ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เสื้อกีฬาหรือเสื้อบอล (jerseys) มักจะราคาแพงเพราะเนื้อผ้าดีเป็นพิเศษ ก็เลยต้องซักด้วยวิธีพิเศษตามไปด้วย จะได้ไม่ขาดหรือเก่าง่ายๆ ก่อนจะซักเสื้อบอล ต้องเริ่มจากขจัดคราบเฉพาะจุดซะก่อน โดยเฉพาะคนที่ใส่เสื้อบอลเล่นบอลจริงๆ ไม่ใช่ไปซื้อกับข้าวหน้าปากซอย ต่อมาคือแยกเสื้อบอลตามสี แล้วกลับนอกเข้าใน เวลาซักต้องซักด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำร้อน แล้วตากไว้จนแห้งดี

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ขจัดคราบเฉพาะจุด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชูแล้วใช้ขจัดคราบเลอะหญ้าและดิน. ให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วนกับน้ำ 2 ส่วน ถ้าจะซักเสื้อบอลเขรอะๆ 2 ตัว ก็ต้องใช้น้ำส้มสายชูอย่างน้อย 1 ถ้วยตวง (240 มล.) ผสมแล้วใช้แปรงสีฟันขนนุ่มจุ่มน้ำยา เอาไปขัดคราบหญ้าและดิน เสร็จแล้วแช่บริเวณที่เลอะในน้ำยาทิ้งไว้ 1 - 2 ชม. แล้วค่อยซัก [1]
  2. กลับด้านเสื้อบอล ให้นอกเข้าใน แล้วเปิดน้ำเย็นจัดรด เพื่อขจัดคราบเลือดให้ได้มากที่สุด ต่อมาแช่เสื้อบอลในน้ำเย็นจัด เอานิ้วค่อยๆ ถูคราบเลือด ทำซ้ำทุก 4 - 5 นาทีจนไม่เหลือคราบ [2]
  3. ถ้าคราบเลือดติดทน ให้ใช้น้ำยาล้างจานหรือแชมพู. ถ้าน้ำเย็นจัดก็ขจัดคราบเลือดไม่ได้ ให้ทำความสะอาดบริเวณนั้นด้วยน้ำยาล้างจานหรือแชมพู โดยถูน้ำยาเล็กน้อยที่คราบ เสร็จแล้วล้างน้ำแล้วซักตามปกติ [3]
  4. ถ้าคราบสีออกเขียวหรือเหลือง แสดงว่าเป็นคราบเหงื่อไคล ให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) กับน้ำ 1/2 ถ้วยตวง (120 มล.) จากนั้นแช่คราบที่เลอะเสื้อบอลในน้ำยาประมาณ 30 นาที แล้วซักตามปกติ [4]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

เตรียมเสื้อก่อนซัก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หรือก็คือต้องซักเสื้อขาวแยกกับเสื้อสี เพราะเสี่ยงที่สีจะตกใส่เสื้อขาวได้ ยิ่งเสื้อบอลสีดำยิ่งต้องซักแยก เพราะสีตกใส่ได้ทั้งเสื้อขาวและเสื้อสีอื่น ส่วนเสื้อบอลสีอื่นที่ไม่ใช่สีดำหรือขาว ก็ซักรวมกันได้เลย [5]
  2. เวลาซักเสื้อกีฬาหรือเสื้อบอล อย่าไปซักรวมกับเสื้อผ้าชนิดอื่น โดยเฉพาะผ้ายีนส์ เพราะสีย้อมของยีนส์สีฟ้า/น้ำเงินจะละลายน้ำ สีตกใส่เสื้อบอลเป็นแถบๆ ได้ [6]
  3. ถ้าซักทั้งๆ ที่ติดกระดุมไว้ ระวังเสื้อกีฬาจะย่น เพราะงั้นต้องเช็คว่ากระดุมทุกเม็ด โดยเฉพาะกระดุมด้านหน้าของเสื้อนั้นถอดออกเรียบร้อยแล้วก่อนซัก [7]
  4. เพื่อป้องกันไม่ให้แผ่นลาย ข้อความ หรือรอยเย็บต่างๆ บนเสื้อหลุดลอกออกไป ถ้าไม่กลับด้านเสื้อ พวกตัวอักษรตัวเลขที่สกรีนไว้จะเหนียวติดกัน รอยเย็บต่างๆ ก็ลุ่ยได้ [8]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ซักเสื้อบอลสะสม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตั้งอุณหภูมิไปที่ร้อน (hot) แล้วปล่อยให้เติมน้ำในเครื่องประมาณ 5 นิ้ว (13 ซม.) จากนั้นปรับอุณหภูมิน้ำให้อุ่น (warm) แล้วเติมน้ำต่อให้เสร็จ [9]
    • ถ้าใช้เครื่องซักผ้าฝาหน้า ให้เปลี่ยนอุณหภูมิน้ำจากร้อนเป็นอุ่นหลังผ่านไปประมาณ 2 นาที
  2. เลือกน้ำยาดีๆ ที่ขจัดคราบแต่ไม่ทำให้สีซีดจาง ให้ใส่น้ำยาไปให้เต็มถ้าซักเสื้อมากกว่า 1 ตัว แต่ถ้าซักตัวเดียว ใส่น้ำยาครึ่งเดียวก็พอ เสร็จแล้วเอาเสื้อบอลใส่เครื่อง แล้วเริ่มซักได้เลย [10]
    • ปกติฝาขวดน้ำยาซักผ้าจะมีขีดบอกว่าต้องเติมถึงตรงไหน
    • ถ้าใช้เครื่องซักผ้าฝาหน้า ให้ใส่น้ำยาและเสื้อบอลในเครื่องก่อนเติมน้ำ จากนั้นปรับอุณหภูมิน้ำหลังผ่านไปได้ 1 นาที
  3. หยุดเครื่องซักผ้าชั่วคราวหลังซักไปได้ 1 นาที เพื่อแช่เสื้อ. พอซักผ้าไปได้ 1 นาที ให้หยุดชั่วคราวเพื่อแช่ผ้าไว้ จะช่วยให้ขจัดคราบและสิ่งสกปรกออกจากเสื้อได้ดีกว่าการซักไปเลยตามปกติ [11]
    • คุณแช่เสื้อบอลในน้ำยาไว้ได้นานถึง 1 วันเลย
  4. พอแช่ผ้าเสร็จแล้ว ให้เดินเครื่องซักตามเดิมจนเสร็จ เสร็จแล้วเช็คว่ายังมีคราบหลงเหลือที่เสื้อไหม ถ้าไม่ ให้ขจัดคราบและซักซ้ำตามขั้นตอน [12]
  5. ถ้าทิ้งไว้ในเครื่องจนแห้ง ระวังเสื้อจะยับยู่ยี่ แบบนั้นพวกหมายเลข ตัวอักษร หรือแผ่นลายแปะเสื้อต่างๆ อาจจะลอกหรือแตกได้เลย ให้รีบเอาเสื้อออกจากเครื่องมาตากไว้จนแห้ง บางทีก็นานเป็น 2 วันกว่าเสื้อจะแห้งสนิท [13]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ซักชุดกีฬา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ยิ่งทิ้งเสื้อหมักหมมไว้นานเท่าไหร่ คราบเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกก็ยิ่งฝังแน่น เสื้อเสียได้เลย เพราะงั้นแข่งหรือฝึกเสร็จเมื่อไหร่ ให้รีบเอาเสื้อไปซักทันที [14]
  2. น้ำยาซักผ้าอาจจะมีบางอย่างที่ทำร้ายเนื้อผ้าของเสื้อกีฬาได้ แนะนำให้ใช้ผงซักฟอก ถ้าซักแค่ตัวเดียว ก็ไม่ต้องใช้ผงซักฟอกปริมาณเท่าซักผ้า 1 รอบ ให้ใช้แค่ครึ่งเดียวของปริมาณที่แนะนำแทน [15]
  3. ถ้าเสื้อกีฬาเหม็นเหงื่อน่าดู ให้เติมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง (240 มล.) ลงไปในช่องน้ำยาฟอกขาวของเครื่องซักผ้า น้ำส้มสายชูจะช่วยขจัดกลิ่นแบบไม่ต้องกลัวเสื้อกีฬาจะฉุนเปรี้ยวไปด้วย [16]
  4. gentle cycle หรือซักแบบถนอมผ้า จะช่วยปกป้องเส้นใยของเสื้อกีฬาไม่ให้เยินเหมือนซักตามปกติ ส่วนน้ำเย็นจัดจะทำให้ลายหรือตัวอักษรตัวเลขที่สกรีนไว้บนเสื้อไม่หลุดลอก gentle cycle ที่ว่า ปกติเอาไว้ใช้กับผ้าเนื้อบางขาดง่ายโดยเฉพาะ [17]
  5. ห้ามเอาเสื้อกีฬาใส่เครื่องอบผ้า เพราะความร้อนจะทำลายความยืดหยุ่นของผ้าสแปนเด็กซ์ที่ใช้ทำเสื้อกีฬา ส่วนลายที่สกรีนไว้ก็ละลายได้เลย ให้ตากเสื้อด้วยไม้แขวนเสื้อแบบไม้หรือพลาสติกไว้ข้ามคืนจนแห้งสนิท [18]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,188 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา