ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไม่ว่าคุณจะกอดเพื่อนหรือว่าขยับเข้าไปใกล้เพื่อนสักหน่อยบนโซฟา คุณก็ไม่อยากจะต้องมากังวลเกี่ยวกับกลิ่นตัวแน่นอน กลิ่นตัวหอมจะทำให้คุณมั่นใจยิ่งขึ้นและทำให้คุณน่าหลงใหลมากขึ้น เริ่มต้นง่ายๆ จากการดูแลตัวเองและใส่เสื้อผ้าที่สะอาด หลังจากนั้นคุณยังสามารถใช้น้ำหอมของคุณและทำให้คนรอบข้างสงสัยว่าทำอย่างไรจึงมีกลิ่นหอมได้เช่นนี้ ลองดูที่ขั้นแรกเลยเพื่อกลิ่นตัวที่หอมละมุน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สะอาดเสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณต้องการจะไม่มีกลิ่นตัว เริ่มด้วยการทำความสะอาดร่างกาย ส่วนคุณต้องอาบน้ำบ่อยเพียงไรขึ้นอยู่กับร่างกายของคุณ กิจกรรมที่คุณทำในแต่ละวันและสภาพอากาศด้วย คนส่วนใหญ่อาบน้ำวันละครั้ง แต่หากคุณเล่นกีฬาหรืออาศัยอยู่ในที่ๆ อากาศร้อน คุณอาจต้องอาบมากกว่าหนึ่งครั้ง หากผิวของคุณแห้งมาก อาบน้ำเพียงครั้งเดียวก็น่าจะเพียงพอ แต่ต้องมั่นใจว่ากลิ่นตัวของคุณไม่ได้แรงจนเกินไป
    • ตอนอาบน้ำให้ล้างผิวด้วยสบู่และน้ำอุ่น ต้องมั่นใจว่าคุณล้างสิ่งสกปรก เหงื่อไคล และแบคทีเรียที่สร้างกลิ่นตัวออกจนหมด
    • หากไม่แน่ใจว่ามีกลิ่นไหม ให้ไปล้างตัวเพราะการใช้น้ำหอมหรือสเปรย์ระงับกลิ่นกายไม่ได้ช่วยสักเท่าไร
    • หากคุณไม่อยากสระผมทุกวัน (บ้างกล่าวว่าจะทำให้ผมแห้งและเสีย) ใช้แชมพูแบบดรายที่มีส่วนผสมของแป้งที่จะดูดซับน้ำมันบนผมเพื่อทำให้ผมสะอาดในวันที่คุณไม่ได้สระและไม่ดูมันจนเกินไป
  2. มีคนเพียง 2% เท่านั้นที่มียีนที่ทำให้ใต้วงแขนไม่มีกลิ่น [1] พวกเขาคือผู้โชคดี แต่พวกเราต้องอาศัยสารระงับกลิ่นกายตลอดเวลา ใช้หลังจากการอาบน้ำ และใช้ซ้ำหากจำเป็น
    • ลองเลือกที่มีส่วนผสมของ deodorant และ antiperspirant หากคุณมีเหงื่อออกใต้วงแขนด้วย
    • สารระงับกลิ่นกายมาทั้งในรูปแบบแท่ง เจล หรือสเปรย์ คุณสามารถซื้อสารระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติหรือทำเอง โดยใช้ผงฟูและน้ำมันมะพร้าว ใช้สารตัวที่คุณชอบและทำให้คุณมีกลิ่นหอมที่สุด
    • หากคุณใช้น้ำหอมหรือโคโลญจน์ อย่าใช้สารระงับกลิ่นกายที่มีกลิ่นแรงจนเกินไป เพราะคุณคงไม่อยากให้กลิ่นแรงๆ ทั้งหมดตีกันหรอก
  3. ทาแป้งเล็กน้อยหลังจากอาบน้ำจะช่วยให้สดชื่น แค่เช็ดตัวให้แห้งสนิทหลังจากนั้นทาแป้งที่ใต้วงแขนและเท้า หรือตามความชื่นชอบ แป้งจะช่วยให้ผิวของคุณแห้งและเย็นตลอดวันในวันที่ร้อนและชื้น
    • คุณสามารถซื้อแป้งสำหรับผู้ใหญ่หรือแป้งเด็กก็ได้ ใช้ได้เหมือนกัน คุณอาจซื้อแบบที่ไม่มีกลิ่นเพราะแป้งเด็กมักจะมีกลิ่นแตกต่างกันไป
    • ไม่อยากซื้อแป้ง? ทำเองเลย ใช้แค่แป้งข้าวโพด หากคุณต้องการใช้แป้งมีกลิ่น ก็เพียงแค่นำสำลีแช่ในน้ำหอมหรือน้ำมันสกัด ใส่สำลีลงไปขวดโหลและปิดด้วยแป้งข้าวโพด ใช้แป้งด้วยการใช้ที่ปัดหน้า [2]
  4. การใช้เสื้อผ้าซ้ำๆ หลายๆ วันจะทำให้คุณมีกลิ่น ดังนั้นต้องมั่นใจว่าซักผ้าเป็นประจำ ใช้ผงซักฟอกที่มีกลิ่นหอมหรือไม่มีก็ได้ ไม่ได้สำคัญเท่าการที่เสื้อผ้าของคุณสะอาด
    • คุณอาจพกเสื้อผ้าไปเปลี่ยนหากคุณออกไปไหนทั้งวัน บางคนอาจพกชุดชั้นใน กางเกง ถุงเท้าหรือเสื้อซับในเผื่อกรณีฉุกเฉิน
    • หากคุณทำงานในที่ๆ มีกลิ่นแรงหรือใกล้กับคนที่สูบบุหรี่จัด คุณอาจดูแลเสื้อผ้าเป็นพิเศษเพื่อให้ไม่ติดกลิ่นมา ซักเสื้อผ้าให้บ่อยขึ้นและใช้สารระงับกลิ่นกายที่มีกลิ่นแรง และใช้เนื้อผ้าที่นุ่มก็ช่วยได้เช่นกัน
    • นำเสื้อโค้ทหรือเสื้อผ้าที่ไม่สามารถซักได้ นำไปซักแห้งสองสามเดือนครั้งเพื่อไม่ให้มีกลิ่น
    • ตรวจสอบกระเป๋า เป้ หมวกหรืออุปกรณ์ต่างๆ เช่นกัน ซักพวกมันบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้มันทุกวัน
  5. หากคุณกังวลว่าเท้าจะมีกลิ่น ก็ควรสครับเท้าตอนอาบน้ำ เช็ดให้แห้ง และทาแป้งก่อนที่จะใส่ถุงเท้าและรองเท้า พกถุงเท้าคู่ใหม่ไปเปลี่ยนระหว่างวัน ต้องมั่นใจด้วยว่ารองเท้าของคุณก็สะอาด รองเท้าเก่าๆ มักจะมีกลิ่นเสมอ
    • แยกระหว่างรองเท้าที่ใช้ออกกำลังกายกับรองเท้าปกติ คุณไม่ควรใช้รองเท้าที่ใส่วิ่ง ใส่ไปโรงเรียนหรือทำงาน
    • พกแป้งที่ใช้กับเท้าเผื่อว่าคุณต้องใช้ระหว่างวัน
    • หากเป็นไปได้ให้ใส่ถุงเท้าทุกครั้ง การใส่รองเท้าโดยไม่ใส่รองเท้าจะทำให้เท้าของคุณเหงื่อออกมากขึ้น และทำให้เกิดกลิ่นได้
  6. ฝึกการมีอนามัยทางช่องปากเพื่อให้คุณมีกลิ่นปากที่สดชื่นตลอดเวลา ควรแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทุกวัน และพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อจัดการกับคราบหินปูน คุณจะได้ไม่ต้องเจอกับปัญหากลิ่นปาก คุณยังสามารถทำสิ่งด้านล่างนี้เพื่อให้มีกลิ่นปากที่สดชื่นตลอดวัน
    • ดื่มน้ำมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหาร น้ำจะช่วยชะล้างเศษอาหารและทำความสะอาดช่องปากของคุณ
    • ใช้น้ำยาบ้วนปากแบบไม่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้ปากแห้ง และนำไปสู่กลิ่นปาก ใช้แบบที่ช่วยให้ลมหายใจสดชื่นและไม่มีแอลกอฮอล์ ใช้ทุกครั้งหากคุณต้องการทำความสะอาดช่องปากอย่างรวดเร็ว
    • หลีกเลี่ยงกระเทียม หัวหอม และอาหารเผ็ดจัดๆ ในวันที่คุณต้องมีลมหายใจสดชื่น การกำจัดกลิ่นแรงๆ เหล่านี้ด้วยน้ำยาบ้วนปากเป็นเรื่องยากมาก และถึงแม้แปรงฟันบ้วนปากแล้วก็อาจไม่ช่วยลบกลิ่นได้
    • พกลูกอมมินต์ที่คุณสามารถหยิบขึ้นมาอมเพื่อให้ลมหายใจสดชื่นได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้น้ำหอมหรือโคโลญจน์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากลิ่นที่เหมาะกับสไตล์ของคุณและทำให้ตัวตนคุณเด่นชัดขึ้น กลิ่นที่ดีจะเป็นกลิ่นที่คุณดมได้ทั้งวัน ไม่ควรแรงเกินไปเนื่องจากบางคนอาจจมูกไวกว่าคนอื่นและทำให้ไม่ชอบได้ ลองใช้หลายๆ กลิ่นจนกว่าคุณจะพบกับกลิ่นที่ใช่ คุณสามารถใช้กลิ่นเดียวกันทุกวันก็ได้หรือจะสลับไปมาก็ยังได้
    • กลิ่นที่แตกต่างกันก็เหมาะสมในวาระที่แตกต่างกัน กลิ่นดอกไม้หอมหวานอาจเหมาะกับกลางวัน ในขณะที่คุณควรเลือกกลิ่นที่แรงกว่านั้นในเวลากลางคืน
    • หากคุณกำลังมองหากลิ่นที่ผู้ชายใช้ ลองหาโคโลญจน์ที่มีส่วนผสมของสน ซีดาร์ และไม้จันทน์
    • กลิ่นจะเปลี่ยนไปตามคนที่ใช้ พวกมันจะรวมกับกลิ่นเฉพาะตัวของแต่ละคน และเปลี่ยนไปเล็กน้อยระหว่างวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องตระหนักถึงเสมอทุกครั้งที่เลือกกลิ่น กลิ่นที่เหมาะสำหรับเพื่อนของคุณอาจไม่เหมาะกับคุณเสมอไป
    • คุณสามารถใช้กลิ่นจากโลชั่นหรือออยทาตัวหากคุณต้องการ น้ำหอมรูปแบบนี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี
  2. อย่าชโลมทั้งตัว ใช้อย่างถูกต้องเพื่อให้คนรอบข้างได้กลิ่นอย่างพอดี ไม่มากจนเกินไป แค่เพียงเล็กน้อยก็อยู่ได้นานแล้วโดยเฉพาะหากคุณใช้น้ำหอมของจริง ใช้เล็กน้อยที่ข้อมือ คอ และหลังหู แค่นั้นก็เพียงพอ
    • หากคุณใช้ขวดสเปรย์ อย่าฉีดโดยตรงที่ร่างกายในระยะใกล้ ให้ถือขวดสองสามนิ้วห่างจากตัวและฉีดเบาๆ หลังจากนั้นให้นำข้อมือหรือส่วนต่างๆ เข้าไปยังละอองที่ฉีดไป
    • ถึงแม้ว่าคุณจะใช้น้ำหอมแบบโลชั่น ก็ไม่ควรชโลมทั่วทั้งตัว แค่ใช้บางที่ เช่นมือและคอ และใช้โลชั่นที่ไม่มีกลิ่นเพิ่มความชุ่มชื่นให้ร่างกายแทน
  3. หากแชมพูที่ใช้ไม่ได้มีกลิ่นแรงมากนัก คุณอาจต้องเพิ่มกลิ่นสักเล็กน้อยให้เส้นผมของคุณ วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้มีกลิ่นตัวหอมไปทั้งวัน ใส่น้ำหอมหรือออยลงบนฝ่ามือ และลูบไปที่เส้นผม หรือคุณอาจใช้น้ำหอมของคุณหยดลงบนแชมพูหรือครีมนวดผมที่ใช้ก็ได้
  4. ไม่ใช่ความคิดที่ดีนักที่จะใช้ 3-4 กลิ่น และทิ้งกลิ่นไว้ทุกที่ที่คุณเดินไป แทนที่คนจะถามชื่อคุณ พวกเขาจะเอามือขึ้นมาปิดจมูกแทนเมื่อเห็นคุณเดินมา ใช้เพียงแค่กลิ่นเดียวต่อครั้ง
    • หมายความหากคุณใช้โลชั่นที่มีกลิ่นแรง คุณไม่ควรใช้น้ำหอมหรืออื่นๆ แล้ว
    • ต้องมั่นใจว่าคุณไม่ได้บังเอิญใช้น้ำหอมหลายกลิ่น สารระงับกลิ่นกายของคุณ สเปรย์ผม และลิปบาล์มอาจมีกลิ่นเช่นกัน ดังนั้นพยายามเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลิ่นและให้มีกลิ่นเพียงแค่ 1-2 ผลิตภัณฑ์ก็พอ
  5. หากคุณไม่ต้องการเสียเงินกับน้ำหอมหรือโคโลญจน์ ก็ทำใช้เองเลย ซื้อน้ำมันสกัด เช่น กลิ่นกุหลาบ ลาเวนเดอร์ ตะไคร้ หรือหญ้าแฝก และใช้นิดหน่อยแทนน้ำหอม คุณสามารถสร้างน้ำหอมเองได้ด้วยการผสมกลิ่นต่างๆ จนพบกับกลิ่นที่เป็นตัวของคุณ
    • ลองดูที่ร้านอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อหาน้ำมันสกัด พวกมันมักจะอยู่ในส่วนผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย
    • คุณสามารถทำให้น้ำมันสกัดเจือจางลงได้ด้วยการผสมกับน้ำหรือวอดก้า เพื่อที่จะไม่ให้มันมีกลิ่นแรงเกินไป ใส่ลงในขวดสเปรย์และใช้กับร่างกายและผมของคุณ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เทคนิคเพิ่มเติมเพื่อให้ร่างกายหอมตลอดวัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณอาจมีกลิ่นหอมฉุยในตอนเช้าหลังจากที่คุณอาบน้ำและใส่เสื้อผ้าที่สะอาด แต่ก็เป็นความคิดที่ดี ที่จะทำให้ร่างกายสดชื่นในระหว่างวัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน ก็มีสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้คุณมีกลิ่นที่หอมหวนถึงแม้ว่าคุณจะเดินหรือทำงานมาทั้งวันก็ตาม
    • แปรงฟันหรือใช้น้ำยาบ้วนปาก จะทำให้คุณมีลมหายใจที่สดชื่นขึ้น
    • ใช้น้ำหอมซ้ำถ้าจำเป็น อย่าใส่มากเกินไป และเล็กน้อยก็เพียงพอ
    • เปลี่ยนเสื้อผ้าหากจำเป็น หากคุณออกกำลังกายหรือมีเหงื่อออก คุณอาจต้องเปลี่ยนเสื้อซับในหรือถุงเท้าในระหว่างวัน
    • ใช้ทิชชู่เปียกเพื่อทำความสะอาดตัวเอง ใช้แบบที่ไม่มีกลิ่น เนื่องจากแบบที่มีกลิ่นจะทิ้งกลิ่นที่รุนแรงไว้ เช็ดในบริเวณที่ต้องการและใช้สารระงับกลิ่นตัว
  2. หากคุณอยู่ในวันที่ต้องระวังเรื่องกลิ่นตัวเป็นพิเศษ พยายามอย่าทานหัวหอม กระเทียม หรืออาหารเผ็ด อาหารเหล่านั้นจะอยู่ในร่างกายของคุณสักพักหนึ่ง และทำให้เกิดกลิ่นตัวและกลิ่นปาก
    • ผักบางชนิด เช่น ถั่วและพืชตระกูลถั่วจะทำให้มีกลิ่นตัวเช่นกัน และการทานบร็อคโคลี่ ถั่วจะทำให้คุณผายลมได้
    • ดังนั้นควรทานผลไม้ที่มีน้ำเยอะ พวกมันจะทำความสะอาดภายในของคุณและทำให้คุณมีกลิ่นที่หอม
  3. เตียงของคุณสะอาดและใหม่ไหม? หรือว่ามีกลิ่นอับ? รถของคุณและที่อื่นๆ ที่คุณใช้เวลาด้วยล่ะ? การรักษาความสะอาดของสิ่งรอบๆ ตัวจะทำให้คุณเองสดชื่น เริ่มจากการทำให้ห้องนอนของคุณสะอาด เอาเสื้อผ้าที่สกปรกใส่ในตระกร้าที่ปิดมิดชิด และพับหรือแขวนเสื้อผ้าที่สะอาดดีกว่ากองเอาไว้ นี่คือวิธีที่จะทำให้พื้นที่รอบๆ คุณสะอาด
    • ฉีดสเปรย์สมุนไพรลงบนหมอนและผ้าปูที่นอน ใช้น้ำมันสกัดผสมหลายๆ กลิ่นและฉีดลงไปตอนคุณจัดเตียง
    • ซักพรมอยู่เสมอๆ พรมมักจะเก็บกลิ่นและทำให้สิ่งต่างๆ มีกลิ่นไปด้วย ระหว่างที่ซักพรมให้ใช้ผงฟู และดูดฝุ่นออกด้วย
    • ทำความสะอาดรถ ล้างที่นั่งและปล่อยให้อากาศถ่ายเท
  4. หากคุณต้องการให้เสื้อผ้ามีกลิ่นที่หอม พยายามเก็บมันในลิ้นชักหรือตู้เสื้อผ้าที่มีถุงน้ำหอม คุณสามารถทำเองได้ด้วยการใช้ถุงผ้าบรรจุด้วยดอกลาเวนเดอร์แห้ง หรือสมุนไพรที่คุณชอบ พวกมันจะส่งกลิ่นอ่อนๆ ไปที่เสื้อผ้าและทำให้พวกมันไม่เหม็นอับ
    โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าใช้อะไรที่ทำให้คุณแพ้หรือคัน ต้องระวังเรื่องส่วนผสมอย่างเคร่งครัด
  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมหรือโคโลญจน์ที่มากเกินไป เนื่องจากบางคนจะจมูกไวหรือแพ้ต่อกลิ่นแรงๆ และทำให้คุณไม่น่าคบหาอีกด้วย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 54,054 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา