ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แซลมอนเป็นปลาที่มีเนื้อเลิศรส สามารถนำไปทอดบนกระทะ ย่าง หรืออบเป็นมื้อเย็นเพื่อสุขภาพก็ได้ทั้งนั้น แต่การเตรียมเนื้อแซลมอนเองที่บ้านอาจยุ่งยากไปสักหน่อย เพราะเนื้อมันสุกเกินไปได้ง่ายมากนั่นเอง การดูสีและเนื้อสัมผัสของเนื้อมันจะทำให้คุณรู้ได้ว่าแซลมอนสุกแล้วหรือยัง แต่การใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิดูจะเป็นวิธีที่บอกความสุกของเนื้อแซลมอนตามต้องการได้ดีที่สุดล่ะนะ อย่างไรก็ตามคุณสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้แซลมอนสุกเกินไปได้โดยการเตรียมเนื้อแซลมอนให้ถูกต้อง เพื่อที่จะไม่ให้เนื้อมันแห้งเกินไปอีกนั่นเอง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สังเกตจากสีและเนื้อสัมผัส

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กดปลายมีดลงบนส่วนที่หนาที่สุดของเนื้อแซลมอน. คุณจะต้องดูเนื้อแซลมอนด้านในเพื่อที่จะรู้ว่ามันสุกแล้วหรือยัง และในการดูเนื้อข้างในนั้น ให้ใช้แค่ปลายมีดกดลงไปแค่ประมาณครึ่งหนึ่งของเนื้อแซลมอนก็พอ [1]
    • คุณจะใช้ส้อมแทนก็ได้ แต่มันอาจทำให้เนื้อแซลมอนออกมาเละกว่าใช้มีดหั่น ซึ่งจะทำให้เสิร์ฟได้ไม่สวยนั่นเอง
  2. Watermark wikiHow to ดูว่าแซลมอนสุกแล้วหรือยัง
    ขณะที่ด้านนอกของเนื้อปลาส่วนใหญ่ควรเป็นสีขาวทึบ สีเบจ หรือสีน้ำตาล ขึ้นอยู่กับวิธีการปรุงอาหาร แต่ตรงกลางเนื้อมันก็ควรจะเป็นสีชมพูใสๆ อยู่ ถ้าหากว่ากลางเนื้อแซลมอนเป็นสีทึบเมื่อไร นั่นแปลว่ามันสุกเกินไปนั่นเอง แต่ถ้าเนื้อตรงกลางเป็นสีใสไปหมด ก็ควรจะปรุงให้สุกขึ้นอีกนิดเช่นกัน [2]
  3. คุณไม่อยากให้เนื้อแซลมอนแตกตัวออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ หรอก เพราะถ้ามันออกมาเป็นแบบนั้น นั่นก็แปลว่ามันสุกเกินไปและเนื้อแห้งเกินไปนั่นเอง แทนที่จะเป็นแบบนั้น เนื้อแซลมอนควรจะไม่แตกตัวออกจากกัน แต่เมื่อถูกตัดแล้วจะเป็นชิ้นสวยตามแนวมีดนั่นเอง [3]
  4. นำเนื้อแซลมอนออกจากความร้อนแล้วปล่อยให้มันสุกต่ออีกสักสองสามนาที. ถ้าแซลมอนเป็นสีทึบด้านนอก และมีสีค่อนข้างใสด้านใน และเมื่อจิ้มมีดลงไปแล้วเนื้อไม่แตกออก ก็แปลว่ามันพอจะสุกแล้วล่ะ นอกจากนี้มันจะยังสุกต่อได้อีกหลายนาทีแม้จะไม่ได้ให้ความร้อนต่อ ฉะนั้นให้เอามันออกจากเตาแก๊ส เตาอบ หรือเตาย่าง แล้วพักทิ้งไว้สัก 5 นาทีก่อนเสิร์ฟด้วยนะ [4]
    • เนื่องจากเนื้อแซลมอนจะยังสุกต่อได้แม้จะนำออกจากความร้อนแล้ว คุณจึงสามารถนำมันออกมาได้ตั้งแต่ตอนที่มันใกล้จะสุกแต่ยังไม่สุกดี ถ้าคุณรอจนกว่าเนื้อด้านในมันเป็นสีชมพูใสและเนื้อไม่แตกออกจากกันเมื่อส้อมจิ้มลงไปแล้ว พอเอาออกมาพัก เนื้อก็จะสุกอย่างสมบูรณ์แบบแล้วนั่นเอง
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การตรวจสอบอุณหภูมิ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ดูว่าแซลมอนสุกแล้วหรือยัง
    ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิจากส่วนที่หนาที่สุดของเนื้อแซลมอน. เทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดอุณหภูมิอาหารถือเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการใช้วัดอุณหภูมิแซลมอนเลยล่ะ อย่าลืมว่าต้องเสียบเข้าไปตรงส่วนที่หนาที่สุดของเนื้อแซลมอนนะ เพราะบริเวณนั้นคือบริเวณที่ต้องใช้เวลานานที่สุดในการทำให้สุกนั่นเอง [5]
    • คุณสามารถหาซื้อเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิอาหารได้จากร้านขายสินค้าเกี่ยวกับการทำอาหารส่วนใหญ่ทั่วไป
  2. ถ้าอุณหภูมิของเนื้อแซลมอนต่ำกว่า 43°C นั่นแปลว่ามันยังดิบอยู่ ถ้าอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 43°C ถึง 52°C นั่นแปลว่าเนื้อปลาอยู่ในระดับมีเดียมแรร์ ถ้าอยู่ระหว่าง 52°C ถึง 60°C แปลว่าอยู่ในช่วงสุกดี แต่ต้องไม่เกิน 60°C เพราะเนื้อแซลมอนจะแห้งและแข็งเกินไป [6]
  3. นำเนื้อแซลมอนออกจากความร้อน และพักไว้หลายๆ นาที. เมื่อได้ความสุกตามที่คุณต้องการแล้ว ให้นำเนื้อแซลมอนออกจากเตาแก๊ส เตาย่าง หรือเตาอบ แล้ววางพักเอาไว้สัก 5 ถึง 10 นาทีเพื่อให้มันสุกต่ออีกหน่อย จากนั้นก็เสิร์ฟได้เลย [7]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การเตรียมเนื้อแซลมอนอย่างเหมาะสม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การลอกหนังปลาออกก็คือการเอาส่วนที่จะป้องกันความร้อนจากกระทะออก ซึ่งอาจทำให้เนื้อปลาสุกเกินไปได้ ยกเว้นว่าคุณจะทำการต้มเนื้อปลา ถึงจะลอกหนังออกได้โดยไม่ต้องกังวล [8]
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Vanna Tran

    กุ๊กมากประสบการณ์
    แวนนา ทรานเป็นกุ๊กที่เริ่มทำอาหารกับแม่มาตั้งแต่ยังเล็ก เธอรับทำอาหารส่งงานเลี้ยงและจัดดินเนอร์แบบไม่ระบุสถานที่แน่นอนในย่านเบย์แอเรียของซานฟรานซิสโกมาตลอด 5 ปีมานี้
    Vanna Tran
    กุ๊กมากประสบการณ์

    Vanna Tran, เชฟผู้มากประสบการณ์, กล่าวไว้ว่า: "เมื่อต้องการจะปรุงเนื้อปลาพร้อมหนังบนกระทะ ไม่ว่าจะเป็นปลาชนิดใดก็ตาม ย่อมเป็นการเสี่ยที่จะนำให้เนื้อปลาม้วนขึ้น ซึ่งทำให้ยากที่เนื้อปลาจะสุกเท่ากันทั้งชิ้น ในการป้องกันไม่ให้เนื้อปลาม้วนขึ้นนั้น ให้ทำรอยที่เนื้อปลาก่อนลงทอด หรือถ่วงน้ำหนักปลาขณะที่กำลังทอดอยู่."

  2. Watermark wikiHow to ดูว่าแซลมอนสุกแล้วหรือยัง
    การเติมเกลือและพริกไทยถือเป็นหัวใจสำคัญของเนื้อปลาแสนอร่อย แต่ถ้าคุณใส่เกลือก่อนจะนำไปปรุงอาหารเป็นเวลานานเกินไป เกลือจะไปดูดเอาความชุ่มชื้นของเนื้อแซลมอนออกหมด ซึ่งจะทำให้เนื้อแซลมอนสุกง่ายเกินไปนั่นเอง เพราะฉะนั้นให้เติมเกลือและพริกไทยในเวลาใกล้ๆ ที่จะนำไปปรุงอาหารแล้วเท่านั้น [9]
  3. Watermark wikiHow to ดูว่าแซลมอนสุกแล้วหรือยัง
    แม้ว่าคุณจะยังไม่ลอกหนังออก แต่ยังไงก็ยังเสี่ยงกับการที่เนื้อแซลมอนจะสุกเกินไปอยู่ดี ถ้าคุณไม่ได้นำเนื้อแซลมอนไปปรุงบนกระทะ เตาย่าง หรือถาดอบโดยตรง ให้เลี่ยงที่จะเอาส่วนที่เป็นเนื้อไว้ด้านล่าง ไม่อย่างนั้นมันจะสุกเกินไปได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะ [10]
  4. โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เมื่อคุณจะปรุงเนื้อแซลมอน ให้เลือกเนื้อที่มีขนาดเท่าๆ กัน เพื่อที่จะได้สุกในเวลาไล่เลี่ยกันนั่นเอง โดยที่เนื้อส่วนกลางลำตัวมักจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเฉลี่ยความหนาที่เท่าๆ กันของเนื้อแซลมอน
โฆษณา

ของที่ใช้

  • มีดคมๆ
  • เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิอาหาร

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,888 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา