ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การซ้อนภาพนี่แหละคำตอบ ถ้าคุณอยากได้พื้นหลังใหม่ ยำภาพต่างๆ เข้าด้วยกัน หรือตัดต่อตัวเองร่วมเฟรมกับดารา ไม่ว่าคุณจะแค่อยากแต่งภาพทำการ์ดปีใหม่ หรือตัดต่อรูปไปหลอกใคร ก็ใช้โปรแกรมแต่งรูปฟรีได้เลย บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีซ้อนหลายภาพออกมาเป็นภาพใหม่ให้คุณเอง
ขั้นตอน
-
ถ้าแค่ตัดแปะภาพง่ายๆ ให้ใช้วิธีนี้. เป็นวิธียำภาพเรียบๆ รายละเอียดไม่มากเข้าด้วยกันแบบเร็วทันใจ บอกกันก่อนว่าวิธีนี้ตัดต่อรูปออกมาได้ไม่เนียนเป๊ะ สำหรับคนอยากได้การ์ดปีใหม่ฮาๆ น่ารักๆ หรืองานแค่พอไปวัดไปวาได้
- ให้ดาวน์โหลดโปรแกรมแต่งรูปฟรีอย่าง GIMP, Paint.NET หรือ Pixlr มาใช้เพื่อการนี้ แต่ถ้าบังเอิญมีโปรแกรมเทพอย่าง Photoshop หรือ Paint Shop Pro อยู่แล้ว ก็ใช้ได้เลย แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อแต่อย่างใด
- วิธีนี้ใช้แค่ไม่กี่อุปกรณ์ (tools ในโปรแกรม) เพราะงั้นไม่ต้องขวนขวายหาโปรแกรมเทพๆ ถ้าไม่มี แค่ Windows Paint ก็เอาอยู่แล้ว แต่ อาจจะไม่มี "feather tool" สำหรับแต่งรูปให้ออกมาเนียนสวยยิ่งขึ้น ทีนี้พอไม่มีฟังก์ชั่น "layer" ซ้อนภาพเป็นชั้นๆ ก็อาจทำรูปเละจนต้นฉบับเสียได้
-
เปิดรูปพื้นหลังก่อน. นี่คือรูปที่จะใช้เป็นพื้นหลังใหม่ หรือรูปที่เราจะเอารูปอื่นมาซ้อนทับ ให้เปิดโปรแกรมแต่งรูปแล้วไปที่ File → Open เพื่อเปิดไฟล์รูป
- เข้า File → Save As เพื่อเซฟเป็นชื่อไฟล์ใหม่ จะได้เก็บไฟล์ต้นฉบับไว้ให้ปลอดภัย หรือค่อยทำตอนแต่งรูปเสร็จก็ได้ แต่ถ้าทำแต่แรก จะได้ไม่พลาดจนเผลอเซฟทำรูปจริง
-
เปิดไฟล์รูปที่จะซ้อนทับ. หรือก็คือรูปที่จะตัดบางส่วนเอาไปแปะบนรูปพื้นหลัง ให้เปิดไฟล์นี้ขึ้นมาในหน้าต่างใหม่ของโปรแกรมเดียวกัน ที่สำคัญคือต้องเข้า File → Save As แล้วเซฟเป็นไฟล์ชื่อใหม่ด้วย จะได้เก็บรูปต้นฉบับไว้
-
เลือก selection tool ที่เป็นวงกลม. จะเห็นปุ่มเป็นรูปต่างๆ ในแถบเครื่องมือทางซ้ายของหน้าจอ พวกนี้คือ tools หรืออุปกรณ์แต่งภาพของคุณ ให้คลิกเส้นประรูปวงกลมหรือวงรี ที่อยู่ด้านบนของแถบเครื่องมือ
- ให้เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่อุปกรณ์ แล้วรอจนชื่ออุปกรณ์นั้นโผล่มา จะได้เลือกถูก บางทีอุปกรณ์นี้ก็เรียกว่า "ellipse selection", "ellipse select" หรืออะไรที่ใกล้เคียงกัน
- ถ้าหา selection tool นี้ไม่เจอ ให้ใช้บ่วงบาศก์ "lasso tool" หรือ "rectangle select" tool ที่เป็นสี่เหลี่ยมแทน
-
คลิกแล้วลากเพื่อล้อมกรอบส่วนของรูปที่จะตัดไปแปะ. เช่น คน สัตว์ หรือสิ่งของต่างๆ ที่จะตัดไปแปะใส่รูปพื้นหลัง พยายามเลือกส่วนของรูปให้ดีๆ โดยวัตถุที่ต้องการอยู่ตรงกลาง โดยไม่ติดส่วนเกินอื่นๆ มาด้วย (เช่น แขนใครยื่นเข้ามา)
- โปรแกรมแต่งรูปส่วนใหญ่จะมีคำสั่ง Invert Selection ที่ใช้เลือกทุกอย่าง ยกเว้น อะไรที่คุณเลือกไว้ จะได้รู้ว่าพอเหลือแต่สิ่งที่คุณเลือกไว้จะเป็นยังไง คุณ invert หรือกลับค่าการเลือกได้ โดยกด Ctrl + Shift + I (หรือ command + Shift + I ถ้าใช้ Mac) จากนั้นกด Edit → Cut เพื่อลบทุกอย่างยกเว้นรูปที่จะตัดไปแปะ หรือเลือก Edit → Undo เพื่อลองเลือกส่วนอื่นของรูปดู
- ถ้าลองหลายๆ แบบแล้วยังไม่โดนใจ ให้เลื่อนลงไปอ่านวิธีการซ้อน "รูปที่มีรายละเอียดเยอะ" แทน
-
เบลนด์ขอบรูปบริเวณที่เลือกให้ฟุ้งๆ (ไม่จำเป็น). ขอบของรูปที่ตัดมาอาจจะดูโดดหรือชัดเกินไป พอเอาไปแปะแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือเห็นชัดๆ ว่าตัดต่อ คุณแก้ได้โดยใช้ "feather tool" หรือ "feather setting" เพื่อเบลนด์หรือเกลี่ยขอบให้ฟุ้งๆ แต่ต้องเลือกฟังก์ชั่นนี้ในโปรแกรมที่ใช้ให้ได้ซะก่อน
- ถ้าใช้ Photoshop ให้คลิกขวารูปที่เลือกไว้ แล้วคลิก Feather [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าใช้ Gimp ให้ดูตรงเมนูด้านบน แล้วเลือก Select → Feather [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าใช้ Paint.NET ต้องดาวน์โหลด Feather Plugin ก่อน แล้วเปิดเมนูของ plugin เพื่อใช้ tool นี้
- ถ้าใช้ Pixlr หรือ Paint Shop Pro ให้คลิก selection tool แล้วเปลี่ยน feather setting ก่อน เลือกบริเวณที่จะตัดไปแปะ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าใช้โปรแกรมอื่นๆ จะเห็นตัวเลือกให้ใส่เลขกำหนดระดับ feathering effect หรือความชัดความเบลอของขอบเป็นพิกเซล ให้เริ่มจาก 1 - 2 พิกเซลก่อน จะได้ไม่เบลอจนเกินไป
-
พอได้รูปที่ต้องการแล้ว ก็ copy มา paste ใส่รูปพื้นหลังได้เลย. โดยเลือก Edit → Copy และ Edit → Paste อย่าลืมเลือกรูปพื้นหลังที่ต้องการก่อน (ก็รูปที่เปิดไว้ในอีกหน้าต่างของโปรแกรมเดียวกันนั่นแหละ)
- ถ้า copy ได้มาเฉพาะส่วนอื่น ที่ไม่ใช่ รูปที่ต้องการ ให้เลือก Invert Selection อีกรอบก่อน จะได้กลับมาเลือกส่วนที่คุณต้องการ
-
ปรับขนาดและตำแหน่ง. เลือก move tool ที่หน้าตาเหมือนเคอร์เซอร์ (ลูกศร) หรือเข็มทิศ จากนั้นคลิกแล้วลากรูปที่แปะไปไว้ตรงตำแหน่งที่ต้องการ ส่วนถ้าอยากปรับขนาดรูปที่เอามาแปะ ก็ให้
- ไปที่ File → Free Transform (หรือกด Ctrl + T ) เพื่อเพิ่ม-ลดขนาดตามต้องการ
- จะมีสี่เหลี่ยมโผล่มาล้อมรูปที่ตัดมาแปะ ให้คลิกแล้วลากเส้นขอบหรือมุมเพื่อปรับขนาดและรูปทรงตามต้องการ ถ้าอยากคงสัดส่วนเดิมไว้ เปลี่ยนแต่ขนาด ให้กด Shift ค้างไว้ จากนั้นคลิกแล้วลากมุม
- ถ้าขยับผิดวัตถุ ต้องเช็คก่อนว่าอยู่ถูก layer โดยไปที่ View → Layer หรือ Window → Layer แล้วคลิก layer ที่มีรูปที่คุณตัดมาแปะไว้
-
ไปที่ File → Save As เพื่อเซฟรูปที่ซ้อนแล้วเป็นไฟล์ใหม่. อย่าลืมเลือกรูปที่แต่งแล้วก่อนเซฟ หรือก็คือรูปที่อยู่หน้ารูปอื่นๆ
- คุณซ้อนรูปอื่นๆ เพิ่มเข้าไปได้ด้วยวิธีเดียวกัน จะกี่ชั้นก็แล้วแต่
- ถ้าอยากเปลี่ยนลำดับการซ้อนรูป ให้เข้าเมนู Layers ที่ View → Layers หรือ Window → Layers ที่เมนูด้านบนสุด แล้วลาก thumbnail ของแต่ละรูปขึ้นไปด้านบนหรือด้านล่างของรูปอื่นๆ ในรายการ layer ชั้นล่างสุดจะเป็น background image หรือรูปพื้นหลังเสมอ ส่วน layer ชั้นบนสุดจะอยู่ด้านบนของทุกอย่างในรูป
โฆษณา
-
ดูก่อนว่ารูปต้นฉบับรายละเอียดซับซ้อนแค่ไหน จะได้รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง. วิธีนี้จะแนะนำการใช้ "magic wand" tool ที่ช่วยลบส่วนต่างๆ ของรูปอย่างรวดเร็ว โดยลบเป็นสีๆ ไป จะได้ไม่เกินไปลบอย่างอื่นที่ต้องการ แต่จะทำงานง่ายขึ้นอีกเยอะ ถ้าพื้นหลังของรูปเป็นสีพื้นเรียบๆ มีเหลือบแค่นิดหน่อย หรือรูปที่จะเลือกมีเส้นขอบแยกจากพื้นหลังชัดเจน
- ถ้ารูปที่จะตัดไปแปะอยู่บนพื้นหลังที่มีรายละเอียดเยอะ ให้ข้ามไปอ่านขั้นตอน "เลือก selection tool" เลย แล้วลากเส้นรอบบริเวณของรูปที่จะตัดไปแปะด้วยตัวเอง
- ถ้าอยากตัดแปะรูปแบบง่ายๆ ไม่ต้องเนี้ยบมาก ให้เลื่อนกลับไปอ่านวิธีซ้อน "รูปเรียบๆ" ด้านบน
-
ดาวน์โหลดโปรแกรมแต่งรูปฟรีก่อนถ้าไม่มี. จะซ้อนรูปก็ต้องมีโปรแกรมแต่งรูปซะก่อน ถึงไม่มีโปรแกรมเทพๆ อย่าง Photoshop หรือ PaintShop Pro ก็ไม่เป็นไร แค่ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีอย่าง Pixlr, GIMP หรือ Paint.NET มาใช้ก็พอ
- ถ้าใช้ Mac ให้ลองหา GIMP ในเครื่องดูก่อน ถ้าไม่มีค่อยไปดาวน์โหลด เพราะบางทีในเครื่องก็มีโปรแกรมแต่งรูปฟรีติดมาอยู่แล้ว
- ในบรรดาโปรแกรมแต่งรูปฟรีทั้งหลาย GIMP นี่แหละใกล้เคียงโปรแกรมเทพๆ มากที่สุด [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าคุณแค่อยากซ้อนรูปอย่างเดียว เลือกโปรแกรมฟรีอื่นที่เมนูน้อยๆ ใช้งานง่ายๆ ก็ได้
- ถ้าอยากใช้โปรแกรมฟรีอื่นที่เราไม่ได้แนะนำไว้ ก็ต้องเช็คให้ชัวร์ว่ามีฟีเจอร์ layering หรือซ้อนภาพเป็นชั้นๆ โดย search คำว่า "Layers" ในเมนู Help ของโปรแกรมก่อน หรืออ่านคำอธิบายแต่ละฟีเจอร์ในเว็บของโปรแกรมเอง
- ขั้นตอนต่างๆ ของวิธีการนี้ใช้กับ MSPaint, Windows Paint และ Inkscape ไม่ได้
-
เปิดรูปพื้นหลังในโปรแกรมที่เลือก. นี่คือรูปที่จะใช้เป็นพื้นหลังใหม่ เดี๋ยวคุณจะตัดรูปอื่นมาแปะลงในรูปนี้
- ถ้าดับเบิลคลิกที่ไฟล์แล้วโปรแกรมแต่งรูปไม่เปิดขึ้นมา ให้เปิดโปรแกรมแต่งรูปก่อน จากนั้นค่อยไปที่ File → Open ในเมนูด้านบน แล้วเลือกไฟล์รูปที่ต้องการ
-
ในหน้าต่างใหม่ ให้เปิดรูปที่สอง. นี่คือรูปที่คุณจะตัดไปแปะในรูปพื้นหลัง ให้ไปที่ File → Open แล้วเปิดไฟล์รูปที่สองขึ้นมาในหน้าต่างใหม่ โดยเปิดรูปพื้นหลังทิ้งไว้ก่อน คุณสลับไปมาระหว่าง 2 หน้าต่างได้ แค่คลิกแล้วลากหน้าต่างหนึ่งไปข้างๆ ให้เห็นอีกหน้าต่าง หรือย่อหน้าต่างหนึ่งให้เล็กลงโดยลากมุมขวาล่าง
- รูปที่ตัดต่อง่ายที่สุด คือรูปที่วัตถุตัดกับพื้นหลัง (เก่า) แบบชัดเจน
-
เซฟรูปที่ 2 เป็นไฟล์ใหม่. ไปที่ File → Save As แล้วเปลี่ยนชื่อรูปเป็นอะไรก็ได้ที่ต้องการ เท่านี้ก็เอารูปไปตัดต่อได้แบบไม่ต้องกลัวทำไฟล์รูปต้นฉบับเสีย
- ให้เลือก Save As แล้วเปลี่ยนชื่อรูปเพื่อสร้างไฟล์ copy ถ้าคุณคลิกแค่ Save หรือคลิก Save As แต่ไม่ได้เปลี่ยนชื่อไฟล์ ทุกการเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดกับไฟล์ต้นฉบับแทน
- พอได้ไฟล์ใหม่แล้ว ระหว่างตัดต่ออย่าลืมเซฟบ่อยๆ โดยไปที่ File → Save กันไว้ก่อนปลอดภัยกว่า
-
เลือก magic wand tool เพื่อลบส่วนของรูปที่ไม่ต้องการ. คลิกรูปไม้กายสิทธิ์ในแถบเครื่องมือทางซ้าย นี่คือ tool สำหรับเลือกสีต่างๆ ในเฉดสีที่คุณกำหนด แค่คลิกส่วนไหนก็ได้ของรูป พิกเซลที่คุณเลือกจะเป็นสีต้นแบบไว้ใช้อ้างอิงในการเลือกสีอื่นๆ ที่ใกล้เคียง
- ไอคอนของ magic wand tool ที่ว่า จะเป็นรูปไม้กายสิทธิ์ มีแสงวาบออกมาที่ปลายไม้ ถ้าไม่แน่ใจว่าเลือกถูก tool ไหม ให้เลื่อนเคอร์เซอร์ไปจ่อที่รูป 1 - 2 วินาที เดี๋ยวจะมีชื่อ tool โผล่ขึ้นมาเอง
- ถ้าใช้ GIMP จะเรียกว่า "fuzzy select" tool แต่รูปไอคอนก็คล้ายๆ กัน
-
ปรับค่า settings ของ magic wand tool. settings จะโผล่มาด้านบนของรูปตอนเลือก tool อย่าลืมติ๊กช่อง “Contiguous” จะได้ลบแค่พิกเซลใกล้เคียง ไม่ใช่ลบพิกเซลสีนั้นทั้งหมดในรูป รวมถึงให้ปรับ tolerance ตามพื้นหลัง ว่าเป็นสีพื้นหรือสีเหลือบ contrast กันกับวัตถุด้านหน้าที่ต้องการแค่ไหน ถ้าค่า tolerance ต่ำ สีที่จะลบก็มีจำกัด เหมาะสำหรับรูปที่วัตถุและพื้นหลังมีสีคล้ายๆ กัน ส่วนค่า tolerance สูงๆ จะลบสีได้หลากหลายกว่า เหมาะสำหรับรูปที่วัตถุกับพื้นหลังแตกต่างกันอย่างชัดเจน
-
เลือกวัตถุในรูปที่จะตัดไปแปะ. ให้คลิกสีในบริเวณที่ไม่ต้องการในรูป เพื่อเลือกบริเวณที่เป็นสีนั้น จะมีเส้นกรอบกะพริบโผล่มาล้อมบริเวณนั้น ให้กด Shift หรือ Ctrl ค้างไว้ แล้วคลิกเลือกพื้นที่ในรูปเพิ่มเติมจนได้ส่วนที่ไม่ต้องการในรูปครบทั้งหมด เหลือแต่รูปที่จะตัดไปแปะ
- อาจจะต้องปรับค่า tolerance 2 - 3 รอบระหว่างนั้น โดยใช้ settings ของ magic wand tool ค่า tolerance ควรจะต่ำถ้าเวลาเลือกบริเวณที่จะตัดไปแปะ และค่า tolerance ควรจะสูง เวลาเลือกจุดยิบย่อย
- เวลาเลือกผิดให้คลิก Edit → Undo เพื่อยกเลิกเฉพาะการคลิกล่าสุด ไม่ต้องกลัวกลับไปเริ่มต้นใหม่แต่แรก หรือกด Ctrl + Z ถ้าใช้ Windows และกด command + Z ถ้าใช้ Mac
- ถ้าเลือกส่วนที่ไม่ต้องการแล้วดันมีวัตถุที่จะตัดไปแปะติดมาด้วย ให้เลื่อนลงไปอ่านขั้นตอน "เลือก selection tool" แล้วค่อยๆ คลิกเลือกรูปเองโดยใช้ lasso tool
-
เบลนด์ขอบรูปบริเวณที่เลือกให้ฟุ้งๆ (ไม่จำเป็น). ขอบของรูปที่ตัดมาอาจจะดูโดดหรือชัดเกินไป พอเอาไปแปะแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือเห็นชัดๆ ว่าตัดต่อ คุณแก้ได้โดยใช้ "feather tool" หรือ "feather setting" เพื่อเบลนด์หรือเกลี่ยขอบให้ฟุ้งๆ แต่ต้องเลือกฟังก์ชั่นนี้ในโปรแกรมที่ใช้ให้ได้ซะก่อน
- ถ้าใช้ Photoshop ให้คลิกขวารูปที่เลือกไว้ แล้วคลิก Feather [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าใช้ Gimp ให้ดูตรงเมนูด้านบน แล้วเลือก Select → Feather [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าใช้ Paint.NET ต้องดาวน์โหลด Feather Plugin ก่อน แล้วเปิดเมนูของ plugin เพื่อใช้ tool นี้
- ถ้าใช้ Pixlr หรือ Paint Shop Pro ให้คลิก selection tool แล้วเปลี่ยน feather setting ก่อน เลือกบริเวณที่จะตัดไปแปะ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าใช้โปรแกรมอื่นๆ จะเห็นตัวเลือกให้ใส่เลขกำหนดระดับ feathering effect หรือความชัดความเบลอของขอบเป็นพิกเซล ให้เริ่มจาก 1 - 2 พิกเซลก่อน จะได้ไม่เบลอจนเกินไป
-
กด Delete เพื่อลบบริเวณที่เลือกไว้. หรือเลือก Edit → Cut ในเมนูด้านบน พยายามทำแบบนี้ไล่ไปเป็นจุดๆ ดีกว่าเลือกที่เดียวทั้งหมดที่จะลบ เผื่อผิดพลาดขึ้นมาจะได้แก้ไขง่าย แถมงานละเอียดกว่าด้วย
- พอเหลือส่วนที่ไม่ต้องการในรูปแค่เล็กน้อย ให้ซูมเข้าไปลบเก็บรายละเอียด ปุ่ม Zoom In จะหน้าตาเหมือนแว่นขยาย มี "+" อยู่ข้างใน หรือเลือกคำสั่ง View → Zoom ในเมนูด้านบนก็ได้
- พอลบบริเวณที่ล้อมกรอบไว้แล้ว จะมีลาย "ตารางหมากรุก" หรือสีพื้นโผล่มาแทน แปลว่าเอารูปที่เหลือไปซ้อนกับรูปอื่นได้เลย
-
เลือก selection tool. ปกติอยู่แถวด้านบนในแถบเครื่องมือ โดยมีทั้งสี่เหลี่ยม วงกลม แล้วก็บ่วงบาศก์ ถ้าเป็น tools สี่เหลี่ยมกับวงกลม จะตีกรอบรูปทรงนั้นล้อมบริเวณที่เลือก ส่วน lasso tool หรือบ่วงบาศก์ใช้ลากเส้นกรอบรูปใดก็ได้ เหมาะสำหรับเวลาเลือกวัตถุที่จะตัดไปแปะโดยไม่ติดส่วนที่ไม่ต้องการ
-
คลิกแล้วลากเส้นรอบวัตถุที่จะตัดไปแปะ. พยายามลบพื้นหลังให้ละเอียด จะได้ไม่เหลือส่วนที่ไม่ต้องการ เสร็จแล้วจะเลือกโดนสีพื้นหรือลายตารางไปบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าโปร่งใสไปแล้ว
- ถ้าลบพื้นหลังละเอียดๆ ด้วย magic wand tool ไม่หมด ให้ซูมเข้าโดยใช้คำสั่ง View → Zoom ในเมนูด้านบน แล้วค่อยๆ ตีกรอบรอบวัตถุที่ต้องการโดยใช้ lasso tool อาจจะใช้เวลาหลายนาทีหน่อย แต่เพื่องานที่ละเอียดยิ่งขึ้น พอ copy วัตถุที่เลือกไป paste ในพื้นหลังใหม่แล้ว อาจจะต้องเก็บรายละเอียดด้วย lasso tool อีกที
-
copy วัตถุที่เลือกไว้ สลับไปที่หน้าต่างของรูปพื้นหลัง แล้ว paste เลย. จะกด Ctrl + C เพื่อ copy และกด Ctrl + V เพื่อ paste หรือใช้เมนู Edit ก็ได้ ถ้ารูปที่ได้ยังดู "โดด" หรือไม่เป็นธรรมชาติ ให้ undo ที่ paste ไป แล้วเพิ่มค่า feathering (เบลนด์ขอบฟุ้ง) อีก 2 - 3 พิกเซล
- อ่านวิธีการ "Soften the edges" หรือ "เบลนด์ขอบรูปบริเวณที่เลือกให้ฟุ้งๆ" ได้ที่ด้านบน
- ถ้าไม่แน่ใจว่ารูปที่ paste ไปอยู่ไหน ให้เปิด Layers Palette โดยไปที่ Window → Layer หรือ View → Layer จะเห็น layer พร้อม thumbnail ของรูปที่คุณ paste ไป ด้านบนของลายตาราง ให้ลาก layer นี้ขึ้นไปอยู่บนสุดของรายชื่อ layer แปลว่าอยู่ด้านบนสุดของรูป ไม่ใช่อยู่ล่างรูปพื้นหลังที่ต้องการ
-
ปรับขนาดและตำแหน่ง. เลือก move tool ที่หน้าตาเหมือนเคอร์เซอร์ (ลูกศร) หรือเข็มทิศ จากนั้นคลิกแล้วลากรูปที่แปะไปไว้ตรงตำแหน่งที่ต้องการ ส่วนถ้าอยากปรับขนาดรูปที่เอามาแปะ ก็ให้
- ไปที่ File → Free Transform (หรือกด Ctrl + T ) เพื่อเพิ่ม-ลดขนาดตามต้องการ
- จะมีสี่เหลี่ยมโผล่มาล้อมรูปที่ตัดมาแปะ ให้คลิกแล้วลากเส้นขอบหรือมุมเพื่อปรับขนาดและรูปทรงตามต้องการ ถ้าอยากคงสัดส่วนเดิมไว้ เปลี่ยนแต่ขนาด ให้กด Shift ค้างไว้ จากนั้นคลิกแล้วลากมุม
- ถ้าขยับผิดวัตถุ ต้องเช็คก่อนว่าอยู่ถูก layer โดยไปที่ View → Layer หรือ Window → Layer แล้วคลิก layer ที่มีรูปที่คุณตัดมาแปะไว้
-
ไปที่ File → Save As เพื่อเซฟรูปที่ซ้อนแล้วเป็นไฟล์ใหม่. เช็คให้ชัวร์ว่ารูปที่จะเซฟเป็นรูปที่ตัดต่อแล้ว อย่าเผลอไปเลือกหน้าต่างที่เหลือแต่เศษรูปที่คุณไม่ต้องการโฆษณา
-
เลือก layer ที่เอามาซ้อน. เปิดเมนู Layer โดยไปที่ View → Layer หรือ Window → Layer แล้วเลือก layer ที่คุณแปะรูปไป จะเห็นหลายตัวเลือกสำหรับปรับแต่งรูป
- โปรแกรมแต่งรูปเดี๋ยวนี้มีเยอะแยะ แต่ละโปรแกรมก็มีตัวเลือกมากมายมหาศาลแตกต่างกันไป จะลองใช้ตามที่แนะนำข้างล่าง หรือลองใส่ลูกเล่นดูเองก็ได้ โดยเลือกจากในเมนู Filter หรือ Layer
-
ปรับรูปที่ซ้อนให้โปร่งใส จะได้ดูหลอนๆ. บางรูปที่เอามาแปะ ถ้าดูจางๆ หน่อยก็อาจทำให้ดูดีมีอะไรขึ้น โดยเฉพาะถ้าใช้วิธี Quick overlay หรือตัดแปะรูปแบบง่ายๆ อันนี้ถือเป็นการแต่งรูปให้ดูไม่เรียบเกินไป ต้องใช้เวลาแต่งนิดหน่อย
- แถวๆ รายชื่อ layers ที่เราบอกวิธีดูไปแล้วด้านบน จะมีช่อง Opacity คุณใส่ตัวเลข 0 (โปร่งใส) ถึง 100 (ทึบ) ได้ หรือปรับแถบเลื่อนเพื่อให้รูปค่อยๆ จาง
-
เพิ่มเงาให้พื้นหลังดูเนียนขึ้น. Drop Shadow effect เป็นการเพิ่ม "layer เงา" ใต้วัตถุ ทำให้ดูเนียนไปกับพื้นหลังยิ่งขึ้น ให้ลองทำตามขั้นตอนข้างล่างดู รูปจะออกมาสมจริงกว่า
- ถ้าใช้ GIMP ตัวเลือกนี้จะอยู่ที่ Filter → Light and Shadow
- ถ้าใช้ Photoshop ตัวเลือกนี้จะอยู่ที่ Layer → Layer Style → Drop Shadow
- ปรับแต่ง layer เงา โดยไปที่ Filter → Blur เพื่อให้เงาดูเนียนขึ้น ไม่ตัดกันชัดเจน
- หรือไปที่ Edit → Free Transform เพื่อปรับรูปร่างและตำแหน่งเงาให้สัมพันธ์กับทิศทางที่แสงตกกระทบในรูปพื้นหลัง
-
ลองแต่งลูกเล่นดูหลายๆ แบบ. พูดไปก็ไม่หมด เพราะแต่ละโปรแกรมยังมีลูกเล่นอีกเยอะ ให้ลองใช้ตัวเลือก Blending ต่างๆ ดู รูปที่เอามาแปะจะได้ดูเนียนขึ้น หรือใส่ลูกเล่นเว่อร์ๆ ให้ดูติงต๊องหรืออาร์ตๆ ไปเลยโฆษณา
เคล็ดลับ
- คุณใช้ erase tool ลบได้ทั้งส่วนเกินที่ไม่ต้องการ หรือพื้นที่ใหญ่ๆ ที่ห่างไกลจากวัตถุ
- help box ช่วยได้ ถ้าอยากรู้ว่าอะไรใช้ยังไง
- ถ้าสีพื้นโผล่มาหลังลบพื้นหลังบางส่วน แล้วทำให้เลือกพื้นหลังส่วนอื่นยาก ให้เปิด Layers Palette ( View → Layers หรือ Window → Layers ) แล้วหา "Background Layer" หรือก็คือ layer ที่มีสีพื้นนั้น ถ้าเห็นสัญลักษณ์แม่กุญแจล็อคไว้ ให้ดับเบิลคลิกแล้วคลิก OK เพื่อปลดล็อค จากนั้นลากไปใส่ถังขยะที่ล่าง Layers Palette หรือคลิกขวาแล้วเลือก Delete Layer เท่านี้สีพื้นก็จะกลายเป็นลายตารางแทน
โฆษณา
คำเตือน
- ห้ามเซฟทับไฟล์รูปต้นฉบับเด็ดขาด
- ถ้าคุณใช้ Invert Selection เหมือนที่อธิบายไปด้านบน แล้วได้สีแปลกๆ มาแทน ให้ใช้ Invert แทน [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Invert Selection จะอยู่ในเมนู Select ของแต่ละโปรแกรม หรือกดคีย์ลัด Ctrl + Shift + I ก็ได้ (ถ้าใช้ Mac ให้กด command + Shift + I )
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=TOLCVdmMciE
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=RxVNWg5kESI
- ↑ http://en.wikibooks.org/wiki/Pixlr_Editor/A_few_concepts
- ↑ http://www.steves-digicams.com/knowledge-center/how-tos/photo-software/free-photo-editing-programs-that-compare-to-photoshop.html
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=TOLCVdmMciE
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=RxVNWg5kESI
- ↑ http://en.wikibooks.org/wiki/Pixlr_Editor/A_few_concepts
- ↑ http://docs.gimp.org/en/gimp-layer-invert.html
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,156 ครั้ง
โฆษณา