ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ก่อนจะติดตั้ง mods ของ Skyrim ต้องสมัครบัญชีในเว็บ Nexus Skyrim ซะก่อน พอติดตั้ง utilities ต่างๆ ที่จำเป็นเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มดาวน์โหลดและติดตั้ง mods ได้ในไม่กี่คลิก

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

สมัครบัญชี Nexus

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นเว็บรวม mods และคลัง mods ของ Skyrim ที่ดังและครบเครื่องที่สุด เรียกว่าหาได้แทบทุก mods ที่ต้องการ
  2. ที่มุมขวาบนของหน้า
  3. ถ้ายังไม่มีบัญชี nexusmods ให้คลิกลิงค์ "Register here" ล่างช่องล็อกอิน.
  4. พิมพ์ Captcha ยืนยันตัวตน แล้วคลิก VERIFY EMAIL
  5. copy โค้ดยืนยันที่ได้รับทางอีเมล
  6. ต้องกรอก username กับรหัสผ่าน จากนั้นคลิก Create My Account
  7. ไม่ต้องสมัครแพ็คเกจแบบเสียเงิน ก็ดาวน์โหลด mods ได้ จะเลือกสมัครสมาชิกแบบเสียเงิน หรือคลิกลิงค์ด้านล่าง "I'll stick with the basic membership" ก็ได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เตรียมตัวก่อนติดตั้ง Skyrim

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ต้องติดตั้ง Skyrim ในโฟลเดอร์แยก ไม่ใช่ในโฟลเดอร์ปกติของ Steam เพราะบาง mods ลงแล้วมีปัญหาเวลาหาไฟล์เกมในโฟลเดอร์ Program Files ของคอม ที่เป็นตำแหน่งติดตั้งตามค่า default
    • จะคลิกปุ่ม Folder ใน taskbar หรือจะกด Win + E เพื่อเปิด Windows Explorer ก็ได้
  2. ดับเบิลคลิกไดรฟ์หลักเพื่อเปิดขึ้นมา ปกติจะเป็นไดรฟ์ C:
  3. เพื่อสร้างโฟลเดอร์ใหม่ในชั้นล่างสุดของฮาร์ดไดรฟ์
  4. จริงๆ จะตั้งชื่ออะไรก็ได้ แต่แบบนี้ก็หาง่ายหน่อย
  5. โฟลเดอร์นี้ต้องอยู่ในไดรฟ์เดียวกับโฟลเดอร์ Steam 2 ที่เพิ่งสร้าง
  6. พอโฟลเดอร์พร้อมแล้ว ก็เพิ่มใน library ของ Steam แล้วติดตั้งเกมได้เลย
  7. คุณติดตั้งเกมของ Steam ในโฟลเดอร์นี้ได้เลย รวมถึง Skyrim
  8. ถ้าติดตั้งไว้แล้ว ให้ถอนการติดตั้งก่อน
    • ให้ติดตั้ง Skyrim เวอร์ชั่นปกติ หรือ Legendary Edition เพราะ mods ส่วนใหญ่ยังใช้ใน Skyrim Special Edition (Remastered) ไม่ได้ [1]
  9. รอจนติดตั้งเกมเสร็จ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ติดตั้งไฟล์ Mod ที่สำคัญ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พิมพ์ nexusmods.com/skyrim/mods/1334/? เพื่อให้ได้ utility สำหรับจัดระเบียบ mods ต่างๆ ของ Skyrim ได้ดียิ่งขึ้น
  2. ตอนมีให้เลือกตำแหน่งติดตั้ง Mod Manager ให้เลือก C:\Steam 2\steamapps\common\Skyrim หรือโฟลเดอร์ที่เพิ่งสร้าง
  3. ปกติจะอยู่ในโฟลเดอร์ของ Skyrim
  4. เพื่อให้ติดตั้งได้โดยตรงจากเว็บ Nexus
  5. เข้าเว็บ skse.silverlock.org ไปดาวน์โหลด SKSE ที่เป็น tweak สำหรับขยายสคริปต์ของ Skyrim จำเป็นต่อการลง mods ส่วนใหญ่
  6. ตอนขึ้นเตือนระหว่างติดตั้ง ให้เลือก C:\Steam 2\steamapps\common\Skyrim
  7. ปกติจะอยู่ข้าง "RUN"
  8. เพื่อให้เปลี่ยน settings Mod Manager ของ SKSE ได้
  9. ให้เลือกไฟล์ skse_loader.exe ในโฟลเดอร์ Skyrim [2]
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ติดตั้งและเล่นเกมที่มี Mod

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้เข้าเว็บ nexusmods.com/skyrim/ ไปหาไฟล์ mod
  2. ต้องล็อกอินด้วยบัญชี Nexus ก่อน ถึงจะดาวน์โหลด mods ที่ใหญ่กว่า 2 MB ได้ ซึ่งไฟล์ mods ส่วนใหญ่จะใหญ่กว่านั้น
  3. สำรวจฐานข้อมูล mod ของ Nexus Skyrim จนเจอ mod ที่น่าสนใจ บอกเลยว่ามีสารพัด mods ให้เลือกสรร ซึ่งการติดตั้ง mods ส่วนใหญ่จะขั้นตอนไม่ต่างกัน เพราะเราใช้ Mod Organizer
    • อย่าลืมอ่านคำอธิบาย mod ดีๆ รวมถึงขั้นตอนเพิ่มเติม เผื่อ mod นั้นต้องลงคู่กับ mod อื่นหรืออะไรพิเศษ
  4. แล้วจะเห็นไฟล์ติดตั้ง mod
  5. ถ้ามีปุ่ม Download with Manager ก็จะโหลดเข้า Mod Organizer โดยตรง [3]
    • ถ้าต้องใช้ไฟล์ติดตั้ง ให้เข้าโฟลเดอร์ Skyrim ก่อน
  6. ตอนเริ่มทดลองใช้ mods แนะนำให้ติดตั้งทีละ mod เดียวไปก่อน เผื่อเกมค้างหรือมีปัญหา จะได้รู้ว่าเป็นเพราะ mod ไหน
  7. จากนี้ไป เกม Skyrim จะเปิดผ่าน Mod Manager แบบนี้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • บาง mod ก็ต้องใช้ร่วมกัน ถึงจะทำงานได้ ถ้าทำตามขั้นตอนด้านบนครบแล้ว แต่ยังโหลด mod ไม่สำเร็จ เป็นไปได้ว่าขาดองค์ประกอบอื่นที่จำเป็น
  • ถ้าลง mod ไปเรื่อยๆ พอถึงจุดหนึ่ง เกมมักจะค้างหรือเล่นต่อไม่ได้ ให้ใช้ Mod Manager ลบ mod ล่าสุดที่ลง แล้วแก้ไขให้กลับมาเล่นได้ตามปกติ
โฆษณา

คำเตือน

  • บาง mod ลงแล้วก็ไปขัดกับ mod อื่น ถ้าลง mod แล้วสังเกตว่ามีปัญหาเวลาเล่นเกม เกมค้าง กระตุก อืด เป็นไปได้ว่า mod 2 ตัวนั้น (หรือมากกว่า) ใช้ร่วมกันไม่ได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,651 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา