ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไม่ว่าคุณต้องการทำให้เท้าอันหยาบกร้านนุ่มขึ้นหรือเพียงแค่อยากจะดูแลตัวเองให้มากขึ้น การทำเล็บเท้าก็เป็นคำตอบหนึ่ง เพียงแค่ใช้เวลาและความพยายามเล็กน้อย คุณก็จะมีเท้าอันอ่อนนุ่มและเล็บเท้าที่สวยงามจนใครๆ อิจฉา

  1. เพื่อการทำเล็บอย่างมีคุณภาพ คุณต้องอาศัยอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับการดูแลเล็บ เตรียมกะละมังและน้ำไว้สำหรับแช่เท้า กรรไกรตัดเล็บ ตะไบเล็บ แท่งไม้แต่งเล็บ ตะไบขัดเงาเล็บ หินขัดเท้าหรือแปรง น้ำยาสีใสสำหรับเคลือบเล็บหลังทาและรองพื้นก่อนทา และยาทาเล็บสีที่ต้องการ อุปกรณ์เพิ่มเติมที่อาจใช้หรือไม่ก็ได้ ได้แก่ เกลืออาบน้ำสำหรับแช่เท้า อุปกรณ์แต่งจมูกเล็บ น้ำยาบำรุงจมูกเล็บ และโลชั่นสำหรับทาเมื่อเสร็จ [1]
  2. แม้จะเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้ว แต่การลบสีทาเล็บเก่าออกเป็นขั้นตอนสำคัญขั้นตอนแรกในการดูแลเล็บ การทาสีใหม่ทับสีเก่าไม่ใช่เรื่องง่าย ใช้น้ำยาล้างเล็บเช็ดสีเก่าออกจากเล็บให้หมด รวมทั้งบริเวณจมูกเล็บด้วย
  3. เติมน้ำร้อนใส่กะละมัง และเติมเกลืออาบน้ำหรือน้ำมันลงไปด้วยได้หากต้องการ ตอนนี้คุณก็ได้เวลาผ่อนคลายแล้ว! แช่เท้าเป็นเวลาสิบนาที น้ำร้อนจะทำให้ผิวที่หยาบกร้านอ่อนนุ่มลงและชะล้างสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อาจสะสมอยู่ออก นอกจากนี้ยังช่วยทำให้เล็บและจมูกเล็บนิ่มลง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการเตรียมพร้อมเพื่อทาเล็บ
  4. เริ่มจากตัดแต่งเล็บให้สั้นลง โดยใช้กรรไกรตัดเล็บตัดเล็บเท้าให้สั้นพอเห็นส่วนสีขาวที่ปลายนิ้ว ควรตัดเล็บให้มีรูปร่างค่อนข้างเหลี่ยมตามรูปร่างโดยธรรมชาติของนิ้วเท้า ใช้ตะไบขัดขอบเล็บแหลมๆ จากการตัด และแต่งเป็นรูปร่างอื่นๆ ที่ต้องการ
    • ไม่ควรตัดเล็บโค้ง เพราะอาจทำให้เป็นเล็บขบได้
    • หากเป็นไปได้ พยายามตะไบเล็บไปทางเดียวกันเพื่อที่จะได้ไม่ทำให้เล็บลอกเป็นชั้นและทำให้เล็บเสีย
  5. แม้ขั้นตอนนี้จะไม่ใช่ขั้นตอนที่จำเป็น แต่ก็เป็นขั้นตอนที่จะเตรียมเล็บให้พร้อมมากขึ้นสำหรับการทาเล็บ ใช้แท่งไม้แต่งเล็บขูดจมูกเล็บรอบเล็บเบาๆ หากมีกรรไกรตัดจมูกเล็บให้ตัดจมูกเล็บที่งอกออกมาเยอะเกินไป เสร็จแล้วให้ทาน้ำมันบำรุงจมูกเล็บเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวที่บอบบาง
  6. ใช้แท่งขัดเงาเล็บขัดขอบเล็บที่นูนและไม่เรียบ ควรใส่ใจขอบส่วนที่เพิ่งเล็มหรือตะไบเป็นพิเศษ เพราะโดยปกติควรทำให้ส่วนนี้โค้งเล็กน้อย ใช้แท่งขัดเล็บขัดไปในทางเดียวกันและเอียงปรับองศาเพื่อให้ขัดได้ทั่วถึงทั้งเล็บ
  7. เมื่อถึงเวลาจัดการกับเท้า ใช้หินขัดผิวหนังที่หยาบกร้านบริเวณส้นเท้าและเนินปลายเท้า อาจขัดค่อนข้างแรงได้เพราะผิวหนังส่วนนี้มักจะหนาและด้าน หลังจากที่ขัดผิวหนังที่แห้งและหยาบกร้านออกไปแล้ว จึงใช้แปรงขัดทำความสะอาดทั้งเท้า โดยขัดระหว่างนิ้วเท้า รวมทั้งส่วนที่เว้าของฝ่าเท้า อาจใช้สบู่ร่วมด้วยหากต้องการให้สะอาดยิ่งขึ้น
    • ล้างเท้าด้วยน้ำเล็กน้อยหลังจากขัดเสร็จ
    • ไม่ควรใช้ตะไบที่มีลักษณะเหมือนตะไบขูดชีสขัดเท้าส่วนที่หยาบกร้าน เพราะไม่ปลอดภัยและอาจทำให้เกิดการติดเชื้อจากเชื้อราได้
  8. นำเท้าออกจากกะละมังและเทน้ำออก เช็ดเท้าให้แห้งและอาจทาโลชั่นได้หากต้องการ หากเลือกทาโลชั่น ให้ใช้น้ำยาล้างเล็บเช็ดที่เล็บอีกครั้งด้วย เพราะโลชั่นอาจทำให้สีทาเล็บไม่ติดได้ [2]
  9. ใช้น้ำยาทาเล็บสีใสเคลือบเล็บทุกนิ้วเป็นชั้นแรก จะช่วยป้องกันไม่ให้เล็บเหลืองจากการทาและยังช่วยรองพื้นให้ยาทาเล็บด้วย
  10. เลือกสีน้ำยาทาเล็บและทาลงบนเล็บ เริ่มทาจากบริเวณกลางเล็บใกล้จมูกเล็บ และทาออกไปหาปลายเล็บจนเต็มเล็บ ใช้นิ้วหรือหรือขอบแท่งไม้ขัดเล็บเช็ดสีที่เปื้อนออกมาถูกผิวหนัง อาจต้องทาเล็บซ้ำสองครั้งเพื่อให้ได้สีที่เข้มพอ
  11. รอสักพักให้ยาทาเล็บแห้ง แล้วจึงเคลือบด้วยยาทาเล็บสีใสซึ่งจะช่วยให้สีที่ทาอยู่ตัวและอยู่ได้นานโดยไม่กะเทาะออก จากนั้นให้เท้าอยู่เฉยๆ ในช่วง 10-15 นาทีที่รอยาทาเล็บแห้ง ลองแตะบริเวณที่ทาเล็บดูว่ายังคงหนืดติดมืออยู่หรือไม่ หากแตะแล้วรู้สึกเรียบลื่น กดแล้วสีไม่เปื้อนออก ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ได้เวลาอวดเล็บเท้าสวยๆ และเพลิดเพลินไปกับเท้านุ่มๆ ของคุณแล้ว [3]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทำความสะอาดอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ อุปกรณ์ที่สกปรกอาจเป็นที่สะสมของแบคทีเรียซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อเมื่อใช้ในครั้งต่อไป
โฆษณา

ข้อควรระวัง

  • ตรวจดูอุณหภูมิของน้ำก่อนแช่เท้าเสมอเพื่อป้องกันน้ำลวก
  • ระวังเมื่อเล็มจมูกเล็บ เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ และตัดเล็บให้เป็นแนวตรงเสมอ ไม่เช่นนั้นอาจเป็นเล็บขบได้

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,721 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา