คุณภาพอากาศเป็นสิ่งสำคัญต่อความปลอดภัยในบ้านเป็นอย่างมาก แต่ทุกคนกลับมองข้ามไป เพราะสารเคมีร้ายแรงหรือก๊าซพิษอาจจะแพร่กระจายภายในบ้านและเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพทีละน้อย อย่างไรก็ตาม บทความนี้มีเครื่องมือและวิธีทดสอบคุณภาพอากาศภายในบ้านอย่างง่ายๆ ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์สำหรับบ้านเรือน นอกจากนี้ การจ้างมืออาชีพเพื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในบ้านก็เป็นความคิดที่ดี
ขั้นตอน
-
ซื้อเครื่องตรวจสอบคุณภาพอากาศ. คุณสามารถหาซื้อเครื่องตรวจสอบคุณภาพในอากาศได้ตามร้านทั่วไป ซึ่งจะช่วยตรวจวัด (และบันทึก) คุณภาพอากาศภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือส่วนใหญ่ที่มีขายมักจะตรวจสอบฝุ่นในระดับขนาด 2.5 ไมครอน (PM2.5) (อนุภาคฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศที่คุณหายใจเข้าไป) สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย เช่น สารเคมีที่เป็นพิษ (Volatile Organic Compounds: VOCs) อุณหภูมิ และความชื้น (สำหรับวัดเชื้อรา) [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เครื่องตรวจสอบคุณภาพอากาศที่น่าเชื่อถือได้ในท้องตลาดคือยี่ห้อ Foobot Awair Speck และ Air Mentor 6 in 1
- อุปกรณ์เหล่านี้มีราคาระหว่าง 3,000-10,000 บาท
-
ตรวจหาสัญญาณหรืออาการที่เกี่ยวข้องกับเชื้อรา. คุณตรวจสอบได้ว่ามีเชื้อราเติบโตอยู่ในบ้านหรือไม่ด้วยการใช้สายตาและการดมกลิ่น ถ้าคุณได้กลิ่นเหม็นอับจากส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน และการทำความสะอาดไม่สามารถดับกลิ่นนั้นได้ คุณอาจจะต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบดูว่ามีเชื้อราอยู่ในบ้านหรือไม่ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นอกจากนี้ คุณยังต้องลองสังเกตสัญญาณของเชื้อราผ่านสายตา เช่น จุดดวงๆ สีดำๆ จุดที่เปียกน้ำ หรือจุดที่อับชื้นในบ้าน
-
ติดตั้งเครื่องตรวจสอบก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ทุกๆ ชั้นในบ้าน. คาร์บอนมอนออกไซด์เป็นก๊าซไร้กลิ่น ไร้สี ไร้รสชาติที่เกิดจากเครื่องใช้ต่างๆ ในบ้าน (เช่น เตา ที่ผิงไฟ เตาหลอม เครื่องทำน้ำร้อน และเตาย่าง) ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากสูดดมเข้าไป ดังนั้น การติดตั้งเครื่องตรวจสอบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในทุกๆ ชั้นของบ้านคือสิ่งที่สำคัญ เพื่อเตือนคุณถ้าปริมาณก๊าซนั้นมากเกินไป [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ติดตั้งเครื่องตรวจสอบใกล้กับห้องนอนเพื่อให้คุณได้ยินเมื่อเกิดการแจ้งเตือนขึ้นระหว่างที่กำลังหลับอยู่
- หมั่นตรวจสอบและเปลี่ยนแบตเตอรี่ของเครื่องอยู่เสมอ กฎที่ควรยึดไว้คือการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกๆ 6 เดือนหรือนานกว่านั้น แม้ว่าเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปตามรุ่นที่ใช้ก็ตาม
-
ตรวจสอบธาตุเรดอนที่บ้านด้วยตัวเอง. เรดอนเป็นธาตุกัมมันตรังสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น การสลายตัวของธาตุยูเรเนียม สารเหล่านี้อาจตรวจพบได้ในดินและบ่อน้ำ และบางครั้งอาจจะแทรกซึมเข้าไปในตัวบ้าน วิธีเดียวที่จะป้องกันการปนเปื้อนกัมมันตรังสีได้คือการตรวจหา คุณสามารถซื้อเครื่องตรวจสอบได้ตามร้านขายอุปกรณ์สำหรับบ้าน [4] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ United States Environmental Protection Agency ไปที่แหล่งข้อมูล
- การตรวจสอบส่วนใหญ่จะเป็นการวิเคราะห์จากถ่านไม้ โดยทำการทิ้งวัตถุตรวจจับรังสีไว้ในบ้านของคุณเป็นระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นเก็บรวบรวมและส่งไปยังห้องปฏิบัติการแล้วรอผลการวิเคราะห์
- นอกจากนี้ ศูนย์บริการตรวจสอบกัมมันตรังสีแห่งชาติ ที่มหาวิทยาลัยประจำรัฐแคนซัส มีส่วนลดสำหรับการซื้อเครื่องตรวจสอบออนไลน์ที่เว็บไซต์ http://sosradon.org/test-kits .
-
ใช้เครื่องฟอกอากาศ. เครื่องฟอกอากาศมีประโยชน์ในการเพิ่มคุณภาพอากาศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาภูมิแพ้ การใช้เครื่องฟอกอากาศมักจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะจะช่วยกักอนุภาคฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ จากอากาศมากกว่าแผงกรองอากาศ [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ United States Environmental Protection Agency ไปที่แหล่งข้อมูล
- วางเครื่องฟอกอากาศไว้ในห้องนอนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับผลประโยชน์จากเครื่องฟอกอากาศมากที่สุด (ขณะนอนหลับ) เมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของบ้าน
-
เปลี่ยนแผงกรองอากาศทุก 2-3 เดือน. เมื่อคุณเริ่มสงสัยคุณภาพอากาศในบ้าน การเปลี่ยนแผงกรองอากาศก็เป็นความคิดที่ดี คุณควรจะเปลี่ยนแผงกรองอากาศทุกๆ 90 วันสำหรับบ้านโดยทั่วไป แต่ถ้าคุณสงสัยว่าคุณภาพอากาศในบ้านนั้นแย่มาก คุณก็อาจจะเปลี่ยนแผงกรองอากาศบ่อยๆ ก็ได้ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณมีสุนัขหรือแมวอยู่ในบ้าน ให้เปลี่ยนแผงกรองอากาศทุก 60 วัน
- ถ้าคุณ (หรือคนอื่นในบ้าน) เป็นภูมิแพ้ คุณควรจะเปลี่ยนแผงกรองอากาศทุกๆ 20-45 วัน
โฆษณา
-
จ้างมืออาชีพในการวัดคุณภาพอากาศในบ้าน. ถ้าคุณคิดว่าคุณภาพอากาศในบ้านของคุณนั้นแย่มาก คุณควรจะจ้างมืออาชีพที่สามารถวัดคุณภาพอากาศและให้คำแนะนำกับคุณได้ ถามเพื่อน นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ หรือบริษัทก่อสร้างเพื่อหาผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในพื้นที่ของคุณ มืออาชีพจะสามารถตรวจสอบอากาศที่แย่ได้ดังต่อไปนี้ [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Consumer Reports ไปที่แหล่งข้อมูล
- เชื้อราภายในบ้าน
- สีทาบ้านที่ผสมสารตะกั่ว
- อนุภาคฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ
- มลพิษที่เกี่ยวข้องกับควัน
- น้ำยาปรับอากาศ เทียน และตะเกียง
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน
- ก๊าซและอนุภาคจากการเผาไหม้
-
จ้างผู้เชี่ยวชาญด้านกัมมันตรังสีเพื่อตรวจสอบบ้านของคุณ. ถ้าคุณสงสัยว่าบ้านของคุณมีระดับกัมมันตรังสีที่สูง คุณอาจจะต้องจ้ามืออาชีพในการแก้ปัญหา คุณสามารถติดต่อกับหน่วยงานราชการ หรือกรมอนามัยเพื่อหารายชื่อผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยกำจัดกัมมันตรังสีออกจากบ้านได้ [8] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Consumer Products Safety Commission ไปที่แหล่งข้อมูล
- คุณยังสามารถใช้แผนที่ระบุตัวแทนพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อหามืออาชีพทางด้านกัมมันตรังสีในพื้นที่ของคุณได้ที่เว็บไซต์ https://www.epa.gov/radon/find-information-about-local-radon-zones-and-state-contact-information
-
จ้างมืออาชีพตรวจสอบถ้าคุณต้องการผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ.ถ้าคุณกำลังจะซื้อหรือขายบ้าน การตรวจสอบคุณภาพอากาศบ่อยๆ จะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ที่คุณจะยื่นกู้เงินผ่าน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศที่สูงจากอุตสาหกรรมหรือธรรมชาติ (เช่นการเกิดไฟป่าบ่อยๆ) ในกรณีเหล่านี้ การตรวจสอบด้วยตัวเองอาจจะไม่เพียงพอ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จ้างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ตรวจสอบคุณภาพอากาศในบ้าน โดยเฉพาะคนที่นายหน้า ผู้ให้กู้ หรือผู้ตรวจสอบบ้านแนะนำ
- ถ้าคุณหามืออาชีพที่แนะนำไม่ได้ ลองศึกษาด้วยการอ่านบทวิจารณ์ออนไลน์จากลูกค้าที่เคยใช้บริการในพื้นที่ของคุณ
- คุณยังสามารถตรวจสอบใบรับรองของมืออาชีพที่คุณคาดว่าจะจ้างได้ เช่น ใบรับรองการเป็นสมาชิกหน่วยงานพัฒนาคุณภาพ (Indoor Air Quality Association) หรือ ใบรับรองการเป็นที่ปรึกษาด้านคุณภาพอากาศในบ้านผ่านองกรณ์นานาชาติ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
สังเกตความรุนแรงของอาการภูมิแพ้. อาการภูมิแพ้อาจเกิดจากอากาศหรือฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง แต่ก็มักจะเกิดจากอากาศในบ้านทำให้เกิดอาการระคายเคือง ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าอาการภูมิแพ้ของคุณรุนแรงมากขึ้น ก็อาจจะถึงเวลาที่จะทำการตรวจสอบคุณภาพอากาศในบ้านของคุณ อาการแพ้ที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยมีดังต่อไปนี้ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อาการไอ
- จาม
- น้ำตาไหล
- คัดจมูก
- ปวดหัว
- เลือดกำเดาไหล
-
เฝ้าระวังอาการแปลกๆ หรืออาการของโรคใหม่ๆ. คุณอาจจะคิดว่าการป่วยนั้นไม่เกี่ยวข้องกับคุณภาพอากาศภายในบ้าน แต่บ่อยครั้งที่ความคิดนี้เป็นจริง เพราะการปนเปื้อนสารบางชนิด เช่น ใยหิน พิษจากเชื้อรา และสารเคมีอื่นๆ อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะถ้าคุณมีอาการปวดบวมหรือหลอดลมอักเสบบ่อยๆ ดังนั้น ถ้าคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ให้ตรวจสอบคุณภาพอากาศในบ้าน [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เวียนหัว
- คลื่นใส้
- ผื่นคัน
- มีไข้
- หนาวสั่น
- อ่อนเปลี้ยเพลียแรง
-
ตรวจสอบการก่อสร้างในบ้านและละแวกใกล้เคียง. การก่อสร้างบ้านอาจส่งผลต่อคุณภาพอากาศภายในบ้านของคุณ เพราะเมื่อมีการปรับปรุงบ้านใหม่หรือมีการก่อสร้างใหม่เกิดขึ้น อากาศก็อาจจะปนเปื้อนไปด้วยอนุภาคฝุ่น สารเคมี และสิ่งอันตรายต่างๆ ที่อาจสะสมอยู่ในระบบหมุนเวียนอากาศในบ้านของคุณ [13] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ United States Environmental Protection Agency ไปที่แหล่งข้อมูล
- แม้แต่การก่อสร้างที่เกิดจากเพื่อนบ้านก็ส่งผลเสียต่อคุณภาพอากาศในบ้านคุณ ดังนั้น ดูให้ดีว่าคุณคอยสังเกตอยู่ตลอด
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://energysmartohio.com/indoor-air-quality/which-indoor-air-quality-monitors-are-best-and-why/
- ↑ https://moldblogger.com/mold-warning-signs-how-to-tell-if-you-have-a-mold-problem/
- ↑ https://www.safety.com/carbon-monoxide-detector-placement/#gref
- ↑ https://www.epa.gov/radon/find-radon-test-kit-or-measurement-and-mitigation-professional
- ↑ https://www.epa.gov/indoor-air-quality-iaq/guide-air-cleaners-home
- ↑ https://www.serviceexperts.com/faq/how-often-should-i-change-my-air-filter-at-home
- ↑ https://www.consumerreports.org/cro/magazine/2012/06/is-poor-indoor-air-quality-making-you-sick/index.htm
- ↑ https://www.cpsc.gov/Safety-Education/Safety-Guides/Home/The-Inside-Story-A-Guide-to-Indoor-Air-Quality
- ↑ http://www.greenhomeguide.com/askapro/question/what-tests-can-i-do-myself-to-check-how-healthy-my-home-is
โฆษณา