ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หากว่าคุณได้ตัดสินใจอย่างน่าตื่นเต้นที่จะเลี้ยงลูกสุนัขตัวใหม่สักตัวหนึ่ง คุณอาจพร้อมแล้วที่จะนำมันมาบ้านโดยเร็วที่สุดที่จะทำได้ แต่ไม่ต้องเร็วขนาดนั้นหรอก—คุณจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อคิดให้ตกว่าสายพันธุ์ไหนดีที่สุดสำหรับคุณ จงเลือกลูกสุนัขของคุณจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ (ผู้เพาะพันธุ์ บ้านพักพิงสำหรับสุนัข และกลุ่มช่วยเหลือสุนัข) ใช้เวลาทำการบ้านในเรื่องนี้ และเรียนรู้มากเท่าที่คุณจะสามารถทำได้ ซึ่งจะช่วยได้มากในการรับประกันว่า คุณกับลูกสุนัขตัวใหม่จะได้ร่วมกันแบ่งปันมิตรภาพชั่วชีวิตอย่างมีความสุข

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับลูกสุนัข

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตัดสินใจว่าคุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะซื้อลูกสุนัขสักตัวหนึ่ง. ลูกสุนัขน่าเอ็นดูและมีขนฟู แต่ต้องการเวลา ความเอาใจใส่ และเงินเป็นจำนวนมากกว่าที่คุณอาจจะได้คาดไว้ จะไม่ยุติธรรมทั้งสำหรับคุณและลูกสุนัขที่จะพามันกลับบ้านในตอนที่คุณยังไม่พร้อม หรือยังไม่ได้มุ่งมั่นที่จะดูแลมันอย่างแท้จริง จงถามคำถามสี่ห้าข้อกับตัวเอง—และตอบคำถามนั้นอย่างซื่อตรง—นั่นจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะแบกรับความรับผิดชอบจากการซื้อลูกสุนัขสักตัวหนึ่งมาเลี้ยง
    • ฉันมีเวลาไหมที่จะดูแลเสริมสวย ฝึกอบรม และพาลูกสุนัขไปออกกำลัง? [1] ลูกสุนัขต้องการเวลามาก—แม้ว่าบางสายพันธุ์จะสบายๆ มากกว่าสายพันธุ์อื่นก็ตาม คุณจะจำเป็นต้องอุทิศเวลาจำนวนมากเพื่อดูแลลูกสุนัขอย่างเหมาะสม หากคุณมีกำหนดการแน่นขนัด หรือต้องออกนอกเมืองบ่อยครั้ง คุณอาจจำเป็นต้องคิดทบทวนใหม่ว่า จะสามารถแบ่งเวลามาดูแลลูกสุนัขสักตัวหนึ่งได้ไหม
    • ฉันมีความสามารถทางการเงินที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกสุนัขสักตัวหนึ่งไหม? [2] ไม่ต้องอ้อมค้อมเรื่องความจริงที่ว่าลูกสุนัขมีราคาแพง จงคิดด้วยว่าคุณพร้อมไหมที่จะจ่ายเงินเป็นค่าสิ่งของจำเป็นทั้งหมด (อาหาร ปลอกคอ ของเล่น ที่นอน ฯลฯ) บวกกับค่าไปพบสัตว์แพทย์ทั้งตามปกติและอย่างไม่คาดฝัน [3]
    • มีใครในบ้านของคุณไหมที่แพ้สุนัข? [4] หากคุณไม่ได้อยู่ตามลำพัง สมควรพิจารณาว่ามีคนอื่นที่อาศัยอยู่กับคุณสักคนไหม ซึ่งแพ้สุนัขหรือแพ้สะเก็ดผิวหนังของสัตว์โดยทั่วๆ ไป
  2. ค้นคว้าเรื่องสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ กับคุณสมบัติประจำตัว (เช่น เป็นสุนัขตัวเล็ก มีพื้นอารมณ์สงบโดยกำเนิด เป็นต้น) นั่นจะทำให้พวกมันเข้ากันได้ดีกับสภาพชีวิตของคุณ สมาคมสุนัขแห่งอเมริกา หรือ AKC มีคำถามเกี่ยวกับการจับคู่สุนัขที่เหมาะสมกับคุณ ( http://www.akc.org/find-a-match ) ซึ่งสามารถช่วยให้คุณเลือกได้สักสายพันธุ์หนึ่ง มีสุนัขทุกรูปร่าง ขนาด และบุคลิกลักษณะ การเลือกผิดสายพันธุ์อาจส่งผลให้ทุกฝ่ายต้องหัวใจสลาย เมื่อคุณตระหนักความจริงว่ามันไม่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณ ตัวอย่างเล็กน้อยของปัจจัยสำคัญๆ ที่คุณต้องพิจารณารวมทั้ง สภาพที่อยู่อาศัยของคุณ (เป็นอะพาร์ตเมนต์ หรือบ้าน) [5] และกำหนดการทำงาน (ชั่วโมงการทำงานตามปกติ หรือเดินทางตลอดเวลา)
    • พิจารณาระดับความกระฉับกระเฉงของแต่ละสายพันธุ์ ตัวอย่างเช่น หากคุณไม่สนุกกับการอยู่กลางแจ้งมากนัก การเลือกสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian husky) สักตัวหนึ่งไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุด ฮัสกี้ชอบมากที่จะกระโดดกับวิ่ง และพวกมันจำเป็นต้องออกกำลังกายวันละหลายชั่วโมง จึงอาจจะดีกว่าหากคุณจะเลือกลูกสุนัขที่จะโตขึ้นเป็นสุนัขที่ชอบงีบหลับ และใช้เวลาอยู่กับคุณที่บ้าน เช่น สุนัขพันธุ์ คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส์ (Cavalier King Charles)
    • หากคุณเช่าอะพาร์ตเมนต์อยู่ อะพาร์ตเมนต์ของคุณอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องสายพันธุ์และน้ำหนักสำหรับสุนัข นอกจากนี้ สุนัขสายพันธุ์ใหญ่ๆ ยังต้องการการออกกำลังกายเยอะๆ เช่น โกลเดน รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) อาจรู้สึกค่อนข้างจะอึดอัดในอะพาร์ตเมนต์ [6] หากอะพาร์ตเมนต์คอมเพล็กซ์ของคุณอนุญาตให้เลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่ คุณจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่า คุณสะดวกที่จะเข้าถึงพื้นที่ขนาดใหญ่ซึ่งมีรั้วล้อม หรือสวนสาธารณะซึ่งอนุญาตให้นำสุนัขเข้าไปด้วย สุนัขของคุณจะได้สามารถวิ่งเล่นและออกกำลังกาย
    • การพูดคุยกับนักเพาะพันธุ์สุนัขที่น่าเชื่อถือสักคนหนึ่ง อาจช่วยให้คุณจำกัดวงแคบลงได้ว่าสุนัขสายพันธุ์ไหนเหมาะสมอย่างที่สุดกับสภาพชีวิตของคุณ [7]
    • นอกจากการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ ทางอินเตอร์เน็ต จงพิจารณาเรื่องซื้อหนังสือเกี่ยวกับสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ สักเล่มหนึ่งด้วย [8]
    • จงจำใส่ใจว่าคุณไม่จำเป็นต้องเลือกสุนัขสายพันธุ์พิเศษแต่อย่างใด- เพียงแค่สุนัขพันทางสักตัวหนึ่งก็ใช้ได้แล้ว!
  3. จัดทำงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับลูกสุนัข. นอกจากค่าใช้จ่ายชั้นต้นของการซื้อลูกสุนัข ยังมีปัจจัยที่ว่าคุณจะจำเป็นต้องจ่ายเงินมากแค่ไหนเป็นค่าอาหาร ค่าของเล่น ค่าอุปกรณ์ทำความสะอาดและเสริมสวย กับค่าไปพบสัตว์แพทย์ การจัดทำงบประมาณจะช่วยให้คุณสามารถประเมินได้ใกล้เคียงความจริงมากขึ้น เรื่องค่าใช้จ่ายประจำเดือนจากการเลี้ยงลูกสุนัขตัวหนึ่งไว้ที่บ้าน [9]
    • การซื้อลูกสุนัขมาเลี้ยงสักตัวหนึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 3,500 – 5,250 บาท ต่อเดือนในช่วงปีแรก ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และขนาด [10]
    • อย่าลืมคิดรวมค่าใช้จ่ายรายการรองลงมาอื่นๆ ไว้ในค่าใช้จ่ายประจำเดือนด้วย เช่น ค่าปลอกคอ ค่าสายจูง ค่าป้ายชื่อ และค่าอาหารพิเศษอร่อยๆ [11]
    • การซื้อลูกสุนัขจากนักเพาะพันธุ์สุนัขน่าจะแพงกว่ามาก เมื่อเปรียบเทียบกับการรับอุปการะลูกสุนัขสักตัวหนึ่งจากบ้านพักพิงสำหรับสุนัข
  4. มีหลายโอกาสที่บ้านของคุณจะไม่พร้อมสำหรับลูกสุนัขสักตัวหนึ่ง คุณจำเป็นต้องทำให้บ้านปลอดภัยสำหรับลูกสุนัข แบบเดียวกับการทำให้บ้านปลอดภัยสำหรับเด็กๆ ตัวอย่างเช่น เก็บถังขยะซ่อนไว้ในที่ไม่อาจจะเอื้อมถึงได้ คุณอาจต้องลงทุนทำกลอนประตูกันเด็ก หากลูกสุนัขของคุณรู้วิธีเปิดตู้ ต่างๆ [12]
    • ใช้ที่ครอบปิดเต้าเสียบไฟฟ้า เพื่อลูกสุนัขของคุณจะได้ไม่อาจเลียพวกมันได้ [13]
    • เก็บพวกเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทำความสะอาด และสารต้านการเยือกแข็งซุกซ่อนไว้ในที่เอื้อมไม่ถึง สิ่งเหล่านี้อาจเป็นพิษต่อลูกสุนัขของคุณ [14]
    • หากคุณมีโรงรถ จงเก็บเครื่องมือหนักๆ เอาไว้บนผนังอย่างปลอดภัย จงทำให้แน่ใจว่าได้เก็บสลักเกลียวตัวใดๆ ที่ร่วงอยู่บนพื้นโรงรถออกไปแล้ว เพราะลูกสุนัขอาจจะกินเข้าไปได้โดยง่าย [15]
  5. คุณน่าจะพาลูกสุนัขไปพบกับสัตว์แพทย์ค่อนข้างจะเป็นประจำในระหว่างช่วงปีแรกของชีวิต และอย่างน้อยปีละครั้งหลังจากนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะหาสัตว์แพทย์ที่คุณรู้สึกสบายใจเวลาอยู่ด้วย [16] แทนที่จะค้นหาสำนักงานสัตว์แพทย์ใกล้บ้านออนไลน์ คุณอาจต้องการหาคำแนะนำเรื่องสัตว์แพทย์ดีๆ จากผู้เพาะพันธุ์สุนัขในท้องถิ่น บรรดาเจ้าของสุนัข หรือร้านขายสัตว์แถวบ้าน
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

รับอุปการะลูกสุนัขจากบ้านพักพิงหรือกลุ่มช่วยเหลือสุนัข

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณมีสายพันธุ์เฉพาะอยู่ในใจอยู่แล้ว ให้มองหาออนไลน์ว่าในปัจจุบัน มีบ้านพักพิงที่ไหนบ้างมีลูกสุนัขให้รับอุปการะ แหล่งออนไลน์เช่น Petfinder.org มีรายการลูกสุนัขกับสุนัขจากบ้านพักพิงหลายร้อยแห่ง คุณอาจค้นหาตามสายพันธุ์ ขนาด เพศ และอายุเพื่อหาลูกสุนัขตัวที่ใช่สำหรับคุณ หลังจากนั้นจึงติดต่อกับบ้านพักพิงแต่ละแห่งโดยตรงเพื่อเดินหน้าเรื่องการขอรับอุปการะ [17]
    • คุณอาจต้องเดินทางออกนอกเมืองเพื่อหาลูกสุนัขสายพันธุ์เฉพาะ จงพิจารณาขยายการค้นหาให้ครอบคลุมถึงบ้านพักพิงในรัศมีสองสามร้อยกิโลเมตรจากบ้านของคุณด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
    • สุนัขบางสายพันธุ์ซึ่งหายากหรือมีราคาแพงอาจจะหาไม่ได้ตามบ้านพักพิง อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มช่วยเหลือสุนัขสายพันธุ์เฉพาะบางแห่ง ที่อาจมีลูกสุนัขสายพันธุ์ที่คุณต้องการ (หรือสายพันธุ์ดีไซเนอร์ ซึ่งถูกผสมข้ามสายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์ลาบราดอเดิล ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์กับพันธุ์พุดเดิล) ซึ่งคุณกำลังมองหาอยู่ [18]
    • บ้านพักพิงและกลุ่มช่วยเหลือมักทำการทดสอบพฤติกรรมสุนัข (รู้จักกันในชื่อ การทดสอบจิตประสาทขั้นต้น หรือ Temperament tests) เพื่อตัดสินใจว่าลูกสุนัขตัวนั้นๆ เหมาะสมสำหรับการรับอุปการะหรือไม่ [19]
    • แม้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นค่าตัดรังไข่สุนัขตัวเมีย/ตอนสุนัขตัวผู้ การฝังไมโครชิป การฉีดวัคซีน และการถ่ายพยาธิ แต่ตามปกตินั้น การขอรับอุปการะลูกสุนัขจากบ้านพักพิง หรือกลุ่มช่วยเหลือจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการซื้อโดยตรงจากผู้เพาะพันธุ์ หรือการจ่ายค่าบริการเหล่านี้แยกแต่ละรายการ [20]
  2. หากไม่มีสายพันธุ์เฉพาะที่ต้องการ จงพิจารณาเรื่องเดินทางไปยังบ้านพักพิงเพื่อพบเจอกับลูกสุนัขโดยตรง [21] เมื่อคุณอยู่ที่บ้านพักพิงแล้ว จงถามคำถามต่างๆ เกี่ยวกับประวัติและพฤติกรรมของลูกสุนัข จงพยายามสังเกตกิจกรรมต่างๆ ที่บ้านพักพิง เพื่อตัดสินใจว่าสุนัขเหล่านี้ได้รับการดูแลอย่างดีหรือไม่
    • บ้านพักพิงอาจมีสภาพแวดล้อมกดดันสำหรับพวกสุนัข เพราะเต็มไปด้วยเสียงดัง กับจำนวนสุนัข และกิจกรรมทั่วไปจำนวนมาก สุนัขบางตัวอาจพัฒนาปัญหาด้านพฤติกรรมในระหว่างอยู่ที่นั่น เจ้าหน้าที่ของบ้านพักพิงน่าจะแจ้งให้คุณทราบ หากลูกสุนัขตัวที่คุณสนใจมีปัญหาด้านพฤติกรรมใดๆ
  3. การถามคำถามต่างๆ กับบ้านพักพิงสักแห่งหนึ่งมีความสำคัญพอๆ กับการถามคำถามจากนักเพาะพันธุ์ ตัวอย่างเช่น คุณจะต้องการถามว่าลูกสุนัขตัวนั้นมาจากที่ไหน (เช่น เป็นสุนัขจรจัด หรือเจ้าของเดิมยกให้มา) อาจจะเป็นประโยชน์ด้วยที่คุณจะรู้ว่าลูกสุนัขตัวที่คุณสนใจ ได้มาอยู่ที่บ้านพักพิงนานแค่ไหนแล้ว [22]
    • ถามคำถามเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของลูกสุนัข และพฤติกรรมของมันที่บ้านพักพิง พฤติกรรมของมันที่บ้านพักพิงอาจจะแตกต่างกับที่มันอาจจะแสดงออกที่บ้านคุณ [23]
    • ถามเรื่องกระบวนการของทางบ้านพักพิง สำหรับสัตว์เลี้ยงที่เจ็บป่วยเพียงไม่นานหลังจากการรับอุปการะ เพราะบ้านพักพิงมักมีงบประมาณจำกัดเป็นค่าดูแลโดยสัตว์แพทย์ จงตระหนักว่าคุณอาจต้องรับผิดชอบส่วนใหญ่ หรืออาจจะทั้งหมดของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลูกสุนัขหลังจากที่คุณได้รับอุปการะมันแล้ว [24]
    • คุณสามารถสอบถามด้วยว่าบ้านพักพิงดังกล่าวเป็นประเภทที่ "ไม่ฆ่าสัตว์ในบ้าน" ใช่หรือไม่ บ้านพักพิงประเภทนี้จะไม่ทำการุณยฆาต หลังจากสัตว์เหล่านั้นได้มาอยู่ที่นั่นชั่วระยะหนึ่งแล้ว [25]
  4. จงตระหนักว่าคุณอาจจะไม่สามารถรับอุปการะลูกสุนัขในวันเดียวกันกับที่คุณไปยังบ้านพักพิงหรือกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ ตามปกติ จะมีกระบวนการสัมภาษณ์ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้คุณทราบถึงประวัติทั้งหมด และเบื้องหลังทางการแพทย์ของลูกสุนัขตัวนั้น [26] อาจมีการแวะมาเยี่ยมบ้านของคุณโดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งด้วย เพื่อตัดสินใจว่าสภาพแวดล้อมที่บ้านของคุณเหมาะสมหรือไม่ สำหรับลูกสุนัขตัวนั้น
    • อย่าประหลาดใจหากคุณเองก็ถูกสัมภาษณ์ด้วย เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องแน่ใจว่า คุณจะเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงผู้มีความรับผิดชอบ และดูแลลูกสุนัขอย่างดี
    • นอกจากการสัมภาษณ์และการไปเยือนบ้านซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ คุณจะจำเป็นต้องกรอกเอกสารที่จำเป็น และอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการรับอุปการะด้วย (ในสหรัฐฯ จะอยู่ที่ระหว่าง 3,500 -7,000 บาท)
  5. บ้านพักพิงหรือกลุ่มช่วยเหลือสัตว์แถวบ้านคุณอาจไม่มีสุนัขสายพันธุ์ตรงพอดีกับที่คุณต้องการ แต่โชคดีที่พวกเขามีแนวโน้มจะมีสัตว์หมุนเวียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงอาจใช้เวลาไม่นานที่จะได้ลูกสุนัขสายพันธุ์ที่คุณต้องการ จากบ้านพักพิงหรือกลุ่มช่วยเหลือแห่งนั้น จงตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่เป็นประจำ เพื่อรู้ว่าพวกเขาได้รับสุนัขสายพันธุ์ใดมาบ้าง [27]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ซื้อลูกสุนัขจากนักเพาะพันธุ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เรียนรู้เรื่องนักเพาะพันธุ์สุนัขประเภทต่างๆ . ไม่ใช่ว่านักเพาะพันธุ์ทุกคนจะน่าเชื่อถือ ดังนั้น คุณจะต้องการทราบว่ามีเจ้าใดบ้างที่สมควรพิจารณา และเจ้าใดบ้างที่สมควรจะหลีกเลี่ยง หากคุณต้องการจะซื้อลูกสุนัขผ่านทางนักเพาะพันธุ์ นักเพาะพันธุ์ประเภทหนึ่งคือ นักเพาะพันธุ์สุนัขสายโชว์เป็นงานอดิเรก (Hobby show breeders) ซึ่งมีความรู้ดีเรื่องการเพาะพันธุ์สุนัข และอุทิศเวลากับเรี่ยวแรงในการคัดเลือกสุนัขซึ่งมีเพดดีกรีที่ดีที่สุด และเลี้ยงดูลูกสุนัขคุณภาพสายโชว์ ตามปกตินั้น นักเพาะพันธุ์ประเภทนี้จะเลี้ยงลูกสุนัขเพียงปีละหนึ่งหรือสองครอกเท่านั้น [28]
    • นักเพาะพันธุ์สุนัขตามบ้าน (Backyard breeders) ตามปกติจะมีความรู้น้อยมากเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์ต่างๆ และอาจเพียงแค่กำลังพยายามจะหารายได้พิเศษเล็กๆ น้อยๆ [29] หลีกเลี่ยงการซื้อลูกสุนัขจากนักเพาะพันธุ์สุนัขตามบ้าน
    • นักเพาะพันธุ์เพื่อการค้า (Commercial breeders) ตามปกติจะเลี้ยงสุนัขหลายสายพันธุ์ และผลิตลูกสุนัขหลายครอกต่อปี สภาพแวดล้อมทางกายภาพของนักเพาะพันธุ์เพื่อการค้าอาจจะมีคุณภาพดี หรือไม่ดีก็ได้ นอกจากนี้ นักเพาะพันธุ์เพื่อการค้าบางคนในสหรัฐ ก็ไม่ได้ขึ้นทะเบียนลูกสุนัขกับทางสมาคมสุนัขแห่งอเมริกา หรือ AKC ด้วย ลูกสุนัขที่คุณเห็นตามร้านขายสัตว์เลี้ยงอาจมาจากนักเพาะพันธุ์เพื่อการค้า [30]
  2. ตรวจสอบกับบรรดาสัตว์แพทย์ และองค์กรด้านเพาะพันธุ์สุนัขแถวบ้านคุณ เพื่อค้นหานักเพาะพันธุ์สักคนหนึ่งผู้มีความรับผิดชอบในการดูแลสุนัขของเขาหรือเธอเป็นอย่างดี เขาหรือเธอสมควรจะเพาะพันธุ์สุนัขเพียงไม่กี่สายพันธุ์ และมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับสัตว์แพทย์ และองค์กรเพาะพันธุ์สัตว์แถวบ้านคุณ สำหรับในอเมริกานั้น สมาคมป้องกันการทารุณสุนัขแห่งอเมริกา หรือ ASPCA มีรายชื่อของนักเพาะพันธุ์สุนัขผู้มีความรับผิดชอบซึ่งเป็นประโยชน์ [31]
    • นักเพาะพันธุ์ผู้มีความรับผิดชอบจะถามคำถามคุณว่าทำไมถึงอยากได้สุนัข ใครจะเป็นผู้ดูแลมัน และมันจะอาศัยอยู่ที่ไหน เขาหรือเธอจะไม่เพียงแค่รับเงินจากคุณแล้วส่งมอบลูกสุนัขให้ [32]
  3. คุณไม่สมควรจะซื้อลูกสุนัขสักตัวหนึ่งผ่านทางนักเพาะพันธุ์ โดยไม่ได้ไปเยือนสถานที่อยู่ของนักเพาะพันธุ์ มีความสำคัญมากที่คุณจะได้เยี่ยมชมสถานที่ซึ่งลูกสุนัขของคุณ กับพี่น้องร่วมครอก และพ่อแม่ของมันได้อาศัยอยู่และได้รับการเลี้ยงดู [33] นักเพาะพันธุ์ผู้มีความรับผิดชอบจะสนับสนุนอย่างจริงใจให้คุณแวะไปเยือนได้บ่อยๆ เพื่อที่คุณจะได้รู้สึกสะดวกใจอย่างสมบูรณ์แบบกับสถานที่เพาะพันธุ์ และวิธีทำธุรกิจของเขาหรือเธอ
  4. การซื้อลูกสุนัขผ่านทางนักเพาะพันธุ์อาจมีราคาแพงมาก ดังนั้น คุณจึงต้องการให้แน่ใจว่า นักเพาะพันธุ์คนนั้นซื่อสัตย์ มีความรู้ และมีจริยธรรม มีหลายคำถามที่คุณสามารถถามได้จากนักเพาะพันธุ์ เช่น ลูกสุนัขถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร? และได้รับการสอนให้เข้าสังคมอย่างไร? คุณคัดกรองผู้มีศักยภาพที่จะซื้อลูกสุนัขอย่างไร ? อะไรคือกระบวนการของคุณในระหว่างการคลอด (การเกิด)? พ่อแม่สุนัขได้ผ่านการทดสอบหาเชื้อโรคเฉพาะของสายพันธุ์หรือไม่? [34]
    • คุณสามารถถามคำถามอื่นๆ เกี่ยวกับว่ามีลูกสุนัขกี่ตัวในครอกนั้นๆ และการดูแลทางการแพทย์ใดๆ ที่พวกมันได้รับ (การฉีดวัคซีน การถ่ายพยาธิ ฯลฯ). [35]
    • ขอเอกสารเกี่ยวกับการดูแลทางการแพทย์ การฝังไมโครชิป และการคัดกรองสำหรับพฤติกรรมพิเศษเกี่ยวกับสายพันธุ์ หรือปัญหาทางการแพทย์ [36]
    • อย่ากลัวที่จะถามคำถาม หากนักเพาะพันธุ์เชื่อถือได้ เขาหรือเธอจะไม่มีปัญหาที่จะตอบคำถามใดๆ หรือคำถามทั้งหมดของคุณเกี่ยวกับพวกเขา และเกี่ยวกับสุนัขที่เขาหรือเธอได้เพาะพันธุ์และเลี้ยงดู
    • จงพร้อมที่จะตอบคำถามว่าเหตุใดคุณจึงอยากได้ลูกสุนัข และคุณมีแผนการจะดูแลมันอย่างไร ผู้เพาะพันธุ์ที่ดีจะห่วงใยมากเรื่องสวัสดิภาพของลูกสุนัขที่เขาหรือเธอได้เพาะพันธุ์ขึ้นมา การสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เพาะพันธุ์สามารถเป็นประโยชน์ได้มาก หากคุณมีคำถามต่างๆในภายหลังเกี่ยวกับชีวิตของลูกสุนัขตัวนั้น หรือหากคุณสนใจจะนำลูกสุนัขออกมาโชว์ในภายหลัง
  5. จงทำให้ได้มาซึ่งเอกสารของสมาคมสุนัขอเมริกา หรือ AKC (หากคุณอยู่ในสหรัฐฯ). คุณอาจจำเป็นต้องมีสัญญาซื้อขายด้วยหนึ่งฉบับ หากคุณสนใจจะนำลูกสุนัขออกโชว์ หรือเพาะพันธุ์ลูกสุนัขตัวนั้น คุณจำเป็นต้องพิสูจน์ว่ามันได้ขึ้นทะเบียนไว้กับ AKC และว่าคุณคือเจ้าของที่ถูกต้องตามกฎหมาย [37] อย่างไรก็ตาม จงตระหนักว่าเอกสารของ AKC เพียงบอกกับคุณว่าพ่อแม่ของลูกสุนัขคือใคร ไม่ใช่ข้อพิสูจน์ว่าลูกสุนัขของคุณได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างเหมาะสมโดยนักเพาะพันธุ์ [38]
    • จงระวังนักเพาะพันธุ์ผู้พยายามจะขายลูกสุนัขให้กับคุณ เพียงเพราะเขาหรือเธอมีกระดาษระบุวงศ์ตระกูลของลูกสุนัขตัวนั้น
  6. โรงงานผลิตสุนัขขึ้นชื่อเรื่องเพาะพันธุ์ลูกสุนัขจำนวนมากในสภาพน่าเวทนา ตามปกตินั้น นักเพาะพันธุ์สุนัขผู้ซึ่งเปิดโรงงานผลิตสุนัข จะกังวลเรื่องทำกำไร มากกว่าจะมีพฤติกรรมด้านการผสมพันธุ์อย่างมีความรับผิดชอบ [39] ลูกสุนัขที่เพาะพันธุ์ในสภาพแวดล้อมแบบนี้อาจมีความผิดปกติทางพันธุกรรม ซึ่งอาจนำไปสู่ความผิดปกติทางกายและใจ ซึ่งโชคร้ายที่คุณไม่อาจค้นพบได้ในทันที
    • เวลาที่คุณไปเยือนนักเพาะพันธุ์สุนัขสักรายหนึ่ง ให้ดูสภาพความเป็นอยู่ของสุนัขอย่างใกล้ชิดด้วย หากสุนัขที่นั่นดูสกปรก ผอมแห้งหรือสุขภาพไม่ดี อย่าซื้อลูกสุนัขจากที่นั่น
    • หากนักเพาะพันธุ์อึกอักที่จะให้คุณเยี่ยมชมสถานที่ทั้งหมด มีความเป็นไปได้ว่าเขาหรือเธออาจตั้งโรงงานผลิตสุนัข และไม่ต้องการให้คุณเห็นสภาพเลวร้ายที่พวกสุนัขถูกผสมพันธุ์และเลี้ยงดู [40]
    • หากนักเพาะพันธุ์ไม่ได้สอบถามอะไรคุณมากนัก และหลีกเลี่ยงที่จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับการดูแลลูกสุนัขหลังการขาย คุณสมควรสงสัยว่าเขาหรือเธอทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงงานผลิตสุนัข [41]
    • นักเพาะพันธุ์ผู้ที่อ้างว่าได้เพาะพันธุ์สุนัขพันธุ์แท้ หรือ สุนัข "ดีไซเนอร์" จำนวนมาก น่าจะไม่ได้กำลังพูดความจริงกับคุณ และอาจบริหารโรงงานผลิตลูกสุนัขอยู่ [42] สุนัขเหล่านี้ส่วนใหญ่น่าจะ ไม่ใช่ สายพันธุ์แท้ หรือสายพันธุ์ดีไซเนอร์
    • หากอยู่ในสหรัฐฯ คุณอาจต้องการจะร้องเรียนเรื่องโรงงานผลิตลูกสุนัขต่อเจ้าหน้าที่ คุณสามารถกรอกคำร้องได้ที่ http://www.humanesociety.org/forms/report_a_puppy_mill.html หรือโทรศัพท์แจ้งที่ 1-877-MILL-TIP หากคุณสงสัยว่านักเพาะพันธุ์คนหนึ่งที่คุณไปเยี่ยมชมกำลังทำอันตรายแก่พวกสุนัขและลูกสุนัข
  7. จงคิดซ้ำสองก่อนจะซื้อลูกสุนัขของคุณจากร้านขายสัตว์เลี้ยงสักแห่งหนึ่ง. ลูกสุนัขตามร้านขายสัตว์เลี้ยงอาจมาจากโรงงานผลิตสุนัข [43] หากคุณทำการตรวจสอบเพื่อวิเคราะห์สถานะ—จงถามเจ้าหน้าที่ของร้านว่าได้ลูกสุนัขมาจากที่ใด และตรวจสอบนักเพาะพันธุ์ที่พวกเขาอ้างถึง หากกำลังจะซื้อลูกสุนัขจากร้านขายสัตว์เลี้ยง คุณต้องแน่ใจว่าลูกสุนัขมาจากบ้านพักพิง และ/หรือ นักเพาะพันธุ์ซึ่งน่าเชื่อถือ
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

เลือกลูกสุนัขตัวที่ใช่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลูกสุนัขจะพร้อมสำหรับการรับอุปการะตอนอายุระหว่างแปดและสิบสองสัปดาห์ เพราะตอนอายุเท่านี้ พวกมันจะหย่านมแม่แล้ว สามารถกินอาหารแข็งได้แล้ว และได้รับการฉีดวัคซีนชุดแรกเรียบร้อยแล้ว [44] เมื่อมองดูครั้งแรก ลูกสุนัขสักตัวหนึ่งอาจดูมีสุขภาพดี แต่เมื่อตรวจดูอย่างใกล้ชิด อาจพบอาการผิดปกติทางกายภาพบางประการ หากคุณมองเห็นสัญญาณต่างๆ ที่บ่งบอกว่าลูกสุนัขสุขภาพไม่ดี คุณอาจจำเป็นต้องคิดทบทวนเรื่องการรับอุปการะ วิธีที่ดีวิธีหนึ่งที่จะตรวจสอบลูกสุนัขทางกายภาพ คือเริ่มดูจากหัวไล่ลงไปจนถึงหาง [45]
    • มีหลายมุมมองเรื่องการตรวจสอบลูกสุนัขทางกายภาพ หากคุณไม่แน่ใจว่าสามารถตรวจสอบได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน จงพิจารณาสอบถามจากนักเพาะเลี้ยง หรือเจ้าหน้าที่ของบ้านพักพิง หรือกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ เพื่อช่วยชี้นำคุณจนจบกระบวนการ
    • ตรวจดูส่วนหัวของลูกสุนัข ตัวอย่างเช่น จมูกสมควรจะเย็นและชื้นโดยไม่มีของเหลวไหลออกมา เหงือกสมควรมีสีชมพูอย่างสุขภาพดี ดวงตาสมควรจะมองดูสุกใสและเป็นประกาย ตาดำสีเข้ม หูทั้งสองข้างสมควรสะอาดและมีตำแหน่งตามลักษณะเฉพาะของแต่ละสายพันธุ์ [46]
    • วางมือของคุณบนอกของลูกสุนัขเพื่อสัมผัสชีพจร ชีพจรที่ผิดปกติอาจบ่งชี้อาการผิดปกติทางพันธุกรรมของหัวใจ ซึ่งอาจต้องการการดูแลจากสัตว์แพทย์ [47]
    • ตรวจดูขนของลูกสุนัข หากเป็นพันธุ์แท้ ขนของมันสมควรตรงกับมาตรฐานของสายพันธุ์ โดยทั่วไปนั้น ขนของลูกสุนัขสมควรมันวาว และอ่อนนุ่ม ไม่มีบริเวณที่ขนหลุดเป็นหย่อมๆ [48]
    • ตรวจดูขาของลูกสุนัข ขาของมันน่าจะเหยียดตรง โดยไม่มีความผิดปกติใดๆ ที่โครงสร้าง (เช่น ขาโก่งเข้าหรือกางออก) คุณอาจต้องการผู้เพาะพันธุ์สัตว์ หรือสัตว์แพทย์ เพื่อตรวจสอบเรื่องกระดูกและกล้ามเนื้อของลูกสุนัขอย่างละเอียดมากขึ้น [49]
  2. ไม่ว่าคุณจะรับลูกสุนัขมาจากบ้านพักพิง หรือนักเพาะพันธุ์ จงใช้เวลาเพื่อประเมินบุคลิกส่วนตัวของลูกสุนัขก่อนที่คุณจะตัดสินใจ ตัวอย่างเช่น เฝ้าดูลูกสุนัขคลอกหนึ่ง และมองว่าพวกมันเล่นกันอย่างไร ลูกสุนัขคลอกเดียวกันมักมีบุคลิกแตกต่างกัน และคุณจะต้องการเลือกตัวที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดของคุณ
    • ลูกสุนัขซึ่งมีส่วนผสมที่ดีระหว่างความมีชีวิตชีวากับความอ่อนหวาน ทำให้เป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุด [50] มองหาลูกสุนัขที่ขี้เล่นและกระตือรือร้น แต่ไม่รุนแรงเกินไปกับคนอื่นๆ
    • หลีกเลี่ยงการซื้อลูกสุนัขที่ดูเหมือนจะก้าวร้าวเกินไปหรือขี้อายเกินเหตุ
  3. ทำให้แน่ใจว่าคุณมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับลูกสุนัขตัวที่คุณเลือก ก่อนที่จะตกลงซื้อ หากลูกสุนัขเดินเลี่ยงหนี หรือมีอาการหางจุกตูดเวลาคุณเข้าใกล้ มันอาจไม่ได้มีพื้นฐานทางอารมณ์ดีที่สุดที่จะเป็นสัตว์เลี้ยง หากคุณชอบบุคลิกลักษณะของลูกสุนัขตัวนั้น แต่ไม่แน่ใจว่ามันจะเข้ากันได้ไหมกับลูกๆ ของคุณ หรือกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ คุณอาจขอเป็นผู้อุปถัมภ์ลูกสุนัขตัวนั้นก่อน เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ [51]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่ารีบร้อนตัดสินใจซื้อลูกสุนัขสักตัวหนึ่ง! มีสุนัขขายอยู่ที่นั่นเสมอ ดังนั้น จงเลือกอย่างรอบคอบ เวลาพบตัวที่ใช่ คุณจะรู้ได้เอง
  • สุนัขบางสายพันธุ์มีลักษณะพิเศษต่างๆ โดยธรรมชาติ บางสายพันธุ์ชอบเห่า บางสายพันธุ์เห่าน้อยมาก บางสายพันธุ์ชอบหลบหนีซ้ำแล้วซ้ำอีก ชอบขุดรู หรือพยายามกระโดดข้ามรั้ว จงค้นหาเรื่องลักษณะพิเศษต่างๆ ของสายพันธุ์สุนัขที่คุณกำลังจะเลือก ก่อนที่คุณจะหลงรักมัน
  • จงอย่าเลือกสายพันธุ์ใด เพียงเพราะกำลัง "เป็นแฟชั่นฮิต" แทนที่จะทำเช่นนั้น ให้คิดอย่างจริงจัง และค้นข้อมูลเยอะๆ เพื่อตัดสินใจว่าสายพันธุ์ใดเหมาะกับคุณที่สุด
  • จงทำให้แน่ใจว่าคุณมีอุปกรณ์ครบถ้วนทุกอย่างอยู่ที่บ้านแล้ว ก่อนที่คุณจะซื้อลูกสุนัขตัวนั้น (บ้านสุนัข/เตียง/ลังไม้ขนาดใหญ่ อาหาร ชามอาหาร อุปกรณ์ทำความสะอาด) [53] เพราะการไปที่ร้านเพื่อซื้อหาอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมกับลูกสุนัขของคุณ อาจเป็นเรื่องท้าทายเล็กๆ ได้
  • พิจารณาเรื่องซื้อประกันสุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อช่วยให้สามารถพบสัตว์แพทย์ได้บ่อยครั้งมากขึ้นในราคาไม่แพง [54]
  • หากคุณมีสุนัขตัวหนึ่งอยู่แล้ว จงพิจารณาว่ามันจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร ที่มีลูกสุนัขตัวใหม่ในบ้าน ทางบ้านพักพิงหรือกลุ่มช่วยเหลือสัตว์อาจต้องการให้คุณพาสุนัขของคุณไปยังที่ตั้งของพวกเขา เพื่อให้พบกับลูกสุนัขตัวนั้น จะได้ดูว่าสุนัขของคุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไร และตอบรับอย่างไรกับลูกสุนัขตัวนั้น
  • จงพิจารณาใส่ชื่อลูกสุนัขของคุณลงสมัครเข้ารับการฝึกด้านความเชื่อฟัง ยิ่งฝึกเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี [55]
  • ลูกสุนัขชอบกัดแทะสิ่งของ. จงทำให้แน่ใจว่าคุณมีของเล่นสำหรับกัดแทะอยู่ในมือมากพอให้ลูกสุนัขของคุณกัดแทะเล่น [56]
โฆษณา

คำเตือน

  • สุนัขสามารถมีความวิตกกังวลจากการแยกจาก (Anxiety separation) และแสดงออกเวลารู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง หากคุณมีกำหนดการที่ทำให้ต้องแยกจากมันไปเป็นเวลานานๆ อาจไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะซื้อลูกสุนัข
  • ลุกสุนัขที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนอาจเป็นโรคร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิตได้ เช่น โรคพาร์โวไวรัส อย่าพาลูกสุนัขไปยังพื้นที่สาธารณะ จนกว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนจนครบถ้วนแล้ว [57]
  • ลูกสุนัขที่เลี้ยงดูโดยนักเพาะพันธุ์ผู้มีพฤติกรรมเพาะพันธุ์แบบผิดจรรยาบรรณ อาจเกิดปัญหาสุขภาพและปัญหาด้านพฤติกรรมร้ายแรงได้ อาจมีปัญหายุ่งยากทางอารมณ์ซึ่งยากจะรับมือ และมีค่าใช้จ่ายเรื่องการรักษาสูงมากด้วย [58]
โฆษณา
  1. https://www.aspca.org/adopt/pet-care-costs
  2. http://www.akc.org/dog-owners/future-dog-owner/about-buying-a-dog/
  3. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/counter-surfing-and-garbage-raiding
  4. http://www.petmd.com/dog/puppycenter/adoption-getting-a-puppy/evr_dg_puppy_proofing_checklist#
  5. http://www.petmd.com/dog/puppycenter/adoption-getting-a-puppy/evr_dg_puppy_proofing_checklist#
  6. http://www.petmd.com/dog/puppycenter/adoption-getting-a-puppy/evr_dg_puppy_proofing_checklist#
  7. http://www.petmd.com/dog/care/evr_dg_new_puppy_supplies_puppy_checklist?page=2
  8. http://www.humanesociety.org/issues/adopt/tips/adopting_from_shelter_rescue.html?credit=web_id83582065
  9. http://www.humanesociety.org/issues/puppy_mills/tips/buying_puppy.html
  10. http://www.humanesociety.org/issues/puppy_mills/tips/buying_puppy.html
  11. http://www.humanesociety.org/issues/puppy_mills/tips/buying_puppy.html
  12. http://www.humanesociety.org/issues/adopt/tips/adopting_from_shelter_rescue.html?credit=web_id83582065
  13. http://www.humanesociety.org/issues/adopt/tips/adoption_questions_shelter_staff.html
  14. http://www.humanesociety.org/issues/adopt/tips/adoption_questions_shelter_staff.html
  15. http://www.humanesociety.org/issues/adopt/tips/adoption_questions_shelter_staff.html
  16. http://www.animalrescue.org/community/frequently-asked-questions/
  17. http://www.animalhumanesociety.org/adoption/how-adoption-works
  18. http://www.humanesociety.org/issues/adopt/tips/adopting_from_shelter_rescue.html?credit=web_id83582065
  19. https://www.dpca.org/BreedEd/articles/43-miscellaneous/336-tips-on-buying-a-puppy
  20. https://www.dpca.org/BreedEd/articles/43-miscellaneous/336-tips-on-buying-a-puppy
  21. https://www.dpca.org/BreedEd/articles/43-miscellaneous/336-tips-on-buying-a-puppy
  22. http://www.aspca.org/about-us/aspca-policy-and-position-statements/position-statement-on-criteria-for-responsible-breeding
  23. http://www.humanesociety.org/assets/pdfs/pets/puppy_mills/find_responsible_dog_breeder.pdf
  24. http://www.humanesociety.org/issues/puppy_mills/tips/finding_responsible_dog_breeder.html?credit=web_id83582065
  25. https://www.dpca.org/BreedEd/articles/43-miscellaneous/336-tips-on-buying-a-puppy
  26. http://www.rspca.org.uk/adviceandwelfare/pets/dogs/puppy/getpuppysmart
  27. http://www.rspca.org.uk/adviceandwelfare/pets/dogs/puppy/getpuppysmart
  28. http://www.thekennelclub.org.uk/getting-a-dog-or-puppy/finding-the-right-breeder/
  29. http://www.humanesociety.org/issues/puppy_mills/tips/buying_puppy.html
  30. http://www.aspca.org/fight-cruelty/puppy-mills
  31. http://www.paws.org/get-involved/take-action/explore-the-issues/puppy-mills/
  32. http://www.paws.org/get-involved/take-action/explore-the-issues/puppy-mills/
  33. http://www.paws.org/get-involved/take-action/explore-the-issues/puppy-mills/
  34. http://www.humanesociety.org/issues/puppy_mills/tips/buying_puppy.html
  35. http://pets.webmd.com/dogs/guide/choosing-healthy-puppy
  36. http://pets.webmd.com/dogs/guide/choosing-healthy-puppy
  37. http://pets.webmd.com/dogs/guide/choosing-healthy-puppy
  38. http://pets.webmd.com/dogs/guide/choosing-healthy-puppy
  39. http://pets.webmd.com/dogs/guide/choosing-healthy-puppy
  40. http://pets.webmd.com/dogs/guide/choosing-healthy-puppy
  41. http://www.yourpurebredpuppy.com/buying/articles/how-to-choose-a-puppy.html
  42. http://pets.webmd.com/dogs/guide/choosing-healthy-puppy
  43. http://www.akc.org/dog-owners/future-dog-owner/about-buying-a-dog/
  44. http://www.petmd.com/dog/care/evr_dg_new_puppy_supplies_puppy_checklist?page=2
  45. http://www.akc.org/dog-owners/future-dog-owner/about-buying-a-dog/
  46. http://www.akc.org/dog-owners/future-dog-owner/about-buying-a-dog/
  47. http://www.petmd.com/dog/care/evr_dg_new_puppy_supplies_puppy_checklist?page=2
  48. http://www.petmd.com/dog/care/evr_dg_new_puppy_supplies_puppy_checklist?page=2
  49. http://www.humanesociety.org/issues/puppy_mills/tips/buying_puppy.html

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,647 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา