ในที่สุดคุณก็พบหญิงสาวที่อยากจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต แต่จะบอกเขายังไงดี ว่ามาเป็นภรรยาของผม -- ตลอดไปเถอะ? จะกังวลไปทำไมให้เสียเวลา เราบอกได้แค่ว่าถ้าคุณวางแผนมาเป็นอย่างดีจนพอรู้แนวโน้มว่าจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง การขอแต่งงานของคุณก็จะเป็นไปอย่างราบรื่นไร้รอยต่อ ไม่ต้องถึงขั้นเป็นพ่อบุญทุ่มหรือเพี้ยนหลุดโลก เว้นเสียแต่ว่าสาวเขาชอบแนวนั้น และคุณก็คิดเห็นไม่ต่างกัน ถ้าว่ากันตามจริง คนเราก็มีโอกาสขอแต่งงานกันแค่ครั้งเดียวในชีวิต เพราะงั้นจะเล่นใหญ่ไปเลยก็ได้ ขอให้คิดว่าเธอต้องประทับใจไว้ก่อน แต่ที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องจริงใจ สรรหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกเธอว่าเธอมีความหมายกับคุณแค่ไหน อย่าลืมว่าคุณน่าจะ หรือจำเป็นเลยแหละ ที่ต้องไปสู่ขอกับพ่อแม่ของเธอก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวพวกท่านจะเคืองเอาได้ ซื้อแหวนหมั้นไว้ก่อนก็ดีเหมือนกัน เรารู้ว่าการขอแต่งงานมันเป็นก้าวหนึ่งที่สำคัญในชีวิตของคุณ เพราะงั้นมาเริ่มที่ขั้นตอนแรกกันเลยดีกว่า
ขั้นตอน
-
แน่ใจแล้วนะว่าเธอคือคนที่ใช่. คงเป็นคำถามที่คุณเฝ้าถามตัวเองมาแล้วพักหนึ่ง ซึ่งจะรู้ได้ก็คือคุณต้องรักเธอและคิดว่าเธอนี่แหละ "หนึ่งเดียวคนนี้" ลองคิดหรือเขียนไล่ออกมาเป็นข้อๆ ก็ได้ว่าอะไรที่ทำให้คุณอยากจะแต่งงานกับเธอ นี่จะทำให้คุณแสดงความรักต่อเธอได้อย่างเต็มที่ตอนขอแต่งงาน แถมยังเป็นเครื่องยืนยันให้ตัวคุณเองด้วยว่าคุณตัดสินใจถูกแล้ว เวลาที่คุณเห็นเธอ คุณควรรู้สึกได้ทันทีว่าอยากร่วมชีวิตที่เหลือกับผู้หญิงคนนี้เหลือเกิน และตอนนี้แหละ ถึงเวลาแล้วที่จะเผยความในใจนี้ให้เธอได้รับรู้
- ถึงคนจะชอบพูดกันว่า "ถึงเวลาก็รู้เองแหละ" แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ มันสำคัญตรงที่คุณต้องขอแต่งงานเพราะใจสั่งมา ไม่ใช่เพราะเธอพยายามบอกเป็นนัยๆ มาหลายทีว่าแต่งงานกันซะทีเถอะ จนคุณเกรงใจไม่อยากทำให้เธอผิดหวัง ไม่ใช่เพราะคิดว่าเราก็คบกันมานานแล้วนะ น่าจะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง หรือไม่ใช่เพราะเห็นคนรอบข้างเขาเป็นฝั่งเป็นฝากันแล้ว และยิ่ง ต้องไม่ใช่ เพราะแรงกดดันจากเพื่อนๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพ หรือครอบครัวของคุณเด็ดขาด
- หลายคนคิดว่าน่าจะย้ายไปอยู่ด้วยกันก่อนสักสองสามเดือน ถึงจะรู้ว่าเธอคือคนที่ใช่หรือเปล่า ตอนแรกก็รักกันดีๆ นี่แหละ แต่พอต้องมาร่วมเตียง ซื้อของเข้าบ้านด้วยกัน ต้องแชร์ค่าใช้จ่ายต่างๆ อาจทำให้ต่างคนต่างเห็นด้านใหม่ๆ ที่ไม่ได้ถูกใจอย่างที่คิดก็ได้ แน่นอนว่าคุณอาจจะไม่อยากอยู่ก่อนแต่ง แต่นี่ก็เป็นทางเดียวละนะ ที่จะ "เช็คซ้ำให้แน่ใจ" ให้คุณเห็นภาพว่าถ้าต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตแล้วจะเป็นยังไง
- หรือจะลองพูดคุยเปิดอกกับเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวดูก็ได้ แค่ให้แน่ใจว่าเขาคนนั้นจะเก็บเรื่องของคุณเป็นความลับ แต่อย่าไปเที่ยวโพนทะนาไปทั่วล่ะ เดี๋ยวก็ลือไปเรื่อยจนถึงหูเธอขึ้นมา
-
มั่นใจไว้ก่อนว่าเธอต้องตอบตกลง. เรารู้ว่าไม่มีอะไรบอกได้แน่นอน 100% หรอกว่าเธอจะยอมแต่งงานกับคุณ แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว อย่างน้อยคุณเองก็ต้องรู้ดีที่สุดว่าเธอรักคุณแค่ไหนและอยากจะร่วมชีวิตกับคุณเหมือนกัน ลองสังเกตดูว่าเธอบอกใบ้เป็นนัยๆ บ้างไหมว่าอยากแต่งงานแล้ว (กับคุณนะ) ว่าอยากย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับคุณ มีเจ้าตัวน้อย เป็นครอบครัวเดียวกัน อะไรทำนองนั้น แต่ถ้าไร้สัญญาณใดๆ จากเธอ ก็ให้คุณลองเลียบๆ เคียงๆ หยั่งความในใจของเธอดู ถ้าเธอดูอึดอัดหรือบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ ก็แปลว่าเธอคงยังไม่พร้อมจะแต่งงานกับคุณแล้วล่ะ
- ถ้าเพิ่งคบกันได้ไม่กี่เดือน เอาให้แน่ใจก่อนนะว่าเธออยากจะลงหลักปักฐานกับคุณแล้วจริงๆ ถึงจะมีหลายคู่ที่อยู่กันยืดทั้งๆ ที่ตกลงปลงใจกันหลังคบกันได้แค่ไม่กี่เดือน แต่ก็ไม่เสียหายถ้าคุณจะลองใช้เวลากับแฟนสาวของคุณดูอีกสักหน่อย ให้แน่ใจว่าเป็นคนที่ใช่ของกันและกัน จะได้มั่นใจว่าเธอจะตอบตกลงเวลาคุณขอแต่งงานยังไงล่ะ
- เรารู้ว่าคุณตุ๊มๆ ต่อมๆ เวลาต้องมานั่งสืบเสาะหาความในใจของเธอ แต่เชื่อเถอะว่าดีกว่าหน้าแตกตอนขอแต่งงาน แล้วมารู้เอาตอนนั้นว่าเธอไม่ได้คิดตรงกันกับคุณ
-
ถ้าพ่อแม่ของเธอค่อนข้างหัวโบราณ คุณก็ควรไปสู่ขอกับพวกท่านไว้ก่อน แต่ต้องแน่ใจก่อน ว่าจะไม่ทำให้เธอไม่พอใจหรือเป็นการเหยียดเพศสำหรับเธอนะ. ถึงหลายคนจะมองว่าโบราณไปไหมกับการเข้าหาพ่อของผู้หญิงก่อนขอเธอแต่งงาน แต่สุดท้ายประเพณีนี้ก็ยังคงอยู่ เพราะเป็นการกระทำที่ให้เกียรติผู้หญิงและครอบครัวของเธอ และเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณจะให้ความสำคัญกับครอบครัวของเธอเสมอ ที่สำคัญคือเห็นกันไปเลยว่าคุณเป็นผู้ชายที่มีมารยาท ครอบครัวที่ไหนจะอดใจไม่เอ็นดูได้ลงคอ? แต่ก็อย่างที่เราบอก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ แฟนสาวของคุณและสถานการณ์ภายในครอบครัวของเธอด้วย ขอให้คุณใช้วิจารณญาณดูก็แล้วกัน
- เอาใจเธอเป็นหลัก – เธอกับครอบครัวให้ความสำคัญกับเรื่องนี้หรือเปล่า? หรือแค่ได้ยินเธอก็ขยาดแล้ว? แน่ใจหรือเปล่าว่าเธอยังสนิทกับครอบครัวของเธออยู่ คอยพิจารณาจากสถานการณ์และนิสัยใจคอของเธอที่คุณเคยประสบพบมาก็แล้วกัน มาถึงขั้นนี้แล้วคุณน่าจะรู้จักเธอดีพอสมควรแล้ว
- ถ้าจะเอาให้สมัยใหม่ขึ้นมาหน่อย ก็คือไปพบพ่อแม่เธอหลังขอเธอแต่งงานเรียบร้อยแล้ว ถือเป็นวิธีที่แน่ใจได้ว่า ว่าที่ศรีภรรยาของคุณจะรู้เรื่องก่อนเป็นคนแรก แต่คุณก็ยังให้ความสำคัญกับครอบครัวของเธอด้วย เป็นข้ออ้างที่ดีให้พวกคุณไปพบพ่อแม่ของเธอเพื่อบอกข่าวดีด้วยกันเลยไง หลายคนบ่นว่าแบบนี้มัน "ผิดขั้นผิดตอน" แต่เราว่ายังเป็นการให้เกียรติอยู่นะ เอาจริงๆ ใครจะมาบงการชีวิตคุณได้ล่ะ
- ถ้าไม่สะดวกจะสู่ขอกับพ่อของเธอ ก็ขอแม่ของเธอแทนได้ไม่ว่ากัน
-
เลือกเวลาที่ใช่. จังหวะที่ถูกที่ควรนี่แหละสำคัญที่สุด และจังหวะก็เป็นอะไรที่มีแต่คุณที่จะเป็นผู้กำหนดได้ เรารู้ว่าไม่มีใครบอกได้ว่าขอแต่งงานตอนไหนจะออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด แต่จุดสำคัญอยู่ที่คุณต้องขอแต่งงานตอนที่คุณไม่รีบร้อน รู้สึกผ่อนคลาย เข้ารูปเข้ารอย และพร้อมด้วยความมั่นใจ เอาเป็นว่าพอคุณวางแผนทุกอย่างจนละเอียดรอบคอบที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วละก็ นั่นล่ะเวลาที่ใช่ของคุณ ข้างล่างคือสิ่งที่คุณควรท่องไว้ให้ขึ้นใจ
- มีวันไหนเป็นวันสำคัญที่มีความหมายกับคุณทั้งคู่หรือเปล่า? อย่างวันครบรอบ หรือเดทครั้งแรก เหตุการณ์อะไรก็ได้ที่น่าจดจำ
- บางทีเวลาที่สะดวกนั่นแหละคือเวลาที่ใช่สำหรับคุณ โดยเฉพาะหากคุณสองคนอยู่กันคนละเมือง จะมาเจอกันได้ก็ตอนมีเทศกาลพิเศษ และนั่นแหละโอกาสเดียวที่คุณจะขอเธอแต่งงาน
- ลองสืบดูว่าเธออยากแต่งงานตอนช่วงเวลาไหนของปี จะเลียบๆ เคียงๆ กับเธอโดยตรงเลยก็ได้ หรือแอบถามผ่านเพื่อนๆ หรือครอบครัวของเธอ ว่ามีฤดู เดือน หรือเวลาช่วงไหนที่เธอฝันอยากหมั้นหมายตกลงปลงใจกับใครสักคน โดยที่ไม่เป็นการรีบร้อนหรือกะทันหันเกินไป ถ้าเธอเคยเปรยๆ ว่าอยากแต่งงานช่วงปลายปี ก็ลองขอเธอช่วงนั้นของปีก่อนหน้าดู -- ก็ถ้าคุณดันไปขอสองสามเดือนก่อนจะถึงปลายปีที่จะจัดงาน แล้วเธอเกิดอยากได้งานแต่งหรูหราอลังการขึ้นมา อาจทำเธอเซ็งได้ถ้าต้องรออีกเป็นปีกว่าจะได้แต่งซะที
- การขอแต่งงานช่วงเทศกาลสำคัญหรือวันเกิดนั้นถือเป็นดาบสองคม ในแง่หนึ่ง วันสำคัญของคุณจะยิ่งมีความหมาย โดยเฉพาะหากเป็นช่วงที่ครอบครัวมารวมตัวกัน หรือเป็นเทศกาลแห่งความสุขสนุกสนาน แต่ในอีกมุมหนึ่ง วันสำคัญของคุณก็จะกลายเป็นวันเดียวกับวันสำคัญของคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน หากคุณเกิดอยากฉลองวันหมั้นหมายขึ้นมา ช่วงเทศกาลที่ทุกคนก็ฉลองอยู่ จะทำให้วันสำคัญของคุณด้อยความพิเศษส่วนตัวลงไป แต่อย่างน้อยก็ทำให้คนอื่นๆ เขาจดจำวันครบรอบของคุณได้ง่ายขึ้นนะ!
- จะขอเธอแต่งงานเมื่อไหร่ ขอให้มีเวลาส่วนตัวให้กันได้หลังจากนั้น อย่างถ้าอยากจะขอแต่งงานในวันปีใหม่ที่ครอบครัวมารวมตัวกัน ก็ให้พาเธอไปเดินเล่นข้างนอก ที่มีความเป็นส่วนตัวหน่อย แล้วค่อยขอแต่งงาน ก่อนที่จะกลับมาถูกห้อมล้อมด้วยครอบครัวจนไม่มีเวลาตั้งตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
-
เลือกสถานที่ที่ใช่. สถานที่และบรรยากาศในวันขอแต่งงานนั้นจะอยู่ในความทรงจำตลอดไป และพระเอกของงานที่จะถูกจดจำก็คือ คุณ เองนั่นแหละ พ่องานเจ้าของไอเดีย! จริงๆ แล้วจะขอที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ แต่เราแนะนำว่าควรจะเลือกที่ที่มีความหมายกับคุณทั้งคู่ ที่ที่ทำให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย เป็นตัวของตัวเอง
- สถานที่โปรดของเธอคือที่ไหน? เธอชอบชายหาด พระอาทิตย์ตก ตึกระฟ้า สะพาน เมืองใหญ่ ธรรมชาติ หรืออะไร? หรือเธอฝันอยากให้มีใครมาเหมาโรงฉายหนังโปรดให้เธอมานานแล้ว?
- แค่ไหนที่ไม่เว่อร์หลุดโลก? ยิ่งดันทุรังสรรหาอะไรที่พิเศษวิลิศมาหรามากเข้า ก็ยิ่งง่ายต่อการเกิดข้อผิดพลาด บางทีสุดท้ายแล้วสิ่งที่คุณรู้จักดีและทำให้คุณทั้งคู่มีความสุขได้นั่นแหละดีที่สุดแล้ว
- สถานที่สุดโรแมนติกอย่างชายทะเล สวนพฤกษศาสตร์ ร้านอาหารดังๆ ที่มีวิวสวยๆ สะพานแบบมีหลังคา หรือการไปนั่งปิกนิกกันก็น่าสนใจนะ
- อะไรที่คุณชอบทำด้วยกันทั้งคู่ก็เป็นไอเดียที่ไม่เลว เอามาใช้เป็นแรงบันดาลใจได้เลย อย่างการขอแต่งงานตอนไปตั้งแคมป์ ตกปลา ล่องเรือ ปีนเขา ปั่นจักรยาน เข้าร่วมการแข่งขันกีฬา หรือระหว่างท่องเที่ยว ข้อดีของการขอแต่งงานระหว่างทำกิจกรรมที่ชอบด้วยกันก็คือเธอจะไม่เอะใจเลยว่าคุณกำลังจะขอแต่งงาน เพราะเป็นกิจกรรมที่คุณร่วมกันทำเป็นปกติอยู่แล้ว
- อย่าลืมจองสถานที่ไว้ล่วงหน้า ถ้าคุณวางแผนจะขอเธอแต่งงานในสถานที่อย่างร้านอาหาร โดยเฉพาะโต๊ะที่ดีที่สุดในร้าน ขอให้แน่ใจว่าคุณได้จองไว้แล้วล่วงหน้า
-
สร้างสรรค์วิธีการขอแต่งงานที่ชอบ. พอรู้แน่แล้วว่าจะขอที่ไหนเมื่อไหร่ ก็ถึงเวลาใส่ใจรายละเอียดของวิธีการขอแต่งงาน แน่นอนว่าคุณต้องมีแหวน แต่มีอะไรอีกที่คุณอยากจะเพิ่มเติมเสริมแต่งให้กลายเป็นเหตุการณ์อันแสนจะโรแมนติกและน่าจดจำไม่รู้ลืมสำหรับเธอ? แต่พึงระลึกไว้ว่าการขอแต่งงานของคุณจะถูกเธอหยิบยกมาเล่าซ้ำอีกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เพราะงั้นก็ทำให้มันออกมาดีๆ แล้วกัน! มันมีอยู่มากมายหลากหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบของคุณ แต่ถ้านึกไม่ออกบอกไม่ถูก เรามีไอเดียที่น่าสนใจมาแนะนำ ข้างล่างนี่เลย
- ลองขอด้วยวิธีดั้งเดิมแต่โบราณกาล คุกเข่าลงข้างนึงเลย ช้อนมือเธอมาไว้ในมือคุณ แล้วขอเธอแต่งงาน นับเป็นท่าบังคับที่จะออกมาดีงามตามท้องเรื่องเพราะเราเห็นกันจนชินตาตามในหนังในละคร แถมยังคุกเข่าขอเธอแต่งงานได้ตามสะดวกทุกที่ทุกเวลา แต่ก็ขอให้รู้ไว้ถ้าไปขอต่อหน้าธารกำนัลละก็ เขาจะพากันเงี่ยหูฟังแน่นอน (เอาใจช่วยไง!) เพราะงั้นก็เตรียมรับทั้งความสนใจและกำลังใจจากคนแถวนั้นไว้ละกัน
- อ่านให้ออก ว่าเธอจะชอบให้ขอแบบเอิกเกริกหรือแบบเงียบๆ สองต่อสอง ถึงพวกพระเอกหนังจะชอบขอนางเอกแต่งงานกันแบบโจ่งแจ้ง แต่ในชีวิตจริง ส่วนใหญ่คนเขาก็ไปขอกันเงียบๆ ทั้งนั้นแหละ คุณอาจคิดว่าเป็นความคิดที่สุดยอดมากกับการขอแต่งงานเธอตอนพักครึ่งของการแข่งกีฬาโปรด หรือในงานเลี้ยงท่ามกลางเพื่อนฝูงคนสนิท แต่หารู้ไม่ว่าอาจทำให้เธออายคนจนแทบแทรกแผ่นดินหนีก็ได้ อีกอย่าง เตรียมใจรับคำปฏิเสธของเธอไว้หรือยัง ถ้าเธอไม่ยอมตกร่องปล่องชิ้นกับคุณขึ้นมาละก็ยิ่งขายขี้หน้าประชาชีแน่
- ลองพิจารณาตามความเหมาะสม ถ้าคิดจะหาพร็อพสร้างเสริมบรรยากาศ อย่างวงดนตรีบรรเลงเพลงประกอบ โดยเฉพาะเพลงรัก หรือจุดพลุสักเล็กน้อย และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไป แถมยังอาจเพิ่มภาระด้านค่าใช้จ่ายให้กับคุณ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีเส้นสายคอยอำนวยความสะดวกก็ไม่ว่ากัน ยิ่งถ้าสไตล์ของคุณคือเล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำละก็เชิญตามสบาย เพราะมันก็คงออกมาอลังการน่าดูชม
- เล่นซ่อนแหวน อีกวิธีการขอแต่งงานยอดนิยม รอจนเธอเจอะเจอแหวนเข้า แล้วก็ขอแต่งงานซะเลย สถานที่ที่มักใช้ซ่อนแหวนกันก็อย่างในดอกไม้ ช็อคโกแลต ไม่ก็ของขวัญสุดพิเศษอื่นๆ ซึ่งถ้าให้แล้วก็อย่าลืมบอกให้เธอเปิดดูตรงนั้น เพราะไม่งั้นคุณอาจต้องรอนานเป็นชาติ! คำเตือนคืออย่าอุตริเอาแหวนไปซ่อนในอะไรที่เธอจะเผลอเคี้ยวกลืนลงไปได้ล่ะ ทีนี้ละงานกร่อยแน่
- ทำไมต้องขอแบบธรรมดาเหมือนใครเขา ถ้าคุณออกจะหัวสมัยใหม่ หรือไม่ค่อยอยากพูดขอแต่งงานแบบทื่อๆ ยังมีอีกมากมายหลากหลายไอเดียรอให้คุณเลือกใช้ ซึ่งก็ต้องอาศัยการเตรียมการอยู่สักหน่อยแต่รับรองว่าสนุกแน่ แถมยังเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าตาเพี้ยนคนนี้แหละที่จะทำให้เธอประหลาดใจไปได้ตลอดชีวิต คุณอาจจะลองทำเกมครอสเวิร์ดหรือเกมใบ้คำสำหรับเธอโดยเฉพาะก็ได้ ให้คำตอบสุดท้ายสะกดออกมาเป็นประโยค "แต่งงานกับผมนะ?"
- หรือจะเลือกทำอะไรเล็กๆ แต่น่ารัก ด้วยความช่วยเหลือจากเด็กๆ ในครอบครัว หรือจะให้น้องหมาน้องแมวของคุณมีส่วนร่วมด้วยก็ได้
- ถ้าทุนทรัพย์ของคุณเอื้ออำนวย แล้วคิดว่าเธอคงดีใจ คุณอาจจะจ้างเครื่องบินเขียนไอพ่นเป็นคำขอแต่งงานกลางท้องฟ้าตอนคุณพาเธอออกไปเดินเล่นก็ได้ไม่ว่ากัน
- อีกวิธีที่คนนิยมกันก็คือการขอแต่งงานตอนไปเที่ยว แต่ให้แน่ใจว่าเธอจะตอบตกลงนะ! เพราะบอกเลยว่าไม่มีอะไรเห่ยไปกว่าการต้องเที่ยวกันต่อทั้งๆ ที่โดนเธอปฏิเสธตั้งแต่คืนแรกที่มาถึง
- หรือจะลองใช้การประชาสัมพันธ์ อย่างการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ที่เธออ่านเป็นประจำ หรือให้ดีเจคนโปรดของเธออ่านคำขอแต่งงานของคุณออกอากาศ ไม่ก็เช่าป้ายโฆษณายักษ์ลงคำขอแต่งงานแปะเหนือสะพานที่เธอต้องขับรถผ่านทุกวันซะเลย
-
เลือกซื้อแหวนที่ใช่. ถ้ารู้แน่แล้วว่าแหวนแบบไหนที่แฟนสาวของคุณอยากได้ ก็สบายเลย แต่ถ้าไม่รู้แถมยังไม่อยากถามให้หมดเซอร์ไพรซ์ ก็หาแหวนชั่วคราวไปใช้แทนก่อน แล้วค่อยซื้อวงจริงหลังเธอตอบตกลง เพราะสำหรับผู้หญิงหลายคน การได้เลือกแหวนหมั้นของตัวเองนี่เป็นความฝันเลยนะ แต่ถ้าคุณรู้ใจเธอเป็นอย่างดีว่าเธอชอบแหวนแบบไหน ก็ลองแอบเอาแหวนที่เธอมีอยู่แล้วไปวัดขนาดดูจะได้รู้ไซส์แหวนของเธอ เธอจะประทับใจน่าดูที่คุณรู้ใจเธอแบบไม่มีผิดเพี้ยน -- แถมยังมาในขนาดที่ถูกต้องอีกต่างหาก! แต่ถ้าไม่รู้เลยว่าเธอชอบแหวนแบบไหน แล้วไปถาม "เอาดื้อๆ" แบบนั้นละก็ แบไต๋ให้เธอรู้หมดกันพอดี
- แค่แหวนหมั้นไม่ต้องถึงกับทุ่มหมดหน้าตักก็ได้นะ โดยเฉพาะถ้าทุนไม่หนาพอละก็ แค่แหวนวงเล็กๆ แต่ดูเรียบหรูก็พอแล้ว จะได้มีทุนไว้ตั้งตัวด้วยกันในอนาคต แทนที่จะเอาเงินเก็บทั้งหมดไปทุ่มกับเครื่องประดับชิ้นเดียวเนี่ย
- ถึงมีงบที่ต้องรักษา ก็ขอให้เลือกที่เป็นเพชรธรรมชาติเข้าไว้ เพราะเดี๋ยวนี้วงการค้าเพชรค้าพลอยเขาก็มีหลายทางเลือกหลายราคาให้คุณได้เลือกสรร รวมถึงเพชรที่มีการปรับปรุงคุณภาพ ได้รับการแก้ไขด้วยเลเซอร์ และเพชรธรรมชาติ HPHT ที่ได้รับการรับรองโดย GIA
- อย่าลืมศึกษาวิธีเลือกแหวนหมั้นเพิ่มเติม
-
ไม่ว่าจะขอแต่งงานที่ไหน อย่างไร ขอให้แต่งตัวดีมีกาลเทศะ. การใส่ใจในเครื่องแต่งกายจะทำให้คุณมั่นใจว่าคุณจะดูดีมีเสน่ห์ที่สุด นี่มันวันสำคัญของคุณนะ และเป็นวันที่ต้องออกมา "ไร้ที่ติ" ซะด้วย รับรองว่าสุดท้ายเธอจะเห็นความพยายามของคุณแน่นอน แต่ที่บอกว่าให้แต่งตัวดีๆ เข้าไว้นี่เฉพาะถ้าคุณตั้งใจจะขอแต่งงานแบบหรูหราอลังการ และมีเวลาให้ได้เปลี่ยนชุดเตรียมตัวนะ ถ้าคุณอยากไปขอแต่งงานตามชายหาด ตอนปีนเขา เล่นสกี หรือดิ่งพสุธาละก็ คุณคงมีวิจารณญาณพอว่าจะแต่งตัวยังไงให้เข้ากับสถานการณ์นะ!
-
ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม. บอกเลยว่าเรื่องสำคัญขนาดการขอแต่งงานนี่ ซ้อมไว้ก็ไม่เสียหลายหรอก ไม่ว่าจะซ้อมคำพูด หรือซ้อมพรรณนาว่าอะไรที่ทำให้คุณรักเธอหมดใจจนต้องขอร่วมชีวิตที่เหลือทั้งหมดด้วยกัน พอถึงวันจริงจะได้ไม่ประหม่าจนลิ้นพันกันไง แต่เราไม่ได้บอกให้เป๊ะจนถึงกับเครียดนะ ถึงการใส่ใจรายละเอียดจะทำให้แฟนสาวของคุณรู้สึกว่าคุณให้ความสำคัญกับเธอ แต่เอาเข้าจริงๆ เธออาจจะจำได้แค่คำว่า "แต่งงานกับผมนะ?" ก็ได้
- คำขอแต่งงานต้องสั้นกระชับ ตรงประเด็น และจริงใจ อย่าง "เมย์ ผมรักคุณมากจนไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดยังไง คุณเป็นผู้หญิงที่เห็นอกเห็นใจคนอื่น ใจดี มีน้ำใจ แถมยังสวยที่สุดที่ผมเคยรู้จักมา ผมโชคดีที่ได้เจอคุณ คงเป็นเกียรติมากถ้าคุณให้โอกาสผมได้ใช้ชีวิตที่เหลือกับคุณ แต่งงานกับผมนะ"
-
ขอเธอแต่งงานเลย. ไม่มีเวลาไหนจะสำคัญไปกว่าเวลาขอแต่งงานจริงตามแผนที่คุณสู้อุตส่าห์เตรียมการมาเป็นอย่างดี พาเธอไป "สถานที่" ที่คุณจัดเตรียมไว้ แล้วเริ่มแผนการของคุณเลย อย่าเผลอทำความแตกเพราะมัวแต่พะวงกับแหวนในกระเป๋าเสื้อล่ะ แล้วก็อย่าตื่นเต้นจนพูดอะไรไร้สาระออกไป ถ้าที่ที่จะขอเธอแต่งงานเป็นที่ที่เธอไม่เคยไปมาก่อน หรือที่ที่โรแมนติกเป็นพิเศษ ประมาณว่าแค่เดินเข้าไป 30 วิ เธอต้องรู้แน่ว่าคุณจะทำอะไร ก็ให้รีบขอแต่งงานเข้า จะได้ไม่หมดเซอร์ไพรซ์ซะก่อน
- บอกได้เลยว่าเธออาจร้องไห้ กรีดร้อง หรือถึงกับช็อค แต่คุณก็อย่าด่วนตื่นตูมไป แต่ละอาการเป็นเรื่องที่เราพอจะคาดเดากันได้ ถึงเธอจะอ่านแผนคุณได้ก็เถอะ แต่ของจริงมันจะรู้สึกกันก็ตอนวินาทีที่คุณขอแต่งงานนั่นแหละ!
- ถ้าเธอตอบตกลง ก็ปิดท้ายการขอแต่งงานด้วยการจูบหรือการกอดซะเลย และอย่าลืมบรรจงสวมแหวนที่นิ้วของเธอด้วยนะ!
- แต่ถ้าเธอปฏิเสธ ก็เข้าใจความรู้สึกของเธอบ้าง อย่ากระฟัดกระเฟียดเป็นเด็กๆ ให้เวลาเธอได้คิดพิจารณาหน่อย ไอ้หน้าตาท่าทางอารมณ์บ่จอยของคุณน่ะรังแต่จะเป็นความทรงจำแย่ๆ ของเธอ ขอให้คุณเป็นสุภาพบุรุษ และอย่าโทษตัวเอง -- คุณทำดีที่สุดแล้ว
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ตอนกลางคืนนี่แหละ ขอแต่งงานแล้วโรแมนติกสุดๆ แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะสำหรับอีกหลายคน การขอแต่งงานตอนกลางวันในวิวสวยๆ ก็โรแมนติกไม่แพ้กันหรอกนะ
- "การคุกเข่าขอแต่งงาน" นั้นมีที่มาจากท่าทางที่สุภาพบุรุษเขาใช้แสดงออกถึงการให้เกียรติอย่างสูงสุดกับว่าที่เจ้าสาวของเขา ซึ่งผลที่ออกมาก็ชวนใจละลายน่าดูเลย!
- การขอแต่งงานในแบบของคุณ ไม่ให้เหมือนใคร เป็นความคิดที่น่าชื่นชม แต่ก็อย่าให้ประหลาดจนเกินไปนะ
- ถ้าเป็นไปได้ อย่าลืมถ่ายวีดีโอหรือให้ใครช่วยถ่ายรูปให้หน่อย จะได้เก็บไว้ให้ครอบครัว เพื่อนฝูงได้ร่วมกันชื่นชม
- ขอแต่งงานตอนไปดูดาวกันก็โรแมนติกดีนะ!
- ลองให้เธอเลือกแหวนหมั้นที่ชอบมาสัก 3-5 วง บรรดาร้านจิวเวลรี่ต่างก็ลงความเห็นว่าเป็นความคิดที่ดี เพราะถึงเธอจะชอบทุกส่วนของแหวนวงนั้น แต่พอรวมกันเป็นแหวนทั้งวงขึ้นมา เธออาจจะไม่ได้ใส่ใจอะไรมากก็ได้
- ลองถามร้านอาหารที่คุณไปดู ว่าเป็นไปได้ไหมที่จะช่วยเตรียมแชมเปญไว้สำหรับฉลองหลังเธอตอบตกลง
- อย่าเครียดไปถ้าเธอ "ปฏิเสธ" หรือบอกว่า "ฉันขอคิดดูก่อนนะคะ" - เพราะมันก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอเหมือนกัน
- ตอนขอแต่งงาน อย่าตื่นเต้นจนพูดผิดๆ ถูกๆ (ถึงมันจะเป็นเรื่องธรรมดาก็เถอะ) บางทีอาจจะลองอัดเสียงคำขอแต่งงานของคุณไว้ก็ได้ จากนั้นไปหาที่นอนเงียบๆ คนเดียว แล้วเปิดเสียงพูดของคุณฝึกซ้อมจนแน่ใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด
- เปิดอกกับเธอไปเลย ถ้าแน่ใจแล้วว่าเธอคือคนที่คุณอยากอยู่ด้วยกันไปในอีก 50 ข้างหน้าแล้วละก็ แค่เรื่องแต่งงานน่ะคุยกันได้อยู่แล้ว แต่ต้องแน่ใจก่อนนะว่าเธอก็อยากแต่งงานกับคุณเหมือนกัน
- ถ้าคิดไม่ตกจริงๆ ว่าต้องทำยังไงบ้าง ลองปรึกษาเพื่อนๆ หรือครอบครัวของเธอดู
- ไม่งั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมืออาชีพเลยดีกว่า มีหลายคนที่ประกอบธุรกิจรับออกแบบสร้างสรรค์การขอแต่งงานโดยเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละคน ซึ่งนับเป็นบริการที่ยกภูเขาออกจากอกให้คุณได้เป็นอย่างดี
คำเตือน
- อย่าคิดเบี่ยงเบนความสนใจเธอด้วยการทำตัวเป็นคนที่ยังไม่อยากแต่งงาน หรือเปลี่ยนเรื่องเพราะมีเรื่องรีบร้อนต้องไปทำ แบบนั้นมันเป็นการทำร้ายจิตใจแถมยังไม่จำเป็นอีกต่างหาก สุดท้ายแล้วคุณอาจจะโดนซะเองเพราะเธอเครียดและหงุดหงิดขึ้นมากับคำพูดท่าทางแบบ ไม่คิดผูกมัด หรือ ไม่มีเวลาให้ ของคุณ จำไว้แค่ว่าอะไรที่เสียความรู้สึกไปแล้วมันก็เสียไปเลย แก้ไขอะไรไม่ได้ และถึงเธอจะพอเดาได้ทีหลังว่าคุณกำลังคิดจะขอแต่งงาน ความสงสัยใคร่รู้ก็จะทำให้เธอยิ่งเครียดหนักไปกว่าเดิม เพราะไม่มีอะไรแน่นอนจนกว่าคุณจะเอ่ยปากขอขึ้นมาจริงๆ ผู้หญิงเขาชอบอะไรโรแมนติกแบบ "เทพนิยาย" กันทั้งนั้นแหละ!
- อย่าทำอะไรตามคนอื่นเขาและคาดเดาได้ แบบขอแต่งงานตอนทานอาหารค่ำ บนจอยักษ์กลางสนามกีฬา หรือซ่อนแหวนไว้ในอาหาร จะพิเศษกว่าถ้าเหตุการณ์พิเศษนี้เกิดขึ้นในที่ที่พิเศษเฉพาะสำหรับเธอเช่นกัน
- อย่าพูดอะไรเชยๆ หรือออกแนวขี้แพ้ อย่าง "ผมรู้ว่านี่คือสิ่งที่คุณต้องการมาตลอด ตอนนี้คุณก็เป็นเจ้าชีวิตผมไปตลอดกาลแล้วนะ"
- ใจเย็นๆ ตั้งสติหน่อย มันโรแมนติกไม่ขึ้นหรอกนะถ้าคุณเครียดจนพูดจามั่วซั่วหรือกลัวจนอ้วกแตกน่ะ
- แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็จ้างมืออาชีพมาออกแบบการขอแต่งงานให้เลยดีกว่า จะได้มีคนคอยช่วยคิดช่วยทำเก็บทุกรายละเอียดในวันสำคัญ คุณจะได้ผ่อนคลายสบายใจไม่ทำตัวผิดรูปผิดรอย ซึ่งจะนำมาซึ่งปัญหาอันไม่พึงประสงค์หลายประการ
- อย่าทำตัวมีพิรุธระหว่างเตรียมการ ตอนคุณออกไปหาซื้อแหวนหมั้น หรือจัดการเรื่องสถานที่ ก็แค่บอกเธอไปซะว่าช่วงนี้งานยุ่งหรือนัดเพื่อนไว้ ดีกว่ามานั่งกุเรื่องซับซ้อนวุ่นวายไปหมด
สิ่งของที่ใช้
- สถานที่ที่ใช่
- แหวนที่ถูกใจ
- พร็อพเพิ่มเติมเพื่อความชัวร์ อย่างดอกกุหลาบ ช็อคโกแลต หรือเครื่องประดับ