ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการสตรีมวีดีโอออนไลน์ให้ภาพชัดแจ๋วและไม่สะดุดจนเสียอารมณ์ ปกติจะสตรีมวีดีโอได้ต่อเนื่องลื่นไหล ต้องขึ้นอยู่กับความเร็วและแรงของสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่ก็พอมีบางอย่างที่ตัดปัญหาขึ้น buffering ให้คุณสตรีมได้ลื่นไหลกว่าเดิม ไม่ว่าจะดู Netflix, iflix หรือ YouTube ก็ตาม

  1. เปิด task ต่างๆ ที่ทำงานอยู่ให้น้อยๆ ระหว่าง streaming. คืออย่าดาวน์โหลดโปรแกรม หรือเปิดโปรแกรมต่างๆ ที่ยังไม่ได้ใช้ (กระทั่ง tab ต่างๆ ในเบราว์เซอร์) ระหว่างดูวีดีโอออนไลน์
    • เช่น ปิดโปรแกรมต่างๆ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง (อย่าง Skype, Steam, เบราว์เซอร์ และอื่นๆ) ทั้งที่ยังไม่ต้องใช้ระหว่างสตรีมวีดีโอ
    • ถ้าคอม มือถือ หรือเครื่องเกมคอนโซลกำลังดาวน์โหลดไฟล์อยู่ ก็ต้องรอจนดาวน์โหลดเสร็จก่อน (หรือ pause ไว้ก่อน) แล้วค่อยสตรีมหนัง
  2. ถ้าคอมหรือมือถืออีกเครื่อง หรืออุปกรณ์อื่นๆ ก็ใช้สัญญาณเน็ตเดียวกับที่ใช้สตรีมวีดีโอ แปลว่าอุปกรณ์เหล่านั้นกำลังแย่ง bandwidth กับคอมหลัก ถ้าอยากจำกัด "ตัวถ่วง" ความเร็วเน็ต ก็ต้องตัดเน็ตในอุปกรณ์อื่นๆ ก่อน
    • พอต่อเน็ตเฉพาะในอุปกรณ์ที่ใช้สตรีม วีดีโอก็น่าจะชัดแจ๋วลื่นไหลขึ้นแล้ว
  3. ถ้าคนในบ้านพากันแย่งใช้เน็ต ทั้งสตรีมหนัง ดาวน์โหลดไฟล์ และอื่นๆ จนต้องแชร์ bandwidth ยิบย่อยไปหมด ก็แน่นอนว่าคงดูหนังสะดุดเป็นระยะ พยายามเลือกเวลาที่คนในบ้านไม่อยู่หรือไม่ใช้เน็ตพร้อมกันทุกคนจะดีกว่า
    • ลองหาข้อมูลดู ว่าช่วงไหนที่คนไทยเข้า Youtube หรือเว็บสตรีมมิ่งอื่นๆ กันแน่นขนัด ส่วนใหญ่จะเป็นหลังเลิกงานในวันธรรมดา ถ้าดูช่วงนั้นก็แน่นอนว่าอืดจนหงุดหงิด
  4. เช็คความเร็วเน็ต . ปกติคุณน่าจะรู้ความเร็วในการดาวน์โหลดเป็น megabits ต่อวินาที (megabits per second (mbp/s)) ของแพ็คเกจตามค่ายเน็ตที่คุณเลือกอยู่แล้ว ถ้าลองทดสอบความเร็วเน็ตแล้วช้าผิดปกติ ให้ติดต่อ call center ของค่ายเน็ต เพื่อตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น
    • ถ้า download speed ของคุณตรงกับที่จ่ายเงินซื้อแพ็คเกจ หรือใกล้เคียงกับที่ค่ายเน็ตโฆษณา แสดงว่าปัญหาเกิดที่ฝั่งคุณ
  5. ถ้าไม่เคยรีเซ็ตเน็ตบ้านที่ใช้มาก่อน ให้ลองทำดู เผื่อจะช่วยให้ใช้เน็ตได้เร็วขึ้น
    • ตัดแล้วต่อเน็ตใหม่ เรียกว่า "power-cycling" เป็นการล้าง cache ของสัญญาณเน็ต
    • รีเซ็ตเราเตอร์ด้วย จะได้กลับค่า default settings รวมถึงเป็นการตัดการเชื่อมต่อกับมือถือ แท็บเล็ต คอม และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้สัญญาณเน็ตนี้อยู่
  6. ไม่ว่าจะดูวีดีโอในคอม มือถือ เครื่องเกม smart TV หรือกระทั่งตู้เย็น! ก็ต้องอัพเดทอุปกรณ์นั้นให้ระบบเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดซะก่อน วิธีเช็คว่าเครื่องคุณอัพเดทหรือยัง ก็คือเช็คอัพเดทใหม่ทุกครั้งก่อนสตรีมวีดีโอ
    • แต่วิธีนี้ก็มีข้อจำกัดในบางระบบ โดยเฉพาะใครใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าๆ (เช่น แล็ปท็อป Windows รุ่น 3 - 4 ปีที่แล้ว) เพราะเครื่องไม่รองรับอัพเดทใหม่ๆ
    • เวลาสตรีมหนังผ่านแอพ เช่น Netflix หรือ iflix ต้องเช็คก่อนว่าแอพที่ใช้อยู่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว
  7. อย่าเอาอะไรมากีดขวางระหว่างเครื่องกับเราเตอร์. ยิ่งมีอะไรมากีดขวางสัญญาณ ก็ยิ่งสตรีมได้ไม่ลื่นไหล สะดุดตลอด ถ้าเป็นไปได้เราเตอร์ต้องอยู่ใกล้อุปกรณ์ที่ใช้สตรีม หรือไม่มีอะไรกีดขวางอยู่เลย
    • แต่ถ้าห้องแคบ ห้องรกจริงๆ ก็พยายามจัดที่ให้มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออะไรหนาทึบมาบัง คั่นกลางระหว่างเราเตอร์กับอุปกรณ์ ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
    • ถ้าใช้ Ethernet ต่อเน็ตตรงผ่านสาย ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย
  8. ถ้าต่อเน็ตจากเราเตอร์ Wi-Fi แล้วสตรีมหนังติดๆ ขัดๆ ลองเปลี่ยนไปต่อเน็ตโดยใช้สายแทน จะช่วยให้เน็ตเสถียร ใช้ความเร็วเต็มที่ตามแพ็คเกจมากกว่า ที่สำคัญคือความแรงเท่าเดิมตลอดการสตรีม (เว้นแต่เราเตอร์จะดับหรือถูกตัดสัญญาณ) ถึงมีอะไรคั่นกลางระหว่างเราเตอร์กับอุปกรณ์ที่ใช้ก็ไม่มีปัญหา
    • ถ้าเป็นไปได้ ให้ใช้สาย Ethernet แบบหุ้มฉนวน เผื่อต้องต่อเราเตอร์แล้วลากสายยาวข้ามมุมห้อง (หรือข้ามห้อง) จะได้ปลอดภัย ไม่เสียหาย
  9. ถ้าเราเตอร์เป็นรุ่น "dual-band" จะมี 2 channel ให้เลือก คือ 2.4 GHz กับ 5.0 GHz คนจะนิยมใช้ 2.4 มากกว่า 5.0 เพราะงั้นให้ใช้ 5.0 เพื่อจำกัดจำนวนอุปกรณ์ที่ต่อเน็ตได้
    • เราเตอร์ส่วนใหญ่ที่มี 2 channel จะมี 2 สัญญาณ Wi-Fi ขึ้นมาตอนจะเลือกเชื่อมต่อ ชื่อของ channel 5.0 มักต่างออกไปจากชื่อสัญญาณ Wi-Fi หลักนิดหน่อย
    • ถ้าต่อ channel 5.0 จะเน็ตแรงกว่า แต่ระยะสัญญาณไม่ครอบคลุมเท่า channel 2.4 เพราะงั้นอุปกรณ์ต้องอยู่ใกล้เราเตอร์เข้าไว้
  10. ถ้าอยากดูวีดีโอแบบลื่นไหลไม่ติดขัด ก็ต้องยอมดูวีดีโอที่ชัดน้อยลง เว็บ streaming กับ video player ส่วนใหญ่จะมี quality setting (ที่เป็นไอคอนรูปฟันเฟือง) สามารถเลือกความชัดของวีดีโอตั้งแต่ "HD" (หรือ "720p" ขึ้นไป) ไล่ลงมาที่ "SD" (หรือน้อยกว่า "480p")
    • หลายเว็บ streaming เช่น Netflix จะมีการปรับคุณภาพวีดีโอให้เหมาะสมกับความแรงเน็ตที่คุณระบุตอนตั้งค่า เพราะงั้นถ้าเริ่มดูครั้งแรกโดยใช้เน็ตเทพ แต่ตอนหลังเน็ตกาก Netflix ก็ยังอาจจะดันทุรังสตรีมหนังที่เหมาะกับเน็ตเทพอยู่ เลยมีติดขัดบ้างเป็นธรรมดา
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • สุดท้ายอาจไม่มีวิธีอื่นนอกจากเปลี่ยนไปใช้เราเตอร์และ/หรืออุปกรณ์รุ่นใหม่ หรืออัพเกรดแพ็คเกจเน็ตให้แรงขึ้นจนตรงกับมาตรฐานที่เว็บสตรีมมิ่งต้องการ
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้า maximum download speed หรือความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดของเราเตอร์นั้นช้ากว่าของแพ็คเกจตามจริง แสดงว่าคุณกำลังถูกค่ายเน็ตเอาเปรียบซะแล้ว
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลดวิดีโอจากทุกเว็บไซต์ได้แบบฟรีๆ
แก้ปัญหาเข้าบางเว็บไม่ได้
หาวันที่เผยแพร่ข้อมูลของเว็บไซต์
ดูว่าใครแชร์โพสต์ของคุณบนเฟซบุ๊ก
แก้ปัญหาเซิร์ฟเวอร์ DNS ไม่ตอบสนอง
เช็คตำแหน่งปัจจุบันใน Google Maps
รู้ความหมายของอีโมจิรูปหัวใจสีดำ
เว้นวรรคห่างๆ ใน HTML
ตั้งชื่ออีเมลให้โดนใจ
อิโมจิซ่อนความสยิวที่คนใช้แชตกันมากที่สุด
เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในคอมพิวเตอร์ Windows
หาละติจูดกับลองจิจูดใน Google Maps
เปิดใช้งานคุกกี้ในเว็บเบราว์เซอร์อินเตอร์เน็ตของคุณ
หา URL ของเว็บไซต์
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 18,773 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา