้เปลี่ยนผ้าบ่อยๆ
- ทำให้รอยเปื้อนกับผ้าสะอาดที่วางบนนั้นเปียกน้ำยาซักแห้งเฉพาะที่อยู่ตลอด. ถ้าแห้งมันจะขจัดสีไม่ออก และการปล่อยให้สีแห้งจะทำให้ขจัดมันออกได้ยากในภายหลัง
-
ล้างด้วยตัวทำละลายซักแห้ง. พอรอยเปื้อนออกหมด ล้างบริเวณนั้นด้วยตัวทำละลายซักแห้ง นี่จะช่วยขจัดคราบมันหรือน้ำมันที่ยังหลงเหลือ จากนั้นตากผ้าให้แห้งตามปกติโฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- มีดปาดเนย หรือวัตถุที่มีความทื่อแบบเดียวกัน
- อีมัลซิฟายเออร์ (Goof Off หรือสารละลายที่ผสมขึ้นเอง)
- น้ำยาซักผ้า
- ตัวทำละลายสีน้ำมันหรือน้ำมันสน
- น้ำยาซักแห้ง
- น้ำยาซักแห้งเฉพาะที่
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.doityourself.com/stry/how-to-clean-paint-stains-off-of-clothing#b
- ↑ http://www.apartmenttherapy.com/diy-mishaps-removing-latex-pai-156925
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-remove-oil-based-paint-stains/
- ↑ https://www.cleanipedia.com/gb/laundry-washing/get-paint-clothes
- ↑ http://www.kidspot.com.au/funzone/Stain-removal-How-to-remove-paint-stains+5735+575+article.htm
- ↑ http://www.realsimple.com/home-organizing/cleaning/laundry/do-i-have-to-dry-clean-this
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-remove-oil-based-paint-from-silk/
- วิดีโอจาก essortment
โฆษณา