ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บิทคอยน์ (Bitcoin) เป็นระบบสกุลเงินออนไลน์ทางเลือกที่อยู่ในรูปแบบเงินอิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้เพื่อการลงทุนและใช้เป็นวิธีชำระสินค้าและบริการโดยไม่ผ่านตัวกลางใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าบิทคอยน์จะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่ธุรกิจจำนวนมากก็ไม่ยอมรับการใช้บิทคอยน์ นอกจากนี้ ประโยชน์ในการลงทุนบิทคอยน์ก็ยังเป็นข้อกังขาและมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก ก่อนที่คุณจะซื้อบิทคอยน์นั้น การทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียของบิทคอยน์เป็นสิ่งที่สำคัญ [1]

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 6:

ทำความเข้าใจบิทคอยน์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บิทคอยน์เป็นสกุลเงินจำลองเต็มรูปแบบที่ช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการแลกเปลี่ยนเงินโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่ผ่านตัวกลาง (เช่น ธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต หรือสถาบันการเงินอื่นๆ) บิทคอยน์ไม่มีหน่วยงานส่วนกลางมาควบคุม เช่น ธนาคารกลางของสหรัฐฯ เป็นต้น และการทำธุรกรรมผ่านบิทคอยน์ทั้งหมดจะเกิดขึ้นในตลาดกลางออนไลน์ ซึ่งผู้ใช้จะเป็นนิรนามและไม่สามารถติดตามได้ [2]
    • บิทคอยน์ช่วยให้คุณแลกเปลี่ยนเงินกับใครก็ได้ในโลกได้ทันที โดยไม่ต้องสร้างบัญชีผู้ขายหรือใช้งานผ่านสถาบันการเงินหรือธนาคาร
    • การโอนเงินผ่านระบบบิทคอยน์จะเป็นนิรนาม จึงมีความเสี่ยงเล็กน้อยที่จะพบกับมิจฉาชีพ
  2. ในการทำความเข้าใจบิทคอยน์นั้น การเข้าใจระบบขุดเหมืองบิทคอยน์เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้สร้างบิทคอยน์นั่นเอง แม้ว่าการขุดเหมืองอาจจะดูซับซ้อน แต่แนวคิดทั่วไปของระบบก็คือ ในแต่ละครั้งที่มีการทำธุรกรรมผ่านบิทคอยน์โดยคนสองคน ธุรกรรมนั้นจะต้องทำโดยคอมพิวเตอร์แบบดิจิทัลซึ่งจะมีรายละเอียดของธุรกรรมทั้งหมด (เช่น เวลา และจำนวนบิทคอยน์ที่คนดังกล่าวครอบครอง) [3]
    • จากนั้น ธุรกรรมเหล่านี้จะเผยแพร่เป็นสาธารณะ เป็นสิ่งที่รู้กันในฐานะ "บล็อกเชน" (Block Chain) ซึ่งจะบอกรายละเอียดในการทำธุรกรรมทุกอย่าง และจำนวนบิทคอยน์ทั้งหมดที่มีในครอบครอง
    • คนที่ขุดเหมืองบิทคอยน์อาจเป็นบุคคลทั่วไปที่มีคอมพิวเตอร์ที่ยืนยันบล็อกเชน เพื่อให้แน่ใจว่ามีความถูกต้องและทันสมัย คนกลุ่มนี้อาจจะเป็นคนที่ยืนยันการทำธุรกรรม หรือเป็นผู้ทำธุรกรรม พวกเขาจะชำระเงินด้วยการใช้บิทคอยน์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอุปสงค์ของบิทคอยน์ให้มากยิ่งขึ้น
    • เพราะบิทคอยน์ไม่ถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานส่วนกลาง ดังนั้น การขุดเหมืองบิทคอยน์จึงมั่นใจได้ว่าคนที่โอนเงินผ่านบิทคอยน์นั้นมีจำนวนเงินมากพอตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ และจำนวนบิทคอยส์ที่คงเหลือจะถูกแก้ไขในภายหลัง [4]
  3. ทำความคุ้นเคยกับปัญหากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์. ไม่นานมานี้ รัฐบาลกลางที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการจัดการการฟอกเงินได้ประกาศแนวทางใหม่ของสกุลเงินจำลอง แนวทางล่าสุดยังรวมไปถึงการแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ด้วย แต่รัฐบาลกลางจะปล่อยให้ระบบเศรษฐกิจของบิทคอยน์อยู่ด้วยตัวเองไปก่อนในขณะนี้
    • เครือข่ายบิทคอยน์นั้นกำลังต่อต้านการควบคุมของรัฐบาลอยู่ และกำลังแข็งข้อขึ้นเรื่อยๆ จากกลุ่มคนที่ทำกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น ค้ายาและการพนัน เนื่องจากเหตุผลที่สามารถเงินจริงแลกเปลี่ยนได้โดยไม่มีการบอกชื่อ [5]
    • รัฐบาลกลางอาจบังคับใช้กฎหมายที่จะประกาศว่าบิทคอยน์เป็นเครื่องมือฟอกเงินและพยายามหาหนทางที่จะยกเลิกบิทคอยน์ให้ได้ แม้ว่าการยกเลิกบิทคอยน์โดยสมบูรณ์นั้นอาจเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่ข้อบังคับของรัฐบาลกลางที่รัดกุมสามารถทำให้ระบบบิทคอยน์ล่มสลายได้ ซึ่งจะทำให้ค่าของบิทคอยน์นั้นลดลงเพื่อให้เป็นสกุลเงินที่ถูกต้อง
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 6:

เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียของการใช้บิทคอยน์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ข้อดีหลักๆ ของบิทคอยน์นั้นคือ ค่าธรรมเนียมต่ำ ป้องกันมิจฉาชีพและการหลอกชำระเงิน และสามารถชำระเงินได้ในทันที [6]
    • ค่าธรรมเนียมถูก: ไม่เหมือนกับระบบการเงินแบบทั่วไปที่ตัวระบบ (เช่น PayPal หรือธนาคาร) จะต้องมีค่าธรรมเนียม บิทคอยน์จะลัดระบบนี้ทั้งหมด เพราะเครือข่ายบิทคอยน์ได้รับการดูแลโดยผู้ทำเหมือง หรือผู้ที่ให้บิทคอยน์ใหม่กับคุณ
    • ป้องกันมิจฉาชีพ: การใช้บิทคอยน์ไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัว เพียงใช้ไอดีเพื่อสร้างกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล (เพื่อใช้รับหรือจ่ายเงินบิทคอยน์) ซึ่งเป็นระบบที่ไม่เหมือนกับบัตรเครดิตที่ผู้ขายสามารถเข้าถึงไอดีและบัตรเครดิตของคุณได้เต็มรูปแบบ แต่บิทคอยน์จะดำเนินการโดยนิรนาม
    • ป้องกันการทำธุรกรรมผิดพลาด: เพราะบิทคอยน์เป็นรูปแบบดิจิทัล ดังนั้นจึงไม่สามารถปลอมแปลงได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันความผิดพลาดได้ดี นอกจากนี้ ธุรกรรมบิทคอยน์เมื่อทำสำเร็จแล้วจะไม่สามารถทำย้อนกลับได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่มักจะเกิดในบัตรเครดิตที่มีการเรียกเงินคืน
    • โอนและชำระเงินได้ในทันที โดยทั่วไปแล้ว เมื่อมีการโอนเงิน จะมีความล่าช้า มีการระงับ หรือข้อผิดพลาดอื่นๆ เกิดขึ้นได้ การที่ไม่มีตัวกลางนั้นช่วยให้สามารถโอนเงินได้โดยตรง และไม่มีความซับซ้อน ความล่าช้า หรือค่าธรรมเนียมในการใช้จ่ายระหว่างตัวกลางที่ใช้สกุลเงินหรือการใช้จ่ายอื่นๆ
  2. ระบบธนาคารโดยทั่วไปนั้น ถ้ามีคนทำธุรกรรมผิดพลาดจากการใช้บัตรเครดิตหรือธนาคารของคุณล้มละลาย ก็ยังมีกฎหมายเพื่อจำกัดความเสียหายของลูกค้าได้ แต่บิทคอยน์ไม่มีกฎคุ้มครองดังกล่าวในกรณีที่บิทคอยน์ของสูญหายหรือถูกโจรกรรม และไม่มีอำนาจใดๆ ช่วยชดเชยเงินส่วนนั้นของคุณได้ [7]
    • จำไว้ว่าเครือข่ายบิทคอยน์ไม่สามารถป้องกันแฮคเกอร์ได้ และบัญชีบิทคอยน์โดยทั่วไปก็ไม่ได้ปลอดภัยจากการถูกโจรกรรมข้อมูลหรือการละเมิดความปลอดภัยโดยสมบูรณ์ [8]
    • จากการสำรวจพบว่า มี 18 บริษัทจาก 40 บริษัทที่มีการเสนอการแลกเปลี่ยนบิทคอยน์เป็นสกุลเงินอื่นๆ นั้นได้ปิดตัวลง และมีเพียง 6 บริษัทเท่านั้นที่ชดเชยเงินให้ลูกค้า
    • ความไม่แน่นอนของราคาก็เป็นข้อเสียที่สำคัญ เพราะค่าของบิทคอยน์เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2013 บิทคอยน์ 1 เหรียญมีค่าประมาณ 13 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากนั้นก็เพิ่มขึ้นสูงกว่า 1,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว และตอนนี้มีค่าประมาณ 18597.99 ดอลลาร์ (ข้อมูลเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2560) หมายความว่าถ้าคุณแปลงเงินเป็นบิทคอยน์ การเก็บเงินไว้ก่อนเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการแลกเงินกลับไปเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ อาจจะทำให้เกิดการขาดทุนอย่างมากก็เป็นได้ [9]
  3. ทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงของบิทคอยน์ในฐานะการลงทุนอย่างหนึ่ง. เหตุผลอย่างหนึ่งที่ทำให้บิทคอยน์ได้รับความนิยมคือการลงทุน และนั่นคือสิ่งที่สมควรแก่การเฝ้าระวังก่อนการใช้จริง เพราะความเสี่ยงในการลงทุนบิทคอยน์ก็คือความผันผวนของราคาที่ค่อนข้างมาก บางครั้งราคาก็พุ่งสูงขึ้นและดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ความเสี่ยงที่จะขาดทุนจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้
    • นอกจากนี้ เพราะค่าของบิทคอยน์นั้นอิงจากอุปสงค์และอุปทาน บิทคอยน์อาจจะปิดตัวจากการควบคุมของรัฐบาลในรูปแบบใดก็ได้ ซึ่งอาจจะลดจำนวนคนที่อยากใช้บิทคอยน์ และอาจทำให้สกุลเงินบิทคอยน์ไร้ค่าได้ [10]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 6:

จัดเตรียมคลังบิทคอยน์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในการซื้อบิทคอยน์นั้น คุณต้องสร้างเว็บสำหรับเก็บสะสมบิทคอยน์ก่อน ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกในการใช้บิทคอยน์ ในปัจจุบัน มีอยู่ 2 วิธีที่คุณสามารถสร้างคลังบิทคอยน์ได้: [11]
    • เก็บรหัสบิทคอยน์ผ่านกระเป๋าสตางค์ออนไลน์ ซึ่งเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์ที่จะเก็บเงินของคุณไว้ เช่นเดียวกับกระเป๋าสตางค์จริงๆ ของคุณ โดยคุณสามารถสร้างกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ได้ด้วยการติดตั้งโปรแกรมบิทคอยน์ [12] ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้เพื่อสร้างเงินบิทคอยน์ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณถูกโจรกรรมโดยไวรัสหรือแฮคเกอร์หรือคุณวางไฟล์ไว้ผิดที่ คุณอาจจะสูญเสียบิทคอยน์ได้ ดังนั้น สำรองข้อมูลกระเป๋าสตางค์อยู่เสมอด้วยฮาร์ดดิสก์เชื่อมต่อภายนอกแบบพกพา (External Hardisk) เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียบิทคอยน์
    • เก็บบิทคอยน์ผ่านตัวกลาง คุณสามารถสร้างกระเป๋าสตางค์ด้วยการใช้กระเป๋าสตางค์ออนไลน์จากเว็บไซต์ตัวกลาง เช่น Coinbase หรือ blockchain.info [13] ซึ่งจะเก็บบิทคอยน์ของคุณไว้ในคลาวด์ (Cloud) วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายในการจัดเตรียม แต่คุณจะต้องเดิมพันกับเว็บตัวกลางด้วยบิทคอยน์ของคุณ อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ทั้งสองนี้เป็นตัวกลางที่มีขนาดใหญ่และน่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าเว็บไซต์ทั้งสองนั้นปลอดภัย
  2. สร้างกระเป๋าสตางค์กระดาษเพื่อใช้เก็บบิทคอยน์. ตัวเลือกที่เป็นที่นิยมและถูกที่สุดในการเก็บบิทคอยน์ให้ปลอดภัยคือกระเป๋าสตางค์แบบกระดาษ ซึ่งเป็นกระเป๋าสตางค์ที่เล็ก กะทัดรัด และอยู่ในรูปแบบกระดาษเป็นเหมือนที่เก็บรหัส ข้อดีของการใช้รูปแบบนี้คือเป็นรหัสส่วนตัวที่เข้าถึงกระเป๋าสตางค์ของคุณที่ไม่ใช่รูปแบบดิจิทัล ดังนั้น คุณจะไม่สามารถถูกโจมตีทางคอมพิวเตอร์หรือความผิดพลาดทางฮาร์ดแวร์ได้ [14]
    • มีเว็บไซต์จำนวนหนึ่งที่ให้บริการกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์แบบกระดาษ โดยเว็บไซต์การันตีว่าบิทคอยน์นั้นเป็นของคุณและสร้างภาพที่มีคิวอาร์โค้ด 2 ภาพ ภาพหนึ่งเป็นเว็บไซต์สาธารณะที่คุณใช้เพื่อรับบิทคอยน์และอีกภาพหนึ่งเป็นรหัสส่วนตัว ซึ่งคุณจะใช้เพื่อใช้จ่ายบิทคอยน์ได้
    • ภาพดังกล่าวจะพิมพ์เป็นกระดาษแผ่นยาวๆ ซึ่งคุณสามารถพับเก็บติดตัวได้ตลอดเวลา
  3. กระเป๋าสตางค์แบบแข็ง (Hard wired wallet) นั้นจำกัดให้ใช้ได้น้อยและหาได้ยากมาก มีลักษณะเป็นอุปกรณ์เฉพาะที่เก็บรหัสอิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัวและมีกรรมสิทธิ์ในการใช้จ่าย โดยมักจะมีขนาดเล็กกะทัดรัดและบางครั้งก็มีรูปร่างเหมือนแท่งยูเอสบี [15]
    • กระเป๋าสตางค์แบบแข็งของ Trezor นั้นดีที่สุดสำหรับผู้ขุดเหมืองบิทคอยน์ที่มีบิทคอยน์เป็นจำนวนมากและไม่ต้องการใช้บริการผ่านตัวกลาง
    • กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์จะทำหน้าที่เหมือนพื้นที่เก็บข้อมูลยูเอสบีเพื่อเก็บบิทคอยน์และใช้ระบบความปลอดภัยแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งเป็นกระเป๋าสตางค์แบบแข็งอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 6:

แลกเปลี่ยนบิทคอยน์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การแลกเปลี่ยนเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการหาบิทคอยน์ สามารถทำได้เหมือนกับการแลกสกุลเงิน: คุณเพียงแค่ลงทะเบียนและแปลงสกุลเงินที่ต้องการเป็นบิทคอยน์ ซึ่งคุณสามารถแลกเปลี่ยนได้นับร้อยสกุลเงิน และตัวเลือกที่ดีที่สุดย่อมขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณอยู่ แต่บริการที่เป็นที่รู้จักดีนั้นมีดังต่อไปนี้ :
    • CoinBase: เป็นผู้ให้บริการกระเป๋าสตางค์และแลกเปลี่ยนที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ซึ่งสามารถแลกสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และยูโรให้เป็นบิทคอยน์ได้ บริษัทนี้มีเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะช่วยให้การแลกหรือการซื้อบิทคอยน์ทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
    • Circle เป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บ ส่ง รับ และแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ได้ ในปัจจุบันเปิดให้บริการเฉพาะประชากรของสหรัฐฯ ในการเชื่อมต่อบัญชีธนาคารเข้ากับระบบแลกเปลี่ยนเท่านั้น
    • Xapo: เป็นผู้ให้บริการกระเป๋าสตางค์และบัตรเดบิตบิทคอยน์ที่สามารถฝากเงินเข้าระบบเงินตราเฟียต (Fiat Currency) ซึ่งสามารถแปลงเป็นเงินบิทคอยน์เข้าบัญชีของคุณได้
    • ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนบางรายจะช่วยให้คุณแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ได้ ส่วนผู้ให้บริการอื่นๆ จะบริการเพียงกระเป๋าสตางค์โดยจำกัดความสามารถในการซื้อและขายบิทคอยน์ โดยส่วนใหญ่ผู้ให้บริการจะเก็บเงินหรือเงินตราเฟียตให้คุณ ซึ่งเหมือนกับบัญชีธนาคารทั่วไป การแลกเปลี่ยนและการใช้กระเป๋าสตางค์เป็นตัวเลือกที่ดีถ้าคุณต้องการแลกเปลี่ยนโดยทั่วไปและไม่ต้องการทำธุรกรรมแบบนิรนาม [16]
  2. ยื่นหลักฐานยืนยันตัวเองและข้อมูลการติดต่อให้กับผู้ให้บริการ. เมื่อคุณลงทะเบียนกับผู้ให้บริการแลกเปลี่ยน คุณต้องยื่นข้อมูลส่วนตัวให้กับผู้ให้บริการเพื่อสร้างบัญชี ตามกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่มักจะต้องการข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการเงินในการใช้บริการแลกเปลี่ยนบิทคอยน์เพื่อยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาฟอกเงิน [17]
    • แม้ว่าคุณจะต้องยื่นหลักฐานยืนยันตัวเอง แต่ระบบแลกเปลี่ยนและกระเป๋าสตางค์จะไม่ได้คุ้มครองคุณเหมือนกับระบบธนาคาร คุณยังเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมข้อมูล หรือไม่ได้รับการชดเชยหากผู้ให้บริการล้มละลาย
  3. เมื่อคุณเตรียมบัญชีกับผู้ให้บริการแล้ว คุณจะต้องเชื่อมบัญชีเข้ากับบัญชีธนาคารเพื่อใช้โยกย้ายเงินระหว่างบัญชีธนาคารกับบัญชีบิทคอยน์ ซึ่งจะต้องทำด้วยการโอนเงินผ่านธนาคารและมีค่าใช้จ่าย [18]
    • ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนบางรายอนุญาตให้คุณฝากเงินไปยังบัญชีของบริษัทเป็นการส่วนตัว ซึ่งจะต้องทำกันแบบต่อหน้ามากกว่าผ่านตู้เอทีเอ็ม
    • หากคุณถูกเสนอให้เชื่อมต่อบัญชีธนาคารเพื่อใช้บริการแลกเปลี่ยน อาจจะต้องให้ธนาคารจากประเทศของผู้ให้บริการเป็นผู้ดำเนินการ และผู้ให้บริการบางรายอาจจะให้คุณโอนเงินข้ามประเทศ แต่ค่าบริการนั้นสูงกว่าปกติค่อนข้างมากและอาจจะมีความล่าช้าในการแปลงเงินบิทคอยน์เป็นสกุลเงินท้องถิ่น
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 6:

ซื้อผ่านผู้ขาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [19] เป็นเว็บไซต์ที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนกับผู้ขายในพื้นที่แบบต่อหน้า คุณสามารถนัดพบและต่อรองราคาสำหรับบิทคอยน์ได้ และเว็บไซต์ยังสามารถคัดกรองเพื่อความปลอดภัยของทั้งสองฝ่ายได้ [20]
  2. ถ้าคุณไม่สะดวกที่จะแลกเปลี่ยนแบบต่อหน้า ใช้เว็บไซต์ Meetup.com เพื่อหากลุ่มพบปะผู้ใช้บิทคอยน์ได้ คุณสามารถตัดสินใจที่จะซื้อบิทคอยน์เป็นกลุ่มหรือเรียนรู้จากสมาชิกคนอื่นๆ ที่เคยใช้ตัวแทนขายบิทคอยน์มาก่อน [21]
  3. ขึ้นอยู่กับผู้ขาย คุณอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มจากการแลกเปลี่ยนแบบต่อหน้าประมาณ 5-10% ของราคาแลกเปลี่ยน คุณสามารถตรวจสอบอัตราการแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ได้ที่เว็บไซต์ http://bitcoin.clarkmoody.com/ ก่อนที่จะตกลงอัตราแลกเปลี่ยนกับผู้ขาย [22]
    • คุณควรจะถามผู้ขายว่าเขาต้องการให้จ่ายเป็นเงินสดหรือผ่านบริการออนไลน์ ผู้ขายบางรายอาจจะให้คุณจ่ายผ่านเพย์พาล (PayPal) แต่ผู้ขายส่วนใหญ่ต้องการให้จ่ายเงินสดมากกว่า
    • ผู้แลกเปลี่ยนที่มีชื่อเสียงมักจะต่อรองราคากับคุณก่อนที่จะนัดพบกัน และส่วนใหญ่จะไม่ต้องรอนานเมื่อตกลงราคากันเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าค่าของบิทคอยน์นั้นผันผวนค่อนข้างมาก
  4. หลีกเลี่ยงการพบเจอที่บ้านส่วนตัว คุณควรจะต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะถ้าคุณพกเงินสดเพื่อจ่ายให้กับผู้ขาย [23]
  5. เมื่อคุณพบเจอกับผู้ขายแล้ว คุณจะต้องเข้าไปยังกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ผ่านสมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต หรือคอมพิวเตอร์พกพา คุณยังต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการเข้าถึงเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม พยายามตรวจสอบบิทคอยน์อยู่เสมอว่าผู้ขายโอนบิทคอยน์ให้กับคุณแล้วก่อนที่คุณจะจ่ายเงิน [24]
    โฆษณา
ส่วน 6
ส่วน 6 ของ 6:

ใช้ตู้ซื้อบิทคอยน์อัตโนมัติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตู้กดบิทคอยน์นั้นยังเป็นแนวคิดใหม่ แต่กำลังแพร่ขยายไปเป็นวงกว้าง คุณสามารถเปิดแผนที่เพื่อดูสถานที่ที่มีตู้กดบิทคอยน์ได้บนอินเทอร์เน็ต [25]
    • มีหน่วยงานจำนวนมากที่ให้บริการตู้กดบิทคอยน์อัตโนมัติ ตั้งแต่มหาวิทยาลัยไปจนถึงธนาคารประจำท้องถิ่น
  2. ตู้กดบิทคอยน์อัตโนมัติจะรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น เพราะไม่ได้ติดตั้งระบบบัตรเครดิตหรือเดบิตเอาไว้ [26]
  3. จากนั้น สแกนคิวอาร์โค้ดที่เข้าถึงกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ของคุณหรือใส่รหัสบัญชีของคุณผ่านสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าถึงกระเป๋าสตางค์ของคุณ [27]
    • อัตราแลกเปลี่ยนบิทคอยน์อาจจะแตกต่างกับราคาสูงสุดของราคามาตรฐานประมาณ 3%-8%
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ระวังการขุดเหมืองบิทคอยน์อยู่เสมอ “การขุดเหมือง” คือเวลาที่คุณสร้างบิทคอยน์ของตัวเองด้วยการสร้างบล็อกการทำธุรกรรมบิทคอยน์ [28] ในขณะที่การขุดเหมืองนั้นเป็นวิธีซื้อบิทคอยน์ด้วยเทคนิคคอมพิวเตอร์ แต่ความนิยมของบิทคอยน์ทำให้การขุดเหมืองนั้นยากมากขึ้น และการขุดเหมืองส่วนใหญ่ในตอนนี้กระทำโดยคนกลุ่มใหญ่ที่เรียกว่า “พูล” และบริษัทที่ก่อตั้งเพื่อขุดเหมืองบิทคอยน์ คุณสามารถซื้อหุ้นในพูลหรือบริษัทขุดเหมืองได้ แต่การขุดเหมืองนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนๆ เดียวสามารถทำและเก็บเกี่ยวกำไรได้ด้วยตัวเอง [29]
  • ระวังไว้ถ้าว่าใครก็ตามที่พยายามขายซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้คุณขุดเหมืองบิทคอยน์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ช่วยคุณขุดเหมือง ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอาจจะเป็นกลอุบายและไม่ช่วยคุณในการขุดเหมืองบิทคอยน์ [30]
  • ดูให้ดีว่าระบบปฏิบัติการของคุณนั้นปลอดภัย ถ้าคุณใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ให้ติดตั้งโปรแกรม VirtualBox แล้วติดตั้งระบบปฏิบัติการจำลอง Linux (เช่น Debian) และทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับบิทคอยน์ผ่านระบบปฏิบัติการจำลองนี้ ในเรื่องของกระเป๋าสตางค์บนคอมพิวเตอร์นั้น ผู้ให้บริการกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ Electrum (electrum.org) ถือเป็นผู้ให้บริการที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,953 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา