ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ลักษณะของการดูแลที่คนป่วยได้รับในช่วงพักฟื้นจากอาการป่วยนั้นเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่จะช่วยให้คนป่วยหายป่วย คุณอาจจะมีเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่เป็นไข้หวัดอย่างรุนแรง เจ็บป่วย หรือติดเชื้อ เมื่อคนๆ นั้นได้รับยาจากแพทย์แล้ว แพทย์ก็อาจจะแนะนำให้เขาอยู่บ้านพักผ่อนเพื่อให้หายดี คุณสามารถดูแลคนป่วยได้ด้วยการใช้คำพูดที่แสดงถึงความห่วงใยและช่วยให้รู้สึกอุ่นใจ และดูแลผ่านการกระทำเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะหายป่วยอย่างรวดเร็ว

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

ดูแลด้วยการกระทำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้เขาพักผ่อนในที่เงียบๆ สบายๆ และมีอากาศสดชื่นถ่ายเท. คนป่วยอาจจะมีอุณหภูมิร่างกายสูงและรู้สึกหนาวในห้องที่หนาวเกินไป หรือไม่สบายตัวในห้องที่ร้อนเกินไป เช่นเดียวกันว่าเสียงดังและห้องที่อากาศไม่ถ่ายเทจะยิ่งทำให้คนป่วยรู้สึกแย่ลงแทนที่จะดีขึ้น คุณต้องให้เขาได้พักผ่อนบนเตียง โซฟา หรือเก้าอี้สบายๆ ในบริเวณที่กว้างขวางของบ้าน และเปิดหน้าต่างไว้เพื่อให้อากาศสดชื่นไหลเวียนเข้ามาในห้อง
    • นอกจากนี้คุณยังทำให้เขารู้สึกสบายตัวยิ่งขึ้นได้ด้วยการนำผ้าห่มอุ่นๆ และหมอนหลายใบมาวางไว้ใกล้ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเขาเป็นไข้หวัดหรือเป็นไข้หวัดใหญ่
    • คนป่วยอาจจะต้องนอนถึง 10 ชั่วโมง บอกให้คนป่วยพักผ่อนเวลาที่เขาเหนื่อยเพื่อให้เขาหายดี
  2. นำเครื่องดื่ม เช่น น้ำเปล่าและชาสมุนไพรมาให้. คนป่วยส่วนใหญ่จะขาดน้ำเพราะอาการป่วย เช่น ท้องเสียหรือเป็นไข้ ดูแลให้เขาดื่มน้ำเยอะๆ ด้วยการนำน้ำเปล่าหรือชาสมุนไพรอุ่นๆ ที่ช่วยผ่อนคลายเข้าไปให้ บอกให้เขาจิบบ่อยๆ และพยายามดื่มน้ำเปล่าหรือชาให้ได้อย่างน้อย 3-4 ถ้วย แม้ว่าการนำเครื่องดื่มไปให้จะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้เขาอุ่นใจ เพราะเขาอาจจะป่วยจนไม่สามารถลุกไปหยิบน้ำหรือชงชาเองได้
    • โดยเฉลี่ยแล้วผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว (แก้วขนาด 240 มิลลิลิตร) และควรปัสสาวะอย่างน้อยวันละ 3-4 ครั้ง ประเมินระดับการขาดน้ำของคนป่วยแล้วคอยสังเกตถ้าเขาไม่เข้าห้องน้ำ เพราะอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขาขาดน้ำ
  3. เวลาที่ป่วยคนส่วนใหญ่จะเลือกกินอาหารสุขใจที่เขาอยากกิน เช่น ก๋วยเตี๋ยวไก่ งานวิจัยกล่าวว่า คนป่วยอยากกินก๋วยเตี๋ยวไก่เพราะว่ามันมีโปรตีนจากเนื้อไก่ น้ำซุปไก่ดีต่อสุขภาพและอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไขมันบางส่วน ส่วนเส้นก๋วยเตี๋ยวก็ทำให้คุณอิ่ม เช่นเดียวกับผักต่างๆ เช่น มะระ คะน้า และหัวไชเท้าก็มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ โดยทั่วไปแล้วซุปเป็นอาหารสุขใจสำหรับคนป่วย เพราะว่ามันร้อน อิ่ม และย่อยง่าย [1]
    • อย่าให้คนป่วยรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพที่มีไขมันทรานส์และพลังงานเปล่ามากๆ เพราะมันไม่ได้ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันขณะที่เขาฟื้นตัวจากอาการป่วย อาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น ซุป ข้าวต้ม ข้าวโอ๊ต และน้ำผลไม้ปั่นล้วนเป็นอาหารที่เหมาะกับคนที่กำลังป่วยและอ่อนเพลีย
  4. เขาอาจจะอาบน้ำหรือรักษาความสะอาดของร่างกายลำบากแล้วแต่ว่าอาการป่วยรุนแรงแค่ไหน แต่คนป่วยต้องรักษาความสะอาดของร่างกายเพื่อไม่ให้อาการป่วยรุนแรงขึ้นอีกหรือติดเชื้อ ถ้าเขาป่วยหนัก เขาอาจจะมีพยาบาลที่บ้านคอยดูแลเรื่องการอาบน้ำ
    • คุณสามารถช่วยให้คนป่วยรู้สึกดีขึ้นได้ด้วยการช่วยเปลี่ยนเครื่องนอนทุกวันและช่วยให้เขาเปลี่ยนท่านอนบนเตียง ถ้าเขาอ่อนแอมาก เขาอาจจะไม่สามารถพลิกตัวบนเตียงได้เอง คุณสามารถช่วยพยาบาลที่บ้านหรือขอให้คนในบ้านช่วยคุณพลิกตัวเขาอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งก็ได้เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ
  5. อีกวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้คนป่วยสดใสขึ้นก็คือ การเบี่ยงเบนความสนใจของเขาออกจากอาการป่วยด้วยการเสนอว่า คุณทั้งคู่จะเล่นเกมโปรดหรือดูหนังหรือรายการที่ชอบด้วยกัน การใช้เวลาคุณภาพร่วมกันด้วยการทำอะไรที่ง่ายและสนุกช่วยให้คนป่วยรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น และทำให้เขามีเรื่องอื่นให้คิดนอกจากความเจ็บป่วยด้วย
    • นอกจากนี้คุณยังสามารถนำนิยายเรื่องโปรดไปให้เขาอ่านเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเขาจากอาการป่วย และให้ความบันเทิงแก่เขาด้วย
    • คุณอาจจะทำงานประดิษฐ์สนุกๆ หรือโปรเจกต์เล็กๆ ด้วยกันที่ทำให้คุณต้องแวะไปเยี่ยมเขาบ่อยๆ วิธีนี้จะทำให้คนป่วยมีอะไรให้ตั้งตารอและทำให้คุณได้ใช้เวลาคุณภาพกับเขาบ่อยขึ้นด้วย
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ดูแลด้วยคำพูด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แสดงความเข้าใจและความปรารถนาที่อยากจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น. ตอนที่คุณไปเยี่ยมคนป่วยครั้งแรก คุณต้องบอกให้เขารู้ว่าคุณห่วงใยเขาและอยากจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น นอกจากนี้คุณก็ควรเสนอความช่วยเหลืออย่างชัดเจนและตรงไปตรงมาด้วย แทนที่จะถามว่า “ให้ฉันช่วยอะไรมั้ย” หรือ “บอกมาสิว่าฉันช่วยอะไรได้บ้าง” คุณสามารถเสนอความช่วยเหลือแบบเจาะจงได้เลย เช่น “เดี๋ยวฉันจะไปซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วฉันจะซื้อก๋วยเตี๋ยวไก่มาฝากนะ” หรือ “เดี๋ยวฉันจะไปแถวๆ ร้านขายยา ให้ฉันเอาใบสั่งยาไปซื้อยาให้เธอมั้ย” วิธีนี้จะทำให้เขาสามารถรับการช่วยเหลือจากคุณได้ไม่ยากนัก [2]
    • เวลาที่พยายามจะพูดให้เขารู้สึกดี อย่าใช้คำพูดว่า “คิดในแง่ดี” หรือ “เท่านี้ก็ถือว่ายังโชคดีนะ” คำพูดเหล่านี้แม้ว่าจะมีเจตนาที่ดี แต่มันก็อาจจะทำให้เขารู้สึกผิดที่ป่วยหรือรู้สึกว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ป่วยในเมื่อมีคนอื่นที่โชคร้ายกว่าเขา
  2. คนป่วยส่วนใหญ่มักจะรู้สึกดีขึ้นเวลาที่มีใครเต็มใจรับฟังด้วยความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจ แทนที่จะบอกเขาว่าเขาดูสดใสดีหรือดูไม่ป่วยขนาดนั้น ให้พยายามรับฟังเขาและพูดคุยถึงความรู้สึกและอารมณ์เกี่ยวกับความเจ็บไข้ได้ป่วยของเขา
    • อย่ายัดเยียดความคิดเห็นให้เขา แต่ให้พยายามรับฟังเขาด้วยความเข้าอกเข้าใจ คนป่วยหลายคนรู้สึกดีที่ได้รู้ว่า มีใครสักคนนั่งอยู่กับเขาอย่างน้อยวันละครั้งและรับฟังเวลาเขาพูด บ่อยครั้งที่ความเจ็บป่วยเป็นประสบการณ์ที่น่าเบื่อและโดดเดี่ยว การมีใครสักคนที่เต็มใจรับฟังช่วยให้คนป่วยรู้สึกว่า เขามีตัวตนและมีคนห่วงใย
  3. ถ้าคนป่วยอ่อนเพลียเกินกว่าจะพูดหรือลุกขึ้นนั่งได้ คุณก็สามารถปลอบโยนเขาได้ด้วยการอ่านนิยายหรือเรื่องโปรดให้เขาฟัง วิธีนี้จะช่วยทำให้เขาระลึกได้ว่า เขาไม่ได้อยู่คนเดียวในห้องนี้ และก็มีใครสักคนที่ห่วงใยเขา
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคนป่วยแสดงสัญญาณของอาการป่วยร้ายแรงอย่างชัดเจน คุณต้องพาเขาเข้ารับการรักษาทันที
  • อาการป่วยร้ายแรงได้แก่ มีเลือดออกจากร่างกายปริมาณมาก ไอหรือปัสสาวะเป็นเลือด หายใจลำบาก หมดสติหรือสูญเสียทักษะการเคลื่อนไหว ไม่สามารถปัสสาวะได้เป็นเวลา 12 ชั่วโมงขึ้นไป ไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มได้ 1 วันขึ้นไป อาเจียนหรือท้องเสียอย่างหนักเป็นเวลานานกว่า 2 วัน ปวดท้องรุนแรงไม่หาย อาการปวดรุนแรงต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 3 วัน และอาการไข้สูงที่ไม่สามารถทำให้ลดลงได้หรือมีอาการนานกว่า 4-5 วัน
  • ไปเยี่ยมตอนที่เขากำลังป่วย แต่คุณก็สามารถไปเยี่ยมเขาได้แม้ว่าเขาจะไม่ป่วย เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีคนรักเขา เพราะอาการซึมเศร้าหรือความเหงาสามารถทำให้คนป่วยได้! และหลังออกจากบ้านเขาอย่าลืมล้างมือเพื่อป้องกันเชื้อโรค
  • ยารักษาไข้หวัด ได้แก่ ยาระงับปวด (ยาแก้ปวด) ยาต้านฮิสตามีน ยาลดอาการคัดจมูก ยาออกฤทธิ์ยับยั้งการไอ (ยาแก้ไอ) ยาดม ยาลดน้ำมูก และยาขับเสมหะ (ยาละลายเสมหะ)
  • งานวิจัยพบว่า รากสมุนไพร Pelargonium Sidoides อาจช่วยลดหรือบรรเทาอาการไข้หวัดได้ [3]
  • ยารักษาที่ไม่ได้ผลได้แก่ ยาปฏิชีวนะ ยารักษาไวรัส และยาต้านฮิสตามีนอย่างเดียว
  • การรักษาด้วยวิตามินและสมุนไพรได้แก่ วิตามินซีและเอ็กไคนาเซีย ในขณะที่วิตามินดีและวิตามินอียังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,462 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา