ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้ารู้สึกวิตกกังวลที่ต้องขับรถเดินทางไกลคนเดียว ขอให้มองว่านี้เป็นโอกาสดีที่จะได้สนุกกับตนเองบ้าง หากเราวางแผนการเดินทางและเตรียมรับมือกับเหตุฉุกเฉินมาเป็นอย่างดี เราก็จะขับรถเดินทางไกลได้อย่างปลอดภัย จัดเตรียมของว่าง ใส่เสื้อผ้าที่สบาย และนำเพลงที่ชอบฟังไปด้วย เราจะได้ผ่อนคลายและสนุกกับการขับรถเดินทางไกลคนเดียวมากขึ้น

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางไกล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เราจะใช้ถนนสายหลักเส้นไหนในการเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางและระหว่างเส้นทางนั้นมีสถานที่ซึ่งน่าสนใจอะไรบ้างเผื่อเราต้องการแวะเยี่ยมชม หากเราต้องการขับรถเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางโดยไม่แวะที่ไหนเลย จดบันทึกไว้ว่ามีจุดพักรถที่ไหนบ้าง การวางแผนเส้นทางเป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้เราจะใช้จีพีเอสก็ตาม เพราะสัญญาณอาจขาดหายหรือแบตเตอรี่อาจหมดระหว่างการเดินทางได้ [1]
    • ถ้าเราต้องขับรถเป็นเวลาหลายวัน ให้กำหนดระยะเวลาในการขับรถแต่ละวัน ตัวอย่างเช่น วันแรกเราอาจขับรถสัก 7 ชั่วโมง แต่วันต่อไปอาจขับรถเพียงแค่ 5 ชั่วโมง
  2. นำทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเดินทางพกติดตัวไปด้วย. นอกจากสัมภาระแล้ว อย่าลืมพกเงินสดติดตัวไปสักเล็กน้อยพร้อมกับบัตรเครดิต อย่าลืมพกใบขับขี่และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ รวมทั้งแผนที่ไปด้วยเผื่อจีพีเอสของรถยนต์หรือโทรศัพท์มือถือเกิดขัดข้อง [2]
    • ถ้าเราจะขับรถข้ามพรมแดน ตรวจดูหนังสือเดินทางด้วยว่าหมดอายุแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่หมดอายุ ให้เก็บไว้ในที่ปลอดภัยภายในรถ
    • อย่าลืมนำที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือในรถยนต์ไปด้วย หากเราเน้นใช้จีพีเอสของโทรศัพท์มือถือในการช่วยนำทาง
  3. ในสัปดาห์ก่อนที่เราจะเดินทาง นำรถไปให้ช่างยนต์ตรวจเช็คสภาพเผื่อว่าส่วนใดของรถยนต์มีปัญหาหรือชำรุด จะได้ซ่อมแซ่มแก้ไขได้ทันที การบำรุงรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอจะช่วยป้องกันปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องระหว่างการเดินทาง เราอาจต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เติมของเหลวต่างๆ ในเครื่องยนต์ เปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์ เปลี่ยนยางรถยนต์ เป็นต้น [3]
    • ตรวจเช็คสภาพรถให้ละเอียดก่อนเดินทาง หากมีส่วนใดของรถยนต์มีปัญหาหรือชำรุด เราจะได้จัดตารางซ่อมแซม
  4. เราต้องนำสิ่งของที่ไว้ใช้ในยามฉุกเฉินติดรถไปด้วยเผื่อเกิดประสบเหตุยางแบนหรือเหตุไม่คาดฝันอื่นๆ ระหว่างการเดินทาง นำยางอะไหล่กับอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่นๆ ติดรถไปด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าเส้นทางของเราต้องผ่านบริเวณที่ร้อนจัดและเรากังวลว่าเครื่องยนต์จะร้อนมากเกินไป นำน้ำเปล่าหรือน้ำยาหล่อเย็นติดรถไปด้วย เป็นต้น สิ่งของที่ควรนำติดรถไปด้วยมีดังนี้ [4]
    • สายพ่วงแบตเตอรี่
    • ไฟฉาย
    • ชุดปฐมพยาบาล
    • ชุดเครื่องมือประจำรถ
    • ผ้าห่มหรือถุงนอน
  5. เนื่องจากเราต้องขับรถเดินทางไกลคนเดียว ฉะนั้นเราจึงต้องบอกคนใกล้ตัวให้รู้ว่าเราจะไปที่ไหน บอกเส้นทางการเดินทางของเราให้พวกเขารู้ บอกพวกเขาว่าเราอยู่ที่ไหนเมื่อเราผ่านจุดหมายแต่ละจุด และบอกว่าเราจะติดต่อกลับมาเป็นระยะ [5]
    • ส่งข้อมูลการเดินทางผ่านทางอีเมลหรือเขียนใส่กระดาษส่งให้กับคนในครอบครัวหรือเพื่อน พวกเขาจะได้รู้และนึกขึ้นได้ว่าเรากำลังขับรถเดินทางไกลอยู่ รวมทั้งเช็คได้ว่าเราอยู่ที่ไหนในตอนนี้

    เคล็ดลับ: เราอาจขอให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวช่วยแวะไปดูบ้านของเราตอนที่เราไม่อยู่ ฝากกุญแจบ้านไว้กับพวกเขาด้วย พวกเขาจะได้สามารถเข้าไปในบ้านได้ หากเกิดเหตุจำเป็น

    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เพิ่มความสบายและเพลิดเพลินในการขับรถ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าใส่เสื้อผ้าที่คับและแน่น เพราะเราต้องนั่งขับรถเป็นเวลานาน เลือกใส่เสื้อผ้าที่หลวมและเบาสบาย เราจะได้เคลื่อนไหวตัวได้สะดวก ขอแนะนำให้ใส่เสื้อผ้าหลายชั้นเพื่อจะได้ปรับการแต่งกายให้เหมาะสมกับสภาพอากาศขณะขับรถได้ [6]
    • ถ้าเราเริ่มขับรถเดินทางไกลในตอนเช้าและอากาศเย็น เราอาจสวมแจ็กเกตผ้าฟลีซเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เราสามารถถอดออกได้เมื่อรู้สึกร้อนหรือขับรถท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อน
  2. ดาวน์โหลดเพลงต่างๆ ที่ตนเองชอบใส่เครื่องเล่น MP3 หรือนำซีดีเพลงติดไปฟังในรถเยอะๆ การฟังเพลงที่ตนเองชอบระหว่างขับรถจะทำให้การเดินทางไกลสนุกขึ้น [7]
    • ถ้าเราไม่ชอบฟังเพลงในรถ อาจหาหนังสือเสียงหรือพอดแคสต์มาฟังระหว่างขับรถเดินทางไกลก็ได้

    เคล็ดลับ: หากห้องสมุดที่เราเป็นสมาชิกมีบริการให้ยืมซีดีเพลงได้ ให้ขอยืมซีดีเพลงจากห้องสมุดดู เราจะได้มีโอกาสฟังเพลงใหม่ๆ บ้างระหว่างขับรถเดินทางไกล

  3. นำของว่างที่กินได้ง่ายวางไว้บนที่นั่งของผู้โดยสารข้างคนขับ เราจะได้หยิบขึ้นมากินได้เมื่อรู้สึกหิว การกินของว่างที่ดีต่อสุขภาพยังช่วยให้เราตื่นตัวและมีสมาธิกับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้า หลีกเลี่ยงการกินของเค็ม เพราะอาจทำให้ร่างกายเราสูญเสียน้ำมาก ของว่างที่ดีต่อสุขภาพได้แก่ [8]
    • กราโนลาบาร์
    • ถั่วอบแบบไม่ใส่เกลือ
    • ข้าวพอง
    • ผักและผลไม้สด
    • แครกเกอร์
  4. นำเครื่องดื่มที่ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นติดรถไปด้วย. น้ำเปล่าถือเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับการขับรถเดินทางไกล แต่เราก็สามารถนำกาแฟ น้ำชา เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือน้ำผลไม้ติดรถไปด้วยได้ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาลมากเกินไปอย่างเช่น เครื่องดื่มชูกําลัง เครื่องดื่มชูกำลังอาจทำให้เรารู้สึกกระสับกระส่ายได้ หลังจากดื่มไปแล้ว [9]
    • ถ้าอยากให้เครื่องดื่มยังคงเย็นอยู่เสมอ ให้นำเครื่องดื่มไปใส่ไว้ในกระติกเก็บความเย็นขนาดเล็กและวางไว้บนพื้นรถบริเวณที่นั่งของผู้โดยสารข้างคนขับ เราจะได้หยิบขึ้นมาดื่มได้ง่าย เมื่อกระหาย
  5. ถ้าเรารีบไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง การมองนาฬิกาทุกสองสามนาทีจะทำให้เรายิ่งรู้สึกเครียดมากขึ้นเท่านั้น อย่ามองนาฬิกา ให้ผ่อนคลายและสนุกกับการเดินทางจะดีกว่า [10]
    • อย่าคิดว่าเราต้องขับรถอีกนานเท่าไหร่ แต่ให้คิดว่าเราขับรถมาไกลแค่ไหนแล้ว
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ขับรถอย่างปลอดภัย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกถนนสายหลักที่ผู้คนนิยมใช้ในการเดินทาง. ขับรถเดินทางตามเส้นทางที่ตนเองได้วางแผนไว้และหลีกเลี่ยงการใช้ทางลัด พยายามสังเกตป้ายจราจรให้ดีๆ และขับรถตามที่ป้ายจราจรเตือน บังคับ หรือแนะนำ อย่าใช้ถนนที่ไม่ค่อยมีใครใช้หรือเส้นทางที่เราไม่มั่นใจ [11]
    • ใช้ถนนสายหลักในการเดินทาง เราจะได้สามารถหยุดรถและขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้ หากมีเหตุจำเป็น
    • ปรับแผนการเดินทาง ถ้าสภาพอากาศเลวร้ายและรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะเดินทางตามแผนเดิม
  2. ปฏิบัติตามกฎจราจรและอย่าขับรถเร็วเกินกำหนด. คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอและสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว อย่าขับรถเร็วและฝ่าฝืนกฎจราจร ขับรถด้วยความระมัดระวังและใจเย็น [12]
    • ถ้าเราขับรถเดินทางไกลในต่างประเทศ เราต้องศึกษาและเรียนรู้กฎจราจรของที่นั่น เพราะกฎจราจรของที่นั่นแตกต่างจากกฎจราจรของบ้านเรา
  3. หาสถานที่ซึ่งปลอดภัยและมีแสงไฟส่องสว่างเพื่อจอดรถและงีบหลับ ล็อกประตูและงีบหลับสัก 20 ถึง 30 นาที งีบหลับสักนิดดีกว่าเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอันเกิดจากการง่วงนอนระหว่างขับรถ [13]
    • เริ่มขับรถเดินทางหลังจากนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว เราจะได้ลดโอกาสที่จะเกิดอาการง่วงนอนระหว่างขับรถ
    • ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอนหลับพักผ่อน เราจะได้ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น

    เคล็ดลับ: เปิดกระจกรถรับลมเป็นบางครั้งบางคราว เราจะได้รู้สึกสดชื่น การสัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์จะช่วยทำให้เราตื่นตัว

  4. หลีกเลี่ยงการคุยโทรศัพท์หรือส่งข้อความขณะขับรถ. การคุยโทรศัพท์หรือส่งข้อความขณะขับรถนั้นผิดกฎหมาย ฉะนั้นอย่าใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ไม่อย่างนั้นจะถูกปรับ การคุยหรือส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือจะทำให้เราไม่สามารถจดจ่ออยู่กับการขับรถได้อย่างเต็มที่ [14]
    • ถ้าจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์จริงๆ นำรถไปจอดในจุดที่อนุญาตให้จอดได้ จากนั้นค่อยใช้โทรศัพท์
    • การคุยโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรีทำให้เราไม่สามารถจดจ่ออยู่กับการขับรถได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกับการคุยโทรศัพท์แบบแนบหู ฉะนั้นหลีกเลี่ยงการใช้หูฟังคุยโทรศัพท์ด้วย
  5. การออกจากรถสักสองสามนาทีเพื่อยืดเส้นยืดสายบ้างและเข้าห้องน้ำจะทำให้เราได้พักเพื่อฟื้นฟูแรง เราสามารถใช้ช่วงเวลาพักสั้นๆ นี้ติดต่อเพื่อนหรือคนในครอบครัวและบอกพวกเขาว่าเราอยู่ที่ไหน [15]
    • จอดรถตามจุดพักรถต่างๆ หรือจุดซึ่งมีแสงไฟสองสว่าง อย่าจอดพักแถวริมถนนหรือในบริเวณที่ไม่ปลอดภัย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พยายามคอยสังเกตป้ายปั๊มน้ำมันด้วย ถ้าเห็นว่าน้ำมันเหลือน้อย จะได้ขับรถเข้าไปเติมที่ปั๊ม อย่าปล่อยให้น้ำมันหมด
  • นำน้ำมันหนึ่งแกลลอนติดรถไปด้วย จะได้นำมาใช้ในกรณีที่รถน้ำมันหมดก่อนถึงปั๊มน้ำมัน อย่าลืมอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์ให้ครบและเก็บไว้ในที่ปลอดภัย
  • ขณะขับรถเดินทางไกลในตอนกลางวันหากแดดแรงให้สวมแว่นตากันแดดเพื่อลดความจ้าของแสงแดดลงและเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าลืมว่ากฎหมายของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ถ้าเราต้องการขับรถข้ามพรมแดน ให้ศึกษากฎจราจรของประเทศที่จะไปนั้นด้วย
  • อย่าแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวและแผนการเดินทางให้กับคนแปลกหน้า
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,162 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา