ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
คราวหน้าถ้าเล็บหักอีกเมื่อไหร่ก็อย่าเพิ่งตีโพยตีพายไป เพราะมีหลายเคล็ดลับใช้ซ่อมเล็บหักได้ เรียกว่าเจ็บตัวแล้วอย่ายอมเจ็บใจ (เพราะเล็บไม่สวย) อีก อ่านบทความนี้จบแล้ว เล็บหักเมื่อไหร่ก็อย่าได้แคร์!
ขั้นตอน
-
ล้างมือหรือเท้า. ก่อนจะซ่อมเล็บ ต้องล้างมือให้สะอาด ไม่เหนียวไม่มัน
- ล้างมือหรือเท้าด้วยน้ำอุ่นกับสบู่ จากนั้นซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
- เวลาล้างและซับให้แห้งต้องระวัง อย่าให้เล็บฉีกหรือหัก จนน่าเกลียดหรือเจ็บตัวไปกว่าเดิม
-
ตัดกระดาษสำหรับแปะเล็บ. [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้ามีชุดอุปกรณ์สำหรับซ่อมเล็บโดยเฉพาะ ก็จะมีกระดาษหรือเยื่อกระดาษสำหรับตัดแล้วเอามาแปะให้พอดีกับเล็บได้ จากนั้นพับเก็บที่ปลายเล็บ
- แต่ถ้าไม่มีชุดอุปกรณ์ที่ว่า ให้ตัดถุงชาแทน เป็นวัสดุที่สาวๆ นิยมใช้แปะซ่อมเล็บกันมากที่สุด แถมใช้ดีทีเดียว
- ถ้าไม่มีกระดาษซ่อมเล็บหรือถุงชาเลย ให้เปลี่ยนเป็นผ้าเช็ดปาก หรือกระดาษกรองกาแฟแทน
- อย่างน้อยที่สุด คือวัสดุนั้นต้องใหญ่พอจะปกปิดเล็บที่หักได้ทั้งหมด หรือก็คือปิดมิดทั้งเล็บ เหลือปลายยื่นออกมาให้พับเก็บนิดหน่อย [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ติดกระดาษซ่อมเล็บ. ทากาวตราช้างหรือกาวติดเล็บปลอมลงไปจุดเล็กๆ แล้วใช้ปลาย applicator หรืออุปกรณ์แต่งเล็บ ค่อยๆ แผ่กาวออกไปจนทั่วทั้งเล็บ ต่อมาใช้แหนบคีบกระดาษมาแปะกาวที่เล็บ
- ถ้าใช้ชุดอุปกรณ์ซ่อมเล็บ จะมีน้ำยาสำหรับสมานเล็บโดยเฉพาะ ไม่ต้องใช้กาว ก็ให้ทาด้วยหัวแปรงที่มีมาในชุดอุปกรณ์เลย
- ใช้แหนบกดๆ รีดๆ ให้กระดาษไม่ย่นหรือนูนขึ้นมา พยายามรีดให้เนียนที่สุด
- ถ้าเหลือเศษผ้าหรือกระดาษส่วนเกิน ให้เล็มออกด้วยกรรไกรตัดเล็บเล็กๆ หรือจะกรรไกรธรรมดาก็ได้
-
พับกระดาษหุ้มปลายเล็บ. ใช้แหนบหนีบปลายกระดาษที่ยื่นไปนอกปลายเล็บ จากนั้นพับเก็บเข้าไปใต้เล็บ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าปลายกระดาษไม่ติดเพราะไม่โดนกาว ให้ทากาวหรือน้ำยาในชุดอุปกรณ์ไปจุดเล็กๆ จะได้ติดกับใต้เล็บ
- ขั้นตอนนี้มีเพื่อให้เล็บเนียนเสมอกัน และป้องกันเล็บหักไปกว่าเดิม
-
ทากาวทับกระดาษอีกชั้น. หยดกาวอีกจุดบนวัสดุที่ติดเล็บ จากนั้นใช้ปลายอุปกรณ์แต่งเล็บเกลี่ยให้ทั่วจนเนียนสวย
- ทาน้ำยาสมานเล็บแทนกาวตราช้างหรือกาวติดเล็บปลอมก็ได้
-
เล็มส่วนเกินแล้วขัด. ถ้ามีที่ขัดเล็บ หลังกาวแห้งก็ให้ค่อยๆ ขัดไป เริ่มจากด้านที่ขัดหยาบก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นด้านขัดละเอียด ให้ขึ้นเงา
- จะเห็นผลสุด ต้องขัดไปในทิศทางเดียว อย่าขัดไปๆ มาๆ
-
ทาน้ำยาเคลือบ (top coat) ทั้งเล็บ. ทาน้ำยาเคลือบเล็บหรือน้ำยาบำรุงเล็บให้แข็งแรง จะได้เติมเล็บที่หักให้เต็ม แถมเพิ่มชั้นป้องกัน
- แนะนำว่าวัสดุที่ติดเล็บต้องแห้งสนิทก่อน ทิ้งไว้ข้ามคืนได้ยิ่งดี ค่อยทำขั้นตอนนี้ จะได้ไม่เกิดฟองอากาศหรือรอยด่าง
- หลัง top coat แห้ง จะทายาทาเล็บทับด้วยก็ได้ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ตัดสก็อตเทปให้ได้ขนาดพอดี. เอากรรไกรค่อยๆ ตัดเทปกาวใสจนได้ชิ้นเล็ก พอดีกับรอยฉีก
- ถ้าอยากตัดเทปโดยไม่ต้องลำบากแกะเทปออกจากกรรไกร ให้ใช้กรรไกรตัดเล็บเล็กๆ หรือกรรไกรก้ามปูแทน ถ้าใช้กรรไกรตัดกระดาษ ก็ให้เล็มด้วยปลายกรรไกร
- ใช้เทปกาวด้านเดียว ไม่ต้องเหนียวมาก เช่น เทปกาวขุ่น (magic tape), วาชิเทปของญี่ปุ่น, เทปกาวอเนกประสงค์ หรือสก็อตเทปใสธรรมดา ห้ามใช้เทปกาวเหนียวติดทนนาน ประมาณเทปพันสายไฟ
-
ติดเทปทับรอยฉีก. [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ให้กลางเทปติดกลางรอยฉีกของเล็บ จากนั้นกดให้ติดแน่น แล้วเอาปลายเล็บที่ยังดี รูดตามความยาวของเทปทั้ง 2 ด้าน จะได้ติดทับสนิทจากหัวจรดปลาย
- ต้องจับรอยฉีกทั้ง 2 ด้านประสานกันดีก่อนติดเทป
- กดให้เทปแนบสนิท
- ลูบเทปไปในทิศทางที่เล็บฉีก อย่าลูบย้อน เพราะเดี๋ยวเล็บจะฉีกไปกว่าเดิม
-
เล็มเทปส่วนเกิน. ถ้าชิ้นเทปที่ติดเล็บใหญ่เกินไป ให้เอากรรไกรตัดเล็บหรือกรรไกรก้ามปูเล็มออก
- ปลายเทปทุกด้านต้องแนบสนิทไปกับเล็บ
- หรือตัดเทปส่วนเกินด้วยปลายกรรไกรตัดกระดาษ ถ้าไม่มีกรรไกรตัดเล็บจริงๆ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง blackcatnails.com/how-to-fix-broken-torn-nail-quick-easy-method/
-
รีบซ่อมเล็บทันทีที่หักหรือฉีก. เพราะวิธีการนี้ใช้แก้ได้เฉพาะหน้า ใช้ถาวรไม่ได้ ถ้าจะให้เนี้ยบต้องใช้กาว กระดาษหรือผ้า และวิธีการอื่นในบทความ
- ระหว่างนี้ก็ต้องระวังตัว อย่าทำเทปเผยอหรือเล็บฉีกไปกว่าเดิม
-
ตอนแกะเทปออกต้องระวัง. เวลาแกะเทป ให้ลอกออกในทิศทางเดียวกับรอยฉีก อย่าดึงย้อนโฆษณา
-
ล้างมือหรือเท้า. ก่อนจะซ่อมเล็บ ต้องล้างมือให้สะอาด ไม่เหนียวไม่มัน
- ล้างมือหรือเท้าด้วยน้ำอุ่นกับสบู่ จากนั้นซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
- เวลาล้างและซับให้แห้งต้องระวัง อย่าให้เล็บฉีกหรือหัก จนน่าเกลียดหรือเจ็บตัวไปกว่าเดิม
-
แช่เล็บที่หลุดในน้ำอุ่น. ถ้าปลายเล็บหักหรือหลุดออกไปเลย แล้วอยากประกอบร่างคืน ก็ต้องเอาเล็บที่หักไปแช่ในน้ำอุ่น จนอ่อนตัวลง
- ถ้าเล็บยังติดอยู่หรืออ่อน ดัดได้ ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป
-
ทากาวเล็บที่หลุด. ค่อยๆ บีบหลอดกาวจนได้จุดกาวเล็กๆ ประมาณลูกปัด จากนั้นเอาไม้จิ้มฟันมาแต้ม แล้วเอาไปทาให้ทั่วเล็บที่หัก (ด้านเดียว) เท่านี้ก็ได้ชั้นกาวบางๆ
- ถ้าไม่มีกาวติดเล็บปลอม ให้ใช้กาวตราช้างแทน หรือกาวอะไรก็ได้ที่มี cyanoacrylate จะได้แข็งแรงทนทาน
- ห้ามเอานิ้วแตะกาวเด็ดขาด
-
แปะเล็บเข้าที่. เอาไม้จิ้มฟันเขี่ยให้เล็บที่หักกลับมาติดคืนที่ จากนั้นกดให้แน่นด้วยขอบไม้จิ้มฟัน
- ย้ำอีกทีว่าอย่าให้นิ้วโดนกาว
- กดไว้อย่างน้อย 1 นาที จนแน่ใจว่าเล็บติดสนิทดี
-
เช็ดกาวส่วนเกิน. ก่อนกาวจะแห้งสนิท ให้เอาสำลีก้อนหรือคอตตอนบัดจุ่มน้ำยาล้างเล็บจนชุ่ม แล้วเอาไปเช็ดขอบเล็บเพื่อกำจัดกาวส่วนเกินที่ติดหนัง
- อาจจะต้องขัดถูนิดหน่อย กาวถึงจะออก
- ถ้ากาวติดหนังตรงไหน ก็ใช้น้ำยาล้างเล็บเช็ดออกได้หมด
-
รีดเล็บที่ซ่อมแล้วให้เรียบ. พอกาวแห้งสนิท ให้ตะไบเล็บจนเนียนเสมอ โดยใช้ด้านหยาบของตะไบหรือแผ่นขัดเล็บ ให้ขอบแข็งของรอยฉีกที่ยื่นออกไปเรียบเสมอ
- ตะไบไปทางเดียว อย่ากลับไปกลับมา จะได้ไม่เสี่ยงทำเล็บพัง โดยตะไบไปทางที่เล็บฉีก อย่าตะไบย้อน
- ตะไบช้าๆ เดียวเล็บที่อุตส่าห์ซ่อมจะพัง
-
แห้งแล้วให้ลง top coat. พอเล็บที่พังกลับมาปัง สวยเนียนอีกครั้ง ก็ให้เพิ่มชั้นป้องกัน โดยทาน้ำยาเคลือบเล็บหรือน้ำยาบำรุงเล็บให้แข็งแรงจนทั่วทั้งเล็บ สุดท้ายรอจนแห้งสนิทโฆษณา
-
ตัดเล็บที่ฉีก. ถ้าบางส่วนของเล็บฉีกหรืออ้าจนเห็นเนื้อ ก็ต้องตัดไม่ให้เสียหายหรือเจ็บตัวไปกว่าเดิม แล้วรักษาแผล โดยใช้กรรไกรตัดเล็บค่อยๆ เล็มส่วนที่ฉีก แล้วคีบออกด้วยแหนบ
- พอตัดเล็บที่ฉีกหรือหลุดออกไปแล้ว ก็รักษาแผลใต้เล็บได้สะดวก ไม่เสี่ยงติดเชื้อเพราะรักษาความสะอาดและฆ่าเชื้อได้ดี
- หรือปล่อยเล็บที่ฉีกไว้ แล้วทำความสะอาดรอบๆ วิธีนี้ยากกว่าแต่ก็พอทำได้ สุดท้ายส่วนที่เผยอจะหลุดไปเอง แล้วมีเล็บใหม่งอกมาแทนที่
-
ห้ามเลือด. อันนี้แล้วแต่ว่าเล็บฉีกหรือหลุดรุนแรงแค่ไหน บางทีเนื้อใต้เล็บก็เลือดไหลเยอะ ก่อนจะรักษาต่อไป ต้องห้ามเลือดก่อน โดยกดบริเวณแผลไว้
- ถ้ามี ให้ใช้ผ้าก๊อซหรือสำลีแผ่นฆ่าเชื้อ โดยปิดทับไปบนแผล แล้วกดห้ามเลือดไว้หลายนาที กดไว้ให้มั่นคง
-
เล็มเล็บที่เหลือ. ถ้ามีเล็บเกินออกมาหรือคม ให้ตัดด้วยกรรไกรตัดเล็บคมๆ ไม่ว่าจะแยกเล็บที่หลุดออกไปหรือทิ้งไว้ให้หลุดเองก็ตาม จะได้ไม่เผลอไปเกี่ยวอะไรจนฉีกหนักกว่าเดิม
- ถ้ากลัวหรือเจ็บจนตัดเองไม่ไหว ให้คุณหมอช่วยตัดแทนก็ได้
-
แช่มือหรือเท้าในน้ำเย็นจัด. หลังตัดเล็บเสร็จ ให้แช่เล็บที่เป็นในชามน้ำเย็นทันที โดยแช่ทิ้งไว้ 20 นาที
- น้ำต้องเย็นพอที่จะทำให้แผลชา หายเจ็บหรือระคายเคือง
- แถมการแช่นิ้วมือหรือนิ้วเท้าในน้ำเย็นจัด ยังช่วยให้เลือดห้ามเลือด ไม่ให้ไหลเวียนมายังบริเวณที่มีแผลด้วย
-
แช่มือหรือเท้าในน้ำเกลือ. หลังแช่น้ำเย็นแล้ว ให้สลับมาแช่น้ำเกลืออุ่นๆ ต่อ
- ผสมเกลือ 1 ช้อนชากับน้ำอุ่น 4 ถ้วยตวง
- แช่นิ้วมือหรือนิ้วเท้าที่บาดเจ็บทิ้งไว้ 20 นาที น้ำเกลือจะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้
- ทำซ้ำวันละ 2 - 3 ครั้ง ในช่วง 3 วันแรกที่เป็น
- ซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาดนุ่มๆ
-
ทาขี้ผึ้งยาปฏิชีวนะ. ถ้าอยากให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น และป้องกันการติดเชื้อ ให้ทาขี้ผึ้งยาปฏิชีวนะให้ทั่วแผล จะใช้นิ้วหรือคอตตอนบัดสะอาดๆ ทาก็ได้ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ทุกครั้งที่ดูแลแผล ต้องล้างมือให้สะอาด
-
พันเล็บที่เจ็บไว้จนกว่าเล็บใหม่จะงอก. เอาพลาสเตอร์ปิดเล็บที่หลุดไว้ เล็บที่เหลือจะได้ไม่ไปเกี่ยวอะไรจนฉีกไปกว่าเดิม และไม่เสี่ยงติดเชื้อด้วย
- ติดพลาสเตอร์ยาไว้จนกว่าเล็บใหม่จะงอกครบสมบูรณ์
- เปลี่ยนพลาสเตอร์ทุกครั้งที่ทำความสะอาดหรือทำแผล ตอนติดพลาสเตอร์ แผลต้องแห้งสนิทดี ถ้าเปียกน้ำเมื่อไหร่ต้องรีบเปลี่ยนทันที
-
เฝ้าดูอาการ. ทุกครั้งที่เปลี่ยนพลาสเตอร์ ต้องสังเกตว่าแผลติดเชื้อหรือเปล่า โดยเฉพาะช่วง 72 ชั่วโมงแรกที่เล็บหลุด แต่ทางที่ดีให้จับตาดูต่อไปจนกว่าเล็บจะงอกกลับมาเหมือนเดิม
- สัญญาณอันตราย บอกว่าเล็บติดเชื้อ ก็คือมีไข้ แผลแดง ร้อน ปวด บวม กดเจ็บ หรือมีหนอง
- ถ้าสงสัยว่าแผลจะติดเชื้อ ให้รีบไปหาหมอทันที
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.theartofdoingstuff.com/how-to-mend-a-broken-fingernail/
- ↑ http://stylecaster.com/beauty-high/how-to-fix-a-broken-nail/
- ↑ http://stylecaster.com/beauty-high/how-to-fix-a-broken-nail/
- ↑ http://stylecaster.com/beauty-high/how-to-fix-a-broken-nail/
- ↑ http://www.lindarose.com/art-brokennails.asp
- ↑ blackcatnails.com/how-to-fix-broken-torn-nail-quick-easy-method/
- ↑ http://www.healthcare-online.org/How-To-Treat-A-Torn-Toenail.html
- วีดีโอประกอบโดย Hannah Weir
โฆษณา