ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

กิ้งก่าเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยม และดูแลค่อนข้างง่าย การดูแลกิ้งก่าแต่ละชนิดเป็นพิเศษขึ้นอยู่กับว่าคุณเลี้ยงกิ้งก่าชนิดใดอยู่ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้แนวทางปฏิบัติโดยทั่วไปบางประการเพื่อดูแลกิ้งก่าของคุณ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

สรรค์สร้างที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เรียนรู้ว่ากิ้งก่าของคุณจำเป็นต้องอยู่ในกรงแบบใด. กรงแบบใดของคุณที่กิ้งก่าจะตกลงปลงใจเลือก จงตระหนักว่ากิ้งก่าจำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ซึ่งมีอุณหภูมิอยู่ในช่วงที่กำหนด หากอุณหภูมิโดยรอบที่คุณอาศัยอยู่ลดต่ำลงในฤดูหนาว คุณจำเป็นต้องเลี้ยงดูพวกมันในตู้ปลาแบบปิดที่มีประสิทธิภาพด้านเป็นแหล่งความร้อน ตู้ปลาจะช่วยให้กิ้งก่าอบอุ่นโดยที่คุณไม่ต้องจ่ายค่าไฟสูงลิ่ว สำหรับกิ้งก่าบางสายพันธุ์นั้น คุณสมควรจะสามารถควบคุมความร้อน รวมทั้งความชื้นในตู้ปลาได้ด้วย คุณยังจำเป็นต้องสามารถจัดหาแสงสว่าง รวมทั้งพื้นที่มากที่สุดที่กิ้งก่าจำเป็นต้องมีด้วย [1]
    • ทำให้แน่ใจว่ากรงขังมั่นคงและกิ้งก่าของคุณไม่อาจหลบหนีออกไปได้
    • กรงชนิดหนึ่งที่พบกันได้ทั่วไปคือตู้อควาเรียม หรือตู้ปลาชนิดมีมุ้งลวดด้านบน พวกตุ๊กแกขนาดเล็กอาศัยอยู่ได้อย่างสบายในกรงชนิดนี้ [2] สำหรับตุ๊กแกลายเสือดาว (Leopard gecko) นั้น คุณจะจำเป็นต้องใช้ตู้ปลา /ตู้เทอราเรียม(Aquarium/Terrarium) ขนาดความจุ 20 แกลลอน [3]
    • กรงพลาสติกเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง. เบียร์ด ดราก้อน (Bearded dragon) หรือมังกรเคราอยู่ได้อย่างสบายในกรงชนิดนี้ แม้ว่าตู้ที่ดีที่สุดคือวิวาเรียม (Vivarium) ซึ่งทำด้วยวัสดุที่เป็นฉนวนความร้อน เช่น ไม้ และมีด้านหน้าเป็นกระจก ตู้ปลาอาจร้อนเกินไปได้ หรือไม่มีประสิทธิภาพด้านเก็บความร้อน เบียร์ด ดราก้อนจำเป็นต้องใช้ตู้ปลาขนาด 55 แกลลอน และหากคุณเลือกใช้กรงพลาสติก จำเป็นต้องมีขนาดอย่างต่ำ กว้าง 2 ฟุต ยาว 4 ฟุต และสูง 2 ฟุต [4]
    • กรงชนิดที่สามคือ กรงชนิดเป็นลวดทั้งหมด. กิ้งก่าคาเมเลียนชอบกรงชนิดนี้มากกว่ากิ้งก่าชนิดอื่น เพราะพวกมันสามารถไต่ไปมาได้ตามที่จำเป็น ซึ่งด้วยเหตุผลนั้น กรงของพวกมันสมควรมีความสูงมากกว่ากรงกิ้งก่าชนิดอื่นๆ [5]
  2. ตัดสินใจเรื่องอุณหภูมิที่จำเป็นสำหรับกิ้งก่าของคุณ. กิ้งก่าหลายชนิดจำเป็นต้องใช้โคมไฟให้ความร้อนเพื่อที่จะอยู่ในอุณหภูมิที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม โคมไฟและหลอดไฟที่แตกต่างกันจะให้ความร้อนในปริมาณที่แตกต่างกัน ดังนั้น คุณจำเป็ต้องเลือกชนิดที่มีอุณหภูมิที่จำเป็นสำหรับกิ้งก่าของคุณ [6]
    • สอบถามร้านขายสัตว์เลี้ยงว่า กิ้งก่าของคุณจำเป็นต้องได้ความร้อนมากแค่ไหน ตัวอย่างเช่น กิ้งก่าส่วนใหญ่จะจำเป็นต้องมีพื้นที่บางส่วนซึ่งมีอุณหภูมิระหว่าง 32– 38 องศาเซลเซียส [7]
    • กิ้งก่าจำเป็นต้องมีพื้นที่ซึ่งมีความเย็นในกรงเช่นกัน ดังนั้น ให้ความร้อนเฉพาะที่ปลายสุดด้านหนึ่งของกรงเท่านั้น ส่วนปลายสุดอีกด้านหนึ่งซึ่งมีอากาศเย็นกว่านั้น ตามปกติสมควรมีอุณหภูมิระหว่าง 21–24 องศาเซลเซียส [8]
    • ตรวจวัดอุณหภูมิ พิจารณาว่ากิ้งก่าของคุณสามารถทนความร้อนได้ถึงอุณหภูมิเท่าไร ซึ่งรวมทั้งความสูงของโคมไฟด้วย ให้แน่ใจว่าบริเวณเหล่านี้ไม่ร้อนเกินไปสำหรับกิ้งก่าของคุณ โดยใช้เทอร์โมมิเตอร์ตรวจสอบอุณหภูมิ [9]
    • ปิดโคมไฟสำหรับให้กิ้งก่าอาบแดดในตอนกลางคืน หากกิ้งก่ายังจำเป็นต้องได้ความอบอุ่น จงใช้อุปกรณ์แผ่รังสีอินฟราเรดแบบเซรามิก (Ceramic heater) แทน [10]
  3. กิ้งก่าส่วนใหญ่จำเป็นต้องได้รับแสงเพื่อช่วยให้เจริญเติบโต คุณจะจำเป็นต้องใช้โคมไฟทั้งชนิดที่ให้แสง UVA และ UVB โดยเพียงแค่เปิดไฟไว้ในช่วงระหว่างวันนานประมาณ 12 ชั่วโมง [11]
    • เลือกใช้โคมไฟชนิดกำลังไฟสูง (Flood lamp) คุณจำเป็นต้องมีโซนหนึ่งที่กิ้งก่าจะนอนอาบแดดและดูดซับแสงเอาไว้ หากคุณมีโคมไฟชนิดกำลังไฟสูงสำหรับการอาบแดด ก็แค่เพิ่มโคมไฟอีกดวงหนึ่งสำหรับไฟ UVB เพื่อกิ้งก่าของคุณจะได้ครบถ้วน ทั้งแสง UVA และ UVB (Full spectrum) เพราะโคมไฟสำหรับอาบแดดจะให้แสง UVA ที่กิ้งก่าจำเป็นต้องใช้ [12]
    • วางโคมไฟไว้ในกรง แต่ให้อยู่ตรงที่กิ้งก่าเข้าไม่ถึง จัดการอย่างระมัดระวังไม่ให้กิ้งก่าสัมผัสโคมไฟได้เพราะจะถูกไฟลวก แต่โคมไฟก็จำเป็นต้องอยู่ใกล้มากพอจะให้ความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรวจสอบโคมไฟที่คุณซื้อเพื่อดูว่าจำเป็นต้องทำอย่างไรบ้าง [13]
    • สร้างสรรค์ให้ที่อยู่แบ่งเป็นชั้นๆ กิ้งก่าสมควรมีบริเวณสำหรับอาบแดดและรับแสง แต่ก็สมควรมีพื้นที่ว่างเพื่ออยู่ให้ห่างจากแหล่งของแสงเหล่านั้นด้วย ทำให้บางส่วนของพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรงไม่ได้รับแสง [14]
    • ปิดแสงในเวลากลางคืน. กิ้งก่าของคุณต้องการความมืดในยามค่ำคืนเหมือนกับคุณเช่นกัน หากกลัวจะลืม อาจใช้เครื่องตั้งเวลาเปิดปิดโคมไฟ [15]
  4. กิ้งก่าส่วนใหญ่ชอบซ่อนตัวในบางเวลา คุณจำเป็นต้องจัดหาสถานที่ซึ่งพวกมันจะทำเช่นนั้นได้ ก้อนหินและท่อนไม้ท่อนเล็กๆใช้ได้ดีสำหรับวัตถุประสงค์นี้ [16]
    • พยายามจัดให้มีที่ซ่อนตัวอย่างน้อยหนึ่งแห่งตรงพื้นที่ส่วนที่เย็นกว่าในกรง [17]
    • หากคุณใช้ก้อนหินจากข้างนอก ก่อนอื่นต้องให้แน่ใจว่าได้ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคในน้ำเดือดแล้ว ก่อนจะใส่พวกมันไว้ในกรง คุณยังสามารถทำความสะอาดกิ่งไม้ ก่อนนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียสนาน 30 นาทีเพื่อฆ่าเชื้อโรคได้ด้วยด้วย [18]
    • กิ่งไม้มีความสำคัญมากเช่นกันสำหรับกิ้งก่าบางสายพันธุ์ เช่น กิ้งก่าคาเมเลียน เพราะกิ่งไม้ช่วยให้พวกมันปีนป่ายได้ [19]
  5. ขณะที่คุณรู้สึกอยากจะใส่กรวดหรือที่รองพื้นชนิดอื่นๆ ลงไว้ในกรง กิ้งก่าอาจกินพวกมันบางส่วนเข้าไป และไม่อาจย่อยได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหา [20] อย่างไรก็ตาม ที่รองพื้นแบบใดดีที่สุดขึ้นอยู่กับกิ้งก่าของคุณ
    • คุณสามารถใช้กระดาษห่อเนื้อสัตว์มารองกรง. กระดาษห่อเนื้อสัตว์เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีเพราะไม่มีน้ำหมึกปนเปื้อน เนื่องจากน้ำหมึกสามารถเป็นอันตรายต่อกิ้งก่าของคุณ ทางเลือกที่ดีอีกอย่างหนึ่งคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ยังไม่ได้ใช้พิมพ์ ซึ่งคุณสามารถหาซื้อได้จากพวกบริษัทขนย้าย [21]
    • อย่างไรก็ตาม กิ้งก่าบางชนิดก็ชอบขุดโพรงอย่างแท้จริง [22] ในกรณีเช่นนั้น สนามเด็กเล่นสร้างใหม่ด้วยทรายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดี [23]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การให้อาหารและน้ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่างไรก็ตาม กิ้งก่าต่างสายพันธุ์ต้องการจานใส่น้ำที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น บางสายพันธุ์ชอบชามขนาดเล็กมากที่สุด ขณะที่อีกสายพันธุ์หนึ่งจำเป็นต้องใช้ระบบน้ำหยด [24] ตัวอย่างหนึ่งคือกิ้งก่าคาเมเลียนซึ่งจำเป็นต้องใช้ระบบน้ำหยด เพราะจะไม่ดื่มน้ำจากชามใบเล็กๆ [25]
    • คุณอาจสอบถามร้านขายสัตว์เลี้ยงหรือติดต่อโดยตรงกับสัตว์แพทย์เพื่อค้นหาสิ่งดีที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณ
    • ให้แน่ใจว่าได้เปลี่ยนน้ำทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกิ้งก่าของคุณกินน้ำจากถ้วยน้ำใบเล็กๆ
    • กิ้งก่าบางสายพันธุ์ชอบว่ายน้ำ คุณจึงจำเป็นต้องจัดหาพื้นที่ๆ เป็นน้ำขนาดใหญ่มากพอเพื่อให้มันทำเช่นนั้นได้ [26]
  2. ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสายพันธุ์อะไร กิ้งก่าของคุณจะจำเป็นต้องได้รับการฉีดพ่นละอองน้ำวันละหนึ่งครั้ง คุณสามารถใช้กระป๋องสเปรย์ ตราบใดที่มันฉีดพ่นเป็นละอองน้ำ ไม่ใช่สายน้ำ ละอองน้ำจะช่วยสร้างความชื้นที่จำเป็นสำหรับกิ้งก่าบางสายพันธุ์ [27]
    • ตัวอย่างเช่น เบี๊ยร์ด ดราก้อนไม่จำเป็นต้องได้ละอองน้ำ แต่อีกัวน่าจะต้องการ [28]
  3. กิ้งก่าส่วนใหญ่กินแมลงและชอบกินแมลงมีชีวิตมากกว่าที่ตายแล้ว จิ้งหรีดเป็นอาหารที่หาได้ทั่วไป และอาจเสริมด้วยอาหารเสริมสำหรับสัตว์เลื้อยคลาน กับ แว๊กซ์เวิร์ม หนอนนก และแมลงสาบซึ่งหาได้ทั่วไปเช่นเดียวกัน เป็นความจริงที่ว่าเจ้าของกิ้งก่าหลายคนจะเลี้ยงจิ้งหรีดหรือแมลงสาบกลุ่มเล็กๆ ไว้เป็นอาหารของสัตว์เลี้ยงของตน [29] กิ้งก่าบางชนิดเป็นสัตว์กินเนื้อ (Carnivore) ขณะที่บางชนิดเป็นสัตว์กินทั้งพืชและสัตว์ (Omnivore) หรือสัตว์กินพืช (Herbivore) [30]
    • หากคุณเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นๆ ไว้ เศษหนึ่งส่วนห้าของอาหารที่ใช้เลี้ยงที่จำเป็นคือ แคลเซียม คาร์บอเนต ซึ่งคุณควรจะให้พวกจิ้งหรีดกินล่วงหน้าสองวันก่อนที่คุณใช้พวกมันเป็นอาหารของกิ้งก่า ส่วนอีกเศษสี่ส่วนห้านั้นก็เป็นอาหารสำหรับจิ้งหรีดตามปกติ
    • กิ้งก่าที่เป็นสัตว์กินเนื้อจะกินแมลงชนิดต่างๆ และหากพวกมันโตพอ ก็อาจกินอาหารว่างเป็นกิ้งก่าหรือกบที่ตัวเล็กกว่าพวกมันด้วย [31] คุณยังอาจจำเป็นต้องให้อาหารที่เป็นสัตว์จำพวกหนู ปลา กุ้ง หรือลูกเจี๊ยบ [32] ตัวอย่างเช่น ตุ๊กแกลายเสือดาวเป็นสัตว์กินเนื้อ และชอบกินทั้งจิ้งหรีดกับหนอนนก [33]
    • คุณอาจใช้สวิงจับแมลงไล่จับแมลงจากท้องทุ่งใกล้เคียงมาเลี้ยงกิ้งก่า แต่ต้องให้แน่ใจว่าไม่ได้มีการใช้ยาฆ่าแมลงในท้องทุ่งเหล่านั้น และคุณน่าจะโชคดีเวลาที่อากาศในท้องทุ่งอบอุ่น [34]
    • กิ้งก่าบางชนิดกินทั้งพืชและสัตว์ พวกมันจึงกินพืชด้วย เช่น แดนดิไลอ้อน โครเวอร์ กับผลไม้และผักที่พบกันได้ทั่วไป ตัวอย่างเช่น มะเขือเทศ ลูกแพร์ แอปเปิล และผักกาดหอมซึ่งเป็นผลไม้และผักที่พบได้ทั่วไป พวกมันจะกินสัตว์ตัวเล็กๆ อื่นๆ ด้วย เช่น หอยทาก หนอนนก หรือแม้แต่อาหารของน้องหมา (เพียงเติมน้ำเล็กน้อยหากว่ามันแห้ง) [35] เบี๊ยร์ด ดราก้อนกินทั้งพืชและสัตว์ และสามารถรอดชีวิตอยู่ได้โดยกินผักสีเขียวเป็นหลัก (เช่น ผักคะน้าใบหยิก และผักกาดหอมใบ) กับพืชตระกูลน้ำเต้า โดยกินหนอนนก และตั๊กแตน หรือแมลงชนิดอื่นๆ คิดเป็นจำนวนเศษหนึ่งส่วนสี่ของอาหาร [36]
    • ส่วนใหญ่ของกิ้งก่าที่กินทั้งพืชและสัตว์ กับพวกที่กินสัตว์จะจำเป็นต้องกินอาหารเพียงแค่ 2 หรือ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ [37] อย่างไรก็ตาม สัตว์เลื้อยคลานที่ตัวเล็กกว่าหรืออายุน้อยกว่าอาจจำเป็นต้องกินอาหารบ่อยกว่านั้น กิ้งก่าของคุณจะกินอาหารมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับขนาดของมัน [38]
    • กิ้งก่าบางชนิดเป็นสัตว์กินพืช หมายความว่ากินแต่พืชผัก อีกัวน่าเป็นตัวอย่างที่ดีของกิ้งก่าประเภทนี้ พวกมันจะกินผักใบเขียว รวมทั้งผลไม้และผักจำนวนมาก และสมควรให้อาหารทุกวัน [39]
    • อาหารส่วนใหญ่สมควรมีขนาดไม่ยาวไปกว่าความกว้างของหัวของพวกมันเพื่อป้องกันไม่ให้ติดคอ นอกจากนี้ คุณสมควรใส่อาหารลงในจานเล็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณใส่ทรายในตู้กิ้งก่าด้วย [40]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ดูแลกิ้งก่าของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณน่าจะพาสัตว์เลี้ยงไปหาสัตว์แพทย์ตั้งแต่ได้มาใหม่ๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามันมีสุขภาพดี และ คุณสมควรพากิ้งก่าไปหาสัตว์แพทย์ปีละครั้งเพื่อตรวจสุขภาพเหมือนกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ [41]
    • กิ้งก่าส่วนใหญ่จำเป็นต้องถ่ายพยาธิในบางช่วงชีวิต สอบถามสัตว์แพทย์เรื่องนั้น
  2. การถ่ายมูลเรี่ยราดเป็นสัญญาณหนึ่งของสุขภาพไม่ดี อย่างน้อยหากมีอาการนานเกิน 48 ชั่วโมงซึ่งคุณจำเป็นต้องปรึกษาสัตว์แพทย์ [42] การไม่ขับถ่ายก็เป็นปัญหาเช่นกัน
    • มองหาว่าน้ำหนักลดหรือไม่ การที่จู่ๆ น้ำหนักก็ลดลงอาจเป็นปัญหาเช่นกัน เพราะอาจหมายความว่ากิ้งก่าไม่กินอาหารหรือไม่ดื่มน้ำ และคุณจำเป็นต้องปรึกษาสัตว์แพทย์ [43]
    • จับตามองการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่อาจเป็นสัญญาณว่ากิ้งก่าป่วย รวมทั้งการมีน้ำมูกไหล มีน้ำตาไหล หรือมีน้ำไหลจากปาก อาจมีอาการบวมตามข้อหรือมีปัญหาในการลอกคราบ มิฉะนั้น คุณก็อาจจะสังเกตเห็นสีผิวที่เปลี่ยนไป หรือข้อเท็จจริงที่ว่ามันกำลังหลีกเลี่ยงมากขึ้นที่จะออกสู่ที่โล่งแจ้ง [44]
  3. คุณสมควรจะใส่กิ้งก่าตัวใหม่ๆ ที่คุณพาเข้าบ้านไว้ในกรงแยกจากตัวอื่นนานอย่างน้อยหนึ่งเดือน หากกิ้งก่าตัวใหม่ติดโรค การทำเช่นนั้นจะป้องกันไม่ให้มันแพร่เชื้อโรคไปยังกิ้งก่าตัวอื่นๆ ของคุณ [45]
    • จงให้อาหาร น้ำ และทำความสะอาดกรงกิ้งก่าตัวที่ถูกกักกันโรคเป็นตัวสุดท้ายเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้กิ้งก่าตัวอื่นติดเชื้อ
  4. สมควรทำความสะอาดกรงครั้งใหญ่สัปดาห์ละครั้ง และควรตรวจสอบกรงทุกวันเพื่อเก็บเอาอาหารที่ไม่ได้กินออกไป เช่นเดียวกับหนังที่กิ้งก่าลอกคราบออกมาและมูลของมัน ควรจะทำความสะอาดทุกสิ่งที่หกเลอะเทอะ รวมทั้งชามใส่อาหารและชามใส่น้ำ [46]
    • ใส่กิ้งก่าไว้ในกรงสะอาดอีกกรงหนึ่ง หรือในกล่องที่สะอาดกล่องหนึ่ง ในระหว่างที่กำลังทำความสะอาดกรงสัปดาห์ละครั้ง [47]
    • สวมถุงมือ เก็บทุกสิ่งออกจากกรง รวมทั้ง โยนแผ่นรอง ทราย หรือชั้นรองพื้นซึ่งคุณอาจจะได้ใช้ก่อนหน้านี้ทิ้งไป [48]
    • ทำความสะอาดกับฆ่าเชื้อชามใส่อาหารและชามใส่น้ำ ล้างในน้ำสบู่ร้อนๆ และใช้ยาฆ่าเชื้อโรคหลังจากนั้น แต่ต้องทำให้แน่ใจด้วยว่าได้ล้างน้ำจนสะอาดหมดจดแล้วก่อนจะนำไปตากให้แห้ง [49]
    • ล้างกรง คุณอาจพบว่าทำส่วนนี้ได้ง่ายที่สุดที่นอกบ้าน โดยใช้น้ำร้อนกับสบู่ขัดล้างกรง หากจำเป็น คุณอาจใช้แปรงสีฟันสะอาดๆ ขัด ให้ล้างและทำความสะอาดสิ่งของตกแต่งต่างๆ แบบเดียวกัน [50]
    • ฆ่าเชื้อโรคในกรง. คุณสามารถใช้กรงที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับสัตว์เลื้อยคลานเพื่อช่วยปกป้องสัตว์เลี้ยงของคุณ แต่ต้องทำให้แน่ใจว่าหลังจากนั้นได้ล้างจนสะอาดหมดจดแล้วด้วย [51]
    • ใส่แผ่นบุรองอันใหม่หรือใช้ทราย และเปลี่ยนทุกอย่างใหม่เช่นกัน ก่อนจะปล่อยให้ทุกอย่างแห้งดี หากบางสิ่งแห้งยาก คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่เป็นครั้งคราว [52]
    • แยกอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดกรงกิ้งก่าออกจากอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดสิ่งอื่น และให้แน่ใจว่าได้ล้างจนสะอาดเอี่ยมแล้วหลังจากใช้งาน กับอย่าลืมปิดท้ายโดยขัดถูมือของคุณเองด้วย [53]
  5. กรงที่มีอุปกรณ์ครบครันสามารถช่วยให้กิ้งก่าส่วนใหญ่เพลิดเพลิน เช่น มีก้อนหิน กิ่งไม้ พื้นที่เป็นโพรง และแม้แต่เหล่าต้นไม้ ขึ้นอยู่กับว่ากิ้งก่าตัวไหนชอบอะไร [54] คุณสามารถใช้เหยื่อมีชีวิตเพื่อช่วยบำรุง หรืออาจซ่อนอาหารกิ้งก่าเอาไว้จนทั่วกรง เพื่อช่วยให้มันมีบางสิ่งที่จะทำ [55]
    โฆษณา
  1. http://www.reptilesmagazine.com/Reptile-Health/Habitats-Care/Reptile-Lighting-Information/
  2. http://www.mypetsmart.com/care-guides/reptile/longtail-lizard/setup-steps.shtml
  3. http://www.reptilesmagazine.com/Reptile-Health/Habitats-Care/Reptile-Lighting-Information/
  4. http://www.reptilesmagazine.com/Reptile-Health/Habitats-Care/Reptile-Lighting-Information/
  5. http://www.reptilesmagazine.com/Reptile-Health/Habitats-Care/Reptile-Lighting-Information/
  6. http://www.reptilesmagazine.com/Reptile-Health/Habitats-Care/Reptile-Lighting-Information/
  7. http://www.mypetsmart.com/care-guides/reptile/longtail-lizard/setup-steps.shtml
  8. http://www.mypetsmart.com/care-guides/reptile/longtail-lizard/setup-steps.shtml
  9. http://www.peteducation.com/article.cfm?c=17+1796&aid=2847
  10. http://www.ridgefieldparkvet.com/lizard-care-info..html
  11. http://www.ridgefieldparkvet.com/lizard-care-info..html
  12. http://www.anapsid.org/substrates2.html
  13. http://www.rspca.org.uk/servlet/Satellite?blobcol=urlblob&blobheader=application%2Fpdf&blobkey=id&blobtable=RSPCABlob&blobwhere=0000000000000&ssbinary=true&Content-Type=application/pdf
  14. http://www.anapsid.org/substrates2.html
  15. http://www.rspca.org.uk/servlet/Satellite?blobcol=urlblob&blobheader=application%2Fpdf&blobkey=id&blobtable=RSPCABlob&blobwhere=0000000000000&ssbinary=true&Content-Type=application/pdf
  16. http://www.ridgefieldparkvet.com/lizard-care-info..html
  17. http://www.fishpondinfo.com/sailfins/sailcare.htm
  18. http://www.ridgefieldparkvet.com/lizard-care-info..html
  19. http://www.ridgefieldparkvet.com/lizard-care-info..html
  20. http://www.lllreptile.com/articles/142-notes-on-the-feeding-of-monitor-lizards
  21. http://www.birdvet.com.au/exotics%20care/weblizardinfo.htm
  22. http://www.anapsid.org/feedingtips.html
  23. http://www.lllreptile.com/articles/142-notes-on-the-feeding-of-monitor-lizards
  24. http://www.reptilesmagazine.com/What-Foods-to-Feed-Your-Reptiles/
  25. http://www.reptilesmagazine.com/Wild-Lizards/North-American-Lizards-Of-The-Sceloporus-Genus/
  26. http://www.birdvet.com.au/exotics%20care/weblizardinfo.htm
  27. http://www.reptilesmagazine.com/What-Foods-to-Feed-Your-Reptiles/
  28. http://www.ridgefieldparkvet.com/lizard-care-info..html
  29. http://www.anapsid.org/feedingtips.html
  30. http://www.ridgefieldparkvet.com/lizard-care-info..html
  31. http://www.reptilesncritters.com/care-guide-collard-lizards.php
  32. http://www.ridgefieldparkvet.com/lizard-care-info..html
  33. http://www.mypetsmart.com/care-guides/reptile/longtail-lizard/setup-steps.shtml
  34. http://www.mypetsmart.com/care-guides/reptile/longtail-lizard/setup-steps.shtml
  35. http://www.mypetsmart.com/care-guides/reptile/longtail-lizard/setup-steps.shtml
  36. http://www.ridgefieldparkvet.com/lizard-care-info..html
  37. http://www.peteducation.com/article.cfm?c=17+1796&aid=2847
  38. http://www.peteducation.com/article.cfm?c=17+1796&aid=2847
  39. http://www.peteducation.com/article.cfm?c=17+1796&aid=2847
  40. http://www.peteducation.com/article.cfm?c=17+1796&aid=2847
  41. http://www.peteducation.com/article.cfm?c=17+1796&aid=2847
  42. http://www.peteducation.com/article.cfm?c=17+1796&aid=2847
  43. http://www.peteducation.com/article.cfm?c=17+1796&aid=2847
  44. http://www.peteducation.com/article.cfm?c=17+1796&aid=2847
  45. http://www.thebeardeddragon.org/leopard-gecko/leopard-gecko-behavior.php
  46. www.reptilesmagazine.com/Lizards/How-to-Entertain-your-Dragon/

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 45,639 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา