ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การปล่อยให้น้องหมาอ้วนเกินอาจทำให้พวกมันมีอายุสั้นลงอย่างรวดเร็ว น้องหมาที่น้ำหนักเกินมีความรู้สึกไวมากขึ้นต่อโรคภัย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และปัญหาต่างๆ ที่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย การแบกน้ำหนักมากเกินไปจะทำให้น้องหมาที่อ้วนเกิน มีความเครียดเพิ่มมากขึ้นตามข้อต่อและแผ่นหลังจนอาจเป็นโรคข้ออักเสบได้ หากน้องหมาของคุณอ้วนเกิน จะเป็นประโยชน์อย่างที่สุดทั้งสำหรับคุณและน้องหมา หากจะทำให้มันผอมลงโดยเร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ตัดสินใจว่าน้องหมาอ้วนเกินจริงไหม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพราะแม้แต่สุนัขสายพันธุ์เดียวกันก็ยังมีชนิดรูปร่างที่แตกต่างกัน รูปร่างที่แท้จริงของสุนัขจึงเป็นการทดสอบขั้นสุดท้ายอย่างแท้จริงว่ามันอ้วนเกินหรือไม่ การตรวจดูรูปร่างทั้งจากด้านบนและด้านข้าง จะช่วยให้คุณมีความคิดดีๆ เรื่องสภาพปัจจุบันของน้องหมา
    • เวลาที่คุณยืนอยู่เหนือน้องหมา และมองตรงลงไปบนแผ่นหลังของมัน คุณน่าจะมองเห็นเอวของมันอย่างชัดเจนตรงด้านหน้าของขาหลังทั้งคู่ และมองเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างหน้าอกกับหน้าท้อง [1]
    • เมื่อมองน้องหมาจากด้านข้าง คุณน่าจะสามารถมองเห็นความแตกต่างระหว่างขนาดของหน้าอกกับหน้าท้อง น้องหมาสมควรจะมีเอวที่สังเกตเห็นได้ง่าย และหน้าท้องสมควรอยู่ใกล้กับกระดูกสันหลังมากกว่ากับหน้าอก [2]
    • แผ่นหลังที่แบนและกว้างกับหน้าท้องห้อยย้อยอาจบ่งบอกว่าน้องหมาอ้วนเกินไปแล้ว [3]
  2. [4] อีกวิธีหนึ่งที่จะประเมินน้ำหนักของน้องหมาคือ "การทดสอบซี่โครง (Rib test) " โดยวางมือแต่ละข้างของคุณลงบนหน้าอกแต่ละข้างของน้องหมา แล้วสัมผัสซี่โครงของมัน ในสุนัขที่มีน้ำหนักปกตินั้น คุณไม่สมควรจะมองเห็นซี่โครงของมัน แต่สมควรจะสัมผัสและนับจำนวนซี่โครงแต่ละข้างได้อย่างง่ายดาย หากคุณไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างง่ายๆ นั่นคือสัญญาณว่าน้องหมาอ้วนเกินไปแล้ว [5]
  3. มีแผนภูมิดีๆ หลายอันที่คุณจะหาได้ทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งบอกขอบเขตของน้ำหนักที่ถือว่าเหมาะสม โดยขึ้นอยู่กับสายพันธุ์สุนัขของคุณด้วย จงจำใส่ใจว่าขอบเขตเหล่านี้ยึดจากน้ำหนักเฉลี่ย กับแบบฉบับของแต่ละสายพันธุ์ที่มีการจดบันทึกไว้ แต่ในที่สุด สมควรประเมินสุนัขแต่ละตัวในฐานะที่เป็นตัวของมันเอง
    • คุณอาจสามารถรู้น้ำหนักที่แม่นยำของมันได้ที่บ้าน ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของน้องหมาด้วย หากคุณต้องการชั่งน้ำหนักน้องหมาที่บ้าน ให้เริ่มชั่งน้ำหนักตัวคุณเอง ก่อนจะอุ้มน้องหมาขึ้นมา (หากสามารถทำได้) แล้วชั่งน้ำหนักของคุณกับมันด้วยกัน เมื่อหักลบน้ำหนักของคุณออกจากน้ำหนักรวมที่ชั่งด้วยกัน จะได้น้ำหนักของน้องหมา [6] จงใช้วิธีเดียวกันเสมอในการชั่งน้ำหนัก เพื่อควบคุมให้ผลที่ได้เที่ยงตรงที่สุดที่จะทำได้
    • การไปหาสัตวแพทย์เป็นเวลาดีเลิศที่จะได้รู้ถึงน้ำหนักที่ถูกต้องของน้องหมา แถมยังจะได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์เรื่องน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพของน้องหมาด้วย
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

พัฒนาแผนลดน้ำหนัก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าน้องหมาอ้วนเกิน หรือหากคุณยังคงไม่แน่ใจ ก็เป็นเวลาที่คุณจะไปเยี่ยมเยือนสัตวแพทย์ สัตวแพทย์สามารถประเมินน้ำหนักของน้องหมา ให้คำปรึกษาเรื่องต้นเหตุต่างๆ ที่อาจเป็นไปได้ และให้แนวคิดแก่คุณว่าน้องหมาจำเป็นต้องลดน้ำหนักลงมากเพียงใด หรืออย่างน้อยก็ระบุเป้าหมายขั้นต้น
  2. ร่วมกับสัตวแพทย์ในการจัดทำแผนให้อาหารมื้อต่างๆ . สัตวแพทย์สามารถช่วยคุณด้วยแผนการลดน้ำหนักเฉพาะ เพื่อให้น้องหมาลดน้ำหนักเหลือเท่าที่จำเป็น การทำเช่นนี้อาจรวมถึงการเปลี่ยนไปใช้อาหารสุนัขที่ออกแบบมาเพื่อลดน้ำหนัก การแนะนำให้ใช้อาหารชนิดใดเป็นของกินเล่น (Treat) การปรับปริมาณการบริโภคและความถี่ของการให้อาหาร กับการเพิ่มการออกกำลังกาย
    • สัตวแพทย์ยังสามารถประเมินด้วยว่า มีเหตุผลที่ดีต่อสุขภาพใดๆ หรือไม่ ที่จะไม่เริ่มทำตามแผนการดังกล่าว [7]
  3. จงพิจารณาเรื่องใช้ยาลดน้ำหนักในกรณีที่น้ำหนักเกินเยอะมาก. ในปัจจุบัน มียาลดน้ำหนักสำหรับน้องหมาโดยเฉพาะให้หาซื้อเพื่อใช้ช่วยลดน้ำหนัก โดยพื้นฐานการทำงานของยาเหล่านี้คือลดความอยากอาหาร จงตระหนักว่าเป็นที่รู้กันว่ายาลดน้ำหนักมีผลข้างเคียงในอัตราสูง เช่น ทำให้อาเจียน และท้องเดิน [8]
    • คุณสมควรใช้ยาลดน้ำหนักเป็นทางเลือกสุดท้าย ในน้องหมาตัวที่ถือว่ามีสุขภาพดีหากไม่มีปัญหาอ้วนเกิน และใช้เฉพาะเพียงหลังจากที่คุณได้ตัดทิ้งซึ่งปัญหาทางการแพทย์ทั้งหมด ที่อาจเป็นสาเหตุที่ทั้งทำให้น้องหมาน้ำหนักเกิน และทำให้มันไร้ความสามารถที่จะลดน้ำหนัก
    • สัตวแพทย์สามารถตัดสินใจว่าน้องหมาของคุณเป็นหนึ่งในผู้สมัครที่ยอมรับได้สำหรับทางเลือกนี้หรือไม่
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ทำตามแผนลดน้ำหนัก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สัตวแพทย์สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจว่าจะให้อาหารอะไรแก่สุนัขของคุณ ทำได้ง่ายๆ ด้วยการลดปริมาณอาหารที่น้องหมากินอยู่ในปัจจุบันลง หรือเปลี่ยนเป็นอาหารสำหรับลดน้ำหนัก
    • มีอาหารตามใบสั่งแพทย์ที่จะช่วยให้น้องหมาลดน้ำหนัก คู่กับอาหารที่จะช่วยให้พวกมันยังคงน้ำหนักที่ต้องการไว้ได้ เมื่อได้ลดน้ำหนักจนถึงระดับที่เหมาะสมแล้ว อาหารเหล่านี้มีแคลอรี่ต่ำและมีปริมาณไฟเบอร์สูงกว่า เพื่อให้น้องหมารู้สึกอิ่มขณะที่ได้แคลอรี่น้อยลง เป็นธรรมดาที่อาหารเหล่านี้มีราคาแพงกว่าอาหารปกติ และตามปกติจะสงวนไว้สำหรับกรณีที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักอย่างฮวบฮาบ หรือกรณีที่ใช้วิธีลดปริมาณอาหารตามปกติไม่ได้ผล
  2. ชั่งปริมาณอาหารของน้องหมาสำหรับการให้อาหารในแต่ละมื้อ. การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเรื่องความอยากอาหาร ซึ่งสามารถบ่งชี้ปัญหาอื่นๆ การทำเช่นนี้ยิ่งมีความสำคัญเวลาที่คุณพยายามจะให้น้องหมาลดน้ำหนัก คุณจำเป็นต้องรู้แน่ว่าน้องหมากำลังกินอะไร ในปริมาณมากแค่ไหน เพื่อที่จะวัดได้ว่าแผนการของคุณได้ผลดีเพียงใด เพื่อทำการปรับปรุงแก้ไขใดๆ ที่จำเป็น
    • หากมีน้องหมาตัวอื่นในบ้านด้วย คุณอาจจำเป็นต้องแยกพวกลูกหมาออกมาในเวลาให้อาหาร จงทำให้แน่ใจว่าหมาแต่ละตัวได้รับเฉพาะอาหารของมัน โดยแยกแต่ละตัวไว้ในแต่ละห้องพร้อมกับอาหาร จนกว่ามันจะกินอาหารของมันหมดแล้ว
  3. เก็บสถิติประจำวันว่าคุณได้ให้อาหารแก่น้องหมาเป็นปริมาณเท่าใด. ซึ่งรวมทั้งอาหารกินเล่น และปริมาณการออกกำลังกายด้วย คุณสามารถใช้ถ้วยตวงแต่การชั่งน้ำหนักในแต่ละวันเป็นวิธีที่แม่นยำมากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังให้อาหารแก่มันในปริมาณที่ถูกต้อง
    • คุณสามารถทำแผนผังหรือดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต จงทำให้แน่ใจว่าได้รวมปริมาณน้ำหนักในหนึ่งสัปดาห์สำหรับน้องหมาเอาไว้ด้วย และนำติดตัวไปพบกับสัตวแพทย์ด้วย จะได้ประเมินความก้าวหน้าของคุณได้ดีที่สุด [9]
  4. ของกินเล่นสำหรับสุนัขที่ขายในเชิงพาณิชย์ส่วนมากมีแคลอรี่สูงมาก คล้ายกับลูกกวาดที่คนกิน ขณะเดียวกัน ก็มีของกินเล่นเชิงพาณิชย์ชนิดที่ลดปริมาณแคลอรี่ลงด้วย คุณอาจลดปริมาณแคลอรี่ในของกินเล่นของน้องหมาลง โดยเปลี่ยนแทนด้วยของกินเล่นที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า [10]
    • ตัวอย่างของกินเล่นที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าสำหรับน้องหมา ได้แก่ แครอต ถั่วเขียว บร็อคโคลี ขึ้นฉ่ายฝรั่ง และแอปเปิล [11] และเหมือนกับแผนลดน้ำหนักทุกแผน สมควรจำกัดปริมาณการบริโภค
    • ก่อนจะให้อาหารชนิดใหม่ใดๆ แก่น้องหมา จงพิจารณาเสมอเรื่องภูมิแพ้อาหารใดๆ ที่คุณทราบ และจงตระหนักเสมอด้วยว่าอาหารสำหรับมนุษย์บางอย่างอาจเป็นพิษสำหรับสุนัข จึงสมควรหลีกเลี่ยง
    • เวลาให้ของกินเล่น อย่าลืมนับรวมพวกมันไว้ในปริมาณแคลอรี่ที่บริโภคทั้งหมดต่อวันด้วย คุณอาจจำเป็นต้องลดปริมาณแคลอรี่จากแหล่งอื่นเพื่อชดเชย
    • มีกฎว่าของกินเล่นไม่สมควรมีปริมาณเกิน 10% ของอาหารที่บริโภคตลอดทั้งวัน
    • คุณอาจใส่บางส่วนของอาหารเมล็ด ในปริมาณที่จะให้น้องหมากินในแต่ละวันไว้ในกล่องใบหนึ่ง และใช้เป็นของกินเล่นของมันตลอดทั้งวัน
  5. การออกกำลังกายจะช่วยพัฒนาการตึงตัวของกล้ามเนื้อ กระบวนการสร้างกับสลายสสาร และน้ำหนัก การคำนวณน้ำหนักแบบง่ายๆ คือ ปริมาณแคลอรี่ในอาหารที่กินเข้าไป ลบด้วยปริมาณแคลอรี่ที่มันใช้ไปในแต่ละวัน จะเป็นตัวกำหนดว่าน้องหมาจะลดน้ำหนักได้หรือไม่ ด้วยการพัฒนาการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ คุณจะปรับปรุงกระบวนการสร้างและสลายสสารของน้องหมากับสุขภาพโดยทั่วไปได้ด้วย
    • เรื่องนี้สมควรเป็นหนึ่งในประเด็นใหญ่ของการหารือกับสัตวแพทย์ ก่อนจะเริ่มการออกกำลังกายตามปกติ โดยธรรมชาตินั้น บางสายพันธุ์ไม่อาจออกกำลังกายบางรูปแบบ หรือไม่อาจทนต่อความรุนแรงของการออกกำลังกายบางรูปแบบ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพทางกายภาพโดยรวมของน้องหมา และสภาพแวดล้อมของการออกกำลังกายที่จะเกิดขึ้นด้วย คุณอาจจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เรื่องวิธีออกกำลังกายที่จะสนับสนุนให้น้องหมาทำ
    • เป็นธรรมดาที่จะเริ่มด้วยการเดินเป็นระยะทางสั้นๆ ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มระยะทาง/ความเร็วของการเดินขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าน้องหมาสามารถยอมรับได้แค่ไหน เป็นวิธีง่ายๆ วิธีหนึ่งที่จะออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งสามารถรวมกันเข้ากับการเล่นเกมอื่นๆ เช่น การให้ไปคาบเอาของมาให้กับคุณ หรือคุณอาจเพียงแค่เล่นกับน้องหมากับของเล่นของมันวันละ 20 นาทีก็ได้ [12]
  6. ให้แน่ใจว่าน้องหมาของคุณได้รับการกระตุ้นทางจิตใจ. คุณอาจแปลกใจที่ได้เรียนรู้ว่าการกระตุ้นทางจิตใจมีความสำคัญพอๆ กับการออกกำลังกายในการพยายามลดความอ้วนเลยทีเดียว น้องหมาจำนวนมากที่รับประทานอาหารมากเกินไปเพื่อต้องการเรียกร้องความสนใจ (พวกมันเข้ามาประจบเจ้าของเพื่อเรียกความสนใจ แต่เจ้าของดันคิดว่ามันหิว) หรือเพราะน้องหมารู้สึกเบื่อ
    • พยายามดูแลความสะอาดน้องหมาหรือเล่นด้วยเวลาที่มันเรียกร้องความสนใจแทนที่จะเอาอาหารมาให้ทันที
    • นอกจากนี้ ลองใช้เครื่องให้อาหารแบบปริศนาแทนที่จะแค่วางชามอาหารลงไป นี่จะทำให้น้องหมาต้องแก้ไขปัญหาก่อนได้รับอาหาร ซึ่งทำให้กินจุได้ยากขึ้น มีเครื่องให้อาหารแบบปริศนามากมายวางขาย ลองใช้แบบที่ใช้กลยุทธแก้ปัญหาง่ายๆ ดูก่อน เช่น กระจายอาหารเม็ดบนสนามหญ้า หรือเอาอาหารไปใส่กล่องกระดาษลูกฟูก
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

เฝ้าสังเกตและปรับแผนลดน้ำหนัก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เฝ้าสังเกตน้ำหนักของน้องหมาของคุณอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง. ซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักสุนัขสักอันหนึ่ง หรือใช้กระบวนการชั่งน้ำหนักใดๆ ที่คุณเคยใช้มาก่อน แล้วจัดทำแผนภูมิ การจัดทำแผนภูมิน้ำหนักของน้องหมาก็เพื่อดูว่าได้มีความก้าวหน้าอย่างใดบ้าง
    • สัตวแพทย์สมควรชั่งน้ำหนักน้องหมาทุกเดือนเช่นกัน จนกว่ามันจะมีน้ำหนักที่เหมาะสม
  2. ประเมินว่าแผนลดน้ำหนักของคุณเข้มงวดมากพอหรือยัง. หากคุณกำลังจำกัดปริมาณแคลอรี่ที่น้องหมากินเข้าไป และทำให้แน่ใจว่ามันกำลังออกกำลังกายมากเพียงพอ แต่ก็ยังไม่ได้ผลตามที่คุณคาดหวัง จงหารือกับสัตวแพทย์อีกครั้งหนึ่ง [13] อาจมีความจำเป็นต้องจำกัดปริมาณแคลอรี่เพิ่มอีก และ/หรือความจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการออกกำลังกาย
    • แม้จะได้ร่วมจัดทำแผนกับสัตวแพทย์ของคุณ แผนการขั้นต้นของคุณก็อาจยังไม่สมบูรณ์แบบสำหรับความต้องการของน้องหมา หากใช้ไม่ได้ผล จงปรับเปลี่ยนแผนอย่างอิสระ ด้วยความช่วยเหลือและคำแนะนำจากสัตวแพทย์
  3. คิดถึงวิธีต่างๆ ที่น้องหมาอาจได้แคลอรี่เพิ่มเติม. มีเหตุผลที่ไม่ใช่ทางการแพทย์หลากหลายข้อ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าทำไมน้องหมาถึงลดน้ำหนักไม่ลง เหตุผลเหล่านี้รวมทั้งการที่มีใครอื่นบางคนในครัวเรือนของคุณ ให้อาหารหรือของกินเล่นเพิ่มเป็นพิเศษแก่มัน โดยที่คุณไม่รู้ หรือน้องหมาเข้าถึงอาหารสำรองที่คุณเก็บไว้
  4. จงพิจารณาว่าสาเหตุอาจเกิดจากปัญหาทางการแพทย์. มีปัญหาทางการแพทย์บางประการที่อาจทำให้น้องหมาน้ำหนักขึ้น และยังทำให้ยากมากจนถึงเป็นไปไม่ได้ที่จะลดน้ำหนักลง ตัวอย่างเช่น โรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติ (Hypothyroidism) ซึ่งป้องกันไม่ให้น้องหมาเผาผลาญแคลอรี่อย่างที่สมควรจะเป็น ขณะเดียวกันก็ลดความปรารถนาของมันที่จะเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ปัญหานี้จะยิ่งนำโชคร้ายมาให้เป็นเท่าตัวหากว่าต้องควบคุมน้ำหนัก
    • โรคเบาหวาน (Diabetes) และโรคคุชชิง (Cushing's disease) เป็นสาเหตุทางการแพทย์เช่นเดียวกัน ที่อาจทำให้น้องหมาลดน้ำหนักไม่สำเร็จ
    โฆษณา

คำเตือน

  • จงศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับอาหารต่างๆ เสมอ ก่อนจะให้เป็นของกินเล่นแก่น้องหมา ตัวอย่างเช่น องุ่น ลูกเกด ช็อกโกแลต และหัวหอม อาจเป็นพิษร้ายแรงสำหรับสุนัข
  • การออกกำลังกายอย่างอาบเหงื่อต่างน้ำมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อน้องหมา จงปรึกษากับสัตว์แพทย์ว่าน้องหมาของคุณสมควรออกกำลังกายมากแค่ไหน
  • อย่าปิดกั้นการเข้าถึงน้ำ. สมควรมีน้ำสะอาดในปริมาณไม่อั้นให้น้องหมาเข้าถึงได้เสมอ นอกเสียจากสัตวแพทย์จะแนะนำเป็นอย่างอื่น [14]


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 28,181 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา