ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การดูแลต้นไม้ที่ไม่เคยเลี้ยงมาก่อนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะถ้าคุณไม่รู้ว่าต้นไม้ที่ว่านี้ต้องการอะไรหรือชอบอะไรมากที่สุด เฟิร์นเป็นไม้พุ่มที่สวยงามและเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นทั้งในร่มและกลางแจ้ง เฟิร์นมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ แต่โดยทั่วไปเฟิร์นทุกชนิดจะมีสิ่งที่ต้องการเหมือนกันคือน้ำ ความร้อน และร่มเงา การปลูกเฟิร์นในบริเวณที่เหมาะสมและหมั่นดูแลอยู่เสมอจะทำให้เฟิร์นเจริญเติบโตเต็มที่และอยู่ได้นานหลายปี (เฟิร์นบางสายพันธุ์อยู่ได้เป็น 100 ปีเลยนะ ไม่ได้ล้อเล่น!)

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ดูแลเฟิร์นในร่ม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปลูกเฟิร์นลงกระถางและใช้ดินที่มีรูพรุนที่ระบายน้ำได้ดี. เวลาเลือกกระถางสำหรับปลูกเฟิร์นในร่ม ให้เลือกกระถางดินหรือกระถางเซรามิกที่มีรูระบายข้างใต้ ใส่ดินปลูกที่มีรูพรุนลงไปครึ่งกระถาง จากนั้นเติมดินเพิ่มอีกเพื่อกลบรากเฟิร์น แต่ให้ใบเฟิร์นโผล่เหนือดินขึ้นมาเพื่อให้มันเจริญเติบโตได้ [1]
    • คุณสามารถหาซื้อดินผสมที่มีรูพรุนได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทำสวนส่วนใหญ่ โดยทั่วไปดินผสมเหล่านี้ก็จะแค่ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเพื่อให้เกิดหลุมอากาศ
    • ปริมาณดินที่ใช้ขึ้นอยู่กับขนาดของกระถางที่คุณเลือก ซึ่งคุณควรใช้กระถางใบใหญ่ตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องย้ายกระถางบ่อยๆ
    • คุณจะปลูกเฟิร์นไว้ในตะกร้าแขวนต้นไม้ก็ได้
  2. เลือกบริเวณในบ้านที่ไม่ค่อยโดนแสงแดดโดยตรงตลอดทั้งวัน แต่ก็ให้วางไว้ใกล้ๆ หน้าต่างเพื่อให้เฟิร์นยังคงได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์ (โดยทั่วไปบริเวณที่เหมาะที่สุดจะเป็นตรงหน้าต่างที่หันหน้าไปทางทิศเหนือ) แต่วางกระถางให้ห่างจากหน้าต่างสักหน่อย มันจะได้ไม่ร้อนเกินไป [2]
    • ถ้าคุณสังเกตว่าใบเฟิร์นเริ่มจะเป็นสีน้ำตาลหรือแห้งกรอบ แสดงว่ามันอาจได้รับแสงอาทิตย์มากเกินไป ลองย้ายกระถางไปวางไว้ที่อื่นหรือวางให้ห่างจากหน้าต่างสักระยะ
  3. เฟิร์นชอบความชื้นในอากาศสูงๆ เพราะเป็นสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย เปิดเครื่องทำความชื้นและวางไว้ข้างๆ เฟิร์นเพื่อให้เฟิร์นชุ่มฉ่ำและสดชื่น โดยตั้งค่าความชื้นในห้องให้อยู่ที่ 30% - 50% (เฟิร์นในป่าเจริญเติบโตได้ดีที่ความชื้น 70% แต่เราอาจไม่สามารถตั้งค่าสูงขนาดนั้นในที่ร่มได้) [3]
    • แม้ว่าบางครั้งเราจะสามารถใช้วิธีฉีดละอองน้ำเพื่อให้เฟิร์นชุ่มชื้นขึ้นได้ แต่การใช้เครื่องทำความชื้นนั้นทั้งสะดวกกว่าและได้ผลดีกว่า
  4. รักษาอุณหภูมิห้องให้อยู่ระหว่าง 16-22 องศาเซลเซียส. เฟิร์นในร่มส่วนใหญ่ชอบอากาศร้อนชื้น แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกสายพันธุ์ที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบร้อนชื้นก็ตาม ตั้งอุณหภูมิในบ้าน (หรืออย่างน้อยในห้องที่คุณวางกระถางเฟิร์น) ไว้ที่ประมาณ 21 องศาเซลเซียสในช่วงเวลากลางวันและต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในตอนกลางคืน เฟิร์นจะไม่ค่อยเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิต่ำ เพราะฉะนั้นถ้าไม่แน่ใจให้เพิ่มอุณหภูมิไว้ก่อน [4]
    • คุณอาจนำเฟิร์นไปวางไว้ข้างหน้าต่างในห้องน้ำ มันจะได้ทั้งความอบอุ่นและความชื้นโดยไม่ต้องลงแรง
  5. Watermark wikiHow to ดูแลต้นเฟิร์น
    เฟิร์นนอกจากจะชอบอากาศชื้นแล้วยังชอบดินชื้นด้วยเช่นกัน ผิวดินจะต้องชื้นอยู่เสมอ (แต่อย่าให้ถึงกับแฉะ) รดน้ำให้ทั่วเพื่อให้ดินเปียกและให้น้ำลงไปถึงราก [5]
    • ใช้น้ำค่อนข้างอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้องเสมอ อย่าใช้น้ำเย็น น้ำเย็นอาจทำให้ระบบรากช็อกได้เพราะเฟิร์นคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมแบบร้อนชื้น
    • ถ้าคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อากาศแห้ง ให้เติมก้อนหินและน้ำลงในจานรองกระถางและวางกระถางไว้บนจานรองอีกทีและพ่นละอองน้ำให้เฟิร์นเป็นประจำ วิธีนี้ช่วยให้เฟิร์นได้รับความชื้นเพิ่มอีกเล็กน้อย
  6. ใส่ปุ๋ยน้ำให้ต้นเฟิร์นเดือนละครั้งในช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายน. คุณไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยให้ต้นเฟิร์นบ่อยนักและถ้าใส่ปุ๋ยมากเกินไปเฟิร์นก็อาจจะตายได้ ผสมน้ำกับปุ๋ยน้ำสำหรับพืชเลี้ยงในบ้านเพื่อเจือจางความเข้มข้นลงครึ่งหนึ่ง จากนั้นเทลงในดินผสมเดือนละครั้งในฤดูกาลที่เฟิร์นเติบโตได้ดี [6]
    • ปุ๋ยสำหรับพืชเลี้ยงในบ้านนั้นมีไนโตรเจน โพแทสเซียม และฟอสฟอรัสสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่เฟิร์นต้องการเพื่อให้เจริญเติบโต
    • คุณจะใช้ปุ๋ยปลาแทนปุ๋ยทั่วไปก็ได้
  7. Watermark wikiHow to ดูแลต้นเฟิร์น
    เฟิร์นในบ้านมีโอกาสติดโรคบางชนิด แต่ส่วนใหญ่จะทนทานและไม่ค่อยป่วยเท่าไหร่ ถ้าต้นเฟิร์นเป็นสีน้ำตาลหรือตาย ให้ใช้กรรไกรเล็มกิ่งตัดส่วนที่เสียหายออก ถ้าเฟิร์นใกล้ตายเพราะไม่ค่อยได้ดูแล ให้ใช้กรรไกรตัดหญ้าตัดส่วนที่เสียหายหรือตายออก ถ้าเฟิร์นทั้งต้นกลายเป็นสีน้ำตาลและแห้งกรอบ คุณควรย้ายออกไปทันทีก่อนที่มันจะกระจายโรคไปยังพืชเลี้ยงในบ้านต้นอื่นๆ ด้วย [7]
    • ถ้าใบเฟิร์นกลายเป็นสีน้ำตาลหรือหงิกงอ แสดงว่ามันใกล้ตายแล้ว
  8. Watermark wikiHow to ดูแลต้นเฟิร์น
    ทุก 1-2 ปีให้เลือกกระถางใบใหม่ที่ใหญ่กว่าใบแรก คว่ำกระถางลงและเคาะก้นกระถางเพื่อให้เฟิร์นค่อยๆ หลุดออกมา จากนั้นนำลงดินในกระถางใหม่ทันที [8]
    • เฟิร์นแต่ละชนิดจะเติบโตเร็วช้าไม่เท่ากัน โดยทั่วไปเฟิร์นต้นใหม่จะต้องเปลี่ยนกระถางหลังจากผ่านไปแล้ว 6 เดือนถึง 1 ปี
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ดูแลเฟิร์นกลางแจ้ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปลูกเฟิร์นตรงจุดที่ได้ร่มเงาหรือมีร่มเงาบางส่วน. เฟิร์นเจริญเติบโตได้ดีใต้ร่มเงาที่ได้รับแสงแดดรำไรผ่านต้นไม้ใหญ่อย่างเพียงพอ ถ้าคุณปลูกเฟิร์นในสวนหลังบ้าน ให้มองหาพื้นที่ที่ค่อนข้างร่มตลอดวันเพื่อไม่ให้เฟิร์นแห้ง [9]
    • ถ้าเฟิร์นเติบโตได้ดีในสวนอยู่แล้ว คุณก็อาจจะไม่ต้องย้ายก็ได้
    • เฟิร์นเหมาะปลูกบนพื้นที่ลาดเอียงเพื่อช่วยป้องกันดินถล่ม เพราะรากจะไชลึกลงไปในดินและอายุยืนอยู่หลายทศวรรษ เพราะฉะนั้นเฟิร์นจะอยู่กับคุณไปอีกนาน
  2. Watermark wikiHow to ดูแลต้นเฟิร์น
    เฟิร์นต้องการความชื้นสม่ำเสมอ ถ้าคุณอยู่ในพื้นที่อากาศชื้น เฟิร์นก็จะได้รับความชื้นอยู่แล้ว แต่ถ้าฝนไม่ตก ให้รดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเพื่อให้เฟิร์นแข็งแรง เวลารดน้ำให้น้ำไหลไปที่รากไม่ใช่ตรงใบเพื่อไม่ให้ต้นเสียหาย [10]
    • ถ้าคุณอยู่ในภูมิอากาศป่าฝนเขตร้อนหรือป่าดิบชื้น เฟิร์นก็น่าจะได้รับความชื้นเพียงพออยู่แล้ว
  3. เฟิร์นที่ปลูกกลางแจ้งไม่ค่อยมีศัตรูพืชมากนักนอกจากพวกทากหรือโรคที่พบยาก 1-2 โรค แต่ถ้าคุณสังเกตเห็นใบเฟิร์นเสียหายหรือเป็นโรค ให้ใช้กรรไกรเล็มกิ่งตัดใบเหล่านั้นออก วิธีนี้จะช่วยรักษาความสมบูรณ์ของส่วนที่เหลือ และถ้ามันติดโรคมันก็จะช่วยไม่ให้โรคกระจายไปยังต้นไม้อื่นด้วย [11]
  4. แยกต้นเฟิร์นถ้าคุณอยากได้เฟิร์นต้นใหม่ไปปลูกที่อื่น. เมื่อเวลาผ่านไปต้นเฟิร์นจะใหญ่ขึ้น ในการแบ่งต้นเฟิร์นต้นใหญ่ออกเป็นต้นเล็กๆ หลายๆ ต้นนั้น ให้ขุดลงไปตรงราก ค่อยๆ รวบกลุ่มรากและใบที่แยกตัวจากเฟิร์นอยู่แล้ว จากนั้นก็นำต้นเล็กๆ เหล่านี้ลงดินตรงที่ใหม่ให้ห่างกันพอสมควรเพื่อให้มีพื้นที่ในการเติบโต [12]
    • ประเทศไทยสามารถแยกต้นเฟิร์นและนำไปปลูกใหม่ได้ตลอดทั้งปี
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคุณเห็นจุดสีเข้มๆ ตรงด้านล่างของใบเฟิร์น ไม่ต้องกังวล เพราะเป็นสปอร์ที่เรียกว่ากลุ่มอับสปอร์ของเฟิร์น ซึ่งเป็นสิ่งที่เฟิร์นใช้ขยายพันธุ์
  • ต้นเฟิร์นที่แข็งแรงสามารถแยกได้ทุก 2-3 ปี
  • เฟิร์นมีอยู่หลายสายพันธุ์ เพราะฉะนั้นพยายามศึกษาว่าเฟิร์นที่คุณเลี้ยงเป็นพันธุ์อะไร คุณจะได้ดูแลได้อย่างถูกต้อง
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าเฟิร์นได้รับแสงแดดโดยตรงหรือสม่ำเสมอ ใบอาจจะเหี่ยวและ/หรือกลายเป็นสีน้ำตาลได้
  • วางเฟิร์นในร่มให้ห่างจากช่องระบายอากาศหรือสิ่งที่อาจทำให้อากาศแห้ง
  • เพลี้ยหอย เพลี้ยแป้ง และไรมักจะมาเกาะอยู่ที่ต้นเฟิร์น เนื่องจากยาฆ่าแมลงใช้กับต้นเฟิร์นไม่ได้ วิธีกำจัดแมลงที่ดีที่สุดคือสะบัดหรือใช้มือหยิบแมลงออก
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ต้นเฟิร์น
  • ดินสำหรับปลูกในกระถางหรือในสวน
  • บัวรดน้ำ
  • ขวดสเปรย์
  • กระถาง (หากปลูกในร่ม)
  • ปุ๋ยต้นไม้
  • เทอร์โมมิเตอร์
  • มอสส์ วัสดุคลุมดิน และ/หรือกรวด
  • พลั่ว

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 168,631 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา