ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

มันมักจะมีช่วงเวลาหนึ่งในมิตรภาพที่คุณเริ่มสงสัยว่าเพื่อนรักของคุณต้องการเป็นมากกว่าเพื่อนหรือเปล่า ในขณะที่ความรู้สึกรักสามารถก่อตัวขึ้นได้ทุกเวลาแต่คุณก็อาจจะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้ในพฤติกรรมของพวกเขาและวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคุณ สัญญาณเหล่านี้สามารถช่วยคุณดูได้ว่าพวกเขากำลังสนใจคุณในแบบคนรักหรือความสัมพันธ์ของคุณจะเป็นแค่เพื่อนต่อไป

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การสังเกตความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของเขา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อคุณทั้งคู่ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนที่คุณมีร่วมกันก็ลองดูว่าเขาปฏิบัติต่อคุณแตกต่างจากคนอื่นหรือไม่ เขาอาจจะใส่ใจคุณมากกว่าคนอื่น พยายามคุยกับคุณมากกว่าคนอื่นหรือให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณ
    • เมื่อเพื่อนรักของคุณปฏิบัติต่อคุณเหมือนกับที่เขาปฏิบัติต่อผู้อื่นก็แปลว่าเขาไม่ได้สนใจคุณแบบคนรัก เพื่อนที่ปฏิบัติต่อคุณเหมือนกับที่เขาปฏิบัติต่อแฟนเก่าของเขานั้นอาจจะสนใจในตัวคุณ
    • สิ่งนี้สามารถช่วยบอกได้ว่าเขาแค่เป็นคนที่เป็นมิตรหรือเขาสนใจในตัวคุณแบบคนรัก
  2. โดยธรรมชาติแล้วคุณจะต้องใช้เวลากับเพื่อนรักของคุณ อย่างไรก็ตาม ถามตัวเองว่าสิ่งที่คุณทำด้วยกันนั้นดูเหมือนการไปเดทหรือไม่ เช่น คุณไปทานมื้อเย็นและดูหนังด้วยกันหรือเปล่า? ถ้าใช่ คุณไปกันสองคนหรือเปล่า? [1]
    • เมื่อบางคนเริ่มสนใจในตัวคุณแบบคนรัก เขาจะต้องการใช้เวลากับคุณมากขึ้น หากคุณสังเกตว่าคุณทั้งสองกำลังใช้เวลาด้วยกันมากกว่าปกติและการไปเที่ยวด้วยกันเริ่มรู้สึกเหมือนการไปออกเดท เขาก็อาจจะสนใจในตัวคุณ
    • คุณควรสังเกตอีกด้วยว่าเขาเริ่มบอกคุณว่าเขาชอบใช้เวลาตามลำพังกับคุณหรือไม่ สิ่งนี้อาจจะเป็นวิธีของเขาในการพยายามบอกคุณว่าเขากำลังมองหาบางอย่างที่มากกว่ามิตรภาพ
  3. ฟังวิธีที่เขาพูดเกี่ยวกับคุณให้คนอื่นฟังและวิธีที่เขาพูดเมื่อเขาพูดกับคุณ เมื่อใครคนหนึ่งเริ่มชอบบางคน เขาจะพูดกับคนๆ นั้นด้วยน้ำเสียงที่พิเศษ เขาอาจจะตื่นเต้นเล็กน้อยและหน้าแดงเวลาที่อยู่ใกล้คุณ
    • สังเกตว่าเขาหัวเราะกับมุขตลกของคุณหรือสิ่งที่คุณทำมากเท่าไหร่ หากเขาหัวเราะมากกว่าปกติก็อาจเป็นเพราะเขาชอบคุณ
    • เพื่อนจะไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนกับเพื่อน เพราะฉะนั้นหากคุณเริ่มสังเกตว่าเขาดูเขินเกี่ยวกับบางหัวข้อก็อาจเป็นสัญญาณว่าเขาสนใจในตัวคุณ เช่น เขาอาจเขินเมื่อคุณพูดถึงงานเต้นรำที่โรงเรียนหรือเดทที่คุณไปด้วยกัน
  4. เขาอาจจะพยายามบอกคุณว่าเขารู้สึกอย่างไรในทางที่แนบเนียน เขาอาจจะพยายามพูดหัวข้อที่โรแมนติกหรือถามว่าคุณสนใจในตัวใครสักคนหรือไม่ในตอนนี้ อีกทั้งเขาอาจจะพยายามทำความสัมพันธ์ของคุณให้ลึกซึ้งขึ้นโดยการถามคำถามที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับชีวิต ความฝัน เป้าหมายและความต้องการของคุณ
    • เพราะเขาคือเพื่อนรักของคุณ เขาก็อาจจะใส่ใจกับสิ่งที่คุณพูดอยู่แล้วแต่คุณอาจจะสังเกตว่าเขาเริ่มจำรายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับชีวิตของคุณที่เขามักจะลืม เช่น เมื่อคุณมีสอบหรือมีนัดสำคัญ เขาอาจจะแสดงให้คุณเห็นว่าเขาจำสิ่งเหล่านี้ได้โดยการอวยพรให้คุณโชคดีหรือให้ความเห็นเมื่อถึงวันนั้น
  5. การจีบอาจเป็นสัญญาณว่าเขาชอบคุณหรือเขาอาจจะเป็นคนที่ชอบจีบโดยธรรมชาติ คุณจะต้องแยกแยะว่าการจีบของเขาหมายถึงอะไรแต่คุณมีข้อได้เปรียบเพราะคุณรู้นิสัยใจคอของเขาอยู่แล้ว สังเกตสัญญาณการจีบ เช่น: [2]
    • เขาชมคุณบ่อยๆ
    • เขายิ้มและมองมาทางคุณเวลาที่พูดถึงคุณ [3]
    • เขาจับผมหรือใบหน้าของเขาเวลาที่คุยกับคุณ
    • เขาหัวเราะกับมุขตลกของคุณแม้มันจะไม่ตลก
    • เขาแกล้งคุณหรือตีคุณเล่นๆ
  6. คุณอาจจะสังเกตว่าเขาเริ่มใส่ใจกับรูปร่างหน้าตาเมื่อเขารู้ว่าเขากำลังจะใช้เวลากับคุณ เช่น เขาอาจจะใส่เสื้อผ้าที่ดูดีขึ้นหรือเสื้อผ้าที่เขารู้ว่าคุณชอบหรือแต่งหน้าและทําผม เมื่อใครบางคนชอบใครคนหนึ่ง เขาก็มักจะทำตัวให้ดูดีที่สุด [4]
    • หากคุณเริ่มสังเกตว่าเขาดูเหมือนจะใช้เวลามากขึ้นกับรูปร่างหน้าตาเมื่อคุณสองคนอยู่ด้วยกัน เขาก็อาจจะสนใจในตัวคุณ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การดูภาษากายของเขา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อใครสักคนชอบใครบางคน เขามักจะแสดงความชอบฐานทางภาษากาย มันมีหลายสัญญาณของภาษากายที่บ่งบอกว่าชอบและเมื่อคุณสังเกตว่าเพื่อนรักของคุณกำลังใช้ภาษากายเหล่านั้น มันก็อาจจะเป็นสัญญาณว่าเขาชอบคุณ มองหาสัญญาณ เช่น: [5]
    • เขารักษาการสบตาและมองมาที่คุณ
    • เขายิ้มเวลาที่พูดถึงคุณ
    • เขาพยายามเข้าใกล้คุณโดยการเริ่มสัมผัสทางกาย
    • เมื่อคุณพูด เท้าของเขาจะหันหาคุณ
    • เขาเลียนแบบภาษากายของคุณเวลาที่คุณพูดกัน
    • เขาจับผมหรือใบหน้าเวลาที่คุณพูดกัน [6]
  2. เมื่อใครบางคนสนใจในตัวคุณ เขาจะเริ่มสัมผัสทางกายบ่อยขึ้น คุณสองคนอาจจะไม่เคยกอดกันบ่อยๆ แต่ตอนนี้เขากอดคุณทุกครั้งที่คุณเจอกัน [7]
    • ประเภทของสัมผัสทางกายที่คุณมีอาจจะเริ่มแตกต่างออกไป จากที่เคยต่อยคุณที่แขนก็อาจเปลี่ยนเป็นการกอดหรือเขาอาจจะเริ่มสัมผัสหัวเข่าหรือแขนของคุณ
  3. สัมผัสทางกายระหว่างเพื่อนนั้นปกติและดีแต่คุณอาจจะเริ่มสังเกตว่าเขาเริ่มสัมผัสคุณมากกว่าเดิม เขาอาจจะพยายามแสดงความรักกับคุณทางกายโดยการกอด วางแขนบนไหล่หรือจับมือคุณ [8]
    • เขาอาจจะพยายามบังเอิญจับคุณเมื่อคุณอยู่ใกล้กัน สิ่งนี้อาจหมายถึงว่าเขาตื่นเต้นที่จะเริ่มสัมผัสทางกายแบบอื่นแต่เขาต้องการอยู่ใกล้คุณ
    • หากคุณรู้สึกอึดอัดกับการสัมผัสทางกาย คุณต้องบอกให้เขารู้ด้วยวิธีที่อ่อนโยนและปราณี
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การประเมินความสัมพันธ์ของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสนใจในตัวเพื่อนรักของคุณแบบคนรักหรือไม่? ถามตัวเองว่าคุณต้องการความสัมพันธ์แบบคนรักกับคนๆ นี้หรือไม่หากเขาชอบคุณ สิ่งที่คุณรู้สึกเกี่ยวกับเขาในฐานะของคนรักจะมีผลกับปฏิกิริยาของคุณที่มีต่อพฤติกรรมของเขา [9]
    • หากคุณสนใจในตัวเขาแบบคนรักก็ลองซื่อสัตย์กับเขาเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณ หากสัญญาณบอกว่าใช่ เขาก็อาจจะสนใจในตัวคุณเช่นกัน คุณสามารถลองบอกใบ้ว่าคุณชอบใครบางคนเพื่อดูปฏิกิริยาของเขาหรือถามเขาว่าสนใจในตัวใครหรือไม่
    • เช่น คุณสามารถพูดว่า "เจน ผมคิดถึงมิตรภาพของเราบ่อยๆ และผมคิดว่ามันคงจะดีถ้าเราเป็นมากกว่าเพื่อน"
  2. คุณอาจจะกำลังให้สัญญาณเขาว่าคุณสนใจในตัวเขาโดยไม่รู้ตัว เช่น คุณอาจจะกำลังจีบเขา คุณอาจจะสัมผัสทางกายหรือเปิดใจให้กับเขามากขึ้น หากคุณไม่สนใจในตัวของเพื่อนในแบบคนรัก คุณก็ควรหยุดพฤติกรรมเหล่านี้เพราะมันอาจจะส่งสัญญาณที่สับสน
    • หากคุณสนใจในตัวเขา คุณก็สามารถส่งสัญญาณว่าคุณสนใจในตัวเขาต่อไป
  3. คุณอาจจะกำลังสับสนว่าเพื่อนรักของคุณสนใจคุณในแบบคนรักหรือไม่ คุณสามารถพูดกับเพื่อนสนิทเพื่อถามความเห็นของเขาและเพื่อดูว่าเขารู้ว่าเพื่อนรักของคุณกำลังชอบใครหรือไม่
    • ระมัดระวังเมื่อทำวิธีนี้ คุณคงไม่อยากให้เรื่องนี้ไปเข้าหูเพื่อนรักว่าคุณกำลังพูดถึงเขาลับหลัง พูดเรื่องนี้กับเพื่อนที่คุณสามารถไว้ใจและมีมุมมองที่ดีเกี่ยวกับสถานการณ์นี้
    • คุณสามารถลองถามเพื่อนของเขาเล่นๆ เพื่อดูว่าเขารู้ว่าเพื่อนรักคุณกำลังสนใจใครหรือไม่ คุณอาจลองพูดว่า "นี่ ฉันสังเกตว่าแซคไม่ได้พูดถึงแคโรไลน์อีกแล้ว เธอรู้ไหมว่าเขากำลังชอบใครอยู่ตอนนี้?"
  4. หากคุณยังไม่แน่ใจก็ให้ถามเขา นี่คือวิธีที่น่าเชื่อถือมากที่สุดในการดูว่าเขาสนใจในตัวคุณแบบคนรักหรือไม่แต่มันอาจมาพร้อมความเสี่ยง เช่น เขาอาจจะไม่ต้องการสูญเสียมิตรภาพและจะรู้สึกอึดอัดที่ต้องบอกคุณ
    • แน่ใจว่าคุณต้องการให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนเป็นความรักก่อนที่จะถาม หากคุณไม่ต้องการ คุณก็ควรหลีกเลี่ยงคำถามนี้และปล่อยให้ความรู้สึกค่อยๆ ผ่านไป หากจู่ๆ เพื่อนรักของคุณมีทีท่าว่าจะบอกคุณ คุณก็สามารถพูดมันออกไป
    • หากคุณต้องการถามก็ให้พูดว่า "ฉันไม่อยากให้เรารู้สึกแปลกแต่ฉันสังเกตว่าหลายสิ่งระหว่างเราเปลี่ยนแปลงไปและฉันสงสัยว่ามันเป็นเพราะความสัมพันธ์ของเราได้เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยหรือไม่" คำถามนี้จะให้โอกาสกับเขาในการแบ่งปันความรู้สึก
  5. หากเพื่อนของคุณไม่ยอมเปิดใจหรือพูดบางอย่าง เช่น "ไม่มีทาง เธอบ้าไปแล้วหรอ? เราเป็นเพื่อนกันก็แค่นั้นเอง" คุณก็ควรปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป คุณสามารถพลิกสถานการณ์โดยการพูดว่า "ไม่เป็นไร ฉันก็แค่สงสัยแต่ไม่มีอะไร"
    • หากเพื่อนของคุณกลัวที่จะบอกคุณหรือกำลังปลุกปล้ำกับความรู้สึก มันก็อาจจะใช้เวลาก่อนที่เขาจะบอกคุณ คุณต้องใจเย็นและเห็นใจและอย่ากดดันเพื่อน
  6. ทำให้เขารู้ว่ามิตรภาพของคุณสำคัญกับคุณและคุณใส่ใจเพื่อนของคุณในฐานะคนๆ หนึ่ง ไม่ว่าคุณและเพื่อนรักจะได้พบกันหรือไม่ ความสัมพันธ์ของคุณก็ยังพิเศษและคุณไม่ต้องการสูญเสียเขาไป
    • หากเขาสนใจในตัวคุณแบบคนรักและคุณไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกัน เขาอาจจะต้องการพักมิตรภาพนี้ไว้ สิ่งนี้จะเจ็บแต่มันต้องการเวลาในการเยียวยาความรู้สึกและเดินหน้าต่อไป
    • บอกเขาว่าคุณใส่ใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณโดยพูดว่า "เบน มิตรภาพของเรามีความหมายกับฉันมาก เธอเป็นเพื่อนที่ดีและฉันดีใจที่มีเธอในชีวิต ฉันไม่ได้ชอบเธอแบบคนรักแต่ฉันหวังว่าเรายังคงเป็นเพื่อนรักกันได้"
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เป็นตัวของตัวเอง อย่าทำตัวแปลกไปเมื่อคุณชอบเขา หากเขาชอบคุณ เขาจะชอบคุณในแบบที่คุณเป็นและคุณไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อเขา
  • ทำตัวสบายและผ่อนคลายไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าคุณจะมีความรู้สึกกับเพื่อนในแบบคนรักหรือไม่ มันสำคัญที่ต้องดูว่าเขามีความรู้สึกกับคุณในแบบคนรักหรือเปล่า หากคุณสังเกตว่าเขาทำตัวแปลกไปก็ทำให้เขารู้ว่าเขาสามารถระบายความรู้สึกนั้นให้คุณฟังได้
  • พยายามสื่อสารกับเพื่อนมากกว่ากันคุยกันบน Facebook หรือส่งข้อความหากัน
  • เป็นตัวของตัวเองและมีความสุขกับเพื่อน
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าพูดเรื่องนี้เมื่อคนอื่นสามารถได้ยิน ความรู้สึกของคุณและสิ่งที่คุณพูดซึ่งกันและกันเป็นเรื่องส่วนตัวและควรเก็บไว้เป็นความลับไม่ว่าคุณเป็นใคร ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจที่จะเป็นเพื่อนหรือเป็นมากกว่าเพื่อน การตัดสินใจในครั้งนี้เป็นสิ่งที่คุณทั้งคู่สร้างด้วยกัน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,967 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา