ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แม้ว่าคุณจะมองไม่เห็น แต่ริ้นน้ำเค็มก็รอโอกาสที่จะทำให้ช่วงหน้าร้อนของคุณหมดสนุกเสมอ อีกชื่อหนึ่งของริ้นน้ำเค็มก็คือปึ่ง และเจ้าแมลงตัวจิ๋วที่บินไปบินมานี้ก็จะมากัดคุณ เกิดเป็นตุ่มนูนปวดๆ คันๆ ที่อาจกลายเป็นรอยแผลในบางคน [1] แต่โชคดีที่คุณสามารถบรรเทาอาการที่เกิดจากการโดนริ้นน้ำเค็มกัดได้ เมื่อคุณรับรู้ถึงอาการของการโดนริ้นน้ำเค็มกัดแล้ว คุณก็สามารถเริ่มรักษาตัวเองหรือเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ได้ นอกจากนี้คุณก็ยังสามารถใช้มาตรการป้องกันในการหลีกเลี่ยงไม่ให้ริ้นน้ำเค็มมากัดคุณได้อีกด้วย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

รักษารอยกัดด้วยตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณควรทำอย่างนี้ทุกครั้งหลังจากที่โดนแมลงกัด เพราะสบู่จะไปทำความสะอาดผิวบริเวณนั้นและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังล้างคราบน้ำลายของแมลงที่ติดอยู่บนผิวหนังด้วย [2]
  2. ใช้น้ำแข็งหรือถุงประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการปวดบวม. ห่อถุงน้ำแข็งหรือถุงประคบเย็นไว้ในผ้าแล้วประคบลงบนผิวหนังครั้งละ 15 นาที คุณสามารถประคบเย็นด้วยน้ำแข็งหรือถุงประคบได้วันละ 2-3 ครั้งในช่วง 2 วันแรกหลังจากที่คุณโดนกัด [3]
  3. คุณสามารถหาซื้อครีมไฮโดรคอร์ติโซน 1% ได้จากร้านขายยาทั่วไป เมื่อทาลงบนรอยกัดแล้ว มันจะช่วยบรรเทาอาการคันได้ [4] ปฏิบัติตามวิธีการใช้ตามที่ระบุอยู่บนบรรจุภัณฑ์เพื่อให้แน่ใจว่าคุณใช้ได้อย่างถูกต้อง
    • ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือหากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นม
    • ทาครีมลงบนตุ่มนูนโดยตรง ไม่ใช่ผิวบริเวณรอบๆ [5]
    • อย่าใช้ครีมไฮโดรคอร์ติโซนเกิน 7 วัน ยกเว้นว่าแพทย์สั่ง [6]
  4. ใช้โลชั่นคาลาไมน์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลดอาการคัน. นอกจากครีมไฮโดรคอร์ติโซนแล้ว คุณยังสามารถแตะโลชั่นคาลาไมน์ลงบนรอยกัดได้ด้วย เขย่าขวดโลชั่น จากนั้นเหยาะลงบนแผ่นสำลี แล้วแตะแผ่นสำลีลงบนตุ่มนูน [7]
    • อย่าลืมปฏิบัติตามวิธีใช้ที่ระบุข้างขวด
    • ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้โลชั่นคาลาไมน์กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือหากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นม
    • คุณสามารถใช้โลชั่นคาลาไมน์เท่าไหร่ก็ได้ตามต้องการแต่ต้องไม่เกิน 7 วัน ถ้าหลังจากนั้นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ให้ปรึกษาแพทย์ [8]
  5. ว่านหางจระเข้เป็นยารักษาจากธรรมชาติที่ช่วยลดอาการปวดและคันที่เกิดจากการโดนแมลงกัด [9] แตะว่านหางจระเข้เล็กน้อยลงบนตุ่มนูน
    • คุณสามารถหาซื้อว่านหางจระเข้ได้ตามร้านขายยาส่วนใหญ่หรือทางออนไลน์ แต่ต้องเลือกแบบที่ไม่มีส่วนประกอบอื่นปะปน เช่น อย่าซื้อโลชั่นทาตัวที่มีส่วนประกอบของว่านหางจระเข้ เพราะมันอาจจะไม่ได้ช่วยให้รอยกัดหายปวดและคัน
  6. ยาไดเฟนไฮดรามีน (เบนาดริล) เป็นตัวเลือกที่ดี แต่คุณก็อาจจะรับประทานชนิดที่ไม่ง่วงได้เช่นเดียวกัน ยาต้านฮิสตามีนจะไปลดปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อการกัด ซึ่งจะช่วยลดอาการคันได้ แต่ก็อาจจะทำให้ง่วงนอน [10]
    • ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยาต้านฮิสตามีน
    • รับประทานยาตามปริมาณที่ระบุไว้ที่บรรจุภัณฑ์เสมอ
    • จำไว้ว่ายาต้านฮิสตามีนบางตัวอาจทำให้คุณง่วง เพราะฉะนั้นอย่าขับรถหรือทำกิจกรรมที่ต้องจดจ่อเต็มที่
    • ถ้าคุณจำเป็นต้องรับประทานยาไดเฟนไฮดรามีนนานกว่า 7 วัน คุณควรปรึกษาแพทย์ และควรหยุดรับประทานเมื่ออาการหายไปแล้วเท่านั้น
  7. รับประทานยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เพื่อลดอาการปวดและการอักเสบ. คุณสามารถรับประทานไอบูโพรเฟน แอสไพริน หรือมอทรินเพื่อบรรเทาอาการปวดและบวมที่เกิดจากการถูกแมลงกัดได้ แต่ให้รับประทานแต่น้อยและอย่าผสมกับยาตัวอื่น [11]
    • รับประทานตามปริมาณที่ระบุไว้ที่บรรจุภัณฑ์
    • ปรึกษาแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่ายาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์นั้นปลอดภัยสำหรับคุณ
  8. เพราะมันจะทำให้แผลเปิดและเริ่มมีเลือดไหลออกมา ซึ่งนอกจากจะไม่น่าดูและเจ็บแล้ว ยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อด้วย และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือมันไม่ได้ช่วยให้คันน้อยลงเลย! [12]
  9. คิดไว้ว่าต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์กว่าแผลจะหาย. แม้ว่ามันต้องใช้เวลากว่าแผลจะหาย แต่คุณก็น่าจะสังเกตได้ว่ามันดีขึ้นทุกวัน ถ้ามันไม่ดีขึ้น คุณก็ควรไปพบแพทย์ [14]
    • ถ้าแผลแย่ลง ให้นัดแพทย์ทันทีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ติดเชื้อและไม่ได้มีอาการแพ้ อาการที่ควรสังเกตได้แก่ แผลมีขนาดใหญ่ขึ้น แดงขึ้น เป็นหนอง ปวด และบวม นอกจากนี้คุณก็อาจจะมีไข้หรือมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดใหญ่ด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ [15]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เข้ารับการรักษาทางการแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แม้ว่าจะพบได้ไม่บ่อยนัก แต่บางคนก็มีอาการแพ้หลังจากโดนริ้นน้ำเค็มกัด ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลทันที [16] อาการแพ้มีดังต่อไปนี้: [17]
    • หายใจลำบาก
    • ลิ้นบวม
    • เสียงแหบ
    • หมดสติ
    • อาการคันอย่างรุนแรง
    • เป็นสมพิษ
    • ชาหรือคันในปาก
  2. โชคร้ายที่รอยกัดสามารถติดเชื้อได้ ซึ่งอาจจะเกิดจากเชื้อโรคที่อยู่บนเหล็กในของแมลง หรือไม่การเกาก็อาจทำให้ติดเชื้อได้ถ้าผิวหนังเปิด อาการที่ควรสังเกตมีดังต่อไปนี้: [18]
    • มีไข้
    • ต่อมโต
    • มีอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่
    • เป็นหนอง
    • รู้สึกปวด
    • แผลบวม
    • แผลแดง
  3. รับประทานยาปฏิชีวนะทั้งหมดตามที่แพทย์จ่ายถ้ามี. แพทย์อาจจะจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาการติดเชื้อ ซึ่งคุณต้องรับประทานให้หมด ไม่อย่างนั้นอาการอาจจะกลับมาได้ [19]
  4. สอบถามแพทย์เรื่องการจ่ายยาสเตียรอยด์สำหรับอาการคันอย่างรุนแรง. ในกรณีที่เกิดขึ้นได้น้อยมากๆ นั้น แพทย์อาจจะรักษาด้วยสเตียรอยด์เพื่อลดอาการคันและการอักเสบอย่างรุนแรง ซึ่งการใช้สเตียรอยด์ก็อาจจะเป็นตัวเลือกถ้าไม่มีอะไรช่วยบรรเทาอาการได้แล้ว
    • แพทย์อาจจะให้สเตียรอยด์โโดยการฉีดเข้าเส้นหรือฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ
    • นอกจากนี้แพทย์ก็อาจจะจ่ายครีมไฮโดรคอร์ติโซนที่เข้มข้นกว่าให้ด้วย [20]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ป้องกันตัวเองจากริ้นน้ำเค็ม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้สเปรย์กันแมลงที่มีส่วนผสมของ DEET เพื่อฆ่าแมลง. ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถปกป้องคุณเวลาที่คุณออกไปกลางแจ้งได้ คุณอาจจะฉีดสเปรย์กันแมลงหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้บริเวณรอบๆ ไม่น่าอยู่สำหรับแมลง เช่น เทียน ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยต่อสู้กับริ้นน้ำเค็มได้ดีที่สุดก็คือ DEET แต่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ตะไคร้หอม ก็ช่วยได้เช่นกัน [21]
    • เวลาที่ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ คุณต้องปฏิบัติตามวิธีการใช้ทั้งหมด เพราะการใช้สเปรย์กันแมลงที่ไม่ถูกต้องอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
    • ใช้สเปรย์กันแมลงก็ต่อเมื่อคุณออกไปข้างนอกเท่านั้น และฉีดซ้ำตามที่ระบุไว้ที่ฉลากของผลิตภัณฑ์
  2. ทำให้แมลงเข้าถึงผิวหนังของคุณไม่ได้เพื่อที่มันจะได้ไม่กัดคุณ ปกปิดผิวหนังส่วนต่างๆ ด้วยการใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ถุงเท้า รองเท้า และหมวก คุณอาจจะถึงขั้นใส่หมวกที่มีตาข่ายบางๆ ปิดหน้าไว้อีกทีก็ได้เพื่อไม่ให้แมลงกัดหน้าคุณ! [22]
    • เสื้อผ้าสีอ่อนจะช่วยป้องกันแมลงได้ดีกว่าเสื้อผ้าสีเข้ม
  3. ปิดหน้าต่างและประตูในช่วงกลางถึงปลายหน้าร้อน. แมลงที่น่ารำคาญชนิดนี้จะเข้ามาในบ้านแล้วก็มากัดคุณ ริ้นน้ำเค็มนั้นตัวเล็กพอที่จะบินลอดมุ้งลวดเข้ามาได้ เพราะฉะนั้นคุณต้องปิดหน้าต่างให้สนิทเพื่อไม่ให้มันเข้ามาได้ เวลาที่พวกมันจะอยู่กันชุมที่สุดก็คือตอนเช้าและตอนเย็น เพราะฉะนั้นคุณต้องปิดหน้าต่างและประตูในช่วงเวลานี้ให้สนิท [23]
    • ติดม่านแม่เหล็กกันยุงและมุ้งลวดเพื่อช่วยกันแมลงออกไป
  4. การเปิดพัดลมทำให้แมลงบินเข้ามาในพื้นที่ได้ยากขึ้น จะเป็นพัดลมชนิดไหนก็ได้ แต่พัดลมแบบส่ายจะช่วยป้องกันบริเวณได้เป็นวงกว้างที่สุด [24]
    • ระมัดระวังเวลาใช้พัดลม! อย่าวางไว้ใกล้สระว่ายน้ำหรือแหล่งน้ำ เพราะมันอาจจะตกลงไปแล้วทำให้ไฟดูดได้ ดูให้ดีว่าเสียบสายต่ออย่างปลอดภัยและไม่เสี่ยงต่อการสะดุดล้ม
  5. หลีกเลี่ยงดินชื้นแฉะ เช่น รอบๆ ทางน้ำ ในฤดูกาลที่มีริ้นน้ำเค็มชุกชุม. ริ้นน้ำเค็มจะวางไข่ในดินชื้นแฉะ ซึ่งคุณมักจะพบแถวๆ บ่อน้ำ แม่น้ำ และทางน้ำอื่นๆ ฤดูกาลที่มีริ้นน้ำเค็มชุมที่สุดก็คือช่วงกลางถึงปลายหน้าร้อน ซึ่งคุณก็เจอริ้นน้ำเค็มได้บ่อยในช่วงเวลานี้ [25]
    • เวลาที่ไปตั้งแคมป์ในช่วงฤดูร้อน ให้เลือกบริเวณที่ไม่ใกล้ทางน้ำ
    • เนื่องจากบริเวณที่เป็นชายฝั่งนั้นเป็นที่อยู่อาศัยหลักของริ้นน้ำเค็ม ให้ดูแผนที่ท้องถิ่นก่อนไปเยี่ยมชมหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ในบริเวณชายฝั่ง
    โฆษณา

คำเตือน

  • ไปพบแพทย์ถ้ารอยกัดไม่ดีขึ้นหลังจากผ่านไปแล้ว 2-3 วัน
  • ระมัดระวังเวลาใช้สเปรย์กันแมลง ปฏิบัติตามวิธีใช้ที่ระบุไว้บนฉลากเสมอ เพราะถ้าใช้ไม่ถูกต้องอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
  • ไปพบแพทย์หากรอยกัดอยู่ใกล้ปากหรือตา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 29,068 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา