บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Kelli Miller, LCSW, MSW
. เคลลี่ มิลเลอร์เป็นนักจิตบำบัด นักเขียน และพิธีกรรรายการโทรทัศน์ในลอสแองเจลิส เคลลี่เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ในครอบครัวและชีวิตคู่ โรคซึมเศร้าและเรื่องเพศสัมพันธ์ เธอจัดการบำบัดกลุ่มที่ The Villa Treatment Center สำหรับผู้มีปัญหาเรื่องสุราและยาเสพติด เธอยังได้รับรางวัล Next Generation Indie Book Award สำหรับหนังสือ "Thriving with ADHD: A Workbook for Kids" และยังเขียน "Professor Kelli's Guide to Finding a Husband" เคลลี่ยังเป็นพิธีกรรายการ "The Dr. Debra and Therapist Kelli Show" ให้สถานีวิทยุ LA Talk Radio คุณสามารถติดตามเธอได้ที่อินสตราแกรม @kellimillertherapy เธอได้รับปริญญาโทด้านสังคมสงเคราะห์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
บทความนี้ถูกเข้าชม 8,960 ครั้ง
การมีความจริงใจและซื่อสัตย์ต่อคนรักเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการคบหาดูใจกับใครสักคน หากคุณสังเกตได้ว่าในช่วงนี้แฟนหนุ่มของคุณใช้มือถือด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ กว่าปกติ นั่นอาจทำให้คุณเกิดความสงสัยว่าเขากำลังแอบซ่อนอะไรบางอย่าง ลองสังเกตพฤติกรรมที่น่าสงสัยเหล่านี้เพื่อดูว่าแฟนหนุ่มของคุณกำลังปิดบังอะไรบางอย่างจากคุณหรือมีอะไรในมือถือที่ต้องการซ่อนเร้นอยู่หรือไม่
ขั้นตอน
-
อาจดูมีพิรุธหากเขาตั้งรหัสผ่านล็อกหน้าจอมือถือทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน. บางทีคุณอาจหยิบมือถือของเขาขึ้นมากดเล่นๆ โดยไม่คิดอะไรแต่กลับพบว่าจู่ๆ คุณไม่สามารถปลดล็อกหน้าจอได้ และจะยิ่งน่าสงสัยเข้าไปอีกหากเขาไม่ยอมบอกรหัสผ่านให้คุณรู้หรือเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่โดยทันทีหลังจากที่บอกคุณไป [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การตั้งรหัสผ่านล็อกหน้าจอมือถือไม่ใข่เรื่องแปลกแต่อย่างใด (ที่จริงแล้วปลอดภัยกว่าไม่มีรหัสผ่านด้วยซ้ำ) อย่างไรก็ตาม หากเขาดูพยายามปกปิดรหัสผ่านเป็นความลับมากเกินไป อาจเป็นไปได้ว่าเขากำลังแอบซ่อนอะไรบางอย่าง
โฆษณา
-
หรือเขารีบปิดแอพที่กำลังใช้งานอยู่อย่างรวดเร็วเมื่อเจอหน้าคุณ. หากเขาบริสุทธิ์ใจและไม่มีอะไรในมือถือที่ต้องการซ่อนเร้น เขาคงไม่ต้องรู้สึกกังวลว่าคุณจะเหลือบไปเห็นหน้าจอมือถือของเขาหรือไม่ แต่หากคุณสังเกตเห็นว่าเขารีบกลับไปที่หน้าจอโฮมหรือล็อกมือถือทุกครั้งที่คุณเดินเข้ามาในห้อง นี่อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่นเดียวกับเมื่อเขากำลังใช้คอมพิวเตอร์ หากเขากดปิดแท็บที่เปิดอยู่ทันทีเมื่อคุณเดินเข้ามา อาจเป็นไปได้ว่าเขากำลังปิดบังอะไรบางอย่างจากคุณ
-
คุณอาจตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าเขากำลังคุยแชททั้งที่คิดว่าเขาหลับไปแล้ว. หรือเขาอาจง่วนอยู่กับการคุยแชทกับใครสักคนในระหว่างที่คุณสองคนกำลังออกเดทกันอยู่ และหากคุณถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาอาจตอบกลับมาเพียงว่า “ไม่มีใครหรอก” หรือ “ก็แค่เพื่อน” อย่างไรก็ตาม คนเป็นเพื่อนกันคงไม่ส่งข้อความหากันทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางดึก [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แน่นอนว่าเขาอาจแค่คุยแชทกับเพื่อนที่กำลังทุกข์ใจกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงนี้ ซึ่งในกรณีนี้เขาคงไม่มีปัญหาอะไรที่จะบอกคุณว่าเขากำลังคุยกับใครและเรื่องอะไร
โฆษณา
-
เขาดูระวังที่จะไม่ลืมล็อคหน้าจอมือถือก่อนออกจากห้องไป. นั่นอาจเป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้คุณมากดดูมือถือของเขา ซึ่งแม้ว่าโดยปกติแล้วการล็อกหน้าจอมือถือเมื่อไม่ได้ใช้งานจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่คงจะดูน่าสงสัยไม่น้อยหากเขาคอยตรวจเช็คซ้ำๆ หลายครั้งว่าล็อกหน้าจอมือถือแล้วหรือยัง [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เขาอาจวางมือถือคว่ำหน้าลงก่อนเดินออกจากห้องไปเพื่อป้องกันไม่ให้คุณเห็นการแจ้งเตือนแสดงขึ้นมาบนหน้าจอในระหว่างที่เขาไม่อยู่
- จำไว้ว่าเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะล็อกหน้าจอมือถือของตัวเองแม้จะไม่มีอะไรต้องปิดบังก็ตาม (ลองนึกดูว่าตัวคุณเองล็อกหน้าจอมือถือก่อนวางลงหรือออกจากห้องบ่อยเพียงใด) แต่เรื่องนี้อาจเป็นปัญหาหากเขาดูระวังมากเป็นพิเศษที่จะไม่ลืมล็อกหน้าจอมือถือโดยเฉพาะเมื่ออยู่กับคุณ
-
คุณอาจสังเกตได้ว่าเขาเบี่ยงตัวหนีตอนใช้มือถือในระหว่างที่คุณสองคนนั่งเล่นบนโซฟา. หากเขาหยิบมือถือขึ้นมาและเบี่ยงตัวหนีไปอีกทางเมื่ออยู่กับคุณ นั่นอาจทำให้เขาดูมีพิรุธจนน่าสงสัยได้ เพราะหากเขาไม่มีอะไรต้องปิดบัง เขาจะไม่ได้รู้สึกสนใจว่าคุณจะเหลือบมองหน้าจอมือถือของเขาหรือไม่ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณถามเขาออกไปตรงๆ ว่าทำไมต้องเบี่ยงตัวหนีไปอีกทาง เขาอาจยืนกรานว่าเขาเพียงเปลี่ยนท่าเพราะรู้สึกเมื่อยเท่านั้น
โฆษณา
-
เขาอาจลบข้อความหรือการสนทนาทิ้งเพราะไม่ต้องการให้คุณเห็น. หากคุณบังเอิญหยิบมือถือของเขาขึ้นมากดดูและพบว่าบทสนทนาบางส่วนหายไป อาจเป็นไปได้ว่าเขาลบข้อความที่เคยคุยกันทิ้งไปหมดแล้ว การกระทำนี้ส่อพิรุธอยู่ไม่น้อยเพราะดูเหมือนว่าเขาไม่ต้องการให้มีหลักฐานใดๆ หลงเหลืออยู่ในมือถือของเขา [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่าบางคนอาจคอยลบข้อความเป็นระยะๆ เพียงเพราะต้องการเพิ่มพื้นที่ว่างให้กับมือถือเท่านั้น
-
เขาอาจพกมือถือติดตัวไปด้วยเพราะไม่อยากวางมือถือทิ้งไว้ใกล้ตัวคุณ. หากเขาหยิบเอามือถือติดตัวไปด้วยทุกที่ (แม้กระทั่งไปเข้าห้องน้ำ) นั่นอาจดูน่าสงสัยอยู่ไม่น้อย เหตุผลที่เขาพยายามเก็บมือถือไว้ให้อยู่ใกล้ตัวตลอดเวลาอาจเป็นเพราะเขากังวลว่าจะมีการแจ้งเตือนต่างๆ ที่ไม่อยากให้คุณเห็นปรากฏขึ้นมา [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่างไรก็ตาม หากเขาต้องการใช้มือถือทำอะไรบางอย่าง (เช่น ฟังเพลงในระหว่างอาบน้ำ) พยายามอย่ากังวลในเรื่องนี้
โฆษณา
-
เขาอาจโมโหขึ้นมาเพียงเพราะคุณหยิบมือถือของเขามาดูเวลาเท่านั้น. แม้คุณจะไม่ควรคาดหวังว่าตัวเองจะสามารถหยิบมือถือของเขาขึ้นมากดดูได้ตามสบายทุกครั้ง แต่โดยปกติแล้วคู่รักมักอนุญาตให้อีกฝ่ายใช้มือถือของเขาหรือเธอเพื่อสั่งอาหารหรือเปลี่ยนเพลงใหม่โดยไม่ถือสาอะไร ดังนั้นหากเขาไม่ให้คุณใช้มือถือของเขาเลย นั่นอาจทำให้เขาดูน่าสงสัยได้ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เขายังอาจยืนกรานที่จะจัดการอะไรบางอย่างบนมือถือด้วยตัวเองแม้จะไม่สะดวกก็ตาม (เช่น ในขณะขับรถ)
- ความสัมพันธ์ที่ดีของคู่รักควรมีขอบเขตเสมอและไม่ได้หมายความว่าคู่รักจะสามารถเปิดดูมือถือของอีกฝ่ายได้ตามสบาย ดังนั้นคุณอย่าคาดหวังที่จะเลื่อนดูหน้าฟีดโซเชียลมีเดียหรือข้อความของเขาได้ทุกครั้งที่ต้องการ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Kelli Miller, LCSW, MSW. นักจิตบำบัด. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 11 มิถุนายน 2020.
-
เขาอาจไม่ยอมรับผิดแต่กลับโยนความผิดให้คุณแทน. หากคุณเลื่อนดูมือถือของเขาก่อนพบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเขากำลังคุยกับคนอื่นและตัดสินใจที่จะคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขากลับพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับและแสดงท่าทีเหมือนรู้สึกน้อยใจจนสุดท้ายกลายเป็นว่าคุณรู้สึกผิดที่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขาแทนและปัญหาที่เกิดขึ้นก็ยังคงคาราคาซังอยู่ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นี่เป็นกลวิธีการเอาตัวรอดสุดคลาสสิกที่หลายคนใช้เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาวุ่นวาย ซึ่งแม้ว่าการที่คุณรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขาจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างข้อเท็จจริงที่ว่าเขากำลังทำอได้
โฆษณา
-
หากคุณสงสัยว่าเขากำลังนอกใจคุณอยู่ การเปิดอกคุยกันในเรื่องนี้อาจเป็นทางที่ดีที่สุด. ลองหยิบยกข้อสงสัยต่างๆ ที่คุณมีขึ้นมาพูดและอธิบายเหตุผลที่ทำให้คุณรู้สึกว่าเขากำลังมีท่าทีน่าสงสัย หากเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เขาคงยินดีที่จะพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้และพยายามหาทางแก้ปัญหาต่อไป [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Kelli Miller, LCSW, MSW. นักจิตบำบัด. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 11 มิถุนายน 2020. แต่ในทางกลับกัน หากเขากำลังทำในสิ่งที่เขารู้ว่าคุณต้องไม่ชอบแน่ๆ เขาอาจปฏิเสธที่จะคุยกับคุณหรือไม่ก็ระเบิดอารมณ์ออกมา
- คุณสามารถหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาโดยพูดประมาณว่า “ขอคุยด้วยได้ไหม ฉันสังเกตว่าช่วงนี้เธอดูติดมือถือมากกว่าเดิมและฉันเริ่มรู้สึกแปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้”
บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/love-and-sex-in-the-digital-age/201812/10-signs-your-spouse-is-cheating
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/friendship-20/201405/6-signs-your-partner-is-facebook-cheating
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/friendship-20/201405/6-signs-your-partner-is-facebook-cheating
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/valley-girl-brain/201109/6-signs-someone-just-isnt-you
- ↑ https://www.cosmopolitan.com/sex-love/a7026909/emotional-cheating-signs/
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/love-and-sex-in-the-digital-age/201812/10-signs-your-spouse-is-cheating
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/love-and-sex-in-the-digital-age/201812/10-signs-your-spouse-is-cheating
- ↑ https://www.cosmopolitan.com/sex-love/a7026909/emotional-cheating-signs/
- ↑ Kelli Miller, LCSW, MSW. นักจิตบำบัด. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 11 มิถุนายน 2020.
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/toxic-relationships/201907/covert-tactics-manipulators-use-control-and-confuse-you
- ↑ Kelli Miller, LCSW, MSW. นักจิตบำบัด. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 11 มิถุนายน 2020.
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบทางการแพทย์
เนื้อหาของบทความชิ้นนี้มิได้มีเจตนาที่จะใช้ทดแทนคำแนะนำ การตรวจ วินิจฉัยและการรักษาทางการแพทย์ คุณควรปรึกษาแพทย์หรือมืออาชีพทางการดูแลสุขภาพที่ได้รับอนุญาตเสมอ ก่อนที่จะทำการเริ่มต้น เปลี่ยนแปลง หรือหยุดการดูแลสุขภาพไม่ว่าประเภทใด