ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
เนื่องจากจำนวนประชากรของกระต่ายป่าที่เพิ่มมากขึ้นในเขตเมือง จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพบรังของลูกกระต่ายสูงขึ้น แต่น่าเสียดายว่ารังที่ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆ และลูกกระต่ายป่าที่ถูกย้ายออกจากรังโดยฝีมือมนุษย์ไม่น่าจะอยู่รอดได้โดยปราศจากการดูแลของสัตวแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ป่าที่มีความเชี่ยวชาญ ในหลายๆ รัฐจึงเป็นเรื่องผิดกฎหมายที่จะมีกระต่ายป่าไว้ในครอบครองเว้นแต่คุณเป็นผู้ดูแลที่ได้รับใบอนุญาต หากคุณต้องการดูแลลูกกระต่ายกำพร้าจริงๆ ในขณะที่คุณเอาพวกมันไปให้สัตวแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ป่า ลองให้บทความนี้เป็นตัวช่วยคุณดู
ขั้นตอน
-
ดูให้แน่ใจว่ากระต่ายต้องได้รับการดูแลอย่างแท้จริง. แม่กระต่ายอาจทำตัวลึกลับมาก มันจะออกจากรังระหว่างวันเพื่อหลีกเลี่ยงนักล่าแต่จะไม่ทิ้งลูกๆ หากพบรังของลูกกระต่ายให้ปล่อยพวกมันไว้ตามลำพังและหากคุณสังเกตว่าพวกมันต้องการความช่วยเหลือ (เช่น ตัวแม่ถูกรถชนตาย) คุณจะต้องนำมันไปให้สัตวแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ป่า
- กระต่ายพันธุ์หางฝ้าย (กระต่ายป่าพบในอเมริกา) ที่ยังไม่โตพอจะหย่านมอาจมีจุดสีขาวบนหน้าผาก ลูกกระต่ายบางตัวเกิดมาไม่มีตำหนิใดๆ บางตัวยังคงมีจุดขาวด่างบนใบหน้าตลอดชีวิตและในตัวอื่นๆ จุดนั้นจะหายไปเมื่ออายุมากขึ้น การมีหรือไม่มีจุดขาวด่างบนใบหน้าไม่ได้ระบุอายุหรือความจำเป็นในการดูแลกระต่าย
- ในกรณีของลูกกระต่ายที่ถูกย้ายออกจากสภาวะอันตราย (เช่น นักล่า) ให้คิดว่านี่เป็นมาตรการชั่วคราว ดูแลลูกกระต่ายให้อยู่ในที่ปลอดภัยและเงียบสงบจนกระทั่งเหตุการณ์อันตรายผ่านไป จากนั้นนำพวกมันกลับไปยังที่ที่มันถูกพบ แม่กระต่ายจะไม่ปฏิเสธลูกหากมีกลิ่นมนุษย์ติดมาด้วยและนี่คือ “โอกาสที่ดีที่สุด” ในการช่วยให้กระต่ายมีชีวิตรอด อย่างไรก็ตาม หากลูกกระต่ายถูกแมวทำร้าย “แผลใดๆ ก็ตาม” ที่ปนเปื้อนโดยกรงเล็บหรือฟันจะฆ่าลูกกระต่ายภายในไม่กี่วันและจำเป็นที่จะต้องนำพวกมันไปหาเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ป่าหรือสัตวแพทย์เพื่อให้ยาปฏิชีวนะช่วยชีวิต
-
เตรียมสถานที่ให้กระต่ายอยู่จนกว่าคุณสามารถช่วยพวกมันได้. กล่องไม้หรือพลาสติกที่มีด้านข้างสูงค่อนข้างเหมาะสำหรับทำที่อยู่ให้กระต่าย ใส่ดินปลอดสารพิษลงในกล่องและตามด้วยชั้นหญ้าแห้ง (ไม่ใช่เศษหญ้าชื้นๆ)
- ตักหญ้าแห้งออกให้เป็น “รัง” สำหรับที่อยู่ของลูกกระต่าย ถ้าเป็นไปได้ให้ใส่ขนที่มาจากรังจริงหรือจากกระต่ายเลี้ยงลงไปในรังด้วย อย่าใช้ขนหรือเส้นผมจากสัตว์สปีชีส์อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ควรใส่ขนของพวกนักล่า
- ถ้าคุณไม่สามารถนำขนกระต่ายมาได้ ให้ใส่ทิชชู่หรือผ้านิ่มๆ เป็นชั้นหนาๆ ลงไปในรัง
- วางปลายสุดของกล่องบนถุงหรือแผ่นพื้นทำความร้อน หรือตู้อบเด็กทารกเพื่อให้ลูกกระต่ายอบอุ่น วางแค่ด้านเดียวของกล่องให้หันเข้าหาความร้อนเพื่อให้ลูกกระต่ายสามารถขยับย้ายได้หากพวกมันรู้สึกอุ่นเกินไป [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
วางกระต่ายลงในรังอย่างเบามือ. คุณอาจใช้ถุงมือช่วยในการจัดการกับเจ้ากระต่ายเพราะพวกมันสามารถเป็นพาหะนำโรคและกัดคุณจนเลือดออกได้ กระต่ายป่าโตเต็มวัยส่วนใหญ่ถูกรบกวนจากพวกหมัด ส่วนลูกกระต่ายส่วนใหญ่นั้นไม่มีปัญหาเรื่องนี้แต่อาจมีเห็บดูดเลือดสักตัวสองตัวที่ต้องกำจัด หากคุณรู้สึกสะอิดสะเอียนที่จะกำจัดเห็บให้ถามคนที่มีประสบการณ์แต่คุณต้องระวังให้ดีเพราะเห็บอาจแพร่โรคสู่มนุษย์ได้ นอกจากนี้ให้ลูกกระต่ายพันธุ์หางฝ้ายคุ้นชินกับกลิ่นของมนุษย์ได้และมันจะกลับไปใช้สัญชาตญาณสัตว์ป่าเมื่อโตขึ้น
- จับลูกกระต่ายให้น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เนื่องจากพวกมันจะเครียดจากการสัมผัสมากเกินไปและอาจตายได้
- ค่อยๆ วางขนสัตว์ไม่เยอะมาก ทิชชู่ ผ้ากำมะหยี่ขนสั้นหรือผ้าเช็ดตัวลงบนตัวกระต่ายเพื่อให้ความอบอุ่นและความรู้สึกปลอดภัย
- ควรรู้ไว้ว่ากระต่ายป่าสามารถแพร่โรคไปยังกระต่ายบ้านได้ ให้ปฏิบัติตามสุขอนามัยอย่างระมัดระวังหลังสัมผัสกระต่ายป่าหรือของเสียโดยเฉพาะหากคุณมีกระต่ายตัวอื่นอยู่ด้วย
-
ใส่ฉากกั้นด้านบนของกล่องกระต่าย. ถ้าหากกระต่ายสามารถเดินได้แล้ว จึงจำเป็นต้องปิดคลุมมันไว้เพื่อป้องกันการกระโดดออกมาข้างนอก แม้ว่าจะผ่านมาแค่ไม่กี่สัปดาห์แต่พวกมันก็สามารถกระโดดได้อย่างเชี่ยวชาญ! คุณต้องแน่ใจว่าด้านบนของกล่องนั้นบังแสงได้
-
ปล่อยกระต่ายให้นอนอยู่ในกล่องเป็นเวลา 3 วัน. หลังจากนั้นคุณสามารถย้ายพวกมันไปในคอกเลี้ยงสัตว์เล็กๆ ได้โฆษณา
-
ถ้าเป็นกระต่ายพันธุ์หางฝ้ายที่ยังไม่ลืมตา มันจะต้องกินนมผง. ถ้ากระต่ายกระโดดไปมาแสดงว่ามันอาจต้องได้รับผักใบเขียวสดๆ หญ้าแห้งและน้ำอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถให้นมในจานหลุมแม้จะเป็นกระต่ายที่อายุมากกว่า เมื่อมันกินผัก (ไม่มียาฆ่าแมลงหรือสารเคมีกำจัดวัชพืช) ได้ดีและกระโดดวิ่งเล่นไปมานั่นหมายความว่า มันพร้อมที่จะถูกปล่อยไปในพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งคุ้มกันสำหรับป้องกันผู้ถูกล่าตัวน้อยๆ นี้แล้ว
- ไม่ว่ากระต่ายป่าใดๆ ก็ตามควรจะได้รับหญ้าแห้ง น้ำและผักใบเขียวสดๆ ประเภทที่มันสามารถหากินได้ในป่า แม้แต่กระต่ายอายุน้อยมากๆ ก็แทะกินผักและหญ้าแห้ง
- อย่างแรกเลย ลูกกระต่ายที่ถูกทิ้งไว้ลำพังมักจะขาดน้ำ ควรให้เกเตอเรด ไลท์ (เครื่องดื่มเกลือแร่) มากกว่าให้พีเดียไลท์ (ผงเกลือแร่) สำหรับการให้อาหารครั้งแรก พีเดียไลท์ใช้ได้กับสิ่งมีชีวิตส่วนมากแต่มีคาร์บอนมากเกินไปสำหรับกระต่าย
-
หากกระต่ายต้องการนมผง ควรให้ลูกกระต่ายกินนมที่มีส่วนผสมของนมแพะ. แม่กระต่ายให้นมลูกตอนช่วงค่ำและรุ่งเช้าประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ดังนั้นลูกกระต่าย (ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุ) อาจต้องการอาหารแค่วันละ 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม นมผงไม่ได้อุดมไปด้วยสารอาหารเหมือนกับนมแม่ ดังนั้นการให้อาหารบ่อยมากขึ้นจึงเป็นสิ่งจำเป็น หลังการให้นมลูกกระต่ายควรจะมีหน้าท้องเล็ก กลม (ไม่ป่อง) เมื่อหน้าท้องของมันไม่กลมอีกต่อไปแล้ว นั่นคือถึงเวลาที่ต้องให้อาหารอีก [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ผู้ดูแลส่วนใหญ่ให้นมเคเอ็มอาร์ผสม (นมทดแทนสำหรับลูกแมว) และมัลติมิลค์ (นมทดแทนใช้เลี้ยงลูกสัตว์) ที่หาซื้อได้จากร้านค้าจัดจำหน่ายสำหรับผู้ดูแลสัตว์ หากมีโปรไบโอติกควรเพิ่มลงไปในส่วนผสมด้วย และส่วนผสมนั้นควรจะเข้มข้นเหมือนนมของแม่กระต่ายซึ่งเข้มข้นกว่านมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กชนิดอื่น นั่นหมายถึงอัตราส่วนประมาณ 3 ส่วนของนมผง (โดยปริมาตร) ต่อน้ำกลั่น 4 ส่วน
- อย่าอุ่นนมโดยตรงแต่ให้แช่นมขวดในภาชนะที่ใส่น้ำอุ่นไว้ ใช้หลอดหยอดตาหรือจะดีกว่าถ้าใช้กระบอกฉีดยากับจุกนมยางที่แนบมา ใช้กระบอกฉีดยาขนาด 2.5 ซีซีกับลูกกระต่ายขนาดเล็กและค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นกระบอกฉีดยาขนาด 5 ซีซีกับกระต่ายที่เริ่มกินเยอะขึ้น ให้ลูกกระต่ายอยู่ในท่านั่งเพื่อไม่ให้นมไหลเข้าไปในจมูก! เตรียมทิชชู่ไว้ในมือให้พร้อมเพื่อเช็ดหยดนมที่ไหลเข้าไปในรูจมูกอย่างรวดเร็วด้วย!
- ไม่ควรให้ลูกกระต่ายกินนมวัว
-
ไม่ควรให้อาหารกระต่ายมากเกินไป. อาการบวมรวมทั้งอาการท้องเสียเนื่องจากการกินมากเกินไปคือสาเหตุการตายที่พบบ่อยในกระต่ายป่า ปริมาณสูงสุดในการให้อาหารขึ้นอยู่กับอายุของกระต่าย ควรตระหนักว่ากระต่ายพันธุ์หางฝ้ายมีขนาดเล็กกว่าและควรได้รับอาหารน้อยกว่าปริมาณที่แนะนำ คำแนะนำทั่วไปสำหรับปริมาณการให้อาหารกระต่ายมีดังนี้:
- กระต่ายแรกเกิดอายุ 1 สัปดาห์: 2-2.5 ซีซี / มิลลิลิตรในแต่ละมื้อ วันละ 2 ครั้ง
- กระต่ายอายุ 1-2 สัปดาห์: 5-7 ซีซี/มิลลิลิตรในแต่ละมื้อ วันละ 2 ครั้ง (ควรให้น้อยกว่าเมื่อกระต่ายมีขนาดเล็กมาก)
- กระต่ายอายุ 2-3 สัปดาห์: 7-13 ซีซี / มิลลิลิตรในแต่ละมื้อ วันละ 2 ครั้ง (ควรให้น้อยกว่าเมื่อกระต่ายมีขนาดเล็กมาก)
- นอกจากนี้ ยังสามารถให้กระต่ายที่อายุ 2-3 สัปดาห์กินหญ้าแห้งทิโมธี ข้าวโอ๊ตแห้ง อาหารเม็ดและน้ำ (เพิ่มผักสดสำหรับกระต่ายป่า)
- กระต่ายอายุ 3-6 สัปดาห์: 13-15 ซีซี / มิลลิลิตรในแต่ละมื้อ วันละ 2 ครั้ง (ควรให้น้อยกว่าเมื่อกระต่ายมีขนาดเล็กมาก)
-
หยุดให้นมผงเมื่อถึงเวลาเหมาะสม. โดยปกติแล้วกระต่ายพันธุ์หางฝ้ายจะหย่านมเมื่ออายุราว 3-4 สัปดาห์ ดังนั้นคุณไม่ควรให้นมผงไปจนอายุ 6 สัปดาห์ กระต่ายป่าพันธุ์แจ็คแรบบิท (พบในทวีปอเมริกาเหนือ มีหูและขาหลังที่ยาว) หย่านมหลังจากอายุ 9 สัปดาห์ ดังนั้นหลังจาก 9 สัปดาห์ควรให้กล้วยที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และแอปเปิ้ลหั่นเป็นชิ้นแทนนมผงโฆษณา
-
1สูตรอาหารลูกกระต่ายโดยใช้นมครีม-บันนี่ที่ข้นและมรโปรตีนกับไขมันสูง
-
2นมผงสำหรับลูกแมว (powdered kitten milk replacer) 1.5 ช้อนโต๊ะ
-
3น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
-
4ครีม 1 ช้อนชา
-
5ผสมทั้งหมดให้เข้ากันและเก็บไว้ในตู้เย็น. นำมาอุ่นเฉพาะเวลาที่คุณจะให้อาหารแต่ละครั้ง (หรือมากขึ้นเล็กน้อยถ้าคุณจะใช้ในจานตื้น) อย่าเอานมที่เหลือใส่กับไปรวมกับของเดิม มันจะใช้ได้แค่ 24 ชั่วโมง เกินจากนั้นให้ทิ้งและผสมใหม่
-
6คุณไม่จำเป็นต้องให้อาหารด้วยหลอดฉีดหรือที่หยอดยา. ใส่ในถาดหรือจานตื้นให้มันดื่มเองได้ ลูกกระต่ายส่วนใหญ่ชอบแบบนี้มากกว่าเมื่อมันลืมตาได้
-
ให้อาหารอย่างเบามือและช้าๆ. ให้กระต่ายที่จะให้อาหารอยู่ในท่าตามใจชอบและให้อาหารพวกมันอย่างเบามือ หากคุณพยายามให้ลูกกระต่ายดื่มนมเร็วเกินไปมันอาจจะสำลักและตายได้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ปกป้องลูกกระต่ายแรกเกิดที่ยังลืมตาได้ไม่เต็มที่. หากลูกกระต่ายอายุยังน้อยที่สามารถลืมตาได้เพียงบางส่วน คุณสามารถช่วยเหลือพวกมันได้โดยการห่อมันไว้ด้วยเศษผ้าอุ่นๆ คลุมตาและหูของมันเพื่อไม่ให้ตกใจกลัว
-
วางจุกนมขวดไว้ในปากของกระต่าย. เตรียมให้อาหารลูกกระต่ายแรกคลอดด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมากโดยการวางจุกนมขวดไว้ในปากของพวกมัน
- เอียงตัวกระต่ายไปด้านหลังเล็กน้อยและจัดการวางจุกนมระหว่างด้านข้างฟันของมัน ลองสังเกตว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสอดจุกนมไปตรงระหว่างฟันหน้าได้
- เมื่อจุกนมอยู่ระหว่างด้านข้างของฟัน เลื่อนมันรอบๆ ให้ไปอยู่ด้านหน้า
- ค่อยๆ บีบขวดเพื่อให้นมไหลออกมาเล็กน้อย
- ลูกกระต่ายจะเริ่มดูดนมภายในไม่กี่นาที
- ให้นมต่อไปเรื่อยๆ ประมาณ 3-4 วัน วันละ 2 ครั้งและครั้งสุดท้ายในรอบค่ำเหมือนที่แม่กระต่ายทำ
-
กระตุ้นลำไส้ของลูกกระต่ายแรกเกิด. ลูกกระต่ายพันธุ์หางฝ้ายแรกเกิดจำเป็นต้องถูกกระตุ้นให้ขับปัสสาวะและถ่ายอุจจาระตามการให้อาหาร ซึ่งทำได้โดยค่อยๆ ลูบอวัยวะเพศและทวารหนักของกระต่ายด้วยไม้แคะหูหรือลำลีก้อนเพื่อเลียนแบบการเลียของแม่กระต่าย [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ปล่อยให้กระต่ายออกไปกินหญ้าข้างนอก. ทันทีที่ลูกกระต่ายสามารถเดินได้ พวกมันควรใช้เวลาสัก 2-3 ชั่วโมงออกไปวิ่งเล่นบนสนามหญ้าข้างนอกบ้าง
- ให้พวกมันอยู่ในกรงลวดเพื่อป้องกันภัย คุณอาจต้องดูแลเพื่อให้มันปลอดภัยจากนักล่าและภัยอันตรายอื่นๆ
-
เริ่มปล่อยให้กระต่ายกินด้วยตัวเอง. เมื่อลูกกระต่ายอายุ 4 วันหรือโตกว่านั้น ให้ใส่ฝาภาชนะใส่น้ำลักษณะแบนเล็กลงในคอกกระต่าย
- คอยจับตาดูอย่างระมัดระวังว่าพวกมันเป็นอย่างไร ลูกกระต่ายควรเริ่มกินนมและน้ำได้โดยไม่ต้องคอยช่วยเหลือ
- ตรวจดูความชื้นภายในคอก พยายามให้นมชดเชยในส่วนที่หกไปเพื่อให้พวกมันได้รับอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ
- เติมนมและน้ำในตอนเย็นและตอนเช้าและไม่ควรให้นมกระต่ายเยอะเกินไป
- อย่าใส่จานน้ำหลุมลึกไปในที่อยู่ของกระต่ายเนื่องจากมันอาจจมน้ำได้ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองให้กระต่ายกินอาหารใหม่หลังจาก 4 วัน. หลังจากกระต่ายได้เรียนรู้การกินนมและน้ำด้วยตัวเองแล้ว คุณสามารถเอาอาหารอื่นๆ ออกจากคอกได้เช่น:
- หญ้าปลายแหลมสด
- หญ้าแห้ง
- ขนมปังชิ้นเล็กๆ
- ต้นโคลเวอร์แห้ง
- หญ้าทิโมธีแห้ง
- ชิ้นแอปเปิ้ล
- ข้าวโอ๊ต
-
ให้น้ำใหม่อยู่ตลอดเวลา. กระต่ายจำเป็นต้องรักษาความสะอาดและกินน้ำที่เปลี่ยนใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยในการย่อยอาหารและช่วยให้พวกมันรู้สึกชุ่มชื้น มีสุขภาพดีโฆษณา
-
ให้กระต่ายหย่านม. เมื่อกระต่ายโตพอที่จะดูแลตนเองได้แล้ว ให้พวกมันหย่านมเปลี่ยนมาเป็นกินหญ้าและพืชผักอื่นๆ แทน ดูให้แน่ใจว่ากระต่ายโตพอที่จะหย่านมแล้ว (สำหรับกระต่ายพันธุ์หางฝ้ายอายุ 3-5 สัปดาห์และกระต่ายพันธุ์แจ็คแรบบิท 9 สัปดาห์ขึ้นไป)
-
หยุดสัมผัสกระต่าย. กระต่ายจำเป็นต้องเตรียมตัวสำหรับการถูกปล่อยเข้าป่า ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ควรหยุดสัมผัสพวกมันเพราะพวกมันจะต้องพึ่งพาคุณน้อยลงและช่วยเหลือตัวเองมากขึ้น
-
ย้ายกระต่ายออกไปอยู่นอกบ้านเต็มเวลา. วางกรงลวดของกระต่ายที่มีหลังคาไว้นอกบ้านของคุณ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ดูให้แน่ใจว่าใต้กรงนั้นเป็นลวดเหล็กเพื่อให้พวกมันสามารถกินหญ้าได้และดูให้แน่ใจว่ารูกรงนั้นเล็กพอที่มันจะไม่หลุดออกไปข้างนอกได้
- ย้ายกรงไปในจุดที่แตกต่างกันในสนามหญ้าบ้านคุณเพื่อให้กระต่ายได้กินพืชสดใหม่เป็นประจำ
- จัดหาพืชผักต่างๆ เพิ่มเติมนอกจากหญ้า
-
ย้ายกระต่ายไปคอกที่ใหญ่ขึ้นเมื่อพวกมันโต. ย้ายพวกมันไปอยู่ในคอกที่ใหญ่ขึ้นบนพื้นหญ้านอกบ้านและยังคงให้อาหารด้วยผักต่างๆ เพิ่มเติมวันละ 2 ครั้ง คอกควรเปิดหรือมีก้นลวดด้านล่างและควรมั่นคงแน่นหนาเพื่อให้ปลอดภัยจากนักล่า
-
ปล่อยกระต่ายเข้าป่า. เมื่อกระต่ายมีขนาดประมาณ 8-9 นิ้ววัดจากกระต่ายอยู่ในท่านั่ง แสดงว่าพวกมันตัวใหญ่และปลอดภัยพอที่จะถูกปล่อยเข้าไปในป่าแล้ว [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากกระต่ายไม่สามารถดูแลตัวเองได้ให้คุณดูแลมันต่อไปแต่อย่าปล่อยให้พวกมันโตมากับการใช้ชีวิตในกรง
-
ติดต่อสำนักงานอนุรักษ์สัตว์ป่าในท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือ. หากกระต่ายนั้นโตพอที่จะปล่อยแต่ยังคงไม่สามารถหาอาหารเองได้ให้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพราะพวกเขารู้ว่าควรทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้โฆษณา
เคล็ดลับ
- ให้อาหารลูกกระต่ายในสถานที่เดิมทุกๆ ครั้ง พวกมันเริ่มรู้จักสถานที่ ซึ่งจำเป็นในการให้อาหารทำให้การรวมตัวแต่ละครั้งง่ายกว่าที่ผ่านมาเล็กน้อย
- หากเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่ากระต่ายตัวไหนที่คุณให้อาหารไปแล้ว ให้ป้ายจุดเล็กๆ ด้วยยาทาเล็บมีสีบนปลายหูของกระต่าย ต่อจากนั้นให้อาหารพวกมันตามลำดับที่แน่นอน (เช่น ลำดับตามสีรุ้ง)
- ใช้มุ้งลวดคลุมด้านบนของกรง น้ำหนักและความสะดวกในการเคลื่อนย้ายของมุ้งลวดทำให้ง่ายต่อการใส่และเอาออกและกระต่ายไม่สามารถทำหล่นได้
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระต่ายสามารถหายใจได้ หากคุณใส่มันลงในกล่องที่มีฝาปิดและต้องเจาะรูในกล่อง
- รักษาสภาพแวดล้อมของกระต่ายให้อยู่ในสภาวะเงียบสงบและปลอดจากการรบกวนของมนุษย์ให้เท่าที่เป็นไปได้
- รู้เอาไว้ว่าอันตรายจากการตั้งชื่อกระต่ายจะทำให้คุณยึดติดกับพวกมันและอาจทำให้คุณต้องการเลี้ยงพวกมันไว้
- ลูกกระต่ายกำพร้าในการดูแลของมนุษย์มีโอกาสตายถึง 90 เปอร์เซ็นต์ อย่ายึดติดมันมากเกินไปและดูแลพวกมันอย่างระมัดระวัง
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าให้กระต่ายกินผักโขม กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอกหรืออาหารที่คล้ายกัน อาหารเหล่านี้ทำให้กระต่ายท้องเสียหรือปวดท้องจากแก๊สในกระเพาะอาหาร จำไว้ว่ากระต่ายไม่สามารถปล่อยแก๊สได้ ดังนั้นอาหารเหล่านี้จะเป็นสาเหตุที่ทำให้กระเพาะอาหารขยายนั่นเอง!
- อย่าอุ่นนมจนร้อนเกินไปเมื่อคุณจะให้อาหารกระต่าย พวกมันจะไม่สามารถดื่มนมที่ร้อนหรือเปรี้ยวได้
- โปรดระวังให้มากเมื่อมีการสัมผัสสัตว์ป่าใดๆ ก็ตาม พวกมันสามารถเป็นพาหะนำโรคต่างๆ มากมายได้
- แน่ใจว่าแหล่งความร้อนที่ใช้สำหรับตู้อบกระต่ายแรกเกิดนั้นไม่ร้อนเกินไปและไม่สามารถเกิดไฟไหม้ลุกลามไปยังกล่องได้
- ห้ามกักขังสัตว์ป่าใดๆ ไว้นานเกินความจำเป็น
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- กล่องไม้หรือพลาสติกที่มีด้านข้าง
- ดินสะอาดและอ่อนนุ่ม
- หญ้าแห้งทิโมธีสะอาด
- ขนสัตว์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อ (หรือทิชชู่)
- ตู้อบเด็กทารก ถุงหรือแผ่นพื้นทำความร้อน
- ถุงมือหนัง
- เหยือกแก้ว
- ขวดนม
- จุกนมพลาสติกขนาดเล็ก
- นมปั่น
- ข้าวบดสำหรับเด็กอ่อน
- ผ้าเช็ดตัว
- ม่าน/ฉากกั้น
- กรงลวด (พร้อมด้วยหลังคาและก้นลวด)
- ต้นโคลเวอร์แห้ง (หรือหญ้าทิโมธีแห้ง)
- ข้าวโอ๊ต
- ขนมปัง
- อ่างใส่น้ำ
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.mybunny.org/info/caring-for-newborn-baby-rabbits/
- ↑ http://rabbit.org/faq-orphaned-baby-bunnies/
- ↑ http://www.mybunny.org/info/caring-for-newborn-baby-rabbits/
- ↑ http://www.2ndchance.info/bunnies.htm
- ↑ http://www.mybunny.org/info/caring-for-newborn-baby-rabbits/
- ↑ http://www.2ndchance.info/bunnies.htm
- ↑ http://www.2ndchance.info/bunnies.htm
โฆษณา