PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

สัญชาตญาณของสุนัขที่ตั้งท้องจะช่วยให้มันตอบสนองต่อร่างกายและผ่านพ้นการคลอดไปได้เอง แต่เจ้าของสุนัขก็ควรรู้วิธีช่วยสุนัขเพื่อให้ทั้งแม่และลูกสุนัขแข็งแรงและปลอดภัย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

เตรียมตัวสำหรับการคลอด

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. นัดกับสัตวแพทย์เพื่อให้ตรวจสุนัขที่กำลังตั้งท้องอยู่ สัตวแพทย์จะยืนยันการตั้งท้องได้ และตรวจดูว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ [1]
  2. สร้างพื้นที่พักให้สุนัขอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนที่คุณคิดว่ามันจะคลอดลูก คุณควรสร้างพื้นที่ที่มันต้องการโดยให้มันอยู่ในเตียงหรือกล่องที่มีผ้าขนหนูหรือผ้าห่ม เพื่อให้สบาย
    • เลือกจุดที่ไม่มีคนเดินพลุกพล่าน อย่างเช่นห้องแยกอีกห้องหนึ่ง เพื่อที่สุนัขจะได้อยู่เป็นส่วนตัวอย่างเงียบๆ
  3. เตรียมอาหารและน้ำไว้ในที่พักหรือไว้ใกล้ๆ ที่พัก. วางอาหารและน้ำไว้ใกล้ๆ สุนัข มันจะได้เข้าถึงได้ง่ายๆ รวมถึงทำให้มันไม่ต้องแยกตัวจากลูกสุนัขเพื่อกินอาหารและดื่มน้ำอีกด้วย
  4. สุนัขที่ตั้งท้องควรกินอาหารสำหรับลูกสุนัขที่มีคุณภาพดี มีโปรตีนและแคลเซียมสูง ซึ่งจะทำให้ร่างกายของมันพร้อมที่จะผลิตนมจำนวนมาก
    • ให้สุนัขของคุณกินอาหารลูกสุนัขจนกว่าลูกๆ ของมันจะหย่านม [2]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ดูแลสุนัขระหว่างและหลังการคลอด

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คอยสังเกตสุนัขไว้ระหว่างที่มันกำลังคลอดลูก. หากสุนัขไม่ได้ประหม่าเมื่อคุณอยู่ด้วย ก็ให้คอยดูมันไว้ระหว่างที่มันเริ่มเจ็บท้องคลอด ไม่ต้องเข้าไปใกล้มากก็ได้ สุนัขจะไม่สบายตัวเมื่อมดลูกหดรัดตัวเหมือนกับคนนั่นแหละ นี่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการคลอด
    • หลายครั้งที่ลูกสุนัขจะเกิดตอนกลางคืนระหว่างที่คุณหลับอยู่ พยายามสร้างนิสัยคอยไปดูสุนัขของคุณทันทีที่คุณตื่นในช่วงที่สุนัขใกล้คลอดแล้ว
  2. แม่สุนัขควรทำความสะอาดลูกทันทีที่เกิด ให้เวลามันซัก 1-2 นาทีเพื่อเอาถุงน้ำคร่ำออกจากตัวลูกสุนัขและเริ่มเลียลูกเพื่อทำความสะอาด หากสุนัขของคุณใช้เวลามากกว่านั้น คุณสามารถเข้าไปช่วยโดยการเอาถุงน้ำคร่ำออกและถูตัวลูกสุนัขไปมาเพื่อให้ตัวมันแห้ง และกระตุ้นให้มันหายใจ [3]
    • หากจำเป็น คุณก็สามารถค่อยๆ ผูกปมสายสะดือให้ห่างจากตัวลูกสุนัขประมาณ 1 นิ้ว แล้วตัดสายออกก็ได้
  3. ลูกสุนัขควรเริ่มดูดนมแม่ภายใน 1-3 ชั่วโมงหลังคลอด คุณอาจต้องจับลูกสุนัขวางหน้าหัวนมของแม่และค่อยๆ บีบนมออกมา ลูกสุนัขจะได้เข้าใจว่าต้องทำอะไร
    • หากลูกสุนัขไม่ยอมดูดนม หรือสุนัขของคุณไม่ยอมให้ลูกดูดนม ลูกสุนัขอาจมีอะไรผิดปกติ อย่างเช่นเพดานโหว่ ให้จับลูกสุนัขอ้าปากแล้วมองดูเพดานปากของมัน เพดานปากควรมีพื้นผิวเป็นแผ่นเต็มอัน ไม่มีรูในโพรงอากาศข้างจมูก (sinus)
    • คุณอาจต้องชงนมให้ลูกสุนัขแล้วป้อนผ่านสายให้อาหารหรือขวดนมหากมันไม่สามารถดูดนมได้ทั้งที่สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์
  4. เมื่อลูกสุนัขคลอดแล้ว ให้นับจำนวน คุณจะได้รู้ว่ามีลูกสุนัขอยู่กี่ตัว ทำให้คอยดูแลพวกมันได้
  5. แม่สุนัขอาจอยากกินรก ซึ่งไม่เป็นอันตราย หากมันกินรก มันจะได้รับสารอาหารทั้งหมดที่ร่างกายใช้ไปสำหรับการตั้งท้องคืนมา ฉะนั้นอย่าพยายามนำรกไปทิ้งทันที หากแม่สุนัขไม่กิน ค่อยนำไปทิ้งถังขยะ
    • ในบางกรณี เมื่อแม่สุนัขกินรกแล้วอาจอาเจียนออกมาภายหลัง
    • จำไว้นะว่าลูกสุนัขทุกตัวจะมีรกของตัวเอง
  6. ลูกสุนัขไม่สามารถปรับอุณหภูมิร่างกายได้ดีนัก คุณจึงต้องคอยดูแลให้พวกมันอุ่น ในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด ให้รักษาอุณหภูมิในส่วนหนึ่งของกล่องที่สุนัขคลอดลูกไว้ที่ประมาณ 29.5 องศาเซลเซียส จากนั้นค่อยๆ ลดลงเป็น 24-26.5 องศาเซลเซียสได้
    • ใช้โคมไฟให้ความร้อนเพื่อสร้างอุณหภูมิเพิ่มเติมในมุมหนึ่งของกล่องคลอด เมื่อลูกสุนัขหนาว มันจะไม่ค่อยขยับตัว คุณต้องคอยตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริเวณที่สุนัขคลอดลูกนั้นอุ่น และลูกสุนัขอยู่ใกล้แม่และพี่น้องตัวอื่นๆ
  7. นัดกับสัตวแพทย์เพื่อพาเหล่าสุนัขไปตรวจหลังจากที่ลูกสุนัขคลอดแล้ว สัตวแพทย์จะได้ตรวจดูการฟื้นตัวของแม่สุนัขและการเจริญเติบโตของลูกสุนัข
  8. กันให้สุนัขตัวอื่นอยู่ห่างจากแม่และลูกสุนัข. หากคุณเลี้ยงสุนัขตัวพ่ออยู่ด้วย ต้องคอยกันให้มันอยู่ในพื้นที่แยกกับแม่และลูกสุนัข สุนัขอื่นๆ ในบ้านก็ไม่ควรได้เข้าไปกวนแม่และลูกสุนัขด้วย เพราะมีความเสี่ยงว่าสุนัขผู้ใหญ่จะตีกันเอง และอาจเสี่ยงต่อลูกสุนัขด้วย แม่สุนัขอาจมีท่าทางดุร้ายเพื่อปกป้องลูกของมัน นี่เป็นเรื่องปกติ และคุณไม่ควรลงโทษมัน เพราะมันทำไปตามสัญชาตญาณ
    • แม่สุนัขอาจแสดงท่าทีดุร้ายต่อคนด้วยก็ได้ ฉะนั้นคุณควรกันไม่ให้เด็กเข้าไปยุ่งกับลูกสุนัขเช่นกัน
  9. ถ้าหากแม่สุนัขไม่ได้สกปรกมากๆ ให้รอ 2-3 สัปดาห์ก่อนจะอาบน้ำให้มันโดยใช้แชมพูข้าวโอ๊ตอ่อนๆ สำหรับสุนัข อาบน้ำมันให้สะอาดหมดจด จะได้ไม่มีสารตกค้างที่ลูกสุนัขจะเจอได้ระหว่างดูดนม
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ดูแลแม่สุนัข

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. แม่สุนัขที่กำลังให้นมลูกต้องกินอาหารสำหรับลูกสุนัขคุณภาพดี มีโปรตีนและแคลเซียมสูง แบบนี้มันจะได้ผลิตนมได้เยอะๆ ควรให้แม่สุนัขกินอาหารสำหรับลูกสุนัขจนกว่าลูกของมันจะหย่านม
    • ให้แม่สุนัขกินอาหารมากเท่าที่ต้องการ ซึ่งอาจจะเยอะเป็น 4 เท่าของปริมาณอาหารที่มันกินตอนที่ไม่ได้ตั้งท้อง ทำยังไงคุณก็ไม่สามารถให้มันกินอาหารเยอะเกินไปได้ช่วงนี้ เพราะการผลิตนมให้ลูกสุนัขนั้นต้องใช้แคลอรี่เยอะมาก
    • จำไว้ว่าในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังคลอดลูก แม่สุนัขจะไม่ค่อยอยากกินอะไรเท่าไหร่ [4]
  2. อย่าเพิ่มแคลเซียมในอาหารของแม่สุนัขโดยไม่ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อน หากแม่สุนัขได้รับแคลเซียมมากเกินไป มันอาจเป็นไข้น้ำนม (milk fever) ทีหลังได้ [5]
    • ไข้น้ำนมเกิดจากการที่ระดับแคลเซียมในเลือดลดลงมากๆ มักเกิดหลังสุนัขให้นมลูกไปแล้ว 2-3 สัปดาห์ อาจทำให้สุนัขชักได้เพราะระดับแคลเซียมในเลือดต่ำเกินไป
    • หากคุณคิดว่าสุนัขเป็นไข้น้ำนม ให้รีบติดต่อสัตวแพทย์ทันที
  3. ในช่วง 2-4 อาทิตย์แรก คุณแม่มือใหม่จะยุ่งกับการจับตาดูแลลูกสุนัขมากๆ มันจะไม่อยากอยู่ห่างลูกสุนัขเป็นเวลานาน มันจะต้องอยู่ใกล้ๆ ลูกเพื่อให้ลูกสุนัขอุ่น ท้องอิ่ม และสะอาด ให้พาแม่สุนัขออกไปเข้าห้องน้ำแค่ทีละ 10-15 นาที
  4. หากสุนัขของคุณมีขนยาว ให้เล็มขนบริเวณหาง ขาหลัง และเต้านมเพื่อรักษาความสะอาดหลังจากที่คลอดลูกแล้ว
    • ช่างตัดขนหรือสัตวแพทย์ก็สามารถตัดขนให้ได้หากคุณไม่สบายใจที่จะตัดขนสุนัขเอง หรือไม่มีอุปกรณ์
  5. คอยตรวจดูต่อมน้ำนมของสุนัขระหว่างให้นมลูกทุกวัน. อาการเต้านมอักเสบ (mastitis) อาจเกิดขึ้นได้ และอาจทำให้อาการของแม่สุนัขแย่ลงได้อย่างรวดเร็ว หากคุณเห็นว่าเต้านมของแม่สุนัขแดง (หรือม่วง) แข็ง ร้อน หรือดูท่าทางจะเจ็บ แสดงว่ามีปัญหาแล้ว ในบางกรณี เต้านมอักเสบอาจทำให้แม่สุนัขที่อยู่ในช่วงให้นมเสียชีวิตได้
    • หากคุณคิดว่าสุนัขอาจเต้านมอักเสบ ให้รีบพามันไปหาสัตวแพทย์ทันที แม้ว่าจะต้องพาไปฝ่ายฉุกเฉินที่โรงพยาบาลสัตว์ ก็ต้องรีบพาไปทันทีเลย [6] , [7] , [8]
  6. เตรียมตัวเจอของเหลวไหลออกจากอวัยวะเพศของสุนัข. เป็นเรื่องธรรมดาหากคุณเห็นของเหลวไหลจากอวัยวะเพศของแม่สุนัขหลังคลอด 2-3 สัปดาห์ (อาจนานถึง 8 สัปดาห์) ของเหลวนี้อาจเป็นสีน้ำตาลแดงและดูเหนียวๆ เป็นเส้น บางครั้งก็อาจมีกลิ่นนิดหน่อย
    • หากคุณเห็นของเหลวสีเหลือง เขียว หรือเทา หรือสังเกตว่ามีกลิ่นเหม็นๆ ให้พาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ เพราะมันอาจติดเชื้อในมดลูก [9]
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ดูแลลูกสุนัขเกิดใหม่

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คอยดูให้ลูกสุนัขดูดนมแม่ทุก 2-3 ชั่วโมงในช่วง 2-3 อาทิตย์แรก พวกมันควรได้อะไรกินอย่างน้อยทุก 2-4 ชั่วโมง ลูกสุนัขที่มีความสุขคือลูกสุนัขที่นอนหลับ หากมันส่งเสียงร้องเยอะ อาจเป็นเพราะมันไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ สัญญาณว่าลูกสุนัขได้รับการดูแลอย่างดีคือพุงน้อยๆ กลมๆ และขนที่สะอาด
    • ลองชั่งน้ำหนักลูกสุนัขบนตาชั่งดิจิตอล เพื่อตรวจดูให้มั่นใจว่าน้ำหนักมันเพิ่มขึ้นทุกวัน น้ำหนักลูกสุนัขควรเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วงสัปดาห์แรก [10]
    • อย่าเมินลูกสุนัขที่ดูผอมหรือขยับตัวน้อยกว่าตัวอื่นๆ ให้พามันไปหาสัตวแพทย์ทันที มันอาจต้องได้รับอาหารเพิ่มเติมหรือต้องได้รับความช่วยเหลืออื่น
  2. คอยสังเกตดูลูกสุนัขว่ามีความผิดปกติอะไรหรือไม่. หากในช่วง 2-3 วันแรก คุณเห็นว่าลูกสุนัขส่วนใหญ่ตัวโตขึ้น แต่มีตัวหนึ่งที่ตัวเล็กและผอม อาจเป็นสัญญาณว่ามันได้รับอาหารไม่เพียงพอ หรือมีปัญหาอื่น ให้พาลูกสุนัขไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายทันที ลูกสุนัขเกิดใหม่ก็เหมือนเด็กทารกเกิดใหม่ คืออาจป่วยและขาดน้ำได้เร็ว
  3. เมื่อลูกสุนัขโตขึ้นและเริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น บริเวณที่คุณกันไว้ก็จะเละเทะมากขึ้น คุณจะต้องทำความสะอาดพวกลูกสุนัขอย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้งเพื่อรักษาความสะอาดในกล่องคลอดเอาไว้
  4. ลูกสุนัขจะต้องได้รับการขัดเกลาทางสังคมอย่างถูกต้อง ซึ่งรวมถึงการเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับคน ให้อุ้มลูกสุนัขวันละหลายๆ ครั้ง ทำให้ลูกสุนัขชินกับการถูกสัมผัสที่ร่างกายทุกส่วน มันจะได้ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกเมื่อโตขึ้น
  5. รอให้ลูกสุนัขอายุ 8 สัปดาห์ก่อนจะยกให้คนอื่น. หากคุณจะขายลูกสุนัขหรือยกมันให้คนอื่น ต้องรอจนมันอายุ 8 สัปดาห์ก่อนจะส่งตัวให้เจ้าของใหม่ ในบางรัฐ อย่างเช่นแคลิฟอร์เนีย การขายหรือยกลูกสุนัขให้คนอื่นก่อนอายุ 8 สัปดาห์ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
    • ลูกสุนัขควรหย่านมเด็ดขาด และสามารถกินอาหารสุนัขเองได้ก่อนจะออกไปอยู่บ้านใหม่
    • คุณควรเริ่มถ่ายพยาธิและฉีดวัคซีนให้ลูกสุนัขก่อนมันจะออกจากบ้านไป ให้ปรึกษาและทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 106,678 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา