ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
เดี๋ยวนี้ถ้าจะหาหนังสักเรื่องก็หาได้ง่ายๆ และรวดเร็วตามอินเตอร์เน็ตทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย มีทุกแนวตั้งแต่หนังออกใหม่ไปจนถึงหนังคลาสสิค จริงๆ แล้วเรียกได้ว่ามีหนังทุกเรื่องที่สามารถเพิ่มลงไปในคอลเล็คชั่นของคุณได้โดยที่ไม่ต้องรอของส่งมาที่บ้านหรือไปหาซื้อตามร้าน ถ้าอยากจะได้หนังสักเรื่องก็แค่เปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเลื่อนลงไปดูขั้นตอนกันเลย
ขั้นตอน
-
หาจากเว็บโหลดหนังออนไลน์. วิธีที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดคือการดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ ซึ่งมีมากมายที่จะให้คุณเลือกใช้ดาวน์โหลดไว้สำหรับดูในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ เว็บยอดฮิตได้แก่:
- iTunes
- Google Play
- Amazon Prime
- Netflix
-
เปรียบเทียบหนังที่เลือก. เว็บไซต์ต่างๆ จะมีราคาใส่ไว้สำหรับหนังแต่ละเรื่อง บางเว็บไซต์อย่างเช่น Netflix จะคิดราคาเป็นแบบรายเดือน ซึ่งคุณสามารถดูออนไลน์เท่าไหร่ก็ได้ตามที่คุณต้องการ ส่วนเว็บไซต์อื่นๆ เช่น iTunes และ Google Play จะอนุญาตให้ซื้อแยกเป็นเรื่องๆ อย่างเดียว หลังจากนั้นคุณจะสามารถดูได้จากทั้งคอมพิวเตอร์หรือบนโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต
- เครื่องเล่นเกมก็มีร้านขายหนังเช่นกัน ทั้งไมโครซอฟท์และโซนี่ต่างก็มีร้านค้าออนไลน์ที่สามารถเข้าผ่านตัวเครื่องเล่นเกม หรือเว็บไซต์ที่ให้คุณดาวน์โหลดหนังมาดูบนเครื่องเล่นเกมได้
-
สร้างบัญชี. ก่อนที่จะเริ่มดาวน์โหลดหนังและใช้เวลาไปกับการนั่งดูหนังกินป๊อบคอร์น คุณจะต้องสร้างบัญชีขึ้นมาก่อน ส่วนมากต้องการแค่อีเมลและชื่อผู้ใช้
- บางบริษัท เช่น Netflix หรือ Amazon Prime จะใช้ระบบจ่ายค่าสมาชิก
- บริษัทอย่าง Apple หรือ CinemaNow (BestBuy) จะแนะนำให้คุณจ่ายก็ต่อเมื่อคุณเช่าหรือซื้อ และมันอาจจะมีราคาแพงกว่าระบบที่เหมาจ่ายเป็นสมาชิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นคอหนัง แต่ส่วนใหญ่พวกเขามักจะมีหนังใหม่ๆ มากกว่า รวมทั้งมีรายการจากช่องเคเบิ้ลที่ต้องจ่ายค่าสมาชิก เช่น HBO และ Showtime
-
เข้าไปเลือกประเภทของหนัง. ไม่ว่าคุณจะเลือกจ่ายแบบไหน แต่เว็บไซต์ที่มีหนังเป็นพันๆ เรื่อง สิ่งแรกที่คุณต้องการคือการที่จะลดขอบเขตของหนังที่ต้องการ หลายๆ เว็บไซต์จะมีให้เลือกประเภทหนังที่คุณสนใจ เพื่อที่คุณจะได้เลือกหนังที่คุณต้องการได้อย่างรวดเร็ว
- ถ้าเกิดว่าคุณอยากหาจากชื่อหนังหรือชื่อนักแสดง โดยทั่วไปจะมีช่องให้ใส่คำค้นหาอยู่แล้ว
-
ดาวน์โหลดหนัง. เมื่อคุณเจอหนังที่ถูกใจ ให้กดเลือกรูปแบบการโหลด โดยดูว่าจะเช่าหรือซื้อ หนังที่คุณเลือกจะดาวน์โหลดตามปกติ เพียงไม่กี่นาทีคุณจะได้สนุกไปกับหนังที่คุณเลือกเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเตอร์เน็ตด้วย
- สำหรับเว็บไซต์ที่มีตัวเลือกต่างๆ เช่น Apple ที่สามารถซื้อและเช่าได้ จะมีให้กดเลือก 2 ปุ่ม ซึ่งโดยทั่วไปการเช่า ตัวไฟล์จะมีอายุ 24 ชั่วโมง แต่ถ้าหากซื้อไฟล์จะคงอยู่ถาวร
- หลายๆ เว็บไซต์คุณจะสามารถดูออนไลน์ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ดังนั้นในกรณีนี้คุณจะไม่สามารถดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ได้
-
เลือกคุณภาพ. ในผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะมีให้เลือกระหว่าง SD (Standard Definition) หรือ HD (High Definition) ถ้าคุณดูผ่าน HD TV คุณจะเห็นความแตกต่างของคุณภาพวิดีโอในเวอร์ชั่น HD อย่างชัดเจน แม้ว่าจะต้องจ่ายแพงกว่าและใช้เวลาดาวน์โหลดนานกว่าก็ตาม
-
เอาไฟล์ลงโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต. เมื่อคุณดาวน์โหลดไฟล์เสร็จแล้ว คุณสามารถเอาไฟล์ลงมือถือหรือแท็บเล็ตของคุณได้ ถ้าคุณใช้ Android หรือจำพวก iPhone iPad แล้วซื้อผ่านระบบผู้ให้บริการ ตัวไฟล์หนังจะเข้าไปอยู่ในอุปกรณ์ของคุณอัตโนมัติ แต่ถ้าเกิดคุณโหลดไฟล์แยกมา คุณอาจจะต้องแปลงไฟล์ก่อนที่จะเอาลงเครื่องโฆษณา
-
ดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม BitTorrent. ในขณะที่โปรแกรมต่างๆ จะดาวน์โหลดทีมีขั้นตอนยุ่งยาก BitTorrent เป็นสิ่งที่ใช้ได้ดีที่สุด อีกทั้งยังได้รับความนิยมในการดาวน์โหลดหนังเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะใช้งานได้คุณจำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมนี้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณก่อน
- มีโปรแกรมมากมายที่ให้โหลดใช้งานได้ฟรี ที่ยอดฮิตก็คือ uTorrent, Tixati, Vuze และTransmission
- ระวังเรื่องของลิขสิทธิ์ ในแง่ของกฎหมายส่วนใหญ่ การดาวน์โหลดหนังที่คุณไม่ได้ซื้อมาอย่างถูกต้อง หรือไม่ได้มีหนังในรูปแบบอื่น (อย่างเช่นแผ่นดีวีดี) ไว้ในครอบครองอยู่แล้ว ถือว่าขัดต่อกฎหมายลิขสิทธิ์
-
ค้นหาหนังผ่าน BitTorrent. หลังจากที่ติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถดาวน์โหลด Torrent สำหรับหนังที่คุณอยากดูได้
- วิธีที่การที่ดีที่สุดสำหรับการหาหนังที่คุณอยากดู คือ การค้นหาผ่านเว็บหาไฟล์ Torrent ต่างๆ ซึ่งเว็บเหล่านี้จะมาแล้วก็ไปอยู่เรื่อยๆ เมื่อโดนฝ่ายกฎหมายเล่นงาน หลังจากนั้นก็จะเปิดขึ้นใหม่โดยย้ายเซิฟเวอร์และเปลี่ยนชื่อให้ต่างไปจากเดิม
- คุณสามารถหาไฟล์ Torrent ได้จากเว็บค้นหาทั่วๆ ไป โดยที่ตัวไฟล์จะมีนามสกุลเป็น “.torrent” แล้วมักจะมีข้อความบอกว่าสามารถโหลดไฟล์หนังได้จากที่ไหน
-
เปิดไฟล์ Torrent ด้วยโปรแกรม BitTorrent ที่โหลดมา. ดับเบิ้ลคลิกที่ตัวไฟล์เพื่อที่จะดาวน์โหลด โปรแกรมจะทำการดาวน์โหลดให้อัตโนมัติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าด้วย คุณอาจจะต้องเลือกว่าคุณต้องการจะบันทึกไฟล์ไว้ที่ไหน
- หลังจากที่ไฟล์ได้ทำการดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้เปิดโปรแกรมทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมงเพื่อที่ผู้ใช้งานคนอื่นจะได้โหลดไฟล์ต่อจากคุณได้ ผู้ให้บริการระบบ Torrent บางเจ้าจะบังคับให้คุณคงอัตราส่วนระหว่างการดาวน์โหลดและอัพโหลด
-
เปิดไฟล์หนัง. หลังจากที่ดาวน์โหลดเสร็จหมดแล้ว โปรแกรมจะทำการบันทึกไฟล์หนังไว้ตามโฟลเดอร์หรือที่ที่คุณเลือกไว้ ดับเบิ้ลคลิกไฟล์เพื่อเปิดกับโปรแกรมเล่นหนังของคุณ
- มีหนังหลายเรื่องที่ไม่สามารถเปิดผ่านโปรแกรม Windows Media Player หรือ QuickTime ได้ การที่จะเล่นไฟล์เหล่านี้ได้คุณจะต้องติดตั้งโปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโออื่นๆ เช่น VLC หรือ Media Player
- คุณสามารถลบไฟล์ .torrent ได้ทันทีที่หนังของคุณดาวน์โหลดเสร็จสิ้น
-
หาหนังออนไลน์ที่ดูฟรีและถูกกฎหมาย. นอกเหนือจากเว็บ Torrent แล้ว คุณสามารถเข้าถึงโดเมนของหนังได้อย่างถูกกฎหมายและฟรีด้วย เว็บไซต์ที่ครอบคลุมหนังส่วนใหญ่ คือ Archive.orgโฆษณา
เคล็ดลับ
- ก่อนที่จะสมัครเว็บดาวน์โหลด ให้สร้างอีเมล์ Yahoo หรือ Gmail ขึ้นมาใหม่ หลายๆ ครั้งที่อีเมลที่ใช้สมัครเว็บไซต์จะถูกขายต่อให้คนอื่น ซึ่งจะส่งผลให้อีเมลคุณเต็มไปด้วยสแปมหรือขยะ
- ถ้าคุณโหลดจาก BitTorrent ให้คุณอัพเดทโปรแกรมแอนตี้ไวรัสเป็นประจำ เพราะไฟล์เหล่านี้มักเต็มไปด้วยไวรัส
- ไม่ชอบดูหนังผ่านจอคอมพิวเตอร์งั้นหรอ? ให้ซื้อ Apple-TV, Roku หรือ Boxee มาติดตั้งโดยดูผ่าน iTunes หรือ Netflix ไม่ก็ Hulu หรืออื่นๆ อีกมากมายที่คุณสามารถต่อเข้ากับทีวีได้โดยตรง แน่นอนเป็นแบบ HD ด้วย
- ไฟล์ Torrent ที่มีจำนวน “seeders” หรือคนที่ส่งต่อไฟล์จำนวนมาก จะทำให้การดาวน์โหลดเร็วมากขึ้น
- ก่อนที่จะกรอกข้อมูลบัตรเครดิตลงไป คุณต้องแน่ใจว่าคุณกำลังส่งต่อข้อมูลให้กับบริษัทที่เชื่อถือได้
- เว็บไซต์ที่ต้องจ่ายเงิน ส่วนมากจะให้บริการทั้งดาวน์โหลดลงคอมพิวเตอร์ หรือดูผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
โฆษณา
คำเตือน
- การดาวน์โหลดหนังแบบผิดกฎหมาย อาจทำให้อินเตอร์เน็ตของคุณถึงขีดจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลอื่นๆ หรือโดนแจ้งความได้
- ถึงแม้คุณจะมีของที่ถูกลิขสิทธิ์ไว้ในครอบครอง แต่ไม่มีอะไรยืนยันว่าคุณจะรอดพ้นจากกฎหมาย
โฆษณา
โฆษณา
