ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

น้ำแตงกวาดื่มดีมีประโยชน์ แตงกวานอกจากเป็นผักฉ่ำน้ำแล้ว ยังมีโพแทสเซียม ซิลิกา วิตามินเอ โฟเลต และคลอโรฟิลล์สูงด้วย ยังไม่รวมสารอาหารอื่นๆ [1] หลายคนชอบดื่มน้ำแตงกวาเพราะอยากผิวดี เล็บสวย ผมเงางาม ถ้าดื่มเป็นประจำยังช่วยเรื่องความดันสูง ลดโอกาสเกิดนิ่วในไตด้วย คุณคั้นน้ำแตงกวาดื่มเพียวๆ แบบไม่ผสมอะไรเลยได้ แต่จะปั่นกับสารให้ความหวานและน้ำผลไม้อื่นๆ ก็ตามสะดวก

ส่วนประกอบ

  • แตงกวาขนาดกลาง 3 ลูก
  • แตงกวาขนาดกลาง 1 ลูก
  • น้ำ 2 ถ้วยตวง (500 มล.)
  • น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ (28 กรัม)
  • น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ (30 มล.)
  • เกลือ ตามชอบ

หน่วยบริโภค

  • ประมาณ 2 แก้ว
วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

น้ำแตงกวาเพียวๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปลือกแตงกวาจะมีชั้นเหนียวๆ เคลือบ จริงๆ ก็กินได้ แต่อาจจะไปทำรสสัมผัสของน้ำแตงกวาเปลี่ยนไป คุณปอกเปลือกแตงกวาได้โดยใช้ที่ปอกมันฝรั่งหรือมีดคมๆ ก็ได้
  2. ขั้วหรือหัวและท้ายของแตงกวานั้นค่อนข้างแข็ง คนไม่กินกัน อย่าเอาไปคั้นน้ำ
  3. แต่ละชิ้นให้กว้าง ยาว สูงประมาณ 1 นิ้ว (2.5 ซม.) จะหั่นเล็กกว่านี้ก็ได้ แต่ห้ามใหญ่กว่านี้
  4. เทแตงกวาที่หั่นแล้วใส่เครื่องผสมอาหารหรือเครื่องปั่น. ใส่ไปจนเหลือที่อีกประมาณ 1 - 2 นิ้ว (2.5 - 5 ซม.) จากขอบโถปั่น ห้ามใส่แตงกวาจนเต็มเครื่องเด็ดขาด
  5. ปั่นไปประมาณ 2 นาที ส่วนผสมจะออกมาเขละๆ ไม่ต้องเนียนมาก
  6. เลือกกระชอนที่เล็กกว่าปากชาม (ใส่ในชามได้) แต่มีด้ามพาดบนขอบชามได้ จะได้ใช้สองมือทำงานสะดวกๆ ไม่ต้องคอยจับ
  7. จะได้กรองกากออก หรือใช้กระดาษกรองกาแฟแทนก็ได้
  8. เทแตงกวาเขละๆ ลงไปในกระชอนเยอะๆ แต่ระวังหก
  9. คนด้วยไม้พายยางหรือช้อนเหล็ก สลับกับบี้แตงกวากับผ้าขาวบางหรือกระชอน. การคนจะช่วยให้น้ำแตงกวาไหลผ่านกระชอนกับผ้าหรือกระดาษกรองลงไปในชามได้ง่ายขึ้น ให้คนๆ กดๆ ไปเรื่อยๆ จนคั้นน้ำแตงกวาไม่ได้อีก
  10. รินน้ำแตงกวาใส่แก้ว เอาไปแช่เย็น แล้วเสิร์ฟได้เลย. น้ำแตงกวาคั้นสดที่บรรจุในภาชนะปิดมิดชิด จะเก็บในตู้เย็นได้ประมาณ 1 อาทิตย์
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

น้ำแตงกวาสูตรหวาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปอกเปลือกเหนียวๆ ของแตงกวาด้วยที่ปอกมันฝรั่ง แล้วใช้มีดหั่นหัว-ท้ายออก จากนั้นหั่นเต๋าให้ทำขั้นตอนต่อไปง่ายๆ
  2. จะใช้ตะแกรงสี่เหลี่ยมหรือแบบมือจับก็ได้ แล้วแต่ว่าถนัดแบบไหนมากกว่า ให้ขูดแตงกวาใส่ชามจนครบ
  3. รินน้ำ 2 ถ้วยตวง (500 มิลลิลิตร) กับใส่น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ (28 กรัม) ในหม้อแบบมีด้ามจับขนาดกลาง. ต้มน้ำกับน้ำตาลให้เดือดโดยใช้ไฟแรงปานกลาง หมั่นคนบ่อยๆ พอเดือดแล้วน้ำตาลจะละลายผสมกับน้ำ ทำให้น้ำข้นขึ้นอีกนิด
  4. หรี่ไฟให้เหลือไฟอ่อนปานกลางหรือไฟกลาง แล้วเคี่ยวส่วนผสมต่อประมาณ 10 นาที หมั่นคนเรื่อยๆ เคี่ยวแตงกวาในน้ำเชื่อมจะทำให้รสชาติกลมกล่อมกว่าผสมตอนเย็นแล้ว
  5. รอจนเย็นตัว อย่างน้อยก็ให้หายเดือดปุดๆ หมดควัน
  6. เทส่วนผสมลงในเครื่องปั่น แล้วเติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร). ปั่นด้วยความเร็วสูงจนเขละ เหลือเนื้อแตงกวาผสมนิดหน่อย การปั่นจะช่วยรีดน้ำที่เหลือในแตงกวาออกมา
  7. ผ้าขาวบางต้องผืนใหญ่พอจะคลุมถึงข้างชาม
  8. เทระวัง อย่าให้ผ้าขาวบางนอกชามจมลงไปด้วย
  9. พอเทแตงกวาใส่ผ้าขาวบางหมดแล้ว ให้รวบชายผ้าทั้งหมดขึ้นมา. จากนั้นมัดหรือผูกปลายไว้
  10. รอจนน้ำแตงกวาไหลจากผ้าขาวบางลงชามแก้วจนหมด. พอน้ำแตงกวาไม่หยดเพิ่ม ก็ให้ขยำหรือบีบผ้าขาวบางเพื่อคั้นน้ำเพิ่ม พอคั้นจนไม่เหลือน้ำแล้ว ก็เอาผ้าขาวบางไปทิ้งหรือเก็บไว้ก็ตามสะดวก
  11. คนผสมให้เข้ากัน เกลือจะช่วยกลบรสขมปลายตามธรรมชาติของแตงกวา แต่จริงๆ ก็แทบไม่รู้สึก เพราะเติมน้ำเชื่อมกับน้ำผึ้งไปแล้ว
  12. รินน้ำแตงกวาใส่แก้ว แช่เย็นแล้วค่อยเสิร์ฟ หรือจะใส่น้ำแข็งก็ได้. น้ำแตงกวาที่เหลือแช่ตู้เย็นเก็บไว้ได้ประมาณ 1 อาทิตย์
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • น้ำแตงกวาเป็นน้ำผักสารพัดประโยชน์ ผสมได้กับหลายอย่าง อาจจะเติมรสมินต์หรือขิงเข้ามาให้ดื่มแล้วเย็นซ่าสดชื่น หรือจะผสมกับน้ำผลไม้อื่น เช่น แอปเปิ้ล หรือแตงโมก็ได้รสชาติไปอีกแบบ
  • กากหรือเนื้อแตงกวาที่เหลือจากคั้นน้ำ ทั้งสูตรธรรมชาติและสูตรหวาน คุณเก็บไว้ใช้ประโยชน์ต่อได้ โดยแช่แข็งแล้วใช้ทำเมนูอื่นได้ เช่น บิงซู หรือข้าวต้มแตงกวา ถ้าเป็นกากแบบไม่แต่งรสหวาน จะเอามามาส์กหน้าให้ชุ่มชื้นก็ได้
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • มีดคมๆ
  • ที่ปอกมันฝรั่ง
  • ที่ขูดชีสแบบตะแกรง หรือแบบมือจับ
  • เครื่องผสมอาหาร
  • เครื่องปั่น
  • หม้อแบบมีด้ามจับ ขนาดกลาง
  • กระชอนกรอง
  • ผ้าขาวบาง
  • กระดาษกรองกาแฟ
  • ชามแก้วใหญ่ๆ
  • ช้อนทนร้อน
  • ไม้พาย (สปาทูล่า) ยาง
  • ช้อนโลหะ
  • แก้วเสิร์ฟน้ำแตงกวา
  • เหยือกแบบมีฝาปิด

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,886 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา