ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการของคอมเป็น Linux Mint โดยทำได้ทั้งในคอมระบบ Windows และ Mac เลย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

เตรียมตัวก่อนติดตั้ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. backup ข้อมูลในคอม . เดี๋ยวเราจะต้องเปลี่ยนระบบปฏิบัติการของคอมเป็น Linux เพราะงั้นควร backup ข้อมูลต่างๆ ในคอม เช่น ไฟล์ และ preferences ที่ตั้งไว้ ถึงจะไม่ได้ใช้กับ Linux ก็เถอะ แบบนี้เผื่อมีอะไรผิดพลาดตอนติดตั้งจะได้กู้ข้อมูลคืนมาได้
  2. เช็คเวอร์ชั่น bit ของคอม . ถ้าใช้ Mac ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย ถ้ารู้ว่าคอมตัวเองเป็นระบบปฏิบัติการแบบ 32-bit หรือ 64-bit จะช่วยให้เลือกดาวน์โหลด Linux Mint ได้ถูกเวอร์ชั่น
  3. Linux จะติดตั้งได้เฉพาะในเครื่อง Mac ที่ใช้ Intel processors เท่านั้น เพราะงั้นให้เช็คโดยคลิก Apple menu คลิก About This Mac แล้วหาหัวข้อ "Processor" จะเห็น "Intel" ในข้อมูล processor แต่ถ้าไม่เจอ แสดงว่าติดตั้ง Linux ใน Mac เครื่องนั้นไม่ได้
    • ถ้าใช้ Windows ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย
  4. ให้เข้าเว็บ https://linuxmint.com/download.php คลิก 32-bit หรือ 64-bit (แล้วแต่เวอร์ชั่น bit ของคอม) ทางขวาของหัวข้อ "Cinnamon" แล้วคลิกลิงค์ภูมิภาคในหัวข้อ "Mirror"
    • ถ้าใช้ Mac ให้เลือก 64-bit
  5. อันนี้แล้วแต่ระบบปฏิบัติการที่ใช้ [1]
  6. เสียบแฟลชไดรฟ์ที่พอร์ท USB ไหนก็ได้ของคอม ปกติจะอยู่ทางด้านข้างหรือด้านหลังของคอม
    • ถ้าใช้ Mac ต้องใช้แฟลชไดรฟ์ USB-C (หรือ adapter แปลง USB 3 เป็น USB-C)
  7. ฟอร์แมตแฟลชไดรฟ์ USB . ข้อมูลทั้งหมดในแฟลชไดรฟ์จะหายไป เพื่อให้ใช้กับคอมของคุณได้ ต้องแน่ใจว่าเลือกระบบไฟล์ถูกต้อง
    • Windows - เลือก file system เป็น NTFS หรือ FAT32
    • Mac - เลือก file system เป็น Mac OS Extended (Journaled)
  8. 8
    เสียบแฟลชไดรฟ์ USB ทิ้งไว้. พอฟอร์แมตแฟลชไดรฟ์และดาวน์โหลด Linux แล้ว ก็ไปติดตั้ง Linux กันได้เลย
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ติดตั้ง Linux Desktop ใน Windows

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดับเบิลคลิกไอคอน Universal USB Installer รูปแฟลชไดรฟ์ คลิก Yes ตอนที่ขึ้น แล้วคลิก I Agree เพื่อเปิดหน้าต่างหลักของโปรแกรม
  2. คลิกเมนู "Step 1" ให้ขยายลงมา แล้วคลิก Linux Mint จากนั้น
    • คลิก Browse
    • คลิกไฟล์ ISO ของ Linux Mint
    • คลิก Open
    • คลิกช่อง "Step 3" ให้ขยายลงมา
    • คลิกอักษรประจำแฟลชไดรฟ์ USB
    • คลิก Create ที่มุมขวาล่าง
    • คลิก Yes ตอนที่ขึ้น
  3. คลิกปุ่ม Close ตอนที่โผล่มา เท่านี้ก็ติดตั้ง Linux Mint จากแฟลชไดรฟ์ได้เลย
  4. ปุ่มที่ต้องกดปกติจะเป็นปุ่ม F ต่างๆ (เช่น F2 ), Esc หรือ Del ต้องรีบกดปุ่มที่ว่าก่อนหน้า startup ของ Windows 10 จะโผล่มา
    • ปุ่มที่ต้องกดอาจจะโผล่มาให้เห็นท้ายหน้าจอช่วงสั้นๆ
    • คุณอ่านคู่มือหรือคู่มือออนไลน์ของคอมได้ ถ้าไม่แน่ใจว่าต้องกดปุ่มไหน
    • ถ้าหน้า startup โผล่มา แปลว่าต้องรีสตาร์ทคอมแล้วลองใหม่อีกครั้ง
  5. ในคอมทั่วไป ต้องใช้ปุ่มลูกศรเลือก tab "Advanced" หรือ "Boot"
    • BIOS บางรุ่นจะมีตัวเลือกลำดับอุปกรณ์ที่ใช้บูทเครื่อง (boot order) ในหน้าแรกที่โผล่มาเลย
  6. ปกติจะขึ้นว่า "USB Drive", "USB Disk" หรือ "Removable Storage" (หรืออะไรที่ใกล้เคียง) ย้ำว่าให้เลือกตัวเลือกที่เหมาะสมโดยกดปุ่มลูกศร
  7. ขยับไดรฟ์ขึ้นไปที่บนสุดของรายชื่ออุปกรณ์ที่ใช้บูทเครื่อง. พอเลือก "USB Drive" (หรืออะไรที่ใกล้เคียงแล้ว) ก็กดปุ่ม + จนตัวเลือกนั้นเลื่อนขึ้นไปอยู่ที่ด้านบนสุดของรายชื่อได้เลย
    • ถ้าวิธีนี้ไม่ได้ผล ให้ดู key legend ทางขวา (หรือด้านล่าง) ของหน้าจอ ว่าต้องกดปุ่มไหนเวลาขยับไปยังตัวเลือกอื่น
  8. ต้องกดปุ่มในแทบทุกหน้า BIOS โดยดู key legend ในหน้าจอว่าต้องกดปุ่มไหน พอเซฟและออกไปแล้ว จะเห็นหน้าบูทเครื่องของ Linux
    • คอมบางเครื่องต้องกดปุ่มอื่นเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลงก่อน
  9. เช่น Linux Mint 18.3 ให้เลือก Boot linuxmint-18.3-cinnamon-64bit ตรงนี้ได้เลย
    • คำที่ขึ้นจะต่างกันออกไปตาม Linux Mint เวอร์ชั่นที่ใช้ และเลข bit ของคอม
    • อย่าเลือก Mint เวอร์ชั่น "acpi=off"
  10. เพื่อเริ่มติดตั้ง desktop client ของ Linux
  11. ปกติจะไม่เกิน 2 - 3 นาที เสร็จแล้วก็ติดตั้ง Linux ในฮาร์ดไดรฟ์ได้เลย
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ติดตั้ง Linux Desktop ใน Mac

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดับเบิลคลิกไฟล์ DMG ของ etcher ยืนยันการดาวน์โหลดด้วยถ้ามี แล้วคลิกจากนั้นลากไอคอน "etcher" ไปใส่ในโฟลเดอร์ Applications
  2. ปกติจะอยู่ในโฟลเดอร์ Applications
  3. ที่ด้านขวาบนของหน้าต่าง Etcher
  4. ที่เป็นตัวเลือกทางด้านล่างของหน้า
  5. เพื่อเปิดใช้ Unsafe Mode ให้เซฟไฟล์ ISO ลงไดรฟ์ไหนก็ได้
  6. ที่ด้านขวาบนของหน้า
  7. ที่เป็นปุ่มสีฟ้าทางซ้ายของหน้าต่าง Etcher
  8. เพื่อเลือกไฟล์
  9. ที่มุมขวาล่างของหน้าต่าง
  10. ที่เป็นปุ่มสีฟ้ากลางหน้า
  11. คลิกชื่อแฟลชไดรฟ์ แล้วคลิก Continue ท้ายหน้าต่าง
  12. ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ทางขวาสุดของหน้าต่าง Etcher เพื่อสร้างแฟลชไดรฟ์ USB ที่ใช้บูท Linux ได้ ทำให้ติดตั้ง Linux จากในไดรฟ์ได้
  13. ให้กดค้างไว้จนหน้าจอเลือกอุปกรณ์ที่ใช้บูทเครื่องโผล่มา
    • ย้ำว่าต้องกดปุ่มนี้ค้างไว้ทันทีหลังคลิก Restart รอบ 2
  14. บางทีก็ต้องคลิกชื่อแฟลชไดรฟ์หรือตัวเลือก Linux Mint แทน เพื่อเปิดหน้าติดตั้ง Linux Mint
  15. เช่น Linux Mint 18.3 ให้เลือก Boot linuxmint-18.3-cinnamon-64bit ตรงนี้
    • คำที่ขึ้นจะต่างกันออกไปตาม Linux Mint เวอร์ชั่นที่ใช้ และเลข bit ของคอม
    • อย่าเลือก Mint เวอร์ชั่น "acpi=off"
  16. เพื่อเริ่มติดตั้ง desktop client ของ Linux
  17. ปกติจะไม่เกิน 2 - 3 นาที เสร็จแล้วก็ติดตั้ง Linux ในฮาร์ดไดรฟ์ได้เลย
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ติดตั้ง Linux

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ที่เป็นไอคอนรูปแผ่นดิสก์ในหน้า desktop แล้วหน้าต่างใหม่จะโผล่มา
  2. คลิกภาษาที่จะใช้ แล้วคลิก Continue ที่มุมขวาล่างของหน้าต่าง
  3. 3
    สร้างสัญญาณ Wi-Fi. คลิกสัญญาณ Wi-Fi พิมพ์รหัสผ่านในช่อง "Password" คลิก Connect แล้วคลิก Continue
  4. ที่ด้านบนของหน้า
  5. 6
    คลิก Yes ตอนที่ขึ้น. แปลว่าต้องการจะลบทุกพาร์ทิชั่นก่อนหน้า แล้ว merge รวมพื้นที่ฮาร์ดไดรฟ์ที่มีในคอม
  6. ติ๊กช่อง "Erase disk and install Linux Mint" คลิก Continue คลิก Install Now แล้วคลิก Continue ตอนที่ขึ้น
  7. คลิกแถบโซนเวลาแนวตั้งที่ตรงกับตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของคุณ แล้วคลิก Continue ที่มุมขวาล่าง
  8. คลิกเลือกภาษาทางซ้ายของหน้าต่าง เลือกรูปแบบคีย์บอร์ด (keyboard layout) ทางขวาของหน้าต่าง แล้วคลิก Continue
  9. ให้พิมพ์ชื่อคุณ ชื่อคอม username และรหัสผ่าน จากนั้นคลิก Continue Linux จะเริ่มติดตั้งลงคอม
  10. ปกติเครื่อง Mac จะไม่พยายามลง Linux ซ้ำหลังรีสตาร์ท แต่ก็ควรจำกัดจำนวนตัวเลือกอุปกรณ์การบูทไว้ตั้งแต่ติดตั้งครั้งแรก
  11. เพื่อรีสตาร์ทคอม และเซฟการติดตั้งไว้ในฮาร์ดไดรฟ์ เท่านี้ก็ใช้ Linux ในคอมได้ตามปกติ เหมือนระบบปฏิบัติการอื่นๆ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคอมมีไดรฟ์อ่านแผ่น จะ ไรท์ไฟล์ ISO ของ Linux ลงแผ่น DVD แทนแฟลชไดรฟ์ USB ก็ได้ แต่เตือนกันตรงนี้ว่าติดตั้ง Linux จากแผ่น DVD แล้วจะช้ากว่าแฟลชไดรฟ์เยอะ และ Mint จะทำงานช้ามากจนกว่าจะติดตั้งลงฮาร์ดไดรฟ์ของคอมเสร็จ
โฆษณา

คำเตือน

  • ติดตั้ง Linux Mint ในฮาร์ดไดรฟ์ของคอมแทนระบบปฏิบัติการเก่า เท่ากับลบข้อมูลทั้งหมดของระบบปฏิบัติการเก่าไป รวมถึงไฟล์ โฟลเดอร์ preferences ต่างๆ และอื่นๆ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 27,841 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา