ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
หนังด้านบนฝ่ามือและฝ่าเท้าเกิดขึ้นจากผิวที่แห้งหรือการเสียดสีที่เกิดขึ้นมากไปตรงผิวหนังบริเวณนั้น สัมผัสของหนังด้านอาจจะทำให้คุณรู้สึกรำคาญในที่สุด บทความนี้จะช่วยชี้ทางให้คุณนำผิวเนียนนุ่มกลับมาได้อีกครั้ง
ขั้นตอน
-
แช่มือ เท้า หรือข้อศอกในน้ำอุ่นประมาณสิบนาที. ผิวจะเริ่มนุ่มขึ้น แม้ว่าไม่จำเป็น แต่คุณสามารถเติมดีเกลือ น้ำมันหอม หรือแม้แต่ชาลงไปได้ตามต้องการ
- เติมน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิล 1 ถ้วยตวง หากผิวของคุณด้านหนามาก (คำเตือน: อย่าเติมน้ำส้มสายชูหากคุณเป็นโรคเบาหวานหรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต)
-
ใช้หินขัดผิวหรืออุปกรณ์ขัดส้นเท้า. ล้างทำความสะอาดหินหรืออุปกรณ์ขัดเป็นช่วงๆ อย่าขัดเท้าหรือมือมากจนเกินไป แค่ 5 นาที ก็เพียงพอ คุณควรขัดหนังด้านออกอย่างค่อยเป็นค่อยไปประมาณเดือนหนึ่งหรือนานกว่า หากคุณเริ่มรู้สึกเจ็บหลังจากขัดผิวออกไปได้ส่วนหนึ่ง ให้หยุดทันที
- อย่าใช้หินขัดผิวถ้าคุณเป็นเบาหวาน [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ล้างให้สะอาด. ล้างเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกให้หมด
-
ซับให้แห้งและทาโลชั่น. ใช้โลชั่นที่หนาเข้มข้นเพื่อให้เท้าหรือมือชุ่มชื้นเป็นพิเศษ โลชั่นที่มีส่วนผสมของยูเรียจะได้ผลดีเป็นพิเศษ
- หากคุณกำลังจะเข้านอน ให้สวมถุงเท้าหรือถุงมือเพื่อคงความชุ่มชื้นจากโลชั่นไว้
- ทำซ้ำตามขั้นตอนเหล่านี้อีกครั้งทุกสุดสัปดาห์
-
รักษาผิวมือหรือเท้าอันเนียนนุ่มไว้. ทาโลชั่นตรงที่ขัดหนังด้านออกแล้วอีกครั้งหลังอาบน้ำเสร็จ ใช้เนื้อครีมสูตรที่ข้นหนากว่าปกติเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า
- ทาโลชั่นให้มือและเท้าชุ่มชื้นเสมอจะช่วยป้องกันจุดที่แห้งด้านได้
โฆษณา
-
ใช้ยาแอสไพรินเพื่อทำให้ผิวนุ่มขึ้น. บดยาแอสไพรินห้าถึงหกเม็ดและนำไปผสมกับน้ำมะนาวกับน้ำเปล่าครึ่งช้อนชา (3 กรัม) ทาส่วนผสมตรงผิวที่ด้าน และหุ้มด้วยผ้าเช็ดตัวอุ่นๆ ทับด้วยถุงพลาสติก ทิ้งไว้ประมาณสิบนาที แล้วจึงแกะออก และขัดหนังด้านออกด้วยหินขัดผิว
- หากคุณเป็นโรคเบาหวาน หรือแพ้ยาแอสไพริน ก็อย่าใช้วิธีนี้
-
ใช้เบคกิ้งโซดา. อีกหนึ่งวิธีในการรักษาตาปลาและหนังด้านคือการใช้เบคกิ้งโซดากับน้ำอุ่น วิธีนี้จะช่วยให้หนังอ่อนนุ่มขึ้น เติมเบคกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ ในอ่างน้ำอุ่น และแช่ลงไป เบคกิ้งโซดามีค่า pH 9 เป็นด่าง และสามารถจัดการเกราะคุ้มผิวได้ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หรือจะนวดหนังด้านด้วยส่วนผสมของเบคกิ้งโซดา 3 ส่วน กับน้ำเปล่า 1 ส่วนก็ได้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เติมชาดอกคาโมมายล์ในน้ำที่แช่. การแช่เท้าในน้ำที่เจือจางชาดอกคาโมมายล์จะช่วยรักษาและเปลี่ยนค่า pH ของผิวชั่วคราวเพื่อบรรเทาอาการเหงื่อออกที่เท้า คราบชาจะติดที่เท้าของคุณ แต่ก็สามารถล้างออกได้ง่ายด้วยสบู่กับน้ำเปล่า [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้แป้งข้าวโพด. โปรยแป้งข้าวโพดระหว่างนิ้วเท้าเพื่อทำให้แห้งและป้องกันผิวไม่ให้เสีย ความชื้นจะทำให้คุณรู้สึกรำคาญตาปลาหรือหนังด้านมากขึ้น และยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อของเชื้อราด้วย [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- วิธีนี้เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด และจะช่วยขจัดความรำคาญออกไป
-
ใช้น้ำส้มสายชู. จุ่มก้อนสำลีลงในน้ำส้มสายชู แปะไว้ที่ตาปลาหรือหนังด้านด้วยเทป และทิ้งไว้ข้ามคืน เช้าวันต่อมา ให้ขัดบริเวณนั้นด้วยหินขัดผิว [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แปะก้อนสำลีตรงผิวหนังส่วนที่ด้านเท่านั้น เพราะมันอาจจะระคายเคืองผิวส่วนอื่นที่ยังปกติดีอยู่ได้
-
ใช้สับปะรด. เปลือกสับปะรดมีเอนไซน์บางชนิดที่ช่วยทำให้ตาปลาและหนังด้านนุ่มขึ้นจนขจัดออกได้ง่าย แปะเปลือกสับปะรดสดชิ้นเล็กๆ ไว้ตรงบริเวณที่ผิวมีปัญหา และหุ้มด้วยผ้าเช็ดตัวสะอาดๆ ทำเช่นนี้ทุกคืนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ คุณยังสามารถใช้น้ำสับปะรดในขั้นตอนนี้ได้ด้วย [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เปลี่ยนรองเท้า. หนึ่งในสาเหตุหลักของหนังด้านก็คือการใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม หากขนาดของรองเท้าไม่พอดี ผิวของคุณก็จะด้านขึ้น ดังนั้นให้เปลี่ยนขนาดรองเท้าซะ รองเท้าควรจะกระชับ (แต่ไม่แน่นจนเจ็บ) และพอดีกับความกว้างเท้า
- หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าเสริมส้น เพราะน้ำหนักตัวทั้งหมดจะกดลงที่ฝ่าเท้า และผิวก็จะด้านได้ ให้ใส่รองเท้าส้นแบนที่สวมสบายกว่าแทน [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากมีหนังด้านบนฝ่ามือ การสวมถุงมือขนาดพอดีจะช่วยบรรเทาปัญหาหนังด้านได้ ตรวจขนาดของถุงมือให้ดี ถุงมือที่หลวมจะให้ผลตรงกันข้าม คือระคายเคืองผิวและทำให้เกิดการเสียดสีง่ายขึ้น [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้แผ่นรองเท้า. หนังด้าน ตาปลา และเนื้อบวม เป็นอาการที่พบได้ทั่วไป บริษัทหลายแห่งจึงผลิตแผ่นรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันอาการเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะผลิตจากผ้า Moleskin และสามารถใส่ในรองเท้าได้ง่ายด้วยรูปแบบของแผ่นแปะ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สำหรับตาปลา ให้ใช้แผ่นรองรูปโดนัท ซึ่งจะมีขนาดพอดีกับตาปลา ลดแรงกดทับ และการเสียดสี ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีราคาถูกและสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านขายยา [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ยาและแผ่นรอง. คุณไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อซื้อยาบรรเทาอาการ แผ่นรอง พลาสเตอร์ หรืออื่นๆ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักมีขายตามร้านขายยาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มักจะมีส่วนประกอบของกรดซาลิไซลิคเป็นหลัก ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือการติดเชื้อที่ยุ่งยากและอันตรายกว่าปัญหาที่มีอยู่ในตอนนี้ หากคุณมีอาการใดอาการหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้: [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- โรคเบาหวาน
- ชาหรือไม่ค่อยรู้สึกถึงสัมผัสที่เท้า ทั้งที่เกิดจากปัญหาระบบไหลเวียนโลหิต หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท
- สายตาไม่ดีหรือร่างกายไม่ค่อยมีความยืดหยุ่น ซึ่งอาจจะทำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ถูกวิธี
โฆษณา
เคล็ดลับ
- หากคุณเป็นโรคเบาหวาน ให้ใส่ใจกับการรักษาตาปลาและหนังด้านเป็นพิเศษ บาดแผลทางผิวหนังสามารถทำให้เกิดอาการปวด หายช้า และติดเชื้อได้ แม้ว่าจะเป็นแผลเล็กน้อยก็ตาม
- หากสถานการณ์ไม่อำนวย ก็สามารถใช้น้ำเปล่าจากขวดได้
- น้ำที่ใช้จะต้องไม่มีสารคลอรีน หรือสารเคมีอื่นๆ ที่จะทำให้ผิวแห้ง
- ทาวาสลีนและนวดประมาณ 5 นาที ล้างออกด้วยสบู่สำหรับคนผิวแห้ง ทามอยส์เจอไรเซอร์เมื่อเช็ดแห้งแล้ว และทำตามขั้นตอนซ้ำอีกครั้ง
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าขัดผิวมากไป คุณอาจจะติดเชื้อจากการสูญเสียชั้นผิวมากไปได้
- อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดผิวด้านที่เป็นกรด เพราะอาจทำให้ผิวแห้งกว่าเดิมได้
- หากคุณเป็นโรคเบาหวาน จง *อย่า* จัดการกับหนังด้านด้วยตัวเอง เพราะอาจจะทำให้สถานการณ์แย่ลง
- อย่าตัดหนังด้านออกด้วยตัวเอง ให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแทน
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/corns-and-calluses/manage/ptc-20317286
- ↑ http://www.algebra.com/algebra/homework/logarithm/logarithm.faq.question.211020.html
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 http://health.howstuffworks.com/wellness/natural-medicine/home-remedies/home-remedies-for-calluses-and-corns2.htm
- ↑ http://www.home-remedies-for-you.com/remedy/Corns.html
- ↑ 6.0 6.1 http://www.wisegeek.org/how-can-i-get-rid-of-calluses-on-my-feet.htm
- ↑ 7.0 7.1 http://health.nytimes.com/health/guides/symptoms/foot-pain/corns-and-calluses.html
โฆษณา