ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การจับ “ภาพหน้าจอ” หรือ “บันทึก” ภาพที่กำลังแสดงอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ระบบ Android หรือแท็บเล็ต เป็นขั้นตอนแรกของการแบ่งปันรูปภาพ การเตรียมนำเสนองาน หรือการเขียนวิธีการใช้อุปกรณ์ของคุณ คุณสามารถทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้เพื่อเริ่มการจับภาพหน้าจอโทรศัพท์ระบบ Android หรือแท็บเล็ตของคุณได้เลย

  1. อุปกรณ์ที่มีระบบ Android 4.0 หรือใหม่กว่า เกือบทั้งหมดจะมีวิธีการจับภาพหน้าจอที่ง่ายและสะดวกที่สุดอยู่. อุปกรณ์ที่ใช้ระบบ Android เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ก็มีวิธีการจับภาพหน้าจอแบบเดียวกัน แต่มักจะต่างกันไปตามแต่ละอุปกรณ์ ลองอ่านขั้นตอนต่อไปนี้ และ ลองทำตามดู
  2. ไปยังหน้าจอหรือรูปภาพที่คุณต้องการจะจับภาพ. ระบบการจับภาพหน้าจอจะบันทึกทุกอย่างที่กำลังแสดงผลอยู่บนหน้าจอของโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต รวมถึง “ปุ่ม” ทุกปุ่มที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอด้วย
  3. จับภาพหน้าจอ (บันทึกภาพทุกอย่างที่อยู่บนหน้าจอ). การจับภาพหน้าจอมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และเวอร์ชั่นของระบบ Android ที่คุณใช้
    • กดปุ่ม สอง ปุ่มบนตัวเครื่อง พร้อมกัน เป็นเวลา 1-2 วินาที
      • สำหรับอุปกรณ์ระบบ Android 4.0 หรือใหม่กว่า ส่วนใหญ่จะเป็น ปุ่มเปิดปิดเครื่อง/ล็อคหน้าจอ และ ปุ่มลดเสียง
      • สำหรับอุปกรณ์ที่มีระบบ Android เวอร์ชั่นที่เก่ากว่า หรืออุปกรณ์ของ Samsung จะเป็น ปุ่มเปิดปิดเครื่อง/ล็อคหน้าจอ และ ปุ่มโฮม
      • สำหรับแท็บเล็ต Kobo Arc 10HD ระบบก่อนหน้า Android 4.0 จะเป็น ปุ่มด้านหลัง (ล่างขวา) และ ปุ่มโฮม
    • หลังจากที่คุณปล่อยปุ่มทั้งสองแล้ว คุณก็จะรู้ได้ว่ามีการ “บันทึก” ภาพหน้าจอแล้ว หากเกิดผลดังนี้:
      • ภาพหน้าจอที่บันทึกแล้วย่อขนาดลงกลายเป็นกรอบรูป
      • เกิดเสียงกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูป (เฉพาะอุปกรณ์บางตัว)
      • มีแถบแจ้งเตือนปรากฏขึ้น (เฉพาะอุปกรณ์ที่มีระบบแจ้งเตือน)
    • หากไม่มีการ “บันทึก” เกิดขึ้น ให้ ลองทำอีกครั้ง จนกว่าคุณจะจับภาพหน้าจอได้ บางทีคุณอาจจะต้องฝึกฝนเสียหน่อย
    • จงจำไว้ว่าคุณจะต้องกดปุ่มบนตัวเครื่องทั้งสองปุ่ม พร้อมกัน มิฉะนั้นมันจะไม่เกิดผล หากเกิดการทำงานของปุ่มเพียง ปุ่มเดียว (ซึ่งมักจะเป็นปุ่มที่คุณกดเป็นปุ่มแรก) หรือไม่เกิดอะไรขึ้นเลย แสดงว่าคุณไม่ได้กดปุ่มทั้งสองปุ่มพร้อมกัน ลองกดใหม่อีกครั้ง
  4. วิธีการเปิดดูภาพจะต่างกันไปตามอุปกรณ์ และเวอร์ชั่นของระบบ Android ที่คุณใช้
    • เปิดแอพ คลังภาพ แล้วจึงเปิดอัลบั้ม ภาพถ่ายหน้าจอ [1]
      • แตะภาพถ่ายหน้าจอแต่ละภาพเพื่อดูภาพขนาดเต็ม
      • จากตรงนี้คุณสามารถแชร์ภาพ ลบภาพ หรือทำอย่างอื่นกับภาพได้ ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่คุณใช้
    • ไปยังหน้าจอการแจ้งเตือน (สำหรับระบบ Android 4.2 หรือใหม่กว่า):
      • จะมีการแจ้งเตือนปรากฏขึ้นหนึ่งแถบ (หรือแถว) ต่อภาพถ่ายหน้าจอหนึ่งภาพ
      • แตะการแจ้งเตือนของภาพถ่ายหน้าจอเพื่อดูภาพและจัดการภาพ
  5. เชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ Mac หากคุณไม่พบภาพถ่ายหน้าจอ. หากคุณสามารถจับภาพหน้าจอได้ แต่ไม่สามารถหาภาพถ่ายหน้าจอที่อยู่ในตัวอุปกรณ์ได้ คุณจะต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับคอมพิวเตอร์ เพื่อดูภาพและจัดการภาพ
    • ต่ออุปกรณ์เข้ากับคอมพิวเตอร์ ทั้งคอมพิวเตอร์ระบบ Window หรือเครื่อง Mac
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากคุณยังไม่ชินกับระบบปฏิบัติการของ Android ให้เข้าไปที่เพจ Android History ของเว็บ Android.com
  • หากอุปกรณ์ระบบ Android ของคุณไม่สามารถจับภาพหน้าจอได้ คุณอาจจะต้องใช้แอพพลิเคชั่นสำหรับจับภาพหน้าจอ หรือแม้ว่าคุณจะสามารถจับภาพหน้าจอได้อยู่แล้ว แต่แอพพลิเคชั่นอาจจะจับภาพหน้าจอได้ง่ายกว่าและใช้ประโยชน์ได้มากกว่า เพราะแอพพลิเคชั่นเหล่านี้มักจะมีทางเลือกในการจับภาพหน้าจอให้คุณมากกว่า ตัวอย่างเช่น:
    • สามารถเลือกได้ว่าจะ “บันทึก” ภาพส่วนไหนของหน้าจอ
    • บันทึกภาพถ่ายหน้าจอลงในคลังภาพหรืออัลบั้ม และสามารถจัดการภาพได้
    • แอพพลิเคชั่นบางตัว สามารถแต่งภาพ และโอนย้ายข้อมูลภาพไปยังคอมพิวเตอร์ได้
โฆษณา

คำเตือน

  • จงจำไว้ว่า กฎหมาย ลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า ครอบคลุมถึงทุกสื่อที่มีลิขสิทธิ์ หรือมีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า แม้ว่าสื่อนั้นจะส่งถึงคุณผ่านโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตจากคนที่มีสิทธิ์ในการเผยแพร่โดยชอบธรรมก็ตาม คุณควรตรวจสอบภาพถ่ายหน้าจอโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ของคุณทุกครั้งว่ามีการฝ่าฝืนกฎข้อนี้หรือไม่ ก่อนจะแชร์ภาพออกไป
  • อย่า "Root" อุปกรณ์ Android ของคุณ มันจะเปลี่ยนการตั้งค่าและลบการตั้งค่าบางอย่างในอุปกรณ์จนทำให้ระบบปฏิบัติการมีปัญหาได้ คิดให้ดี
    ก่อนจะทำการ Root แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้งานระดับสูงก็ตาม
  • อย่า ใช้แอพพลิเคชั่นสำหรับจับภาพหน้าจอที่ต้องการอุปกรณ์ที่ผ่านการ “Root” แล้ว
    “Root” คือการแฮ็คเครื่องรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการยินยอมให้แอพพลิเคชั่น (ซอฟต์แวร์) ทุกตัว ที่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์สามารถเข้าถึงโฟลเดอร์และไฟล์ทั้งหมดของอุปกรณ์ได้ รวมถึงโฟลเดอร์และไฟล์ที่ปกติจะอนุญาตให้เข้าถึงได้เฉพาะระบบปฏิบัติการ Android เองเท่านั้นด้วย เช่น ไฟล์โครงสร้างของอุปกรณ์ และระบบปฏิบัติการ เมื่อโทรศัพท์ของคุณผ่านการ “Root” แล้ว ไวรัสและมัลแวร์จะสามารถเข้าจู่โจมอุปกรณ์ของคุณได้ง่ายขึ้น และคุณจะไม่สามารถใช้ประกันอุปกรณ์ของคุณได้ด้วย!
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตที่มีระบบปฏิบัติการ Andriod
  • คอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Window หรือเครื่อง Mac [สำหรับกรณีที่คุณไม่พบภาพถ่ายหน้าจอในเครื่อง]
  • แอพพลิเคชั่นสำหรับ “จับภาพหน้าจอ” ที่ไม่ขอให้คุณ “Root” อุปกรณ์ตัวเองก่อนใช้ [ไม่จำเป็น]

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,110 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา