ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
เดี๋ยวนี้แค่เดินเข้าซูเปอร์ คุณก็จะเจอน้ำจินเจอร์เอลแบบกระป๋องพร้อมดื่มวางเรียงรายกันหลายยี่ห้อ แต่บอกเลยว่าชงดื่มเองเจ๋งกว่าเยอะ แถมปรับเปลี่ยนรสชาติได้ตามใจชอบ คุณชงจินเจอร์เอลจากขิงสดได้เต็มขวด 2 ลิตรเลยถ้าใช้วัตถุดิบและวิธีการตามที่เราแนะนำ
ขั้นตอน
-
รวบรวมวัตถุดิบ. ข้างล่างคือวัตถุดิบที่คุณต้องใช้ในการชงจินเจอร์เอลสูตรดั้งเดิม
- น้ำตาล 1 ถ้วยตวง (225 กรัม)
- รากขิงขูด สดๆ 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
- น้ำมะนาว (lemon) 1 ลูก
- เม็ดยีสต์ที่ใช้ทำขนมปัง (granular baker's yeast) 1/4 ช้อนชา (1.6 กรัม)
- น้ำสะอาดเย็นจัด
-
เทน้ำตาล 1 ถ้วยตวงลงในขวดโดยใช้กรวยกรอกน้ำ. ใส่กรวยทิ้งไว้ที่ปากขวดเลย จนกว่าจะทำเสร็จทุกขั้นตอน และพร้อมปิดฝาขวดแล้ว
-
ตวงเม็ดยีสต์แห้งมา 1/4 ช้อนชา. จะใช้ยี่ห้อไหนก็ได้ที่มีในซูเปอร์
-
เทยีสต์ลงขวดผ่านกรวย. เขย่าขวดเพื่อให้ยีสต์กระจาย ผสมกันดีกับเม็ดน้ำตาล
-
ขูดรากขิงกับที่ขูดซี่ละเอียด จนได้ 2 ช้อนโต๊ะ. ขอให้เลือกที่ขูดซี่ถี่ที่สุดที่หาได้
-
ใส่ขิงขูดในถ้วยตวง.
-
คั้นน้ำมะนาวทั้งลูก. มะนาวนี่แหละสำคัญ เพราะช่วยคงระดับค่า pH ให้ต่ำไว้ และกำจัดจุลินทรีย์ที่ไม่พึงประสงค์ แต่ถ้าคุณไม่ชอบมะนาว ก็ให้เปลี่ยนไปใช้น้ำเกรปฟรุตแทน
-
ผสมน้ำมะนาวทั้งลูกกับขิงขูด.
-
คนน้ำมะนาวกับขิงขูดให้เข้ากันจนได้เนื้อเหลวๆ ข้นๆ ก็เทใส่ขวดได้เลย. อาจมีเหนียวติดกรวยบ้างก็ไม่เป็นไร ยังไงขั้นตอนต่อไปก็จะชะส่วนผสมทั้งหมดลงขวดอยู่แล้ว
-
ล้างกรวยที่มีน้ำมะนาวกับขิงขูดติดด้วยน้ำสะอาด. ให้น้ำชะส่วนผสมที่ค้างอยู่ลงไปในขวดด้วย
-
ปิดฝาแล้วเขย่าขวดเลย. เพื่อกระตุ้นการทำงานของยีสต์และแก๊ส
-
เปิดฝา จากนั้นเติมน้ำสะอาดเย็นๆ ให้ปริ่มถึงคอขวด. เหลือที่ไว้สัก 1 นิ้ว จากนั้นก็ปิดฝาให้แน่น ที่ว่างตรงคอขวดนี่แหละเอาไว้ให้แก๊สที่จะออกมาจากการหมัก คว่ำแล้วหงายขวดไปมาซ้ำๆ น้ำตาลจะได้ละลายหมด
- อย่าลืมส่องก้นขวดดู เพราะน้ำตาลชอบไปนอนก้นเป็นก้อน แต่รากขิงขูดจะไม่ละลายไปด้วย ไม่ต้องกังวล
-
เก็บขวดจินเจอร์เอลไว้ในที่อุ่นๆ 24 - 48 ชั่วโมง. อุณหภูมิอุ่นๆ นี่จำเป็นมาก เพราะยีสต์จะได้หมักน้ำจินเจอร์เอล แต่อย่าทิ้งไว้นานจนลืมนะ! ถ้าทิ้งไว้นานเกินแอลกอฮอล์จะยิ่งเข้มข้น รสจะเปลี่ยนไปเลย
-
ทดสอบว่าได้น้ำจินเจอร์เอลซ่าๆ หรือยัง โดยบีบขวดแรงๆ ด้วยนิ้วโป้ง. ถ้าขวดบุ๋มตามแรงกดเหมือนในรูป แสดงว่ายังไม่ซ่าดี ถ้าหมักเสร็จแล้วจะมีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา (เหมือนพวกน้ำอัดลมหรือโซดา) ทำให้ขวดแข็งแน่นจนบีบยาก
-
พอลองบีบแรงๆ แล้วขวดตึงๆ แข็งๆ (หลังผ่านไป 24 - 48 ชั่วโมง) ก็เอาไปแช่ตู้เย็นได้เลย. แช่ไว้ข้ามคืน เปิดมาดื่มจะได้เย็นเจี๊ยบชื่นใจ ตอนเปิดขวดจินเจอร์เอลเย็นๆ ให้ค่อยๆ เปิดทีละนิด จะได้ลดแรงดัน ถ้าเปิดทีเดียวก็พุ่งพรวดออกมาเป็นน้ำพุนี่เสียดายแย่เลยนะ!โฆษณา
-
รวบรวมวัตถุดิบ. ข้างล่างคือวัตถุดิบที่คุณต้องใช้ในการชงจินเจอร์เอลสูตรตั้งเตา
- ขิงสดขูดละเอียด 1 1/2 ออนซ์
- น้ำตาล 3/4 ถ้วยตวง (6 ออนซ์)
- น้ำกรอง 7 1/2 ถ้วยตวง (60 ออนซ์)
- ยีสต์แห้ง 1/8 ช้อนชา (0.5 กรัม)
- น้ำมะนาว (lemon) คั้นสด 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
-
ใช้หม้อแบบมีด้ามจับ ขนาด 2 ควอท. ตั้งไฟแรงปานกลาง จากนั้นใส่ขิงขูด น้ำตาล แล้วเติมน้ำ 1/2 ถ้วยตวง (4 ออนซ์) ผสมเข้าด้วยกันจนน้ำตาลละลายหมด กว่าจะได้ที่ก็ 2 - 3 นาที อดใจคนหน่อยนะ
-
พอน้ำตาลละลายไปหมดแล้ว ให้ยกหม้อลงจากเตา. พักไว้ก่อน ให้คุณปิดฝาแล้วปล่อยให้ส่วนผสมเข้าที่ประมาณ 1 ชั่วโมง ห้ามไปยุ่งกับมันเชียวล่ะระหว่างนั้น ปล่อยส่วนผสมของคุณไว้สักพัก
-
กรองไซรัป. ง่ายที่สุดคือเทไซรัปผ่านกระชอนละเอียดที่รองไว้เหนือชาม บี้ส่วนผสมที่ยังเป็นก้อนกับกระชอนด้วย เพื่อคั้นเอาน้ำออกมาให้หมด พอได้น้ำมากที่สุดเท่าที่จะคั้นและกรองได้แล้ว ก็ให้เอาชามไปแช่น้ำเย็นใส่น้ำแข็ง หรือแช่ตู้เย็นไว้จนส่วนผสมเย็นเท่าอุณหภูมิห้อง หรือก็คือ 20 - 22 องศาขึ้นไป
-
เตรียมกรวยกรอกน้ำ. ใส่กรวยในขวดพลาสติกสะอาดขนาด 2 ลิตร แล้วเทไซรัปที่คุณเพิ่งทำเสร็จลงไป จากนั้นใส่ยีสต์ น้ำมะนาว แล้วก็น้ำเปล่า 7 ถ้วยตวงที่เหลือ (56 ออนซ์) ปิดฝาให้แน่นแล้วเขย่าขวดผสมทุกอย่างให้เข้ากัน สุดท้ายทิ้งขวดไว้ในอุณหภูมิห้อง 48 ชั่วโมง
- แต่ห้ามนานกว่านั้นนะ! ถ้าทิ้งจินเจอร์เอลของคุณไว้นานเกินไป ระวังจะขมคอเพราะยีสต์ที่หมักอยู่ในน้ำนี่แหละ
-
เปิดขวดพร้อมดื่ม. เปิดขวดแล้วเช็คว่าซ่าได้ที่หรือยัง ถ้าโอเคแล้วก็แช่ตู้เย็นโลด แต่ถ้ายังซ่าไม่พอให้รอต่อไป
- แช่เย็นไว้ไม่เกิน 2 อาทิตย์ อย่าลืมเปิดขวดอย่างน้อยวันละครั้งเพื่อปล่อยแก๊สส่วนเกิน ไม่งั้นแรงดันในขวดจะสูงเกินไป เดี๋ยวระเบิดไม่รู้ด้วย
โฆษณา
-
รวบรวมวัตถุดิบ. ข้างล่างคือวัตถุดิบที่คุณต้องใช้ในการชงจินเจอร์เอลสูตรไร้แอลกอฮอล์
- ขิงที่ปอกและสับละเอียด 1 ถ้วยตวง (200 กรัม)
- น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง (450 มล.)
- น้ำตาล 1 ถ้วยตวง (225 กรัม)
- น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง (225 มล.)
- คลับโซดา 1/2 ถ้วยตวง (115 มล.) (ต่อ 1 แก้ว)
- น้ำมะนาว 2 - 3 หยด
- ผิวมะนาว (ไว้โรยหน้า)
-
ต้มน้ำ 2 ถ้วยตวงในหม้อจนเดือด. ใส่ขิงที่ปอกและสับละเอียดแล้ว จากนั้นลดไฟอ่อนปานกลาง แล้วทิ้งขิงแช่น้ำกรุ่นๆ ไว้แบบนั้น 5 นาที
- ยกลงจากเตา จากนั้นทิ้งไว้ 20 นาที ถ้านานกว่านั้นเดี๋ยวจะรสออกมา ขิ๊งขิง เกินจนดื่มไม่ไหว
-
กรองน้ำด้วยกระชอนตาถี่. กรองเอาเศษขิงออกไปให้หมด ยังไงรสของขิงก็ผสมอยู่ในน้ำ ไม่ต้องมีเนื้อขิงปนไปด้วย
-
ทำไซรัปอย่างง่ายในหม้ออีกใบ. ละลายน้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวงในน้ำเดือด 1 ถ้วยตวง พอน้ำตาลละลายหมดก็คือเสร็จเรียบร้อย ยกลงได้เลย
-
ผสมน้ำขิง 1/2 ถ้วยตวงกับไซรัป 1/3 ถ้วยตวง และอย่าลืมคลับโซดา 1/2 ถ้วยตวง. ปริมาณนี้สำหรับ 1 แก้ว บีบมะนาวสัก 2 - 3 หยด สุดท้ายแต่งหน้าด้วยผิวมะนาว เท่านี้จินเจอร์เอลเย็นเจี๊ยบของคุณก็พร้อมเสิร์ฟ!โฆษณา
เคล็ดลับ
- แน่นอนว่าคุณเพิ่มลดน้ำตาลและ/หรือไซรัปได้ตามชอบ ส่วนมะนาวในขั้นตอนที่ 7 นั้นจะไม่ใส่ก็ได้ แต่ใส่ก็ดีเพราะช่วยป้องกันแบคทีเรียไม่พึงประสงค์ ถ้าคุณอยากดื่มแล้วเผ็ดๆ ซ่าๆ ก็ให้เพิ่มขิงขูดตามต้องการ
- ถ้าอยากทดลองรสชาติใหม่ๆ ให้ลองเคี่ยวขิงขูดละเอียดในน้ำสักชั่วโมงเพื่อให้ได้รสชาติอีกแบบ น้ำที่ได้จะสีออกทองๆ น้ำตาลๆ น้ำ 2 ลิตรให้คุณใช้ขิง 20 กรัมขึ้นไป เพิ่ม/ลดได้ตามใจชอบ
- วิธีการหมักอาหารแบบนี้คนเราใช้กันมาเป็นพันๆ ปีแล้ว โดยเฉพาะการทำขนมปัง ไวน์ และเบียร์ คาร์บอนไดออกไซด์นี่แหละคือตัวที่ทำให้ขนมปังฟู และเครื่องดื่มเกิดฟองขึ้นมา ส่วนยีสต์กับน้ำตาลที่ทำปฏิกิริยากันทำให้ได้เครื่องดื่มซ่าๆ แสนสดชื่น เหมือนแชมเปญฟองฟู่ไงล่ะ
- ภาชนะที่ใช้หมักต้องล้างให้สะอาด เดี๋ยวนี้มีผงฆ่าเชื้อให้เลือกใช้เยอะแยะเลย
- ไม่ต้องใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เพราะแค่ใช้น้ำตาล 2 - 3 ช้อนโต๊ะ (28 - 42 กรัม) ก็หวานจับใจแล้ว แค่นี้ก็พอให้ยีสต์ทำปฏิกิริยาเกิดเป็นเครื่องดื่มซ่าสะใจแล้ว
- ถ้ายังมีเศษขิงลอย ให้กรองจินเจอร์เอลผ่านกระชอน (ถ้าไม่กรอง เศษขิงจะปนมาเวลาเทเครื่องดื่มลง 1 - 2 แก้วแรก อีกทีก็คือแก้วสุดท้าย เพราะขิงมักนอนก้น) รินน้ำหมดเมื่อไหร่ให้รีบล้างขวดให้สะอาดทันที
- ถ้าอยากให้เป็นจินเจอร์เอลเฉพาะตัวยิ่งขึ้น ลองออกแบบฉลากแล้วใช้แปะข้างขวดด้วย ทีนี้ก็เด่นเป็นสง่าเวลายกออกมาเสิร์ฟเพื่อนๆ และครอบครัวบนโต๊ะอาหาร
โฆษณา
คำเตือน
- ตอนหาซื้อยีสต์ อย่าเลือกที่ใช้ "หมักไวน์/เบียร์" เพราะเป็นยีสต์แบบ inactive (ที่เราใช้ในบทความนี้คือแบบ active) ที่เหลือจากกระบวนการหมักไวน์/เบียร์ พวกนี้เป็นยีสต์ที่ตายแล้ว ใช้ไม่ได้ ถ้าจะให้ดีก็ซื้อยีสต์ที่ใช้ทำขนมปังที่มีขายตามซูเปอร์นั่นแหละ
- หลังบีบขวดแล้วแน่นแข็ง ห้าม ทิ้งจินเจอร์เอลที่ทำเสร็จไว้ในที่อุ่นๆ ต่อไป ถ้าคุณทิ้งขวดจินเจอร์เอลในอุณหภูมิห้องนานเกิน 2 วัน โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนตับแล่บของบ้านเรา ระวังแรงดันในขวดจะสูงจน ระเบิดตูม ! แต่ถ้าแช่เย็นไว้ก็หายห่วง
- 2 สูตรแรกจะเป็นจินเจอร์เอลแบบมีแอลกอฮอล์ ถ้าหมักไว้ 2 - 3 วันตามปกติ ปริมาณแอลกอฮอล์ในจินเจอร์เอลจะน้อย "มาก" แทบไม่รู้สึก แต่ถ้าทิ้งไว้นานหลายวัน (อ่านคำเตือนเราซ้ำอีกที) จินเจอร์เอลจะหมักต่อไปจนไม่เหลือน้ำตาลอีก แบบนั้นแอลกอฮอล์จะสูงขึ้นเยอะเลย สรุปคือแทบจะไม่เหลือรสจินเจอร์เอลอีกเลย ถ้าเข้าข่ายนี้ก็ต้องระวังโดนจับเรื่องข้อหาต้มเหล้าเถื่อนด้วยล่ะ (น้องๆ หนูๆ ก็ห้ามดื่มด้วย)
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
สูตรดั้งเดิม
- ขวดน้ำอัดลมพลาสติก 2 ลิตร ใช้ฝาด้วย ล้างให้สะอาด
- กรวยกรอกน้ำ
- ที่ขูดขิง (เลือกที่ "ซี่ขูด" ละเอียดหน่อย)
- ถ้วยตวง
- ช้อนตวง
สูตรตั้งเตา
- ขวดน้ำอัดลมพลาสติก 2 ลิตร ใช้ฝาด้วย ล้างให้สะอาด
- กรวยกรอกน้ำ
- ที่ขูดขิง (เลือกที่ "ซี่ขูด" ละเอียดหน่อย)
- ถ้วยตวง
- ช้อนตวง
- กระชอน
- หม้อแบบมีด้ามจับ
สูตรไร้แอลกอฮอล์
- ถ้วยตวง
- ช้อนชา
- หม้อแบบมีด้ามจับ
- กระชอน
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,785 ครั้ง
โฆษณา