ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ผู้ชายหลายคนอาจมีพรสวรรค์ในการจีบหญิง ซึ่งพวกเขาไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ว่า ต้องทำอย่างไร บทความนี้จะช่วยให้ผู้ชาย(แท้ๆ) ที่แม้จะดวงซวยเรื่องผู้หญิงสุดๆ ได้มีโอกาสเข้าใจหลักการพื้นฐานอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเกี่ยวกับการจีบผู้หญิง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ ให้ได้รับการตอบกลับว่า “ตกลงค่ะ” บ้าง เวลาที่เอ่ยปากชวนผู้หญิงเที่ยว
ขั้นตอน
-
1เปิดมุมมองใหม่ให้กับตัวเอง. อย่าเหมาเอาว่าคุณจะจีบผู้หญิงเพื่อเอามาเป็นแฟนได้ เฉพาะเวลาที่คุณไปงานปาร์ตี้หรือไปเที่ยวผับบาร์เท่านั้น คุณอาจจะได้เจอผู้หญิงเหล่านั้นที่ไหนก็ได้ หากคุณรู้จักวิธีการจีบอย่างถูกวิธี คำพูดที่ว่า “แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา” สะท้อนข้อเท็จจริงดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ดังนั้น หากอยากจะจีบผู้หญิงล่ะก็ พยายามเปิดหูเปิดตาของตัวเองให้กว้างไกลเข้าไว้ คุณอาจจะได้เจอทั้งในที่ทำงาน ร้านอาหาร ริมถนน บนรถเมล์ รถไฟฟ้า ชานชลารถไฟ หรือแม้กระทั่งบนเรือด่วนเรือข้ามฟาก สถานที่สาธารณะต่างๆ อย่างไรก็ตาม คุณควรระลึกเสมอว่า
- ซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นสถานที่ๆ จีบหญิงได้ยากหน่อย เพราะผู้หญิงที่ไปสถานที่ดังกล่าว พวกเธอมีเป้าหมายอื่นเป็นหลัก ไม่ได้ต้องไปเจอเนื้อคู่หรือแฟนในอนาคต นั่นคือเหตุผลที่ตำราจีบหญิงส่วนใหญ่ แนะนำให้จีบในสถานที่อย่างผับ บาร์ หรืองานปาร์ตี้เป็นหลัก เพราะคุณไม่สามารถคาดหวังความสำเร็จจากการจีบหญิงในสถานที่ๆ พวกเธอไปด้วยความจำเป็นในการมีชีวิตอยู่
- ลองเปลี่ยนไปเป็นตลาดนัด ร้านอาหาร หรือสถานที่ๆ พวกเธอไปด้วยความเต็มใจดีกว่า เพราะในสถานที่เหล่านี้ อย่างน้อยพวกเธอก็พร้อมเปิดใจพบปะคนแปลกหน้าหรือเพื่อนใหม่ๆ มากกว่า เนื่องจากไม่มีธุระอะไรจำเป็นต้องทำมากมาย
- พยายามอย่าทำตัวเป็นดอน ฮวน (ถ้าคุณทำล่ะก็ งานนี้ล้มเหลวแน่นอน) แต่จงรู้จัก “สำรวจให้ดี” เสียก่อนที่จะลงมือจีบใคร ผู้หญิงคนนั้นใส่แหวนเพชรบนนิ้วนางข้างใดข้างหนึ่ง (หรือทั้งสองข้าง) อยู่หรือเปล่า? ถ้าใช่ก็แสดงว่าเธออาจจะมีคู่หมั้น (แหวนข้างขวา) หรือ คู่ครอง (แหวนข้างซ้าย) อยู่แล้วก็ได้ คุณต้องให้ความความเคารพในจุดนั้นด้วย เปลี่ยนเป้าหมายซะ
-
เข้าใจพลวัตรความสัมพันธ์ชายหญิง. เรื่องนี้อาจต่างกันไปในแต่ละประเทศ ที่มักมีกรอบแนวคิดตายตัวเลยว่า เหตุใดเราถึงถูกดึงดูดเข้าหาเพศตรงข้าม ซึ่งอาจฟังดูซับซ้อนสักหน่อย แต่ในประเทศทางตะวันตกเช่นยุโรป อเมริกา หรือทางออสเตรเลียนั้น โดยพื้นฐานแล้วผู้หญิงมักชอบผู้ชายที่มีบารมีและอิทธิพลทางสังคม ส่วนผู้ชายจะชอบผู้หญิงที่ดูมีสรีระเปล่งปลั่งและอยู่ในวัยกำลังเจริญพันธุ์เต็มที่ (นั่นคือสาเหตุที่ว่าทำไมทางตะวันตกมักคลั่งไคล้การบำรุงหรือศัลยกรรมตัวเองให้ดูเป็นวัยรุ่นเสมอ)
- มีวิธีการมากมายที่ผู้ชายเราจะสามารถทำ หรือสื่อให้เห็นถึงอำนาจบารมีทางสังคม เพื่อให้มีพลังดึงดูดเพศหญิงมากขึ้น เช่น การรู้จักแต่งตัวอย่างมีสไตล์ หรือมีอารมณ์ขันและไหวพริบที่ดี วัตถุบางอย่างก็ยิ่งสื่อถึงอำนาจทางสังคมได้ดีเช่นกัน ผู้ชายส่วนใหญ่จึงมักถนอมรักษารถคันเฉี่ยวของตัวเองเอาไว้ ทั้งๆ ที่อาจจะกำลังกินแกลบอยู่ก็ได้ คุณก็ควรมองหาจุดเด่นในตัวเองที่สามารถใช้เป็นจุดขายในเรื่องนี้ได้เหมือนกัน
- วิธีง่ายๆ ที่จะแสดงให้เห็นถึงอำนาจบารมีทางสังคม ก็แค่ต้องมีความมั่นใจในตัวเอง พยายามพูดหรือแสดงออกอย่างเชื่อมั่นอยู่เสมอ และสื่อให้เธอรู้ว่าคุณไม่หวั่นเกรงผู้ชายหน้าไหน ก็จะทำให้ดูมีพลังขึ้นมาทันที เขาถึงพูดว่า ความมั่นใจคือทุกอย่างในการจีบหญิง ขอแค่คุณมั่นใจ เทคนิคในการจีบหญิงก็เป็นแค่เรื่องรองๆ ลงไป แต่หากไม่มีความมั่นใจ เทคนิคใดๆ ก็ช่วยคุณไม่ได้
-
เป็นตัวของตัวเองได้ ขอแค่ให้เป็นด้านบวก. มันสำคัญมากที่คุณต้องไม่เสแสร้ง เพราะผู้หญิงมักมีเซนส์ที่สามารถมองออกได้ ซึ่งพวกเธอจะไม่เห็นหัวคุณเลย หากคุณดูถูกพวกเธอด้วยการพยายามแกล้งวางฟอร์มเป็นคนอื่น หรือขาดความเป็นตัวของตัวเอง ในทางกลับกัน พวกเธอก็ไม่อยากจะมาปวดหัวกับปัญหาของคุณเช่นกัน หากเป็นในความสัมพันธ์แบบคู่ผัวตัวเมียกันแล้ว มันก็ยังพอที่จะพูดหรือระบายให้แก่กันและกันฟังได้ แต่ในกรณีนี้ คุณกำลังจะจีบหญิง และยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นความสัมพันธ์เท่านั้น จำไว้ว่า การเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่การเอาแต่พร่ำบ่นเรื่องของตัวเองให้ผู้หญิงน่ารักที่คุณเพิ่งจะรู้จัก ต้องมาคอยรับฟัง
-
ใช้ภาษากายอย่างถูกวิธี. ภาษากายที่ดีไม่ใช่แค่การยืนหลังตรงหรือก้มลงสบตาเธอเท่านั้น มันคือกริยาอาการทุกอย่างรวมกัน อะไรก็ตามที่คุณแสดงออกโดยไม่ใช้วาจา เหตุที่ภาษากายเป็น “ภาษา” ที่สำคัญที่สุด ก็เพราะมันเป็นช่องทางที่มนุษย์เราใช้สื่อให้ผู้อื่นรับรู้ถึงความรู้สึกได้ง่ายที่สุด หากคุณอยากจะเข้าถึงภาษากายอันสมบูรณ์แบบล่ะก็ ต้องทำตามกฎต่อไปนี้:
- สบตามาก ดีกว่าสบตาน้อย
- ยิ้มทุกครั้งที่คุณสบตาเธอ ห้ามหันไปมองทางอื่นจนกว่าจะยิ้มเสียก่อน
- อย่าจ้องมาก พยายามอย่าใช้สายตาสำรวจส่วนใดๆ ของเธอ ในเวลาที่พูดคุยกัน
- วางท่าให้ดูเปิดใจกว้าง อย่าไขว้ขาหรือกอดอก ไหล่ผึ่ง ศีรษะเชิดเล็กน้อย ท่าทางเหล่านี้จะช่วยให้คุณดูผ่อนคลาย รวมถึงมีความมั่นใจและใส่ใจเธอ
- อย่าพึมพำหรืออ้ำอึ้ง พยายามพูดจาให้ฉะฉานชัดเจน
- หากคุณกำลังพูดคุยกับผู้หญิงที่คุณสนใจ พยายามโน้มตัวเข้าหาเธอเล็กน้อย หรือก้มศีรษะไปข้างหน้าเล็กน้อยด้วยก็ได้ ในกรณีที่คุณนั่งคุยกัน
-
จำให้ขึ้นใจ: ภาษากายมีพลังมาก แต่บางอย่างก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย บางคนมักเอามือสัมผัสร่างกายส่วนที่ตนเองคิดว่ามีเสน่ห์ เวลาที่เจอเพศตรงข้ามที่ตัวเองสนใจ ผู้หญิงที่เอามือลูบริมฝีปากหรือบริเวณเนินอกตัวเอง เวลาที่เธอกำลังคุยกับคุณนั้น อาจจะแอบชอบคุณอยู่ก็ได้ แต่ก็อย่างว่านะ เธออาจจะแค่คันในบริเวณดังกล่าวพอดี ดังนั้น พยายามตีความหมายด้วยความระมัดระวังแล้วกัน
-
ท่องคาถาไว้ว่า: ไม่จีบก็จบ. ถ้ามีผู้หญิงสักคนแอบชอบคุณอยู่ คุณจะอยากให้เธอบอกคุณตอนนี้ หรือบอกในอีกสามปีข้างหน้า? ผู้หญิงก็คิดเหมือนกันนั่นล่ะ นี่คือเหตุผลว่าทำไม การที่คุณมัวแต่ค่อยๆ พยายามทำตัวให้เธอหันมามองนั้น จึงไม่ประสบความสำเร็จสักที ผู้หญิงมักจะสนใจผู้ชายที่สื่อให้เธอรู้แบบตรงไปตรงมามากกว่า โดยพวกเธอเชื่อว่า หากเขาชอบเธอจริง ก็ต้องกล้าเสี่ยงที่จะถูกปฏิเสธบ้าง หากมันคุ้มค่าสำหรับเขา
- แม้แต่ผู้หญิงที่แอบชอบคุณอยู่ ก็จะไม่รอคุณไปตลอดชาติหรอกนะ พวกเธอจะคิดแค่ 2 อย่างคือ คุณไม่ได้ชอบเธอและเธอก็จะตัดใจไปทันที หรือคุณอาจจะชอบ แต่หากไม่มีความกล้าพอที่จะเข้าหาเธอ อีกไม่นานเธอก็จะเลิกสนใจคุณไปเหมือนกัน
- หากคุณไม่ยอมเข้าไปพูดคุยกับผู้หญิงที่คุณชอบในวันที่เจอเธอ ก็ขอให้จำไว้ว่าคุณอาจมีเวลาอีกแค่หนึ่งเดือนนับจากนี้ ที่จะลงมือเสียที อย่ามัวแต่รอให้ดินฟ้าอากาศเป็นใจ
โฆษณา
-
เตรียมบทเปิดการสนทนาไว้. คุณต้องเตรียมหัวข้อเปิดการสนทนาให้พร้อม ก่อนที่จะเข้าไปคุยกับผู้หญิงที่คุณสนใจ แต่ไม่จำเป็นต้องเตรียมเรื่องอะไรพิสดารนัก เอาเรื่องทั่วๆ ไปเฉพาะหน้าก็ได้ อย่างเช่น ถ้าอยู่ข้างนอก ก็อาจจะคุยเรื่องสภาพดินฟ้าอากาศหรือสภาพจราจร หากอยู่ในตึก ก็อาจคุยเรื่องบรรยากาศการตกแต่งภายในตึกนั้น หากเป็นในงานปาร์ตี้ คุณก็อาจจะถามว่าเธอรู้จักกับเจ้าภาพหรือใครในงานบ้าง ขอแค่มีหัวข้อไว้เปิดการสนทนาก็พอ
-
ต่อยอดการสนทนา. หากคุณพยายามเปิดแล้ว เธอทำท่าทีเมินเฉย คุณก็มีทางเลือก 2 ทาง: ถอนตัว หรือไม่ก็จีบต่ออย่างมีความหวัง แต่หากเธอคุยตอบอย่างเป็นมิตร ก็ได้เวลาทดสอบทักษะการสนทนาของตัวเองแล้ว
- การคุยกับคนแปลกหน้าหรือเพิ่งเจอกันนั้น เป็นเรื่องที่อาจทำให้คุณทั้งคู่อึดอัดบ้าง แต่หากคุณรู้จักทำให้เธอผ่อนคลายได้ เธอก็จะปลื้มคุณมาก คุณอาจแสดงความเห็นในเรื่องต่างๆ ที่ไม่สลักสำคัญนัก เช่น เรื่องแนวเพลงที่กำลังเปิดอยู่ในงาน พยายามพูดตรงๆ และรอดูท่าทีของเธอ หากเธอแสดงความเห็นบ้าง คุณก็ควรรับฟังหรือสอบถามเพิ่มเติม อย่างน้อยการที่คุณเริ่มแสดงความเห็นก่อน ก็ทำให้เธอเลือกได้ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับคุณ
- พยายามอย่าพูดคุยเหมือนสัมภาษณ์ เช่น อย่าถามว่า “คุณทำงานอะไร?” “บ้านอยู่ไหน?” “เรียนจบที่ไหนมา?” แบบติดๆ กัน พยายามดัดแปลงให้ดูมีชั้นเชิงหน่อย เช่น อาจบอกว่า “ท่าทางคุณเหมือนเป็นโปรแกรมเมอร์นะ” หรือ “คุณต้องเป็นคนเหนือแน่เลย” แบบนี้จะดูทั้งมั่นใจและเป็นการเปิดโอกาสให้บทสนทนาต่อยอดได้ด้วย ซึ่งเธอก็จะผ่อนคลายและเปิดใจมากขึ้น
-
มีอารมณ์ขัน. มุกตลกมักใช้ได้เสมอ ซึ่งการหาผู้หญิงสักคนมาหัวเราะให้กับมุกของคุณ เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก ในทางกลับกับ หากใครเมินเฉยกับมุกของคุณ ก็แสดงว่าคนๆ นั้นไม่สนใจคุณ และคุณก็ไม่ควรยุ่งด้วยเช่นกัน ดังนั้น อารมณ์ขันจึงเป็นตัวทดสอบที่ดี และยังไม่ทำให้สถานการณ์ดูกร่อยเกินไปด้วย
- พยายามเล่นมุกในแบบของคุณเอง แม้ว่ามันอาจจะดูแปลกหรือเข้าใจยาก และอาจต้องใช้ไหวพริบสักหน่อย ซึ่งหากผู้หญิงคนนั้นสนใจคุณอยู่ เธอก็จะแกล้งทำเป็นหัวเราะเอาใจคุณเอง ต่อให้คนอื่นเงียบกันหมด
-
ชมเธอแบบสบายๆ. ไม่ว่าคุณอยากจะชมเรื่องไหนก็ตาม คุณควรพูดแบบสบายๆ ขอเพียงเรื่องดังกล่าวไม่ทำให้คุณทั้งคู่อึดอัด หากคุณรู้สึกว่าพูดหรือชมไปแล้ว ไม่มีอะไรเสียหาย และการสนทนาไม่ชะงักลง ก็ทำไปได้เลย ไม่งั้นก็เก็บไว้ชมตัวเองแล้วกัน
- มีอยู่ 2 ทางเท่านั้น ที่ผู้หญิงจะตอบสนองต่อคำชมอย่างตรงไปตรงมาของคุณได้ ก็คือเห็นด้วยกับคำชมนั้น (กรณีที่เธอค่อนข้างมั่น) หรือไม่ก็ปฏิเสธ (กรณีที่เธอเขิน) และชมคุณกลับคืนบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกรณีหลังมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อเพิ่งเริ่มรู้จักกัน ทั้งนี้ การทำตัวเป็นคู่สนทนาที่ดีนั้น มีความสำคัญมากกว่าการเอาแต่ชมเธอ เพราะเธอย่อมรู้ตัวดีอยู่แล้วในจุดนั้น ไม่งั้นคุณก็ไม่เข้ามาจีบแต่แรกหรอก
-
เปิดเผยตัวเอง. ผู้หญิงมักชอบผู้ชายที่สบายๆ และเชื่อมั่นในตนเอง พยายามพูดถึงตัวเองอย่างตรงไปตรงมา อย่าอาย ผู้หญิงชอบผู้ชายที่อาจจะติดเกมส์ แต่พูดถึงมันได้อย่างมีความสุข มากกว่าผู้ชายที่ติดเกมส์แต่ไม่กล้าบอกเธอ หรือมองว่าเป็นเรื่องน่าอาย
- อย่ากลัวที่จะวิจารณ์เล็กๆ น้อยๆ (โดยคุณอาจเปรยในเชิงถาม เช่น “แบบนั้นมันไม่ค่อยฉลาดเลยนะ ว่ามั้ย?”) หรือใช้มุกเสียดสีเธอแบบเบาๆ ก็ได้ ขอแค่คุณไม่ทำบ่อยเกินไป ผู้หญิงจะรู้สึกดีเสียอีก ที่เห็นว่าคุณสนใจพวกเธอแต่ไม่ได้คลั่งไคล้ และก็ไม่ได้พยายามเอาใจเกินไปจนพวกเธออึดอัด ในทางกลับกัน หากผู้ชายคนไหนเอาแต่วิจารณ์หรือเสียดสีบ่อยๆ พวกเธอจะมองว่าหยาบคายและไร้วุฒิภาวะ
-
ขอเบอร์เธอเลย. เมื่อใกล้จบการสนทนาแล้ว พยายามตัดบทไว้ในตอนที่ยังคุยสนุกอยู่ และขอเบอร์ติดต่อเธอไว้ด้วย บอกเธอไปว่า คุณกำลังเพลินเลย แต่จำเป็นต้องไปแล้วจริงๆ (จะไปทำงาน กลับบ้าน หรือนัดใครไว้ ก็ว่าไป) หากเธอไม่ยอมให้เบอร์ ก็ฝืนยิ้มไว้ และบอกลาเธอไป แต่หากเธอยอมให้ ก็เก็บไว้สักวันสองวันแล้วค่อยโทรไป พยายามคิดไว้ด้วยว่าจะชวนเธอไปไหนในสัปดาห์หน้า
-
เตรียมตัวสำหรับเดทแรก. เดทแรกที่ดีที่สุด คือ การเดทในแบบที่ไม่มีช่วงเวลาเงียบงัน หรือไม่มีการเว้นจังหวะพูดคุยกันเป็นเวลานานๆ ดังนั้น พยายามหลีกเลี่ยงการไปดูหนังหรือดูคอนเสิร์ต และเปลี่ยนไปเป็นกิจกรรมใดก็ได้ ที่จะให้คุณทั้งคู่ได้พูดคุยกันมากขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งบมากมาย พยายามหาตัวเลือกไว้สองสามอย่าง เพราะผู้หญิงชอบผู้ชายที่มีการเตรียมการและเป็นผู้นำ
- หากคุณเกิดปิ๊งไอเดียอะไรดีๆ ระหว่างที่ออกเดทกัน เช่น อยากนั่งเรือปั่น หรือขึ้นชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ก็ลองเปรยๆ ดู ถ้าไม่งั้นก็แค่ไปนั่งทานอาหาร หรือนั่งจิบอะไรชิลๆ กันตามแผนเดิมที่วางไว้ได้ ไม่มีอะไรเสียหาย เพราะกิจกรรมทั้งหมดที่กล่าวมา ต่างก็สามารถใช้เวลาร่วมกันได้ทั้งสิ้น
- เสนอตัวเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในเดทแรก แต่หากเธอต้องการแชร์ก็อย่าขัด ผู้หญิงหลายๆ คนอาจคิดว่าการให้ผู้ชายออกเงิน เป็นการดูถูกตัวเอง ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะตกลงหรือปฏิเสธ ก็ควรแล้วแต่เธอ
- รักษาระยะห่างหน่อย นี่เป็นการออกเดทครั้งแรก ยังไม่ได้ทำข้อตกลงมั่นหมายเป็นทางการ ดังนั้น หลังจากนัดกันแล้ว พยายามอย่าโทรหาเธออีก จนกว่าจะถึงวันนัด ซึ่งพวกคุณยังจะมีเวลาได้คุยกันอีกเยอะ
- ถ้าเธอโทรมาขอเลื่อนนัดออกไป พยายามคิดบวกเข้าไว้ เพราะหากเธอจะปฏิเสธคุณ คงไม่รอมาถึงตอนนี้หรอก พยายามใจเย็นๆ และยืดหยุ่นสักนิด
โฆษณา
-
ตระหนักในความเสี่ยง. มันเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างอ่อนไหว ที่จริงแล้ว ผู้หญิงเค้าสามารถที่จะคบกับคุณเป็นเพื่อนต่อไปได้นะ หลังจากที่คุณชวนเธอออกเดท และเธอปฏิเสธมา เพียงแต่ตัวคุณเองนั่นแหละ ที่จะทำใจลำบากสักหน่อย ดังนั้น หากคุณตั้งเป้าว่าต้องเอาเพื่อนผู้หญิงมาเป็นแฟนให้ได้ ก็คงต้องเตรียมใจไว้สำหรับความผิดหวังมากหน่อย
-
รอจังหวะอยู่กันสองต่อสอง. จะได้ไม่เป็นการเสี่ยงที่จะอับอายต่อหน้าเพื่อนคนอื่นๆ ซึ่งหากเธอคนนี้มีความนับถือในตัวคุณ เหมือนที่คุณมีให้เธอ ก็ไม่ต้องห่วงว่าเธอจะเอาเรื่องนี้ไปเม้าท์ให้ใครฟังภายหลัง แต่ถ้าเธอทำ เธอก็ไม่คู่ควรกับคุณแล้วล่ะ
-
ชวนเธอเล่นๆ. อย่าเพิ่งบอกรักเธอ แค่ชวนเธอไปเที่ยวเฉยๆ ก็พอ แน่นอนว่า คุณอาจจะหลงรักเธอ แต่การพูดมันออกไป ก็ไม่ได้ช่วยให้เธออยากจะออกเดทกับคุณหรอก ดังนั้น พยายามเก็บความในใจเอาไว้ก่อน และก็ชวนเธอเหมือนชวนคนอื่นทั่วไป
- ในขณะเดียวกัน คุณก็ควรสื่อให้เธอรู้ด้วยว่า คุณไม่ได้ชวนออกมาในฐานะเพื่อนเหมือนเดิมแล้ว การเก็บงำเอาไว้ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมา
-
ฝึกยับยั้งชั่งใจ. ไม่ว่าจะชวนเธอสำเร็จหรือไม่ มันก็เป็นหน้าที่ของคุณ ในการที่จะตอบสนองอย่างสงบนิ่งและมีวุฒิภาวะ หากเธอตอบตกลง ก็อย่าเพิ่งพรั่งพรูความในใจออกมา เพราะยังไม่ได้เริ่มไปออกเดทกันเลย ส่วนในกรณีที่เธอปฏิเสธ ก็ฝืนใจไว้อย่าแสดงความผิดหวังออกมาให้เธอเห็น คุณอาจจะแค่ขอตัวไปทำใจก่อน ซึ่งเธอก็คงจะเข้าใจโฆษณา
-
ตระหนักในความเสี่ยง. มีโอกาสสูงมากที่คุณยังจะต้องทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับเพื่อนร่วมงานของคุณอยู่ ไม่ว่าเธอจะตกลงหรือปฏิเสธก็ตาม คุณจะไม่มีโอกาสแก้ตัว บ่ายเบี่ยง หรือรอจนกว่าจะจบเทอม เหมือนตอนจีบเพื่อนสมัยเรียน ตราบใดที่คุณตระหนักในความเสี่ยงดังกล่าวได้ดี คุณก็ย่อมจะหาวิธีป้องกันไม่ให้ผลที่เกิดขึ้น มากระทบกับงานของคุณได้เอง
-
อย่าหาเหาใส่หัว. สุภาษิตดังกล่าวสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะมันเป็นความจริงอย่างยิ่ง ยิ่งคุณจีบคนใกล้ตัวมากเท่าไร โอกาสที่จะจบไม่สวยก็มีมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น หากเป็นผู้หญิงในที่ทำงาน คุณควรพยายามเลือกผู้หญิงที่ไม่ต้องร่วมงาน หรือเจอหน้ากันบ่อยนัก หากคุณพอจะห้ามใจตัวเองไหวนะ
- หากคุณทำงานในองค์กรใหญ่ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือบริษัทยักษ์ใหญ่สักแห่ง พยายามเลือกจีบผู้หญิงที่อยู่ต่างแผนกกับคุณ ซึ่งไม่ว่าผลจะลงเอยอย่างไร อย่างน้อยคุณทั้งคู่ก็ยังพอจะบากหน้าไปทำงานได้เหมือนเดิม
-
ให้เกียรติ. เห็นได้ชัดว่า การให้เกียรติ เป็นส่วนสำคัญในเกมส์การจีบผู้หญิงทุกรูปแบบ แต่ในสถานที่ทำงาน คุณยิ่งต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ พยายามมองในมุมของฝ่ายหญิงดูบ้าง ผู้หญิงส่วนใหญ่ไปทำงานเพราะต้องการหาเลี้ยงชีพเป็นอันดับแรก ไม่ได้ไปเพราะอยากเจอผู้ชายหล่อๆ ในออฟฟิศ ดังนั้น หากเกิดสถานการณ์ที่ไม่ลงตัว เธอก็จะต้องทนทุกข์ไปโดยตลอด ซึ่งเธอคงไม่อยากลาออกจากงานเพียงเพราะไม่ลงรอยกับเพื่อนร่วมงานบางคน พยายามอย่าทำให้ที่ทำงานเป็นสถานที่น่าอึดอัดสำหรับเธอ เพราะปกติเธอก็อาจจะทำงานด้วยความเครียดมากพออยู่แล้วก็ได้
- พยายามจีบให้กระชับและสุภาพ หากถูกปฏิเสธก็อย่าคะยั้นคะยอต่อไป ไม่งั้นเธอจะรู้สึกรำคาญใจในภายหลัง ต่อให้คุณคิดว่าแค่อยากจะผูกมิตร แต่เธอก็จะรู้สึกแย่อยู่ดี ที่คุณยังตื๊อไม่เลิกหลังจากที่เธอปฏิเสธไปแล้ว กรุณาเว้นที่ว่างให้เธอบ้าง
-
ไตร่ตรองอย่างรอบคอบ. พนักงานคนอื่นมักไม่พอใจกับการมีคู่รักในออฟฟิศ เพราะมันส่งผลกระทบต่องานและยังมักนำไปสู่การละเมิดกฎระเบียบ เช่น เขาหรือเธอมักขอตัวไปพักเบรกนานกว่าที่เคย รวมถึงอาจมีการถกเถียงเรื่องส่วนตัวกันในออฟฟิศ ดังนั้น หากคุณกำลังจ้องจะจีบใครในออฟฟิศ พยายามอย่ากระโตกกระตากให้ใครรู้
- ตราบใดที่ไม่ส่งผลกระทบต่องาน หัวหน้าของคุณก็อาจจะไม่สนใจหรอกว่า คุณจะเกี้ยวพาราสีจีบใคร หรือแม้แต่คบหาเป็นแฟนกันเลยก็ตาม ดังนั้น จำไว้ว่า สถานที่ทำงานก็ต้องเอาไว้ทำงานเป็นอันดับแรก เรื่องอื่นเป็นเรื่องรอง แม้ว่าเธอคนนั้นอาจจะน่าดึงดูดหรือมีความหมายกับคุณเพียงใดก็ตาม
โฆษณา
-
เข้าใจความรักในแบบฉบับนักเดินทาง. บางทีคุณอาจกลับบ้านไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดแบบเซ็งๆ คุณก็เลยอาจจะอยากมองหาสาวๆ แถวนั้นไว้พูดคุยดูบ้าง หรือคุณอาจจะกำลังนั่งเครื่องไปเจรจาธุรกิจ และอาจเจอผู้หญิงที่ถูกตาต้องใจก็ได้ การจีบหญิงระหว่างทริปการเดินทางนั้นไม่ใช่เรื่องผิด ตราบใดที่คุณทำตัวสบายๆ และตรงไปตรงมา รวมถึงใส่ใจเหตุการณ์เฉพาะหน้าด้วย หากคุณใช้วิธีจีบแบบเดียวกับที่ใช้จีบหญิงในสถานการณ์ทั่วไป คุณทั้งคู่จะปวดหัวเปล่าๆ
-
ตรงไปตรงมา. หากคุณรู้สึกว่าต้องโกหก หรือปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อจีบสาวล่ะก็ คงไม่ดีกับทั้งสองฝ่ายแน่ ที่จริงแล้ว ผู้หญิงบางคนรู้สึกว่าการมี “คนผ่านทาง” เข้ามาจีบเธอนั้น เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเร้าใจด้วยซ้ำ เพราะไม่จำเป็นต้องผูกมัดกันทั้งสองฝ่าย แต่คุณจะรู้ได้ว่าเธอชอบหรือไม่ ก็ต่อเมื่อคุณจีบเธออย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาเท่านั้น
- การเดินทางมักมีเรื่องน่าสนใจให้พูดคุยระหว่างทางอยู่แล้ว ดังนั้น คุณอาจไม่ต้องพยายามหาหัวข้อสนทนามากนัก คุณอาจแค่เปรยๆ ว่า คุณไปที่นั่นอีกไม่กี่วันก็จะกลับแล้ว ลองถามเธอในเรื่องที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ ผู้หญิงส่วนใหญ่มักยินดีที่จะตอบ และแถมยังอาจใส่ความเห็นเพิ่มเข้าไปให้อีกด้วย ซึ่งคุณก็สามารถต่อยอดการสนทนาได้สบายโลด
-
กระชับเข้าไว้. อย่ามัวเสียเวลาเขินหรืออายม้วนอยู่ คุณต้องการจีบสาวเพื่อออกเดทและท่องราตรีกัน สาวคนนั้นซึ่งคุณอาจจะไม่ได้เจอเธออีกเลย แต่เธอจะรู้ได้ยังไงหากคุณเอาแต่ “อุ่นเครื่อง” อยู่นั่น และแทนที่จะขอเบอร์เธอ คุณควรชวนเธอออกเดท ณ เดี๋ยวนี้เลย ก่อนที่คุณจะไป ลองถามเธอดูว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง โดยเสนอว่าจะออกค่าใช้จ่ายให้เอง กุญแจ่สำคัญของการจีบสาวระยะสั้น ก็คือบอกเธอไปตรงๆ เลยว่าคุณต้องการอะไร (ค่ำคืนที่สนุกสนานร่วมกัน) และคว้ามันมาก็เท่านั้นเอง
-
จงซื่อสัตย์. หากมีผู้หญิงรอคุณอยู่ที่บ้าน พยายามอย่าไปหาจากที่ไหนอีก มันเป็นเรื่องไม่ยุติธรรมและน่าดูแคลน แถมความรู้สึกผิดยังจะเกาะกินจิตสำนีกคุณไปอีกนานด้วย คุณลองคิดดูก็ได้ว่า คุณจะรู้สึกอย่างไร หากคุณรู้ว่าแฟนคุณแอบไปมีกิ๊ก ระหว่างช่วงที่เธอบอกว่ากลับบ้านไปเยี่ยมแม่ที่ต่างจังหวัด ในขณะที่คุณกำลังนั่งคิดถึงเธออยู่ตลอดเวลา การมีกิ๊กหรือสัมพันธ์สวาทข้ามคืน มันไม่คุ้มกับการสูญเสียผู้หญิงที่รอคุณอยู่ที่บ้านหรอก
- หากคุณคิดว่ากำลังจะเลิกกับแฟนคนปัจจุบันแล้ว ก็ขอให้ทำอย่างถูกต้อง ด้วยการ จบความสัมพันธ์นั้นเสียก่อน อย่าเพิ่งแอบไปมีคนใหม่หรือสวมเขาให้เธอ เมื่อโสดสนิทแล้ว คุณยังมีโอกาสจีบหญิงอีกมากมายรออยู่
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ฝึกฝน – การฝึกฝนสามารถช่วยขัดเกลาฝีมือได้จริงๆ พยายามกำจัดความกลัวในการเข้าหาผู้หญิงให้ได้ ด้วยการฝึกพูดคุยกับพวกเธอเหมือนคุยกับคนทั่วไป หรือคุยแบบเดียวกับที่คุณคุยกับเพื่อนของคุณ จนกว่าคุณจะเริ่มรู้สึกว่า ผู้หญิงก็แค่คนธรรมดาๆ เหมือนกับคุณนั่นเอง ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรน่ากลัว
- ปฏิบัติต่อเธออย่างเท่าเทียม หากคุณพยายามเอาใจเธอเป็นพิเศษ เธอจะรู้ได้ว่าคุณมันพวกขี้แหย และหากคุณยกเธอไว้เหนือหัว เธอก็จะเหยียบข้ามไปเท่านั้นเอง แต่หากคุณกดเธอให้ต่ำลง คุณอาจจะไม่ได้เจอเธออีกเลย
- หากมีคนยอมออกเดทกับคุณแล้ว พยายามหาทางค้นข้อมูลในเฟสบุ๊คเธอดูก่อนว่า เธอมีความชอบกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ มันเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการหาหัวข้อสนทนาเบื้องต้นเมื่อออกเดท
- ผ่อนคลายเข้าไว้ จำไว้ว่า คุณทั้งคู่เป็นแค่ปุถุชนธรรมดาๆ ย่อมต้องมีประหม่าบ้างเล็กน้อย แต่ควรรู้จักควบคุมกริยาอาการให้เหมาะสม และพยายามทำตัวให้มั่นใจเข้าไว้ อย่าปล่อยให้ความประหม่าพัฒนาไปเป็นความกลัว
- การจีบหญิงก็คล้ายๆ กับการแสดงบนเวที คุณควรลงมือทำในส่วนของคุณ จากนั้นก็รอดูท่าทีของผู้ชมอีกครั้ง ก่อนที่จะแสดงซ้ำอีกรอบตามคำเรียกร้อง หากคุณเอาแต่แสดงซ้ำโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ คนดูอาจจะเลิกปรบมือและอาจไล่คุณลงเวทีอีกด้วย ดังนั้น คุณควรจีบหญิงด้วยความพยายามเต็มที่ เสร็จแล้วก็แค่รอดูปฏิกิริยาของเธอก่อน ไม่มีใครชอบผู้ชายประเภทที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ ซึ่งหากเธอชอบคุณตอบ เธอจะเริ่มแสดงในส่วนของเธอเอง
- ผู้หญิงบางคนมีผู้ชายมาให้เลือกเยอะ หากคุณมีความสม่ำเสมอ คิดบวก และเป็นสุภาพบุรุษ คุณก็สามารถที่จะโดดเด่นเหนือผู้ชายคนอื่นได้
- ชื่นชมเธออย่างตรงไปตรงมา จากนั้นก็ขอเบอร์เลย ผู้หญิงชอบผู้ชายที่ตรงไปตรงมา และรู้จักเป็นผู้นำ
โฆษณา
คำเตือน
- พยายามอย่าทำตัวขาดความมั่นใจหรือโหยหาใครสักคน มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการเก็บลูกสุนัขบาดเจ็บมาประคบประหงม พวกเธอต้องการพบผู้ชายที่มั่นคงและท่าทางสนุก ไว้มีความสุขร่วมกันต่างหาก จำไว้ว่า การแสดงออกว่าคุณกำลังโหยหาผู้หญิงสักคน ไม่ใช่เหตุผลที่คุณเธอจำเป็นต้องตอบสนองความต้องการนั้น พยายามหาเหตุผลที่เหมาะสมกว่านี้เถอะนะ
- ระวังสายตาคุณไว้ อย่าจ้องอวัยวะส่วนใดของผู้หญิง ขณะที่กำลังพูดคุยกัน จำไว้ว่าการสบตาเธอระหว่างพูดคุยกัน กับการจ้องมองหน้าเธอนั้น มันคนละอารมณ์กัน อย่าจ้องเป็นอันขาด
- การอุบัติขึ้นของกลุ่มและชมรม “ปรมาจารย์ด้านการจีบหญิง” (Pickup artist) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น ก่อให้เกิดทัศนคติเชิงลบต่อผู้หญิงและยังมุ่งหวังความสัมพันธ์ระยะสั้นเป็นหลัก ซึ่งวิธีการที่พวกเขาพร่ำสอน มักสรุปรวมไปที่การจีบแบบไม่เลือกหน้า และคาดหวังว่าน่าจะต้องจีบใครติดสักคนบ้างล่ะ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่คุณควรหลีกเลี่ยง เพราะมันดูไม่ค่อยให้เกียรติเพศหญิงสักเท่าไร และยิ่งไร้ประโยชน์เข้าไปใหญ่ ในการที่จะได้มาซึ่งความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง
โฆษณา
โฆษณา