ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การเลี้ยงสัตว์ไว้ในบ้านช่วยสร้างความบันเทิงและเป็นวิธีคลายเหงาได้ดีเยี่ยม แต่สัตว์ที่เลี้ยงในกรงบางชนิด อย่างเช่นหนูตะเภา อาจส่งกลิ่นเหม็นบ้างเป็นบางครั้ง การดูแลรักษาความสะอาดของที่อยู่หนูตะเภาเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดกลิ่นเหม็น หนูตะเภาที่แข็งแรงดีส่วนใหญ่จะดูแลความสะอาดของตัวเองได้ แต่หนูตะเภาขนยาวบางพันธุ์ก็อาจมีปัญหาในแง่นี้ เนื่องจากขนที่ยาวเป็นพิเศษนั่นเอง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

รักษาสภาพแวดล้อมให้สะอาด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำความสะอาดกรงหนูตะเภาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง. ถ้าจะทำความสะอาดให้หมดจด คุณจะต้องทิ้งวัสดุที่ใช้ปูพื้นกรงทั้งหมด ไม่ใช่แค่ทำความสะอาดจุดที่สกปรก เมื่อเอาวัสดุปูนอนออกแล้ว ให้ล้างพื้นและด้านข้างของกรงด้วยน้ำและสบู่ ล้างออกให้สะอาด แล้วใส่วัสดุปูนอนใหม่เข้าไปในกรง [1]
    • หลังจากใช้น้ำและสบู่ล้างกรงแล้ว คุณจะทำส่วนผสมน้ำสมสายชูขาวกับน้ำเข้มข้น 10% (น้ำส้มสายชู 1 ส่วนต่อน้ำ 9 ส่วน) เพื่อใช้ล้างกรงอีกทีก่อนเช็ดหรือตากพื้นกรงให้แห้งก็ได้ การใช้ส่วนผสมน้ำส้มสายชูนี้สัปดาห์ละครั้ง (ทุกครั้งที่ทำความสะอาดกรงทั้งกรง) อาจช่วยกำจัดกลิ่นได้
  2. คุณควรทำความสะอาดกรงบางส่วนทุกวัน นอกเหนือไปจากการทำความสะอาดกรงทั้งกรงสัปดาห์ละครั้ง โดยเฉพาะในกรณีที่คุณเลี้ยงหนูตะเภาหลายตัวในกรงเดียวกัน [2] สำหรับการทำความสะอาดตามจุด ให้เอาวัสดุปูนอนที่สกปรกแล้วออกไปทิ้งเมื่อถึงตอนเย็นของแต่ละวัน
    • หนูตะเภาส่วนใหญ่จะใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของกรงเป็นห้องน้ำ การทำความสะอาดพื้นที่ที่เป็นห้องน้ำนี้ทุกวันจะช่วยเรื่องกลิ่นและความสะอาดได้
  3. การทำความสะอาดตามจุดจะง่ายขึ้นหากคุณสามารถฝึกให้หนูตะเภาใช้กระบะทรายในการเข้าห้องน้ำได้ ให้ดูว่าปกติแล้วหนูตะเภาชอบใช้พื้นที่บริเวณไหนเป็นห้องน้ำ แล้ววางกระบะทรายสำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กไว้ในมุมนั้นของกรง
    • วางวัสดุปูนอนที่สกปรกแล้ว และมีก้อนอุจจาระใส่ไว้ในกระบะทราย เพื่อให้หนูตะเภาคุ้นชินกับกระบะใหม่ และเข้าใจว่าตรงนี้คือที่เข้าห้องน้ำ
    • หากหนูตะเภาใช้กระบะทรายเป็นห้องน้ำ ก็ให้ให้ขนมเป็นรางวัล หากมันเปลี่ยนบริเวณที่เข้าห้องน้ำ ก็ให้ขยับกระบะทรายไปที่บริเวณใหม่นั้น
    • ทำความสะอาดกระบะทรายทุกวัน โรยเบกกิ้งโซดาไว้ในพื้นกระบะทรายที่สะอาดอยู่ เพื่อช่วยกำจัดกลิ่น
    • อย่าใส่ทรายที่จับตัวเป็นก้อนสำหรับกระบะของแมวในกระบะทรายของหนูตะเภาเป็นอันขาด ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดคือวัสดุปูนอนที่ปลอดภัยสำหรับหนูตะเภา
  4. สเปรย์ทำความสะอาดที่ผลิตมาพิเศษสำหรับกรงสัตว์เล็กสามารถช่วยลดกลิ่นในกรงได้ ให้ไปดูที่ร้านขายของสำหรับสัตว์เลี้ยงดูว่ามีผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและใช้ได้กับหนูตะเภาหรือไม่ [3]
    • ก่อนจะใช้สเปรย์ทำความสะอาดกรง ให้เอาวัสดุปูนอนที่ใช้แล้วทั้งหมดออกจากกรง แล้วฉีดสเปรย์ถาดรองกรงให้ทั่ว
    • ปล่อยให้สเปรย์ทำความสะอาดซึมเข้าไปในกรงประมาณ 3-5 นาที
    • ใช้ผ้าขนหนูหยาบๆ เช็ดสเปรย์ทำความสะอาดและสิ่งสกปรกที่หลุดมาออกจากพื้นกรง
    • ปล่อยให้กรงแห้งสนิท (เอาไปตากแดดถ้าเป็นไปได้) นำวัสดุปูนอนใหม่ใส่ในกรง แล้วอุ้มหนูตะเภากลับเข้าบ้านของมัน
    • คุณยังควรใช้น้ำและสบู่เพื่อทำความสะอาดกรงอยู่ นอกเหนือไปจากการใช้สเปรย์ทำความสะอาดกรง
  5. วัสดุปูนอนที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อระงับกลิ่น เช่น CareFRESH Advanced Odor Control Small Animal Bedding จะช่วยให้กรงมีกลิ่นหอมนานขึ้นได้
    • ใส่วัสดุปูนอนหนา 1-3 นิ้วในกรงหนูตะเภา อย่าลืมเอาวัสดุปูนอนที่เปียกหรือสกปรกออกไปทิ้งทุกวันด้วย [4]
    • ถึงแม้ว่าวัสดุปูนอนระงับกลิ่นจะช่วยทำให้กรงหนูตะเภามีกลิ่นหอมขึ้น แต่คุณก็ยังควรทำความสะอาดกรงให้ดี และเปลี่ยนวัสดุปูนอนทั้งหมดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
    • เบกกิ้งโซดาถูกวางขายในฐานะตัวควบคุมกลิ่น แต่มันสามารถทำให้เกิดระคายเคืองและไม่ควรใช้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ทำความสะอาดหนูตะเภา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาบน้ำให้หนูตะเภาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้มันสะอาด. หนูตะเภาส่วนใหญ่ควรจะสามารถดูแลความสะอาดของตัวเองได้ แต่หนูตะเภาพันธุ์ขนยาวอาจต้องอาบน้ำบ่อยเป็นพิเศษ [5]
    • การอาบน้ำหนูตะเภาบ่อยๆ อาจทำให้มันเสี่ยงต่อการป่วย เนื่องจากมันหนาวง่าย คุณสามารถลดความเสี่ยงนี้ได้โดยการพันผ้าขนหนูอุ่นๆ ไว้รอบตัวหนูตะเภาจนกว่าขนมันจะแห้งสนิท [6]
    • การดูแลตัดแต่งขนและแปรงขนสามารถช่วยลดความจำเป็นในการอาบน้ำให้หนูตะเภาขนยาวได้ คุณสามารถใช้แปรงสำหรับเด็กทารกที่มีขนแปรงนุ่มๆ ในการแปรงขนให้หนูตะเภาได้ หรือคุณอาจจะอยากเล็มขนรอบก้นหนูตะเภาขนยาวเพื่อป้องกันไม่ให้ขนสกปรกมากเวลามันเข้าห้องน้ำ [7]
    • ถ้าคุณรู้สึกว่าหนูตะเภาของคุณต้องอาบน้ำบ่อยๆ ให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเปรียบเทียบความเสี่ยงจากการอาบน้ำบ่อย กับประโยชน์จากการที่หนูตะเภาตัวสะอาด
  2. ใช้เฉพาะแชมพูที่มีฉลากระบุว่าปลอดภัยสำหรับหนูตะเภา [8] หลีกเลี่ยงการใช้แชมพูสำหรับคนหรือน้ำยาล้างจาน เพราะมันอาจแรงเกินไปสำหรับหนูตะเภา และทำให้ผิวหนังระคายเคือง
    • แชมพูบางยี่ห้อที่ปลอดภัยสำหรับหนูตะเภาได้แก่ แชมพู Scentsations Premium Small Animal และแชมพู Posh ‘n Go Protein [9]
  3. หนูตะเภาจะผลิตขี้หูสีเทาที่ควรจะไม่มีกลิ่น ถ้าหูของหนูตะเภาของคุณมีกลิ่นเหม็นหรือแดง ให้นัดสัตวแพทย์ให้ตรวจดู เพราะแสดงว่าหนูตะเภาอาจหูอักเสบ
  4. หนูตะเภาทั้งตัวผู้และตัวเมียต่างมีต่อมกลิ่น อย่างไรก็ตาม ต่อมของตัวเมียจะทำงานน้อยกว่า ต่อมกลิ่นนั้นมีขนขึ้นบังและจะอยู่ตรงจุดที่ควรจะเป็นหาง และอยู่เหนืออวัยวะเพศ
    • ทำความสะอาดต่อมกลิ่นเดือนละครั้งด้วยสำลีก้าน น้ำอุ่น สบู่ กับน้ำมันมะพร้าว
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การดูแลโดยทั่วไปเพื่อลดกลิ่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณยังม่เคยเลี้ยงหนูตะเภา เลือกตัวเมียเพราะจะส่งกลิ่นน้อยกว่าตัวผู้มาก
    • นอกจากนี้ ควรเลือกเลี้ยงหนูตะเภาเป็นคู่แทนที่จะเลี้ยงเป็นฝูง หนูน้อยตัวก็ส่งกลิ่นน้อยกว่าและทำสกปรกน้อยกว่า
  2. อย่างเช่นหญ้าทิโมธี (timothy hay), หญ้าตามเรือกสวนหรือทุ่งหญ้า หนูตะเภาต้องกินหญ้าเพื่อให้ฟันไม่ยาวเกินไป และรักษาสมดุลในระบบทางเดินอาหาร [10]
    • เลือกหญ้าสดโดยดูจากสี กลิ่น และสภาพใบ ส่วนใหญ่จะขายกันเป็นถุง ซึ่งมักจะไม่สดและวางอยู่บนชั้นนับเดือน หญ้าแก่นั้นจะหนา เหลืองและมีกลิ่นอับ หญ้าสดจะเขียว นุ่มและฟู
    • ถ้าใส่สะระแหน่ ใบแดนดิไลอ้อน ผักชีฝรั่ง หรือผักชีไปกับหญ้า อาจช่วยทำให้กรงมีกลิ่นหอมสดชื่น และทำให้หนูตะเภาได้กินอาหารที่มีประโยชน์อีกด้วย ทั้งหมดนี้มีแคลเซียมสูง จึงควรจำกัดปริมาณที่ต้องใส่
  3. หลีกเลี่ยงการให้อาหารที่ไม่เหมาะสมแก่หนูตะเภา. อาหารบางอย่างทำให้หนูตะเภามีลมในกระเพาะและปวดท้อง อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่ ผักกาดแก้ว บร็อคโคลี่ และกะหล่ำดาว
    • ของว่างที่ให้หนูตะเภากินได้แทนได้แก่ กีวี่ ส้มเป็นกลีบๆ และพริกหยวก [11] สิ่งเหล่านี้ล้วนมีวิตามินซีสูง ซึ่งหนูตะเภาต้องได้รับถึงจะสุขภาพแข็งแรง ผักใบเขียวอย่างเช่น เคล (kale) ผักชีฝรั่ง ผักกาดโรเมน และใบเทอร์นิพ ก็ล้วนเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน
    • สำหรับของกินเล่น ให้ลองผลกีวี่ แอปเปิล สตรอเบอร์รี่ หรือของกินเล่นที่ซื้อจากร้านสัตว์เลี้ยง (แต่ห้ามเม็ดโยเกิร์ต!) หลีกเลี่ยงผลไม้ตระกูลส้มเพราะกรดอาจทำใหปากหนูตะเภาเกิดระคายเคือง
  4. กลิ่นเหม็นมักเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในท่อปัสสาวะหรือเป็นโรคไต กลิ่นที่แรงมากยังอาจเป็นสัญญาณของการขาดน้ำ [12] พาไปหาสัตวแพทย์ที่เชี่ยวชาญสัตว์จำพวกหนูเพื่อตรวจสุขภาพ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อาบน้ำให้หนูตะเภาเฉพาะในกรณีที่กลิ่นมันเหม็นมากๆ [13] ส่วนใหญ่แล้วหนูตะเภาเป็นสัตว์ที่สะอาดจนน่าแปลกใจเลยทีเดียว
  • เช็ดตัวหนูตะเภาให้แห้งสนิทหลังอาบน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้มันหนาวและป่วย [14]
  • เช็ดกรงด้วยน้ำยาทำความสะอาดกรงกลิ่นหอมๆ ที่มีฉลากระบุว่าปลอดภัยสำหรับหนูตะเภา
  • ทำความสะอาดกรงให้หมดจดทุกสัปดาห์ แยกชิ้นส่วนกรงแล้วเอาทุกอย่างในกรงออกมา และตากกรงให้แห้งในแดดทุกครั้งที่สามารถทำได้
  • หนูตะเภาตัวเมียอาจสร้างกลิ่นน้อยกว่าตัวผู้ หากคุณยังไม่ได้ซื้อหนูตะเภาของตัวเอง ให้ลองพิจารณาซื้อตัวเมียดู
  • เล็มขนหนูตะเภาขนยาวให้เรียบร้อยเพื่อรักษาความสะอาดของมัน
โฆษณา

คำเตือน

  • การทำความสะอาดหนูตะเภาบ่อยๆ เป็นการกำจัดน้ำมันที่จำเป็นในขนและผิวหนังของมันเพื่อรักษาขนกับผิวให้สุขภาพดี หนูตะเภาอาจขนร่วงเป็นหย่อมๆ หากคุณอาบน้ำให้มันมากเกินไป ปกติแล้วไม่จำเป็นต้องอาบน้ำหนูตะเภาเกินเดือนละครั้ง นอกจากว่าสัตวแพทย์จะแนะนำให้อาบเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ
  • ค่อยๆ สอนให้หนูตะเภารู้จักการอาบน้ำอย่างช้าๆ ทำให้มันชินกับการนั่งอยู่ในน้ำอุ่นลึก 1 นิ้ว ป้อนขนมที่มันชอบให้กิน แล้วค่อยๆ ราดน้ำไปบนตัวมัน จากนั้นค่อยถูแชมพูแล้วล้างน้ำออก หนูตะเภาจะไม่ได้ชอบอาบน้ำกันทุกตัว แต่พวกมันเรียนรู้ที่จะทนกระบวนการอาบน้ำได้


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 19,953 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา