ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แรงม้า คือหน่วยที่ใช้วัดกำลัง โดยวิศวกรชาวสกอตแลนด์ได้บัญญัติขึ้นเพื่อเปรียบเทียบกำลังของเครื่องจักรไอน้ำกับกำลังของม้า ซึ่งบทความนี้จะทำให้คุณรู้ถึงวิธีคำนวณแรงม้าของเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า และร่างกายของคุณเอง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

คำนวณหาแรงม้าในรถยนต์ของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดูในส่วนของ “ข้อมูลทางเทคนิค” หรือหา “แรงบิด” ในสารบัญของคู่มือรถยนต์ แล้วคุณจะได้ค่าแรงบิดมา ถ้าไม่มีคู่มือรถยนต์ ลองค้นหาในอินเทอร์เน็ตเพื่อหาค่าแรงบิดของรถยนต์ของคุณ เช่น หาว่า “แรงบิด” ตามด้วยยี่ห้อ ปี และรุ่นของรถยนต์ จากนั้นคุณก็น่าจะเจอผลการค้นหาที่ต้องการ [1]
  2. ค่านี้สามารถพบได้ในคู่มือรถยนต์เช่นกัน แต่ถ้าคู่มือรถยนต์ของคุณไม่มีข้อมูลนี้ หรือคุณไม่มีคู่มือรถยนต์ ลองค้นหาในอินเทอร์เน็ตด้วยการพิมพ์ยี่ห้อ ปี และรุ่นของรถยนต์ของคุณ แล้วตามด้วยคำว่า “อัตราเร็วเครื่องยนต์” ซึ่งน่าจะพบได้ในฐานข้อมูลออนไลน์
  3. ใช้สูตร (RPM * T) / 5252 = HP โดย RPM คือค่าอัตราเร็วเครื่องยนต์ T คือค่าแรงบิด และ 5,252 คือค่าเรเดียนต่อวินาที สิ่งแรกที่คุณต้องคำนวณคือนำค่าแรงบิดไปคูณกับค่าอัตราเร็วเครื่องยนต์
    • ตัวอย่างเช่น รถยนต์ Porsche มีแรงบิด 480 นิวตันเมตรที่ 2,500RPM เขียนเป็นสมการได้ว่า (2500 * 480) ซึ่งเท่ากับ 1,200,000
  4. หารค่าที่ได้ด้วย 5,252 จะได้ผลลัพธ์เป็นค่าแรงม้าของรถยนต์ของคุณ. ในตัวอย่างของรถยนต์ Porsche ข้างต้น 1,200,000/5252 = 228.48 ดังนั้นรถยนต์ Porsche จึงมี 228 แรงม้า [2]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

คำนวณหาแรงม้าในมอเตอร์ไฟฟ้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาค่ากระแสไฟฟ้า (I) ประสิทธิภาพ (Eff) และแรงดันไฟฟ้า (V) ของมอเตอร์. โดยค่าแรงดันไฟฟ้าของมอเตอร์จะมีหน่วยเป็นโวลต์ ค่ากระแสไฟฟ้าจะมีหน่วยเป็นแอมป์ และค่าประสิทธิภาพจะมีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งค่าเหล่านี้มักจะเขียนบอกอยู่ที่มอเตอร์ [3]
  2. ใช้สูตร (V * I * Eff) / 746 = HP เพื่อหาค่าแรงม้าของมอเตอร์ไฟฟ้าของคุณ. นำค่าแรงดันไฟฟ้า ค่ากระแสไฟฟ้า และค่าประสิทธิภาพมาคูณกัน จากนั้นนำผลที่ได้ไปหารด้วย 746 ตัวอย่างเช่น มอเตอร์ที่มีแรงดันไฟฟ้า 230 โวลต์ มีค่ากระแสไฟฟ้า 4 แอมป์ และมีค่าประสิทธิภาพ 82% จะมี 1 แรงม้า [4]
    • แปลงค่าประสิทธิภาพเป็นเลขทศนิยมก่อนนำไปคำนวณ เช่น ค่าประสิทธิภาพ 82% มีค่าเท่ากับ 0.82
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

คำนวณหาแรงม้าของร่างกายคุณเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาว่าตัวคุณหนักกี่ปอนด์แล้วบันทึกเอาไว้ ถ้าเครื่องวัดของคุณใช้หน่วยกิโลกรัม ให้นำค่านั้นไปคูณ 2.2 เพื่อหาน้ำหนักในหน่วยปอนด์
  2. คุณจะต้องวิ่งขึ้นบันไดพร้อมกับถือนาฬิกาจับเวลา ดังนั้นจึงให้ลองหาทางบันไดที่ไม่ค่อยมีใครใช้
  3. เริ่มจากหาค่าความสูงของบันไดหนึ่งขั้นในหน่วยฟุต จากนั้นนับว่าทางบันไดที่คุณต้องวิ่งขึ้นมีบันไดอยู่ทั้งหมดกี่ขั้น นำตัวเลขทั้งสองที่ได้มาคูณกัน จะได้ความสูงรวมของบันได แล้วจดบันทึกไว้ [5]
    • ถ้าไม้บรรทัดของคุณเป็นหน่วยเมตร ให้นำตัวเลขความสูงที่ได้ไปคูณ 3.28 เพื่อแปลงเป็นหน่วยฟุต [6]
  4. เริ่มวิ่ง จากนั้นให้เริ่มจับเวลาเมื่อเท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนบันไดขั้นแรก และหยุดเวลาเมื่อเท้าทั้งสองข้างอยู่บนบันไดขั้นบนสุด บันทึกเวลาที่ใช้ในการวิ่งขึ้นไปถึงขั้นบนสุดในหน่วยวินาที จำไว้ว่าทุกหนึ่งนาทีเท่ากับ 60 วินาที
  5. ในกรณีนี้ m = น้ำหนักตัวของคุณ h = ความสูงของบันได 9.81คือค่าความโน้มถ่วงคงที่ที่ต้องนำไปคิดด้วย และ t = เวลา (หน่วยวินาที) ในการวิ่งขึ้นบันได ผลลัพธ์ที่ได้จะมีหน่วยเป็นวัตต์ [7]
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณหนัก 180 ปอนด์ และวิ่งขึ้นบันไดสูง 12 ฟุตได้ใน 4 วินาที จะเท่ากับ ((180 * 0.454) * 9.81 * (12 * 0.3048)) / 4 = 733 วัตต์
  6. หารค่าวัตต์ที่ได้ด้วย 746 เพื่อหาอัตราแรงม้าของคุณ ผลลัพธ์มักจะอยู่ที่ระหว่าง 1-2 แรงม้า
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ใช้เครื่องคิดเลขทุกครั้งในการคูณและหาร
  • คำนวณสองรอบเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้กรอกตัวเลขที่ถูกต้องลงในเครื่องคิดเลข
โฆษณา

คำเตือน

  • ระมัดระวังเมื่อจับมอเตอร์ไฟฟ้า
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • เครื่องชั่งน้ำหนักที่มีหน่วยเป็นปอนด์
  • ไม้บรรทัด
  • เครื่องคิดเลข
  • นาฬิกาจับเวลา
  • คู่มือการใช้รถยนต์ของคุณ

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 60,192 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา