ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณเป็นคอหนังตัวยงแต่เงินในกระเป๋าดันสวนทางกับหนังใหม่เยอะแยะที่อยากดูใช่ไหม? เราพอมีวิธีดีๆ มาแนะนำ ก็คือดาวน์โหลดหนังมาดูฟรีซะเลย ว่าแล้วก็เลื่อนลงไปอ่านวิธีการที่ 1 กันดีกว่า

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

หาหนังฟรี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หรือก็คือ search engine สำหรับหาไฟล์บิทโดยเฉพาะ โดยพิมพ์คีย์เวิร์ดที่ต้องการ จะมีไฟล์บิทที่เกี่ยวข้องโผล่ขึ้นมา
    • พิมพ์ชื่อหนังที่ต้องการใน search engine ถ้าไม่แน่ใจหรือไม่รู้ชื่อเป๊ะๆ ให้พิมพ์คีย์เวิร์ดเข้าไปแทน ให้คลิกปุ่ม “Search” แล้วเลื่อนดูผลการค้นหาเหมือนใน search engine ทั่วไป
    • พอเจอเว็บที่น่าเชื่อถือแล้วก็คลิกลิงค์ไปดาวน์โหลดไฟล์
  2. ถ้าอยากให้ปลอดภัยขึ้นมาอีกหน่อย ก็ลองใช้เว็บคลังหนังฟรีที่ดังๆ นอกจากถูกกฎหมายและปลอดภัยแล้ว คลังหนังฟรียังให้คุณเลือกดูหรือดาวน์โหลดได้หลายแบบ บางทีก็ดาวน์โหลดหนังดีๆ ได้เลย ไม่ต้องโหลดบิท
    • เว็บพวกนี้จะมีให้เลือก ว่าจะดาวน์โหลดไฟล์บิทหรือไฟล์อื่นๆ เช่น อาจจะดาวน์โหลดเป็นไฟล์ Flash Video หรือ Ogg Video ได้
    • หนังพวกนี้จะมี "Creative Commons license" แปลว่าเป็นของสาธารณะ ดูและดาวน์โหลดได้ฟรี
    • เว็บคลังหนังที่น่าสนใจก็เช่น [1]
      • The Internet Archive - เป็นพวกหนังเก่า หนังต่างประเทศ (ที่ไม่ใช่ฮอลลีวูด) และสารคดี ถ้าสนใจเข้าไปที่เว็บ http://archive.org/index.php เลย
      • Emol - เว็บรวมหนังตลกและการ์ตูน
      • PublicDomainTorrents - จะเป็นพวกหนังเกรดบี แต่ก็มีหนัง cult รุ่นขึ้นหิ้งบ้างเหมือนกัน ไปดูกันที่ http://www.publicdomaintorrents.info/ เลย
      • AtomFilms - เป็นคลังหนังที่คนดูสร้างกันเอง อยากรู้ว่าเป็นยังไง เข้าเว็บ http://www.comedycentral.com/cc-studios เลย
      • Once a Week Online Film Festival - พูดง่ายๆ ก็คือเทศกาลหนังออนไลน์นั่นเอง โดยจะมีหนังใหม่ๆ ให้ดูกันทุกอาทิตย์
      • Culture Unplugged Studios - เป็นเว็บรวมสารคดีขนาดยาว เข้าไปดูได้ที่ http://www.cultureunplugged.com/ เลย
  3. ไม่เชิงว่าจะเป็นการดาวน์โหลดหนัง จะมีหลายเว็บที่ให้คุณดูหนังฟรีได้เลยถ้าต่อเน็ตอยู่ ถือว่าสะดวกกว่า เพราะบางทีก็ดาวน์โหลดนานเหลือเกิน
    • แต่ถ้าใช้เว็บสตรีมมิ่ง ดูหนังออนไลน์ ก็ต้องเน็ตแรงๆ หน่อย ถ้าเน็ตอืดหรือชอบหลุด กว่าจะดูหนังจบเรื่อง คงต้องคอยรีเฟรชหรือรอหนัง buffer เป็นระยะ
    • เว็บดูหนังฟรีที่คนนิยมก็เช่น (บางเว็บดูในไทยไม่ได้ แต่ก็พอมีวิธีลัดเลาะ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมในเน็ตดู) [2]
      • Hulu Movies - หนังส่วนใหญ่ต้องสมัคร Hulu plus เสียค่าบริการรายเดือนก่อนถึงจะดูได้ แต่ก็พอมีดูฟรีได้บ้างเรื่อง หรือจะทดลองใช้ Hulu plus ฟรีก่อนก็ได้ในเวลาที่กำหนด ว่าแล้วก็เข้าเว็บ http://www.hulu.com/movies เลย
      • YouTube Movies - หลายเรื่องต้องเสียเงินก่อนถึงจะดูได้ แต่ก็มีอีกหลายเรื่องให้ดูกันใน channel ฟรี ลองเข้าไปดูที่ http://www.youtube.com/user/movies เลย
      • Crackle - หนังทุกเรื่องในเว็บนี้เป็น "หนังฟรีเต็มเรื่อง" แถมมีให้เลือกมากมายหลายแบบ อย่าคาดหวังหนังใหม่ชนโรง แต่อย่างน้อยก็มีพวกหนังดังๆ จาก 2 - 3 ปีก่อน ลองเข้าไปดูที่ http://www.crackle.com/ เลย
      • Snag Films - เป็นเว็บดูหนังฟรี แถมมีหลายประเภท ตั้งแต่สารคดีไปจนถึงหนังจากเทศกาลหนัง Sundance เข้าไปที่ http://www.snagfilms.com/ เลย
      • Popcorn Flix - มีหนังฟรีหลายเรื่องให้ได้เลือกดูกัน ส่วนใหญ่จะเป็นฟอร์แมตสำหรับดูในอุปกรณ์พกพา ลองเข้าไปดูที่ http://popcornflix.com เลย
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

โหลดบิท

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ระบบการโหลดบิท ก็คือการที่ผู้ใช้แชร์ไฟล์ขนาดใหญ่กันโดยแตกไฟล์นั้นออกเป็นส่วนหรือชิ้นเล็กๆ ซึ่งจะถูกประกอบขึ้นใหม่ด้วยโปรแกรมโหลดบิทหลังดาวน์โหลดเสร็จ
    • ข้อดีของการโหลดบิทก็คือถึงเน็ตจะหลุด ก็ยังโหลดต่อได้ที่จุดเดิม ไม่ต้องเริ่มดาวน์โหลดกันใหม่
    • คุณจะถูกจับตาโดยเซิร์ฟเวอร์ด้วยว่าคุณแชร์ไฟล์ให้คนอื่นด้วย หรือเอาแต่ "leech" คือดูดไฟล์จากคนอื่นท่าเดียว ยิ่งคุณแชร์เยอะ ก็ยิ่งได้ bandwidth ดาวน์โหลดได้เยอะและเร็วขึ้น แต่ถ้าไม่ค่อยจะแชร์หรือไม่แชร์เลย ก็ยิ่ง bandwidth น้อย โหลดทีรอเป็นวันๆ
  2. โปรแกรม torrent หรือโปรแกรมโหลดบิทถือว่าขาดไม่ได้ เพราะต้องใช้ดาวน์โหลดชิ้นส่วนเล็กๆ ต่างๆ ของไฟล์บิทมาประกอบกันเป็นหนังให้คุณดู
    • ไฟล์บิทที่เซฟมาจากเว็บ เป็นแค่ไฟล์นำทางไปยังไฟล์หนังจริงๆ เท่านั้น ต้องมีโปรแกรมโหลดบิทถึงจะตามไปดาวน์โหลดหนังจากผู้ใช้ที่ปล่อยไฟล์ได้
    • โปรแกรมโหลดบิทที่คนนิยมใช้กันก็เช่น
  3. พอหาไฟล์บิทเจอตามขั้นตอนในส่วน “หาหนังฟรี” ข้างบนแล้ว ให้คลิกลิงค์ “save” หรือ “download” เพื่อเซฟไฟล์บิทลงคอม ไฟล์นี้เล็กนิดเดียว ดาวน์โหลดเร็วทันใจ ซึ่งไม่ใช่ไฟล์หนังที่คุณต้องการแต่อย่างใด
    • ถ้าใช้เว็บค้นหาไฟล์บิทโดยเฉพาะอย่าง isoHunt ให้เช็คเรตติ้งกับคอมเม้นท์ก่อนดาวน์โหลดไฟล์ด้วย จะได้รู้ว่ามี bug ติดมาด้วยหรือเปล่า
    • อีกวิธีใช้เช็คว่าไฟล์นั้นปลอดภัยหรือเปล่า ก็คือเช็คจำนวนครั้งที่คนดาวน์โหลดไปเสร็จสมบูรณ์ ยิ่งตัวเลขตรงนี้สูง ก็แปลว่ายิ่งน่าเชื่อถือ
    • พอเซฟไฟล์บิทมาจากเว็บแล้ว จะได้ไฟล์ text มา ไฟล์นี้จะบอกตำแหน่งไฟล์หนังที่คุณจะดาวน์โหลด มีแค่โปรแกรมโหลดบิทที่อ่านไฟล์นี้และดาวน์โหลดไฟล์หนังได้
  4. พอเปิดโปรแกรมโหลดบิทแล้วให้ไปที่ไฟล์บิทแล้วเปิดขึ้นมา เพื่อเริ่มดาวน์โหลดไฟล์หนังจริงๆ
    • เวลาเปิดไฟล์บิท โปรแกรมจะอ่านคำแนะนำในไฟล์แล้วไปยังไฟล์หนังจริงๆ ที่จะดาวน์โหลด
    • วิธีเปิดไฟล์จะแตกต่างกันไปตามโปรแกรมที่คุณใช้ แต่ส่วนใหญ่ก็คือเลือก "Open" จากเมนู "File" แล้วไปยังไฟล์ที่เซฟไว้
    • คุณต้องกำหนดด้วยว่าอยากให้ไฟล์หนังที่ดาวน์โหลดเสร็จไปอยู่ตรงไหนของคอม ไม่งั้นก็จะไปอยู่ในโฟลเดอร์ download
  5. ความเร็วในการดาวน์โหลดจะขึ้นอยู่กับขนาดไฟล์และความเร็วเน็ตของคุณ แต่ต้องให้โปรแกรมดาวน์โหลดจนเสร็จก่อน ถึงจะเปิดหนังดูในคอมได้
    • ขนาดเน็ตเร็วและ bandwidth เยอะ บางทีก็ยังต้องรอนานเป็นชั่วโมงๆ เพราะงั้นถ้าเน็ตอืดแถม bandwidth น้อย ก็เตรียมใจได้เลย ว่ากว่าจะดาวน์โหลดหนังได้เรื่องหนึ่ง คงใช้เวลาเป็นวันๆ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ดูหนังที่ดาวน์โหลดมา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นตัวเลือกที่สะดวกที่สุด แต่ต้องมีโปรแกรมที่เปิดไฟล์หนังที่ดาวน์โหลดมาได้
    • แปลงไฟล์หนังก่อนถ้าจำเป็น ถ้าในคอมมีโปรแกรมเปิดไฟล์หนังนั้นดูได้เลย แต่ถ้าไม่มี ก็ต้องแปลงไฟล์หนังเป็นไฟล์ที่โปรแกรมนั้นรองรับก่อน
    • เวลาจะแปลงไฟล์วีดีโอเป็นไฟล์อื่น ต้องดาวน์โหลดโปรแกรม video converter มา หลายโปรแกรมใช้ได้ฟรี หรืออย่างน้อยก็ทดลองใช้ได้ฟรีในเวลาที่กำหนด ให้เลือกโปรแกรมที่รีวิวดีๆ หน่อย คุณเช็ครีวิวโปรแกรมได้ตามเว็บต่างๆ เช่น Pantip เป็นต้น
    • โปรแกรมฟรีที่เลือกใช้ต้องแปลงไฟล์เป็นฟอร์แมตที่เปิดในคอมคุณได้
  2. ถ้าอยากดูหนังในจอทีวีใหญ่ๆ ให้หาสายต่อคอมเข้าทีวี แค่นี้ก็ดูหนังในจอทีวีได้ชัดใหญ่สะใจ
    • ปกติต้องใช้สาย S-Video ให้คุณเช็คว่าทั้งทีวีและคอมมีพอร์ทที่ใช้กับสายนี้ได้
  3. ถ้าไม่อยากดูหนังในคอม ก็ให้แปลงเป็นไฟล์อื่นไว้ดูในอุปกรณ์พกพาที่ต้องการ
    • ดูหนังในมือถือหรือแท็บเล็ตก็สะดวกดี โดยใช้โปรแกรมแปลงไฟล์ให้อ่านในอุปกรณ์ที่ว่าได้ก่อน จะดูใน iPod หรือ PSP ก็ได้ด้วย เรียกว่าพกคลังหนังส่วนตัวไปทุกที่ทุกเวลา
    • ไรท์หนังลงแผ่น DVD ถ้ามีไดรฟ์และโปรแกรมสำหรับไรท์แผ่น ทีนี้ก็เอาแผ่น DVD ไปเปิดดูในจอทีวีใหญ่ๆ ได้ตามปกติ
    โฆษณา

คำเตือน

  • เวลาโหลดไฟล์บิทขอให้เช็ครีวิวก่อนว่าเว็บนั้นน่าเชื่อถือ ถึงจะไม่มีคอมเม้นท์เสียๆ หายๆ แต่ถ้าไม่มีคอมเม้นท์เลย ก็อาจมีไวรัสหรือมัลแวร์ติดมาได้เหมือนกัน
  • ย้ำกันตรงนี้ว่าปกติการดาวน์โหลดหนังที่มีลิขสิทธิ์ ปกติต้องซื้อ และเจ้าของไม่อนุญาตให้โหลดฟรี ถือว่าผิดกฎหมายเต็มๆ มีโทษทั้งจำทั้งปรับเลยทีเดียว เพราะงั้นขอให้ดาวน์โหลดเฉพาะหนังฟรีหรือดาวน์โหลดแบบเสียเงินได้จะดีที่สุด
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลดวิดีโอจากทุกเว็บไซต์ได้แบบฟรีๆ
แก้ปัญหาเข้าบางเว็บไม่ได้
หาวันที่เผยแพร่ข้อมูลของเว็บไซต์
ดูว่าใครแชร์โพสต์ของคุณบนเฟซบุ๊ก
เช็คตำแหน่งปัจจุบันใน Google Maps
แก้ปัญหาเซิร์ฟเวอร์ DNS ไม่ตอบสนอง
รู้ความหมายของอีโมจิรูปหัวใจสีดำ
ตั้งชื่ออีเมลให้โดนใจ
เว้นวรรคห่างๆ ใน HTML
เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในคอมพิวเตอร์ Windows
หาละติจูดกับลองจิจูดใน Google Maps
อิโมจิซ่อนความสยิวที่คนใช้แชตกันมากที่สุด
หา URL ของเว็บไซต์
เปิดใช้งานคุกกี้ในเว็บเบราว์เซอร์อินเตอร์เน็ตของคุณ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 31,770 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา