PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ลูกนกป่าทั้งหลายต้องเผชิญกับเรื่องท้าทายมากมายเพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พวกมันมักพบตัวเองออกมาอยู่นอกความปลอดภัยของรัง ซึ่งเสี่ยงจะมีอันตราย หากคุณพบลูกนกที่ต้องการความช่วยเหลือ มีหลายขั้นตอนที่คุณจะใช้ดูแลมันจนกว่าจะส่งต่อไปยังศูนย์อนุรักษ์และฟื้นฟูสัตว์ป่า คุณไม่สมควรพยายามจะเลี้ยงลูกนกด้วยตัวเอง อันที่จริง กฎหมายในหลายประเทศ (ตัวอย่างเช่น สหรัฐฯ และแคนาดา) กำหนดให้คุณต้องส่งลูกนกให้กับบุคคลมืออาชีพผู้มีใบอนุญาต [1] [2] ในอังกฤษนั้น คุณสามารถเอานกป่าเข้าบ้านและดูแลได้ หากพิสูจน์ได้ว่าคุณไม่ใช่เป็นผู้ที่ทำให้นกตัวนั้นบาดเจ็บเสียเอง [3] นกบางสายพันธุ์ที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จะต้องส่งให้กับเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูสัตว์ป่าผู้มีใบอนุญาต โดยทั่วไปนั่น คุณสมควรทำอย่างดีที่สุดที่จะปล่อยนกไว้ในถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ หรือส่งต่อให้กับผู้ที่ผ่านการฝึกเพื่อดูแลนก

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ส่งคืนลูกนกวัยยังไม่ออกจากรังให้กับพ่อแม่

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากพบลูกนกเกิดใหม่อยู่ตามลำพังในรัง อย่าทึกทักเอาเองว่าแม่นกทอดทิ้งลูก น่าจะเป็นไปได้มากกว่าว่า แม่นกออกไปหาอาหารให้ลูกและจะกลับมาในไม่ช้า
    • ไม่ว่าลูกนกจะร้องจิ๊บๆ และร้องคร่ำครวญมากเพียงใด ห้ามเคลื่อนย้ายลูกนกออกจากรัง คิดเสียว่าทำแบบนั้นคือการลักพาตัว
  2. ลูกนกวัยยังไม่ออกจากรัง คือลูกนกอ่อนที่ขนยังไม่ขึ้น บางครั้งพวกมันจะร่วงหล่นจากรัง ซึ่งทำให้ตกอยู่ในอันตราย สิ่งดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้สำหรับลูกนกวัยยังไม่ออกจากรัง คือ อย่านำมันกลับไปบ้าน แต่ให้พยายามนำกลับคืนรังของมัน
    • ค้นตามต้นไม้และพุ่มไม้ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อหารังที่ว่างเปล่า หากหาพบ ให้นำลูกนกวางกลับลงในรัง เพื่อที่มันจะได้รอแม่กลับมาหา
    • จงจำว่าต้องจับต้องลูกนกอย่างอ่อนโยน!
  3. จงทำรังนกสำหรับใช้ชั่วคราวหากหารังนกจริงไม่เจอ. นกอาจทำได้ดีทีเดียวในการซ่อนรังตามธรรมชาติ หากหารังนกไม่เจอ คุณสมควรจะยังคงพยายามให้ลูกนกกับแม่นกได้กลับมาอยู่ด้วยกัน โดยใช้รังที่มนุษย์ทำขึ้นเพื่อให้ลูกนกใช้นอนรอแม่
    • ใส่หญ้าแห้งหรือกระดาษชำระอเนกประสงค์ลงในกล่องหรือชามขนาดเล็ก แล้ววางลูกนกลงในรังสำหรับใช้ชั่วคราวนี้ อย่าใช้หญ้าสด เพราะอาจทำให้ลูกนกอ่อนหนาว
    • คุณอาจใช้ตะกร้ามีหูหิ้วได้เช่นกัน แล้วแขวนตะกร้ากับกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้ๆ
    • ทิ้ง "รัง" สำหรับใช้ชั่วคราวไว้แถว ๆ ที่คุณพบลูกนก รอดูว่าจะมีนกพ่อแม่มาดูแลลูกอ่อนหรือไม่ [4]
  4. [5] [6] [7] หากหลังจากรอคอยนานหนึ่งชั่วโมงหรือประมาณนั้น คุณยังไม่เห็นนกพ่อหรือนกแม่จะมาดูแลลูกเลย คุณสมควรติดต่อผู้เชี่ยวชาญ เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านฟื้นฟูสัตว์ป่าผู้มีใบอนุญาต มีอุปกรณ์ครบครันมากสุดที่จะช่วยให้ลูกนกมีสุขภาพดีและมีความสุข
    • หากไม่อาจหานักฟื้นฟูได้ด้วยตัวคุณเอง ให้ติดต่อสัตว์แพทย์ หรือร้านขายนก เพื่อขอให้แนะนำนักฟื้นฟูให้ สำหรับในไทยนั้น คุณอาจติดต่อ หน่วยช่วยเหลือนกป่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ฯลฯ
    • นักฟื้นฟูสัตว์ป่าจะต้องการรู้ว่าคุณพบลูกนกที่ไหน เพื่อที่เขาหรือเธอจะได้ส่งลูกนกกลับคืนรังเมื่อมันหายดีแล้ว จงระบุตำแหน่งที่พบให้ชัดเจนที่สุดที่สามารถทำได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เก็บลูกนกวัยมีขนขึ้นแล้วไว้ในป่า

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. มองหาขนบนตัวลูกนก.หากลูกนกมีขนขึ้นแล้ว มันไม่ใช่ลูกนกวัยยังไม่ออกจากรัง—แต่เป็นลูกนกวัยมีขนขึ้นแล้ว ลูกนกที่โตมากขึ้นแล้วพวกนี้กำลังเรียนรู้วิธีบิน
  2. มองหาอาการบาดเจ็บบนตัวลูกนกวัยมีขนขึ้นแล้ว. เป็นเรื่องค่อนข้างจะปกติสำหรับลูกนกวัยมีขนขึ้นแล้ว ที่จะอยู่นอกรัง พวกมันกระโดดออกจากรังและร่อนลงบนพื้นดิน เพราะเป็นส่วนหนึ่งของบทเรียนฝึกบิน พ่อแม่ของลูกนกวัยนี้น่าจะอยู่ใกล้ๆ เพื่อคอยสอนวิธีบินให้กับลูก
    • หากดูเหมือนลูกนกวัยมีขนขึ้นแล้วเดินโขยกเขยก หรือใช้ปีกข้างเดียว มันอาจจะบาดเจ็บ
    • หากไม่พบหลักฐานว่าลูกนกบาดเจ็บ จงแค่ปล่อยมันไว้ตามลำพัง การอยู่นอกรังเป็นส่วนปกติของชีวิตลูกนกวัยมีขนขึ้นแล้ว
  3. เคลื่อนย้ายลูกนกที่มีสุขภาพดีหากพวกมันอยู่ในอันตราย. ตรวจสอบบริเวณนั้นอย่างละเอียด—คุณเห็นหมา แมว หรือภัยคุกคามอย่างอื่นในบริเวณใกล้เคียงหรือไม่ ถึงหากลูกนกมีสุขภาพดี คุณก็อาจจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายมันเพื่อปกป้องมันจากภัยคุกคามอย่างทันทีทันใดบนพื้นดิน
    • วางลูกนกไว้ในพุ่มไม้ หรือวางให้สูงมากพอบนต้นไม้สักต้นหนึ่ง เพื่อช่วยให้ลูกนกรอดพ้นจากการเข้าถึงของสัตว์นักล่า
  4. เฝ้ามองและรอคอยพ่อแม่ของมัน.ให้เวลาพ่อแม่นกประมาณหนึ่งชั่วโมงที่จะกลับมา และตรวจดูลูก หากพ่อแม่นกยังไม่โผล่มาหลังจากนั้น คุณจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพเพื่อดูแลลูกนก
  5. [8] มีความสำคัญมากที่คุณจะจดจำอีกสักครั้งหนึ่งว่า นักฟื้นฟูสัตว์ป่ามีอุปกรณ์ครบครันที่สุดที่จะดูแลพวกนก จงหาผู้เชี่ยวชาญผู้มีใบอนุญาตสักคนหนึ่ง เพราะจะสามารถช่วยเหลือได้ดีที่สุดให้นกป่าของคุณมีชีวิตที่มีสุขภาพดี
    • จงจำว่าคุณต้องให้ข้อมูลเฉพาะว่าพบลูกนกแถวไหน
  6. หากหลังจากเฝ้าดูลูกนกนานสองสามนาทีแล้ว คุณตัดสินใจว่ามันป่วยหรือบาดเจ็บ คุณจำเป็นต้องหาความช่วยเหลือให้กับมัน ให้ช้อนตัวลูกนกขึ้นอย่างอ่อนโยน แล้ววางลงใน "รัง" ที่มนุษย์ทำขึ้น
    • อย่าพยายามรักษาอาการบาดเจ็บของลูกนกด้วยตัวคุณเอง สิ่งดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้สำหรับสัตว์ใดที่ป่วย คือหาการดูแลทางการแพทย์แบบมืออาชีพให้กับสัตว์ตัวนั้น
    • โปรดทราบว่าสัตว์แพทย์จำนวนมากจะไม่รักษาสัตว์ป่า แต่พวกเขาจะชี้ทางให้คุณไปหาผู้ที่จะช่วยรักษาให้ได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ดูแลลูกนกจนกว่าเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูสัตว์ป่าจะมารับ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. รังนกค่อนข้างเล็ก และเป็นพื้นที่ปิดทำให้ลูกนกรู้สึกปลอดภัยและไร้กังวล อย่าวางลูกนกที่หวาดกลัวลงในกล่องใบยักษ์ จงให้พื้นที่เล็กๆ และดีแก่ลูกนกเพื่อใช้เป็นที่อยู่
  2. ลูกนกอ่อนต้องการความอบอุ่นมากกว่ามนุษย์ —แม้เราจะมีความสุขในห้องซึ่งมีอุณหภูมิระหว่าง 21.1–23.9 องศาเซลเซียส (70–75 องศาฟาเรนไฮต์) แต่ลูกนกอ่อนต้องการสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิประมาณ 29 องศาเซลเซียส (85 องศาฟาเรนไฮต์) กระเป๋าน้ำร้อนหรือชวดน้ำร้อนเป็นเคล็ดลับที่คุณจะใช้ได้ และคุณสามารถใช้ตะเกียงความร้อนได้ด้วย
    • อย่าใส่น้ำที่ร้อนเกินไปในขวดน้ำ เพราะหากร้อนเกินไปจะทำให้ลูกนกบาดเจ็บได้
    • คุณน่าจะวางมือไว้ใต้ตะเกียง หรือบนอุปกรณ์ให้ความอบอุ่นต่างๆ ได้โดยตัวคุณไม่มีแผลไหม้ หรือรู้สึกเจ็บปวด
  3. ตะเกียงที่อยู่เหนือหัวน่าจะอยู่ที่ระยะห่างกำลังสบายสำหรับลูกนก เพื่อป้องกันไม่ให้ร้อนเกินไป หากคุณใช้วิธีให้ความร้อนโดยตรง เช่น ขวดน้ำร้อน อย่าวางลูกนกให้สัมผัสโดยตรงกับแหล่งความร้อน [9] จงใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์วางเหนือแหล่งความร้อนแทน โดยให้วางเป็นรูปรัง แล้ววางลูกนกข้างบนกระดาษ
  4. ยิ่งคุณสามารถทำให้ "รัง" เงียบและมืดมากยิ่งขึ้นเท่าไร ลูกนกอ่อนจะยิ่งรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ในสถานที่แปลกใหม่สำหรับมันแห่งนี้ ปิดกล่องด้วยผ้าห่มบางๆ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ แต่ทำให้แน่ใจว่าได้ทิ้งรูอากาศเอาไว้ให้ลูกนกหายใจได้ คุณอาจจะวางกล่องไว้ข้างในกรงหิ้วสำหรับหมาหรือแมวได้ด้วย
  5. นกตัวน้อยของคุณจะมีความสุขที่สุด เมื่อถูกปล่อยไว้ตามลำพังในพื้นที่เงียบๆ จงทำให้แน่ใจว่าเด็กๆ สัตว์เลี้ยง และสิ่งอื่นใดที่อาจทำให้ลูกนกกลัว อยู่นอกห้องที่คุณใช้วาง "รัง"
  6. คุณอาจคิดว่าลูกนกของคุณน่ารัก แต่มันอาจคิดว่าคุณน่ากลัว จงหักห้ามแรงกระตุ้นให้คุณจับต้องลูกนกเพื่อความพึงพอใจของคุณ แตะต้องลูกนกเพียงแค่มากสุดที่จำเป็นเพื่อนำมันใส่ลงในรังชั่วคราวของมัน
  7. นกสามารถเป็นพาหะนำเชื้อโรค และโรคภัยไข้เจ็บจำนวนมาก ทุกครั้งที่คุณจับต้องลูกนกให้ล้างมือในทันที ให้ลูกนกอยู่ห่างๆ จากห้องครัว และที่ใดก็ตามที่คุณจับต้องอาหาร คุณคงไม่ต้องการให้มีเศษมูลนกใด ๆ ปนเปื้อนอาหารของคุณ
  8. [10] [11] คุณอาจคิดว่าแปลก แต่ลูกนกอ่อนไม่ดื่มน้ำ หากคุณพยายามให้น้ำกับมันโดยใช้หลอดดูดยา หรือที่หยอดตา น้ำอาจเข้าไปในปอดของลูกนก และทำให้ตายได้
  9. ขอคำแนะนำเรื่องการป้อนอาหารจากผู้เชี่ยวชาญด้านฟื้นฟูสัตว์ป่า. [12] ติดต่อกับศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ป่าที่เต็มใจจะรับดูแลลูกนก และสอบถามด้วยว่าคุณสมควรจะป้อนอาหารลูกนกหรือไม่ หากทางศูนย์จะรับลูกนกไปดูแลในไม่ช้า ผู้แทนของทางศูนย์อาจบอกคุณให้รอจนกว่าพวกเขาจะป้อนอาหารให้มันได้เอง อย่างไรก็ตาม หากเกิดความล่าช้า ให้ทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญว่าจะใช้อะไรป้อนลูกนกวัยอ่อน
    • ไม่ใช่ว่านกทุกตัวจะกินอาหารเหมือนกัน การให้นม ขนมปัง หรืออาหารอื่นที่ "ฟังดูดี" อาจทำให้นกท้องร่วง หรือมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ จงทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าอย่างระมัดระวัง
  10. [13] จงทำเช่นนี้เฉพาะเมื่อคุณแน่ใจว่าลูกนกตัวนั้นกินเมล็ดพืช ( เช่น นกเขา นกพิราบ) คุณอาจแทนที่อาหารตามธรรมชาติของนกด้วยอาหารเม็ดสำหรับสุนัขเป็นช่วงสั้น ๆ จนกว่านกจะไปอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
    • แช่อาหารเม็ดในน้ำนานหนึ่งชั่วโมง ในอัตราส่วน อาหารเม็ด 1 ส่วน : น้ำ 2 ส่วน
    • ป้อนลูกนกด้วยอาหารเม็ดที่ตอนนี้พองน้ำแล้ว โดยใช้ชิ้นเล็กๆ ขนาดเท่าเมล็ดถั่ว
    • ทำให้แน่ใจว่าอาหารเม็ดที่ใช้ไม่ได้เปียกจนเกินไป จงจำไว้ว่าคุณไม่ต้องการให้น้ำเข้าไปในปอดของลูกนก!
    • คุณสามารถไปที่ร้านขายอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง และซื้อนมผงสำหรับป้อนด้วยมือสำหรับลูกนกแก้ว ทำตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์เรื่องการจัดเตรียมนมผง
  11. พานกไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม . เมื่อคุณได้ติดต่อกับนักฟื้นฟูสัตว์ป่าแล้ว คุณจะได้รับแจ้งว่าสามารถพานกไปหาได้เมื่อใด จนกว่าจะถึงตอนนั้น ให้ทำให้นกสงบกับเงียบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเพียงแค่ปล่อยลูกนกไว้ตามลำพัง
    • สัตว์แพทย์บางคนจะรับนกป่าเอาไว้ แล้วส่งต่อให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าแทนคุณ จงสอบถามสัตว์แพทย์แถวบ้านคุณว่าจะทำเช่นนั้นให้คุณได้หรือไม่
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พยายามให้ลูกนกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น และไม่เครียด
  • อย่าเคลื่อนย้ายลูกนกไปรอบๆ อยู่ตลอดเวลา จงปล่อยให้ลูกนกได้นอนหลับ
  • อย่าให้อาหารของนกโตแล้วแก่ลูกนกอ่อน เพราะไม่มีสารอาหารที่ลูกนกจำเป็นต้องใช้เพื่อให้เติบโตและแข็งแรง
  • สำหรับนกเล็กๆ คุณอาจใช้ได้แม้แต่ถุงพลาสติกที่เจาะรูอากาศตรงด้านข้าง เพื่อใช้เป็นที่อยู่ของนกช่วงสั้นๆ
  • ติดต่อศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ป่าหรือผู้เชี่ยวชาญใกล้บ้าน. คุณอาจค้นหาข้อมูลออนไลน์ หรือโทรหาสำนักงานควบคุมสัตว์หรือโรงพยาบาลสัตว์แถวบ้านคุณ [14]
โฆษณา

คำเตือน

  • การป้อนอาหารผิดประเภทให้กับลูกนกเกิดใหม่อาจเป็นอันตรายถึงตายได้
  • นกอาจเป็นพาหะนำโรค จงทำให้แน่ใจว่าคุณล้างมือแล้ว ( และ/หรือใช้ถุงมือลาเทกซ์) ทั้งก่อนและหลังการจับต้องลูกนก รวมทั้งอย่าปล่อยให้เด็กเล็กๆ เข้าใกล้ลูกนกด้วย
  • ทำได้ยากที่จะระบุสายพันธุ์ของลูกนกอ่อน
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • กล่องกระดาษหรือชามพลาสติก
  • กระดาษชำระอเนกประสงค์
  • ขวดน้ำร้อน/กระเป๋าน้ำร้อน และตะเกียง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 69,791 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา